ตอนที่ 15
วิ่ง! วิ่ง! วิ่ง....!! วิ่งเข้าไป!!! เสียงห้าวทุ้มดังก้องสั่นคลอนโสตประสาทและร่างกายให้
ปฏิบัติตามอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แม้จะรู้สึกหนาวเหน็บหวาดกลัวกับอากาศที่เริ่มเย็นตัว
และทางคดเคี้ยวมืดสลัวแค่ไหน
ฮือ...ออ...ฮ่า...ๆๆ...ฮืออ...อ.อ ฮ่า..ๆ.ๆ..
เสียงประหลาดดังขึ้นเรื่อย ๆ ผสมผสานกับเสียงฝีเท้าหญิงสาวร่างหนักที่สะท้อนก้องไปทั่วถ้ำ
จนคนที่อยู่ในอ้อมแขนไม่อาจมั่นใจได้ว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเพราะบรรยากาศชักพา หรือว่า.....
พี่อ้วน พี่อ้วน พี่อ้วน เอมอรเรียกเสียงสั่น แต่ดูเหมือนคนที่ถูกเรียกจะยังคงไม่รู้สึกตัว
ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อไปสู่ความมืดสลัวเบื้องหน้า
นี่ หยุด หยุด!! นั่นมันทางตันนะ!! เงียบ ไม่มีเสียงตอบใดๆจากสาวอ้วนเจ้าของวงแขน
หนานุ่มที่กระชับแน่นจนร่างในอ้อมกอดทั้งสองไม่สามารถกระโดดหนีจากภัยตรงหน้าได้
ดั่งใจนึก
ปล่อ... เหวอ...อออ... ก้อนเยลลี่สีแป๋นมองภาพผนังที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆด้วยดวงตา
เหลือกลานแหกปากร้องประสานเสียงกับร่างสีเทาข้างๆ โดยทีคนอุ้มไม่มีแม้แต่ท่าทีจะ
ชะลอฝีเท้าลงเลยแม้แต่น้อย...
ซวบ.... ผลุบ!..
ไม่มีทั้งความเจ็บปวด...ไม่มีทั้งแรงกระแทก มีแต่ถ้ำกว้างใหญ่ตรงหน้าราวกับพวกเธอหลุดมา
อีกที่ แมวสาวเหลียวหลังมองทางที่เข้ามาเมื่อกี้เพื่อจะพบกับผนังกำแพงหนาสีเข้มเหมือนเดิม
ก่อนจะหันกลับมามองภาพตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจทำไมถึงมาโผล่ที่นี่ได้...
ที่ที่เต็มไปด้วยบ่อน้ำพุมากมายแผ่ไอร้อนชื้นกระจายไปทั่ว จนเหมือนห้องอบซาวน่าขนาด
ใหญ่ และเพียงพริบตาทั้งเสื้อผ้า เส้นผม หรือแม้กระทั่งขน ก็เปียกลู่แนบไปกับร่างกาย จน
เจ้าตัวที่อยู่ในอ้อมกอดสาวร่างบึกทนไม่ไหว กระโจนลงพื้นไปคนละทิศคนละทาง
พี่อ้วนรู้ได้ไงว่าตรงนี้มีทางลับ...แถมยังวิ่งนำมาอย่างกับคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดีอย่างนั้น
แหละ เอมอรเอ่ยขึ้น พร้อมขยับเดินสำรวจรอบ ๆถ้ำลึกเข้าไปเรื่อย ๆ จนเห็นเป็นเพียงเงาสี
เทารางๆ
นี่ เจ้า! ได้ยินไหม รู้ได้ไงว่าตรงนี้มีทางลับ เมื่อสาวร่างยักษ์ไม่ยอมตอบ เจ้าก้อนเยลลี่จึง
ตะโกนถามซ้ำอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม จนอีกฝ่ายสะดุ้งโหยง กระพริบตาปริบ ๆหลาย
ครั้งราวกับเพิ่งรู้สึกตัว ก่อนจะพูดขึ้น
ที่นี่...ที่นี่ที่ไหนน่ะ ทำไม...มาอยู่ที่นี่ได้...
อะไรกัน ก็พี่น่ะแหละที่พาพวกเราเข้ามาที่นี่ อะไรเจอความร้อนแล้วลืมหมดเลยหรือไง
เสียงแหลม ๆของเอมอรลอยแว่วดังมาให้ได้ยิน หากไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าตัวอยู่ที่ไหน
นั่นสิ! เจ้าน่ะแหละที่พาพวกเราเข้ามาที่นี่ เจ้าสีแป๋นย้ำอีกครั้งให้แน่ใจ กระดอนตัวไปมา
รอบ ๆเพื่อขับน้ำแฉะ ๆ ออกจากตัว
ฉันน่ะเหรอ?.... ...จำได้ว่าพายัยอรกับเจ้าตัวนี่วิ่งหนีพวกต้นไม้สีฟ้าเข้ามาข้างใน แล้วก็....
ดวงตาเล็กหยีตวัดมองร่างเจ้าสีแป๋นที่กระดอนไปมารอบ ๆตัวเธอนิ่ง ก่อนจะส่ายหน้าไปมา
กับตัวเอง
..จะเป็นไปได้ไง....สงสัยตอนนั้นเราจะตกใจจนเบลอไปหมดเลยจำอะไรไม่ได้มากกว่า...
แล้วหญิงสาวก็สลัดภาพดวงตากลมโตสีน้ำตาลของเจ้าก้อนเยลลี่ที่เงยขึ้นมาสบตาเธอแวบนึง
ตอนอยู่หน้าถ้ำออกจากหัว เปลี่ยนเป็นมองสภาพตรงหน้าอย่างสำรวจแทน
นอกจากแหล่งน้ำร้อนธรรมชาติมากมายแล้วสิ่งที่สะดุดตาอีกอย่างภายในถ้ำนี้คงจะเป็น
ดอกไม้ประหลาดแสนสวยสองพันธุ์เริ่มจากพันธุ์ที่มีกลีบดอกเป็นมรกต หากเกสรและลำต้น
กลับเป็นเพชรเจ็ดสีส่องประกายแวววับสะท้อนผิวน้ำใต้บ่อน้ำพุร้อน ขณะที่อีกพันธุ์ มี
ลักษณะคล้ายดอกทิวลิปสีม่วงอ่อน โค้งงอเหมือนระฆังคว่ำใส่ไอน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมาราวกับ
กำลังดูดซับสารอาหาร เกสรสีม่วงเข้มเป็นขนคล้ายดอกปุยฝ้ายยื่นแพลมออกมาจากตัวดอก
ใบและลำต้นที่ยึดติดกับดินรอบบ่อเป็นสีเขียวเข้มหนาแข็งแรง
พี่อ้วน ดูสิ ดอกไม้อะไรไม่รู้สวยจังเลย เงาสีเทาราง ๆวูบไหวกลับมาให้เห็นอีกครั้ง
หลังจากที่เดินวนสำรวจจนรอบถ้ำแล้ว พร้อมใช้ปากงับดอกไม้แสนสวยตรงหน้าดึงติดมา
ด้วย
ฮื.อ.อ.อ ฮ่า.. ๆ ๆ....ฮื.อ.อ.อ.อ. ฮ่า ๆๆ ๆๆ ๆ
เสียงร้องไห้สลับหัวเราะคร่ำครวญดังมาให้ได้ยินเหมือนเช่นทุกครั้ง หากคราวนี้มันกลับ
ชัดเจนน่ากลัวชวนขนลุกเกรียว แต่กระนั้นเมวสาวก็อดที่จะเหลียวมองไปยังทิศทางที่ได้ยิน
เสียงนั้นไม่ได้
ดอกไม้ทรงระฆังคว่ำพร้อมใจกันสั่นระรัวจนเกสรสีม่วงเข้มร่วงหล่นลงมา พร้อมกับน้ำสีน้ำ
เงินและแดงไหลออกหยดลงในบ่อน้ำร้อน ก่อนจะรวมตัวกันกลางบ่อ และ...ค่อย ๆขยับ
เคลื่อนลุกขึ้นออกมา!!
หากมันไม่ได้คงรูปเป็นน้ำเช่นเดิม แต่กลับมีมิติเป็นก้อนราวกับดินเหนียวขนาดใหญ่ มีแขน
ขาราวกับมนุษย์ ขยับเดินก้าวเข้ามาหาผู้บุกรุกทั้งหมดช้า ๆ เหมือนจะรอให้รูปร่างของมันคง
ตัวทีละนิดทีละนิด จนกระทั่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์!! หากกลับมี...สองหัว!!
.โมเอล....เจ้านี่คือโมเอล....ผู้เฝ้าดอกไม้วิเศษ... ท่ามกลางความตกใจจนอ้าปากค้างของพี่
น้องสองสาว มีเสียงเจ้าสีแป๋นดังลอยมาให้ได้ยิน ทำให้ขากรรไกรของหนึ่งในสองพี่น้องที่
อ้าค้างขยับทำงานได้อีกครั้ง
..อะ...อะไรคือโมเอล...แล้ว...แล้วนายรู้ได้ไง แม้ปากจะขยับหากสายตายังไม่ยอมละจาก
สัตว์ประหลาดเบื้องหน้า
นะ...นั่น..นั่นสิ นายรู้ได้ไง แล้ว...อย่าบอกนะว่าไอ้ที่อยู่ในปากเนี่ยคือดอกไม้วิเศษ!!
เท่านั้นสายตาทุกคู่หันมาจับจ้องดอกสีม่วงคล้ายระฆังคว่ำเป็นตาเดียว รู้โดยสามัญสำนึกว่า
เพราะอะไรเจ้าสัตว์ประหลาดนามโมเอลจึงลุกขึ้นเพ่นพ่านแบบนี้
เจ้า...เจ้าเด็ดมันออกมาเหรอ!! เจ้าก้อนเยลลี่กระดอนไปรอบ ๆ ร่างสีเทาไปมา ก่อนจะพูด
ต่อ เจ้ารู้ไหมว่าทำอะไรลงไป สัตว์ประหลาดข้างหน้าเราเนี่ย คือโมเอล...เผ่านอกรีตที่โดน
ผู้ปกครองเผ่าปีศาจสะกดให้เฝ้าดอกไม้วิเศษพวกนี้
เผ่านอกรีต? ผู้ปกครองเผ่าปีศาจ? มีจริงๆ เหรอ กรรณิกาถามอย่างสงสัย ไม่คิดว่าชาตินี้
จะต้องเข้ามาพัวพันเรื่องเหลือเชื่อแบบนี้
เผ่านอกรีตคือพวกสมสู่ข้ามเผ่าพันธุ์ ลูกหลานถึงออกมามีหน้าตารูปร่างเป็นสัตว์ประหลาด
ถูกทุกเผ่ารังเกียจและมีชีวิตอยู่เพื่อเป็นทาสรับใช้ทุกเผ่าที่พบเห็น และพวกโมเอลก็เช่นกัน
มันถูกสะกดไว้ในดอกไม้พวกนี้ ทุกครั้งที่พวกเจ้าเด็ดถอน โมเอลก็จะออกมาสู่โลกภายนอก
เพื่อกำจัดคนผู้นั้น และนำดอกไม้ที่เปรียบเสมือนบ้านของพวกมันกลับไปปลูกใหม่อีกครั้ง
งั้นก็คืนดอกไม้นี่ไปเลยสิ บอก..โมเอลว่าเราไม่ได้ตั้งใจจะดึงดอกไม้นี่ กรรณิกาสวนขึ้น
ทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ หากคำตอบที่ได้กลับไม่ได้มาจากเจ้าสีแป๋นตรงหน้า
ฮี่ ๆ ๆ ๆ ๆ ฮือ.อ.อ.ฮ่า...ๆ..ๆ..ฮื.อ.อ..อ
ดอกไม้ที่ถูกเด็ดแล้ว จะนำกลับไปปลูกใหม่ได้ด้วยเลือดผู้เด็ดมันเท่านั้น เสียงแหบต่ำน่า
กลัวดังขี้นในหัว ไม่ต้องบอกทุกคนก็รู้ว่าใครเป็นผู้พูด
นี่มันไม่ใช่ดอกไม้วิเศษแล้วมั้ง น่าจะเป็นดอกไม้ปีศาจมากกว่า เวลาจะปลูกทีต้องใช่เลือด
ปลูกแบบเนี้ย เอมอรแสดงความคิดเห็นขึ้นมา ก่อนจะวิ่งไปหลบด้านหลังผู้เป็นพี่สาว ทันที
ที่เห็นมือผอมยาวเหมือนกิ่งไม้แห้งหน้าแล้งยื่นมาทางเธอ
ระวัง!! เจ้าสีแป๋นพองตัวให้หญิงสาวทั้งสองเข้าไปอยู่ในตัวมัน ทำให้มือที่เต็มไปด้วย
หนามแหลมและก้อนหนองตะปุ่มตะปั่มกระทบร่างนุ่มนิ่มของมันแทน ก่อนจะกระดอนออก
เบา ๆ
ระวังนะเจ้าสีแป๋น กรรณิกาบอก หลับตาปี๋ไม่กล้ามองอะไรทั้งสิ้นกอดร่างบางของ
น้องสาวแน่น เพราะยิ่งเจ้าโมเอลเดินเข้ามาใกล้ ยิ่งทำให้เห็นรูปร่างชวนขนพองสยองเกล้า
ของมัน ไม่คิดว่าการสมสู่ข้ามเผ่าพันธุ์จะทำให้เด็กที่เกิดมามีสภาพน่ากลัวได้ถึงขนาดนี้
ไล่ตั้งแต่หัวทั้งสองที่ด้านหนึ่งมีหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว ปากกว้างใหญ่โค้งขึ้นราวกับเห็น
คางคกกำลังหัวเราะตลอดเวลาจนหนองใสมากมายบนแก้มกระเพื่อมไหว ดวงตาแห้งแล้งไร้
วิญญาณกำลังจ้องมองมาทางพวกเธอราวกับกำลังสาปแช่ง
ขณะที่อีกหัวหนึ่ง กลับมีหน้าคล้ายอสูรกายมีเขากลางหน้าผากและดวงตาใหญ่สีม่วงเข้มแห้ง
แล้งไม่ต่างกับอีกหัว หากใบหน้ากลับเศร้าสร้อย และมีเลือดไหลออกจากดวงตาตลอดเวลา
ปากหนาใหญ่เต็มไปด้วยฟันแหลมโย้ไปมาไม่เป็นระเบียบข้างใน บนแก้มเป็นบาดแผล
เหวอะหวะที่มีน้ำเขียวๆ ไหลยืดน่าสยดสยอง เพราะเจ้าตัวมัวแต่ใช้มือผอมแห้งจิกทึ้งเนื้อ
บริเวณนั้นมากัดแทะตลอดเวลา
ส่วนรูปร่างและลำตัวที่เชื่อมหัวทั้งสองเป็นหนึ่งเดียวกลับมีลักษณะเหมือนต้นไม้แห้งมีกิ่งรก
รุงรังเต็มไปด้วยหนองและหนามแหลมคมไม่เว้นแม้แต่แขนขาทั้งสองที่ยาวแข็งเก้งก้าง
อย่าขัดขวางเรา มิฉะนั้นเราจะไม่เกรงใจ....ฮี่ ๆ ๆ ๆ ใบหน้าด้านหัวเราะพูดขึ้น แสยะยิ้มให้
ก้อนเยลลี่ตรงหน้า หากอีกฝ่ายยังคงนิ่ง ไม่มีท่าทีจะปล่อยร่างทั้งสองในตัวออกมา
ฮือ..อ.อ.อ ในเมื่อเจ้าไม่เชื่อ เราก็ต้องทำ..ฮื.อ.อ..อ. ใบหน้าด้านร้องไห้พูดพลางใช้จับแก้มที่
เต็มไปด้วยน้ำเขียว ๆ สะบัดใส่ร่างโปร่งกลมสีแป๋นตรงหน้า
กรี๊ด.ด..ด.ดด..ด. ทั้งคนทั้งแมวกรีดร้องพร้อม ๆ กัน ทันทีที่น้ำเขียว ๆ กระทบร่างเจ้าสี
แป๋นจนเกิดเป็นควันสีเหลืองคลุ้งไปทั่วบริเวณ
ข้าไม่ไหวแล้ว... เจ้าสีแป๋นพูดขึ้น แล้วร่างคนที่อยู่ในตัวมันก็หลุดออกมาเพื่อสูดกลิ่นควัน
ไม่พึงประสงค์ที่ปกคลุมจนมองอะไรไม่เห็น
เจ้าสีแป๋น!! กรรณิกาก้มตัวลงต่ำติดพื้นทั้งที่ยังกอดแมวน้อยไว้แน่น จำได้ดีว่าควันจะลอย
ขึ้นไปรวมตัวกันข้างบน เพราะมันเบากว่าอากาศ พลางใช้มือข้างที่ว่างควานหาร่างเล็ก ๆ
ของเจ้าก้อนเยลลี่ที่ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง จนกระทั่ง....
ท่าน...ท่านคือ.... เสียงแหบต่ำหวาดกลัวร้องดังขึ้น แม้จะไม่เห็นอะไรแต่เธอก็จำได้ดีว่าเสียง
ที่ได้ยินเป็นของโมเอล!!
...เกิดอะไรขึ้น!!...
ขณะที่คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน มือของเธอก็คลำไปโดนร่างนุ่มนิ่มที่เดาได้ทันทีว่าต้องเป็น เจ้า
สีแป๋น แน่นอน แต่แล้วก็ต้องรีบชักมือกลับ เพราะความแสบร้อนราวกับถูกไฟเผาทันทีที่
สัมผัสก้อนเยลลี่นุ่มหยุ่นที่เปรอะไปด้วยคราบสีเขียว เร็วเท่าความคิด กรรณิการีบคว้าชายกระโปรงจับ
ร่างเล็ก ๆนั่นเข้ามาใกล้ ก่อนจะได้ยินเสียงทุ้มห้าวทรงอำนาจดังขึ้น
จงกลับไปอยู่ในที่ที่ของเจ้าซะ
......ใครกัน...?!!
ไม่มีคำตอบนอกจากความความง่วงที่ถาโถมเข้ามา จนเปลือกตาทั้งสองข้างหนักอึ้ง เหลือบ
มองร่างในอ้อมกอดที่ไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทุกอย่างก็ดับวูบไปพร้อม ๆกับแสง
เจิดจ้าเข้าปกคลุมทั่วทั้งถ้ำ!!
*********************************************************
(มีต่อค่ะ)
แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 48 19:37:38
แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 48 19:36:28
แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 48 19:35:53
แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 48 19:13:26