CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    เรื่องเล่าของคนบ้าการ์ตูน ตอนสัมผัสรักจากฟากฟ้า 2

        ตอนที่ 2

       หลังมื้ออาหารเย็นอันแสนโหดร้ายต่อกระเพาะน้อยๆ ของฉัน ฉันต้องฝืนกินบะหมี่ไปสองห่อ (กันตายน่ะ กันตาย) มองตาบ้าซึ่งกินบะหมี่ไปในปริมาณพอๆ กันแล้วก็อดเห็นใจไม่ได้

        น้องชายที่ไม่ได้มีความสามารถพิเศษหรือพรสวรรค์อย่างเขา กลับได้กินข้าวอุ่นๆ กับข้าวที่มีรสมือแม่ ในขณะที่ลูกอีกคนกลับยังชีพด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

         แบบนี้จะเรียกพรจากสวรรค์หรือพรจากนรกดีนะ

          คนเราก็ต้องการเท่านี้เองไม่ใช่หรือ ความอบอุ่น การยอมรับ

          ยิ่งจากครอบครัวด้วยแล้ว

         แต่คนคนนี้กลับไม่มีทั้งสองอย่าง

           ความโหยหาที่ทอดผ่านจากสายตาส่งมาถึงฉัน บางครั้งก็ทำให้ฉันถึงกับวูบในอก ช่างเป็นเด็กที่มีแววตาว่างเปล่า และในขณะเดียวกัน ก็อ้างว้างเสียเหลือเกิน

         ตอนนี้เปลือกหนาๆ แข็งๆ ยังห่อหุ้มอยู่รอบตัวเขา ปกป้องเนื้อในที่อ่อนแอ และพร้อมจะเสียใจได้อย่างง่ายดาย ฉันรู้ว่าเมื่อไรที่เปลือกของเขาจะหลุดออก ก็ที่ข้างๆ เธอไง คานาเดะจัง กับอาโร่คุง

        สองคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้ตัวว่ากำลังเป็นหลักให้มาซาฮิโระเกาะอยู่ เขาซึ่งปิดตัวเอง ไม่ไว้ใจใคร

       ก็แน่ล่ะสิ ยามที่ต้องการใครสักคนมากที่สุด แม้กระทั่งแม่ของเขาเองยังปัดมือที่ไขว่คว้าหาความอบอุ่นของเขาเลยนี่นะ

        เฮ่อ...

        หลายครั้งที่ฉันพยายามคิด ค้นหา...อะไรบางอย่าง ฉันสับสน กังวล ไม่แน่ใจ...กับการตัดสินใจในแต่ละครั้ง แต่ฉันก็คิดนะ ว่าเฮ้ คนเราเกิดครั้งเดียว ตายครั้งเดียว ถ้าอะไรที่ไตร่ตรองจนถี่ถ้วน และผ่านการอนุมัติการผู้ใหญ่แล้ว มันก็น่าจะลองดูนะ ถึงผลจะออกมาไม่ดี แต่อย่างน้อยเราก็ได้ลองดูนี่

         เอ๊อ...วนกลับมาเรื่องตัวเองได้ไง ไม่เอาๆ ล้างจานให้มันเสร็จๆ แล้วไปนอนดีกว่า
     
        ตอนนี้มาซาฮิโระกลับเข้าไปในห้องของเขาแล้ว มีมาโรตะ หมาน้อย วิ่งตามเข้าไปด้วย สักพักก็โดนตะเพิดออกมาจากห้อง ฉันเห็นมาโรตะนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องไม่ยอมไปไหนแล้วก็อดรู้สึกสะท้อนใจไม่ได้

       จงรัก

        และภักดี

        “หมาดี หมาดี” ฉันเดินไปลูบหัวและชมมัน ฉันรู้ว่าเวลาเรารักใคร เราก็อยากอยู่ใกล้ๆ คนนั้น แล้วฉันก็ทำในสิ่งที่ชอบทำและถึงกับเป็นโปรฯในด้านนี้ สอนหมาชาวบ้านให้เสียหมาแบบหมาบ้านตัวเอง ฮี่ๆๆๆๆ

         “มาโรตะ” ฉันเอ่ยขณะที่ลองบิดลูกบิดประตู

         ไม่ได้ล็อคนี่ ดีล่ะ

          ฉันแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ (ต้องบอกว่าแสยะ เพราะกำลังสะใจมากถ้าจะทำให้หมาใครเสียหมาไปด้วย ฮี่ๆ) ฉันเริ่มเอาเล็บขูดประตูเป็นการนำร่องแล้วก็ตะกุยๆ ให้มาโรตะดูเป็นตัวอย่าง จากนั้นก็จับขาหน้าของมาโรตะ แล้วเอาเล็บที่ค่อนข้างยาวตะกุยประตูไปเรื่อยๆ

         แทบจะไม่ถึงนาที เจ้าของห้องก็เดินมาเปิดประตู ฉันซึ่งได้ยินเสียงฝีเท้า รีบเผ่นไปแอบหลังโซฟา ดังนั้นภาพที่มาซาฮิโระได้เห็นก็คือ มาโรตะ และหางที่กระดิกจนแทบจะหมุนเป็นใบพัดของมัน

        เขามองรอยเล็บที่อยู่บนประตู แล้วสลับมามองที่มาโรตะ หันกลับไปมองประตูอีกครั้ง ส่ายหน้าแล้ว…อมยิ้ม

         ตอนนี้นึกอยากจะไปลูบหัวเขาจริงๆ ไม่มีใครที่สมควรจะต้องอยู่คนเดียว ทุกคนควรจะมีใครที่อยู่เคียงข้างบ้าง แต่คนคนนี้ ไม่มีใครเลยจริงๆ แม้กระทั่งครอบครัว…

           ความรัก ความเอาใจใส่ ความอาทรห่วงใย สิ่งเหล่านี้จำเป็นต่อคนคนนึงทั้งนั้น สิ่งสำคัญเหล่านี้ทำให้คนเปลี่ยน ทำให้คนเติบโต

        เด็กคนนี้จะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่แบบไหน…จะรู้จักรักได้ยังไง ถ้าไม่เคยถูกรัก

          สิ่งเดียวที่มาซาฮิโระต้องการมากที่สุด ไม่ใช่บ้านใหญ่โตกว้างขวาง ไม่ใช่เงินทองมากมาย แต่เป็นของง่ายๆ ที่แม่เขาไม่อาจให้ได้

          รอยยิ้ม….

        ไม่รักสักนิดเลยหรือ ไม่สงสารเวทนาสักนิดเลยหรือ นี่คือลูกชายของคุณอีกคนนะ

        นี่คือลูกของคุณอีกคน

        ทำไมไม่ยื่นมือออกมารับมือที่ไขว่คว้าหาความอบอุ่นของเขาล่ะ

        ทำไม…

         ฉันถามตัวเองแบบนี้ทุกครั้งที่เห็นหน้าเศร้าๆ ของมาซาฮิโระ ถึงจะมีรอยยิ้มเหยียดๆ ราวกับจะหยามคนทั้งโลก แต่แววตากลับเศร้าเหลือเกิน

        บ้านที่แท้จริง...บ้านที่เป็นบ้าน

    แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 48 13:50:37

    จากคุณ : surudee - [ 8 เม.ย. 48 10:13:54 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป