CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ~~ รักยัยคนนี้ เมรีขี้เมา ~~ ตอนที่ 2

    ตอนที่ 2


    ตากลมค่อยๆเปิดกว้างขึ้น แล้วใช้เวลาโฟกัสอยู่เพียงครู่ก็มองทุกอย่างได้ตามปกติ พร้อมกับร่างบางก็พยายามจะดันตัวเองให้ลุกขึ้นจากเตียง ทว่าเรี่ยวแรงมันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ หญิงสาวหลุบตาต่ำลงอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าเสื้อที่ใส่อยู่มันไม่ใช่ของเธอ

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงที่นทีไม่สงสัยเลยว่าเป็นของใคร เฮ้ออออออออ ตื่นมาก็โวยวายเลยนะแม่คุณ คิดพลางลุกจากโซฟาหน้าห้องที่เมื่อคืนนี้กลายเป็นที่นอนของเขาไปเปิดประตูห้อง ยังไม่ทันที่นทีจะพาร่างสูงเข้าไปได้ทั้งตัวก็ต้องปะทะกับกองทัพหนังสือและหมอนที่เจ้าของเสียงกรี๊ดในห้องประเคนมาให้อย่างไม่ยั้ง

    “อะไรกันคุณ นี่จะทำความเสียหายข้าวของผมทำไมเนี่ย”

    “เสียหายเหรอ ฉันสิเสียหาย นายมันเลว ทำอย่างงี้กับฉันได้ไง ไอ้คนบ้า ทุเรศที่สุด” ยิ่งเห็นว่าเป็นคนเมื่อคืนที่ขโมยจูบเธอก็ยิ่งขว้างปาข้าวของใกล้ตัวไปจนไม่เหลือซักชิ้น เพราะห้องผู้ชายอย่างเขาไม่มีสมบัติอะไรมากมายอยู่แล้ว

    “นี่ฟังก่อน ผมไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะ” นทีพยายามจะอธิบาย แต่เมธาวีไม่ฟังหันไปหันมาก็เห็นเหลือแต่โคมไฟทิฟฟานี่ชิ้นหรูอีกสิ่งเดียวที่พอจะเอื้อมหยิบได้จึงหันไปคว้าทันที พร้อมกับที่นทีก็เห็น และพอจะเดาได้ในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงต้องรีบพุ่งตัวไปคว้าโคมอันนั้นให้ได้ก่อนเธอ

    แต่ว่าช้าไป เพราะสิ่งที่เขาคว้าได้กลับเป็นข้อมือของเธอแทน นทีจึงใช้แขนอีกข้างโอบรอบตัวเธอเพื่อยุดเอาไว้ไม่ให้เธอทำโคมสุดรักของเขาแตก จึงดูเหมือนเธอตกอยู่ในอ้อมกอดเขาอีกครั้ง(อย่างไม่ได้ตั้งใจ .. อีกแล้ว)

    “ปล่อยนะ ไม่งั้นจะเอาโคมไฟนี่ทุบหัวคุณให้แตกเลย” เมธาวีรีบขู่

    “คุณนั่นแหละรีบวางโคมของผมก่อนเลย แตกไปเสียดายแย่” นทีรีบบอกเหมือนกัน

    “คุณนั่นแหละปล่อย ไม่งั้นฉันทุบหัวคุณจริงๆนะ”

    “คุณจะทุบผมยังไง ก็ถูกกอดอยู่อย่างเงี้ย” นทีทำเสียงและแววตาล้อเลียนเมื่อเห็นคุณเธอดีแต่ขู่ไม่ดูสถานการณ์

    เมธาวีนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้สถานการณ์เป็นรองจริงๆ ก็เลยพยายามคิดหาทางออก จนคิ้วเข้มแต่โค้งสวยขมวดกันยุ่ง ปากบางนั้นก็เม้มซะเกือบเป็นเส้นตรง ดูต่างจากมาดพิธีกรสาวมั่นไปอีกแบบ เพราะเหมือนเด็กดื้อ ๆ ซนๆกำลังถูกขัดใจมากกว่า นทีเผลอมองแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

    ... เวลาไม่แต่งหน้าหนาๆนี่น่ารักเหมือนเด็กๆดีแฮะ จะว่าไปก็อยากรู้เหมือนกันว่าอายุเท่าไหร่กันแน่เนี่ย คิดเพลินๆอยู่ไม่ทันไร

    “เพล้งงงงงงง !!!!!”

    เสียงโคมสุดรักของเขานั่นแหละถูกทุ่มลงกับพื้น นทีตาเขียวขุ่นขึ้นมาทันที อารมณ์ที่แอบชื่นชมเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นฉุนฉียวขึ้นมาทันที ยัยคนนี้นี่ร้ายอะไรนักหนานะ

    แล้วตาคมที่ตอนนี้ดูวาวราวกับมีไฟอยู่ข้างในก็จ้องตากลมที่มองขึ้นมาสบตาท้าทายอย่างจะเผาให้ไหม้ไปเดี๋ยวนั้นเลย

    ... ก็ช่วยไม่ได้ ทุบหัวนายไม่ได้นี่นะ ทุบทิ้งก็ได้ ...

    “ทำไมเป็นคนนิสัยเสียอย่างนี้นะ คุณเคยเห็นค่าของอะไรบ้างมั้ย คงไม่ล่ะสิ เพราะแม้แต่ตัวเองยังทำเหมือนไม่มีค่า ฮึ” นทีหลุดปากออกไปด้วยความโมโหจัด ก็โคมไฟอันนี้น่ะพ่อเขาซื้อให้เป็นของขวัญ หากแต่ยังไม่ทันได้ให้ พ่อเขาก็เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน มันจึงมีคุณค่าทางใจต่อเขามากมายนัก แล้วยัยผู้หญิงนิสัยเสียคนนี้กล้าดียังไงมาทำลาย

    “กรี๊ดดดดด ตาบ้า ว่าฉันทำตัวไม่มีค่าเหรอ นายมันก็ไม่เป็นสุภาพบุรุษ ฉวยโอกาส สารเลว” เมธาวีโต้กลับทันที

    “อ่อ การที่ผมช่วยดูแลคุณที่เพ้อทั้งคืนเนี่ยนะมันสารเลว ฉวยโอกาส .. งั้นจะทำให้ดูแล้วกันว่าฉวยโอกาสน่ะมันเป็นยังไง” พูดจบก็จับตัวเธอหมุนให้มาเผชิญหน้ากัน แล้วกดปากอุ่นของเขาลงไปยังปากบางของเธอทันที แต่เมธาวีเบี่ยงหลบได้ทัน ริมฝีปากของเขาจึงกดลงไปยังต้นคอขาวเนียนแทน

    เมธาวีดิ้นรน ทั้งหยิก ทั้งตีร่างสูงที่ตอนนี้ใช้สองแขนรัดเธอไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก ปากก็กรีดร้อง

    “กรี๊ดดดดดดด ปล่อยนะ ไอ้คนเลว ไอ้ทุเรศ ปล่อย”

    นทีก็กำลังโมโหสุดขีด ควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็ได้แต่ปล่อยอารมณ์เตลิดไปกับการปลุกปล้ำคนในอ้อมกอดเพื่อระบายความโมโห

    จนเมธาวีหมดแรงจะดิ้นรน ร่างบางอ่อนปวกเปียกอยู่ในอ้อมแขนของเขา นทีเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาได้ จึงคลายวงแขนออกปล่อยเธอเป็นอิสระ แต่ก็แอบเสียดายนิดๆไม่ได้

    .........คนอะไรเนื้อตัวนุ่มนิ่มอย่างกะเด็กๆ ... เฮ้ยไม่ได้ๆเรามีคดีต้องชำระกับยัยนี่นี่หว่า

    หลังจากเป็นอิสระจากวงแขนแข็งแรงแล้ว เมธาวีรีบวิ่งไปอยู่อีกฟากของเตียง โดยหวังเอาเตียงเป็นที่กั้นเขาไว้ก่อน หน้าขาวนั้นก็ซีดด้วยความตกใจและดูตื่นตระหนก ความปากกล้า ช่างท้าทายหายไปจนหมดสิ้น ดูไม่ต่างกับเด็กที่กำลังกลัวการทำโทษยังไงยังงั้น ทำเอานทีถึงกับใจอ่อนนิ่งไปสักพักก่อนเอ่ยเบาๆ

    “ผมขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้เลย” เมื่อไม่เห็นอีกฝ่ายโต้ตอบกลับมา เขาจึงค่อยๆพูดต่อ

    “ทีนี้ก็ฟังให้เข้าใจ ว่าเมื่อคืนผมไม่ได้ทำอะไรอย่างที่คุณคิดเลยนะ แต่คุณเอาแต่เพ้ออะไรไม่รู้คงเพราะดื่มมากไป ผมก็เลยเช็ดหน้าให้คุณเผื่อว่าจะสบายตัวหลับไม่ต้องละเมอได้มั่ง ผมเองก็จะได้นอน .. เท่านั้นจริงๆ” คำหลังนี่เขารับรองกึ่งขันๆเมื่อเห็นตากลมโตขึ้นอย่างจะบอกว่าไม่อยากเชื่อที่เขาพูด

    “แล้วเข้ามาในห้องฉันได้ไง” เมธาวีรีบถามเอาเรื่อง ทั้งที่ยังหวาดๆกับร่างสูงที่อยู่คนละฟากเตียงอยู่

    “ดูให้ดีก่อนสิคุณ นี่มันห้องผมนะ” เมธาวีกรอกตามองไปมาทั่วห้องหลังจากได้ยินเขาบอกมาอย่างนั้น

    ... เออ ก็จริงแฮะ แค่รสนิยมการตกแต่งคล้ายๆกับห้องเรา ทำไมไม่สังเกตให้ดีก่อนนะยัยเมเอ๊ย ปล่อยไก่ไปอีกแล้วมั้ยล่ะ

    “แล้ว... เสื้อ ... ” เมธาวีไม่ค่อยกล้าถามตรงๆ

    “อ๋อ ก็เสื้อผมอีกนั่นแหละ” นทีตอบยวนๆให้คนที่ตอนนี้กำลังระแวงสุดขีดได้ถลึงตาใส่เขาอีกรอบ ก่อนหัวเราะเบาๆแล้วบอกต่อไปว่า

    “เสื้อผม แต่ว่าผมไปตามแม่บ้านมาเปลี่ยนให้คุณ” นทีมองเมธาวีที่ทำหน้าโล่งใจอย่างเห็นได้ชัดแล้วยิ้ม

    “แล้วจะรู้ได้ไงว่าคุณไม่ได้โกหกฉัน” เมธาวีถามอย่างระแวง

    “ด้วยเกียรติของคนเป็นอาจารย์เลยครับ” อาชีพที่ภาคภูมิใจมากที่สุด และเขาก็กล้าเอามารับประกัน แล้วก็ต้องแอบไขว้นิ้วเมื่อนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่บอกเธอไปนั้นมันไม่จริงทั้งหมด เพราะว่าจริงๆแล้วเขานั่นแหละที่เป็นคนเปลี่ยนเสื้อให้เธอเอง ก็ดึกดื่นป่านนั้นแล้วแม่บ้านที่ไหนจะอยู่ให้ตามมาใช้ล่ะ แต่เอาเถอะเรื่องมันจะได้จบๆกันไป

    “กลับบ้านมั้ยเดี๋ยวผมไปส่งอยู่ที่ไหนล่ะ แล้วทำไมถึงมาคอนโดนี้ได้” ประโยคหลังเขาพูดคล้ายบ่นไปเรื่อยๆมากกว่าจะเอาคำตอบจากเธอ

    “ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้” ว่าแล้วก็รีบเดินผ่านร่างสูงออกไปยังประตู และเมื่อเปิดประตูออกไปเห็นเลขบนประตูห้องตรงข้ามเป็นเลขห้องของเธอแล้วก็อยากเขกหัวตัวเองนัก เพราะว่าเธอเข้าห้องผิดฝั่ง

    .. บ้าจริง เมาแล้วดันจำผิดฝั่งนะเรา ...

    เมธาวีจึงเดินกลับเข้าไปขนข้าวของของแล้วรีบเดินออกมา โดยมีร่างสูงของคนที่สงสัยการกระทำของเธออยู่เดินตามออกมาด้วย และเมื่อเห็นว่าเธอเปิดประตูเข้าห้องตรงข้ามกับห้องเขา ก็ถึงบางอ้อ

    .. ยัยนี่จำผิดฝั่ง หึ หึ ....

    นทีเดินกลับเข้าห้องไปนั่งมองเศษโคมไฟทิฟฟานี่สุดที่รักด้วยความเสียดาย เพราะยัยเมรีขี้เมานั่นทีเดียว ผู้หญิงอะไรไม่ได้เรื่อง เห็นเป็นพิธีกรสาวมั่นคนเก่ง ไม่นึกเลยว่าตัวจริงจะนิสัยเสียได้ขนาดนี้ คิดไปพลางฮึดฮัดขัดใจไปเรื่อย แต่เมื่อคิดไปถึงสิ่งที่เธอเพ้ออยู่เมื่อคืน

    “คุณพ่อใจร้ายรักแต่งาน เคยรักเมบ้างมั้ยคะ”

    .....จะว่าไปเธอก็เป็นคนที่มีปมปัญหา คงหาทางออกไม่ได้มั้ง .. นทีเริ่มจะเห็นใจอยู่บ้าง ......แต่ไม่หรอก โตป่านนั้นแล้วยังใช้เหล้าแก้ปัญหา ไม่รู้จักคิดจริงๆ ... หลังจากคิดอะไรอยู่คนเดียววุ่นวายก็ตัดใจแล้วเตรียมตัวออกไปทำงาน

    เมื่อเขาไปถึงลานจอดรถก็เห็นคู่กรณีคนสวยกำลังพารถสีดำคันหรูเคลื่อนตัวออกไปจากคอนโด

    ...... เวลาเมานี่เป็นคนละคนไปเลยแฮะ ไม่กลัวตัวเองเป็นข่าวมั่งเลยรึไง เป็นคนดังแท้ๆ

    แล้วตัวเขาเองก็ขับรถมุ่งไปยังที่ทำงานบ้าง

    ###############################

    จากคุณ : looK aT mE - [ 9 เม.ย. 48 20:16:28 A:203.113.67.70 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป