ซอด้วงมุกไฟ
"เฮ้ย...วัฒน์ เมื่อกี้ข้าเดินมาเห็นไกล ๆ เห็นใครมาคุยด้วยวะ"
"อ้อ...ไอ้ทวน...."
ชัยวํฒน์ซออู้มือหนึ่ง ของภาควิชาดนตรีศึกษาในวิทยาลัยนี้ เงยหน้าขึ้นยิ้มให้เพื่อน
"....นึกว่าแกจะรู้จักเสียอีก ก็แฟนไอ้วิทย์เพื่อนเก่าของแกไงล่ะ เขาเรียนอยู่ภาคพลศึกษาเหมือนกันทั้งคู่เลย น่าอิจฉาจังว่ะ"
"เอ....ไม่รู้แฮะ เมื่อกี้ก็เห็นหน้าไม่ถนัด แล้วเดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องส่วนตัวของไอ้วิทย์ซักเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าคลาดกันไปได้ยังไงตั้งปี เพิ่งค้นพบว่า มันมาต่อหลักสูตรปริญญาตรีที่นี่เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เอง...เฮ้ย เป็นไงวะ แฟนมันน่ารักมั้ย"
"สวย..." ชัยวัฒน์ดีดมือเปาะ
"...แต่แปลกว่ะ เค้ามาคุยกับข้า แล้วขอดูซอที่แกฝากไว้นี่แล้วทำหน้าพิลึกว่ะ แต่ไม่ถามอะไรซักคำ"
"ก็คงจะไม่เคยเห็นซอโบราณอย่างนี้ละมั้ง เด็กสมัยใหม่ก็แบบนี้แล ไม่ค่อยจะรู้คุณค่าของดนตรีไทยซักเท่าไหร่หรอก"
* * * * *
"กฤต.." เสียงนั้นทำให้กฤติกาหันมาแล้วฝืนยิ้มแหย ๆ เพราะมีความรู้สึกว่าอารมณ์ยังไม่ค่อยดี
ร่างสูงใหญ่นั้นทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม แล้วมองหน้าเธอตรง ๆ
"ทำไมไม่เข้าเรียนล่ะ ชั่วโมงนี้วิชาอะไร"
"สังคีตนิยม ค่ะ กฤตเกลียดเข้ากระดูก เลยไม่อยากเข้า"
"กฤต...." เขาขัดขึ้นอย่างอ่อนโยน
"...วิชานี้น่ะมันเป็นพื้นฐานนะ ถึงพี่จะไม่มีความรู้ทางดนตรีไทย แต่พี่ก็ผ่านวิชานี้มาแล้ว ด้วยเกรดที่พอคุ้มตัว อย่าลืมสิ สัญชาตญาณ และอารมณ์ที่ปรับได้ตามสภาวะไงล่ะ มันทำให้พี่เข้ากับดนตรีไทยได้ แม้จะเป็นการชั่วคราวก็ตาม"
"แต่กฤตไม่อยากเรียนแล้ว เรียนไปก็ไม่รู้เรื่อง"
กฤติกาบ่นเสียงต่ำ ๆ สมาธิของเธอหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ ในเวลาที่เรียนวิชานี้ ทุกครั้งทีเดียว เรื่องเก่า ๆ มันก็น่าจะอยู่ส่วนเรื่องเก่า ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่เหลืออดเหลือทนในวันนี้จนไม่เข้าเรียนน่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะซอที่ตัวเองปากไวไปขอพี่วัฒน์ดูนั่นหรือเปล่า มันดูรบกวน ความรู้สึกอย่างไรก็ไม่รู้สิ...ไม่ใช่น่ะ..กฤติกาบอกตัวเองอย่างไม่ค่อยจะหนักแน่น
"เอายังงี้ดีกว่านะ..." วิทยาสรุป
"...กฤตไปติวกับเพื่อนพี่ จะได้เข้าใจดีขึ้น เพราะตอนนี้ถึงจะตั้งใจฟังคำบรรยายก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เข้าห้องเรียนเช็คชื่อเฉย ๆ ก็พอ แล้วว่าง ๆ ไปเรียนกับเพื่อนพี่ดีกว่า"
กฤติกายิ้มออกมาได้ พี่วิทย์ก็ดีอย่างนี้แหละ เธอถึงได้ประทับใจเสมอมา
* * * * *
วิทยาเดินตามเสียงซอมาเรื่อย ๆ จนถึงห้องดนตรีไทยของวิทยาลัย เขายกมือไหว้พระพุทธรูป เศียรพระฤาษี เศียรพระพิราพ แล้วก็ถอดรองเท้าก้าวเข้าไปในห้องดนตรี ที่มีคนนั่งอยู่เพียงคนเดียวนั้น
ร่างที่หันหลังให้ดูเหมือนกับจะยังไม่รู้สึกตัว วิทยายังไม่อยากรบกวนสมาธิ เลยนั่งพิงประตูห้องและฟังเพลงอันเศร้าสร้อยนั้นไปเรื่อย ๆ จากแสงสลัวในห้องนั้น ทีแรกเขานึกว่านั่นไม่ใช่ผู้ที่เขาต้องการพบ แต่พอดีเห็นโขนซอด้วงดำปลาบประดับมุกไฟที่ล้ำขึ้นมาจากช่วงไหล่ วิทยาจึงแน่ใจ
เพลงนี้ช่างเศร้า และบาดอารมณ์เหลือเกิน วิทยาคิด แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็น เพลงอะไร เพราะเขามีเพียงแต่สัญชาตญาณแห่งความซาบซึ้งเท่านั้น หาได้มีความรู้ไม่ เพราะตั้งแต่ผ่านคอร์ส สังคีตนิยม มาแล้ว นักเรียนพลศึกษาอย่างเขาก็ไม่เคยได้ยุ่งกับดนตรีไทยอีกเลย
พอจบเพลง ทวนวางซอลง วิทยาก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปหา
"อ้อ ไอ้วิทย์..." ทวนทัก
"คนอื่นหายไปไหนหมดวะ"
วิทยาว่าพลางหันไปมองรอบ ๆ
"ก็เย็นป่านนี้แล้วใครเขาจะมาอยู่เล่า...ไอ้เซ่อ..นอกจากคนบ้าอย่างข้าแค่คนเดียว"
ทวนพูดอย่างเป็นกันเอง เขาทั้งสองจบมัธยมต้นมาด้วยกัน แล้วก็ต่างแยกกันไปเรียนคนละโรงเรียนแต่มาเข้าที่วิทยาลัยนี้เหมือนกันโดยมิได้นัดหมาย
ทวนเป็นคนที่หลงใหลเสียงดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วเขาจึงสอบเข้าเรียนได้ที่ภาควิชาดนตรีศึกษา วิชาเอกดนตรีไทย ส่วนวิทยานั้นเป็นนักกีฬาชั้นดี จึงสอบเข้าเรียนได้ในภาควิชาพลศึกษา แม้ช่วงชีวิตตั้งแต่ชั้นมัธยมปลายเขาทั้งสองจะห่างเหินกันมาโดยตลอด แต่การที่ได้มาพบกันอีกครั้งโดยบังเอิญ ในปลาย ๆ ปีสี่นี้ กลับทำให้มิตรภาพเก่าแก่แต่เดิมนั้น หนักหนาขึ้นอีกอย่างมากมาย
"เฮ้ย นี่แน่ะ ทวน..." วิทยาเริ่มพูดจริงจังขึ้นมา
"...คือข้าอยากจะขอแรงให้ช่วยติว สังคีตนิยม ให้หน่อย..."
"เฮ้ย...ยังไม่ผ่านอีกเรอะแก จะจบอยู่แล้วนาโว้ย"
"เปล่า...แฮ่ะ...แฮ่ะ..." วิทยายิ้มเขิน ๆ
"....แฟนข้าสิ อยู่ตั้งปีสามแล้วก็ยังไม่ผ่าน ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยชอบซักเท่าไหร่..."
"อ๋อ..." ทวนทำหน้าขรึมพยักหน้าเนิบ ๆ
"...ไอ้วัฒน์ก็เคยบอกข้าเหมือนกัน ว่าแฟนเอ็งสวย...โชคดีนี่"
"เฮ่อ...." วิทยาถอนใจ
"....ก็ไม่เชิงหรอก เขาเป็นคนเงียบ ๆ แล้วบางทีก็เหมือนกับคนที่มีอะไรเก็บกดมานานแสนนาน"
"ฮึ..." ทวนยิ้มเหยียด ๆ
"..ความรัก..มีปัญหาอยู่เสมอ... กับทุกคนนั่นแหละ..."
* * * * *
"อ้าว...เฮ้ย...มาเร็วดีจริง ไอ้เสือ"
วิทยาเดินเข้ามาตบไหล่ทวน ในขณะที่เขากำลังนั่งเช็ดซอและกล่องซอฆ่าเวลา รอที่เขานัดติวกับวิทยาไว้
"ไหนล่ะแฟนแก อยากจะชมเป็นบูญตาซักหน่อย"
ทวนยิงคำถามทันทีที่วิทยานั่งลง
"เดี๋ยวสิพวก...ใจเย็น ๆ บอกเสียก่อนนะโว้ยว่าห้ามจีบเด็ดขาด"
วิทยาว่าพลางอมยิ้ม แล้วเขาทั้งสองก็หัวเราะขึ้นพร้อม ๆ กัน พอดีกับที่มีเสียงแจ๋ว ๆ ดังขึ้นเบื้องหลัง
"พี่วิทย์คะ..."
วิทยาโบกมือรับเจ้าของเสียง ในขณะที่ทวนหันหน้าไปมอง....แล้วก็ตาลายวูบแทบจะทิ้งซอ คำพูดที่พลั้งออกมาดังเพียงกระซิบ
"กฤติกา..."
ทั้งคู่ต่างก็อึ้ง พอดีกับที่วิทยาทำลายความเงียบขึ้น
"อ้อ..กฤต นี่พี่ทวน เรียนอยู่ภาคดนตรีปีสี่ คนที่จะมาติวให้กฤตไงล่ะ ทวน...นี่กฤติกา ปีสามพละ จะสมัครมาเป็นลูกศิษย์เอ็ง"
คู่กรณีต่างยิ้มให้กันอย่างฝืดเต็มทน...นี่พี่วิทย์เค้าไม่รู้อะไรบ้างเลยรึไงนะ... กฤติกาคิดอย่างแค้น ๆ เธอเองก็แย่เหมือนกัน...ก็จะมีใครอีกเล่าที่เคย คุ้นตาอย่างนี้..เดิมเธอก็ยังมีความรู้สึกที่ปฏิเสธตัวเองอยู่บ้างหรอก เพราะมันนานเหลือเกินแล้ว แต่พอดีสายตาเจ้ากรรม ก็เห็นเข้าพอดี...ซอด้วงมุกไฟคันนั้น...
* * * * *
พญาโศกสามชั้นเดี่ยวทางโอดจบลง ทวนวางซอด้วงมุกไฟไว้ในกล่องตามเดิมแล้วก็ถอนใจ เมื่อบ่ายนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วสินะที่เขาติววิชา สังคีตนิยม ให้กับกฤติกา ทวนพูดคล่องเฉพาะเรื่องวิชาการเท่านั้น แต่เรื่องอื่น ๆ ก็กลับน้ำท่วมปาก ถึงกฤติกาเองก็เหมือนกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทวนดูรู้จากแววตาว่าเธอก็มีอะไรจะพูดกับเขาอยู่เหมือนกัน
ไม่มีใครรู้หรอกว่าความหลังเมื่อสี่ปีที่แล้วมันเป็นอย่างไร แม้แต่วิทยาเพื่อนรักของเขาเอง ก็วิทยานี่แหละที่ทำให้เขาพูดไม่ได้ เพราะเขารู้เต็มอกอยู่ว่า เวลานี้วิทยารักผู้หญิงคนนี้มาก แล้วเขาจะไปทำลายความสุขของเพื่อนได้อย่างไร ส่วนเรื่องเก่า ๆ นั้นมันจบไปหมดแล้ว...จบไปแล้วจริง ๆ ...
* * * * *
จากคุณ :
พจนารถ
- [
11 เม.ย. 48 09:53:10
A:61.91.79.94 X:
]