CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    คุณเคยนั่งนับดาวบนฟ้าคนเดียว แล้วเป็นลมบ้างไหม

    ถุงปูนชอบนั่งนับดาวบนฟ้าหลายคน  แต่สันน่ะสิ  ชอบบังคับให้ถุงปูนนั่งนับดาวกับสันแค่ สองคน   เพราะสันเป็นห่วง  สันชอบเป็นห่วงถุงปูนพอๆกับที่ชอบ เป็นนายตำรวจหนุ่มรูปหล่อ

                สันรู้ดีว่า  ถ้าปล่อยถุงปูน  นั่งนับดาวบนฟ้าคนเดียวแล้วถุงปูนจะชอบเป็นลม  ถ้าปล่อยให้ถุงปูนไปนั่งนับดาวบนฟ้าหลายคน  ถุงปูนก็จะชอบเป็นลมอีก  เวลาถุงปูนเป็นลม  สันชอบที่จะอยู่เคียงข้างถุงปูนเสมอเสมอ  เพราะสันเป็นห่วง

                ถุงปูนไม่เคยนั่งนับดาวบนฟ้าได้ครบสักที  นี่นั่งนับมาหลายปีแล้ว  บ่อยครั้งที่สันกับถุงปูนนั่งนับดาวอยู่ด้วยกันแล้ว  สันต้องไปจับโจร  ก็ลากถุงปูนไปด้วย  สันเก่งจัง  สามารถจับโจรไปด้วยแล้วนับดาวกับถุงปูนไปด้วยในเวลาเดียวกัน  สันสุดยอด  ตำรวจแบบสันมีคนเดียวในเมืองไทย

                วันนึง  สันกำลังล้อมจับโจร  ที่กำแพงบ้านหลังนึง  ถุงปูนไม่สน  ถุงปูนยังนับดาวบนฟ้าค้างอยู่  ลูกน้องสันพยายามเจาะกำแพงบ้าน  แต่เจาะไม่เข้า
               “เจาะเท่าไหร่ก็ไม่เข้า  ครับนาย  สงสัย  เป็นกำแพงชั้นดี”  ลูกน้องสันรายงาน
               “แล้วเราจะทำไงดี”
              “นายครับ  ผมนึกออกแล้ว  หมู่บ้านนี้ เขาใช้คนจีนสร้างกำแพงบ้าน  เราคงเจาะไม่ได้แล้วครับ”    “นั่นสิครับ   คนจีนสร้างกำแพงเก่ง  ขนาดกำแพงเมืองจีน ยังไม่มีวันพัง”  ลูกน้องสันรายงานเจื้อยแจ้ว
             “นี่แสดงว่า  มันเป็นโจรที่รอบคอบ  มันถึงหนีเข้าหมู่บ้านนี้  เพราะถ้ามันเข้าอีกหมู่บ้าน มันเสร็จเราแน่  เพราะ  อีกหมู่บ้าน  ใช้คนเยอรมันสร้างกำแพง”
               “กำแพงเบอร์ลินของคนเยอรมัน  เปราะบางถูกทำลายไปแล้ว คนเยอรมันสร้างกำแพงไม่เก่ง  ทำลายทิ้งได้ง่าย เฮ้อ  มันเป็นโจรที่รอบคอบจริงๆว่ะ”

                สันเอามือกุมขมับ  กลุ้ม  เปลี่ยนจากกุมขมับมากุมมือของ ถุงปูนแทน  บ้าจริงๆเชียวสัน  ถุงปูน ตั้งตัวไม่ทัน  ถูกไออุ่นจากมือสัน  ถุงปูนเลยลืมไปเลย  ว่านับดาวไปถึงดวงไหนแล้ว  เวรกัน

               ฝนตกลงมา  ดุงดุงดุง  เสียงฝนที่นี่ดังมีรสนิยมมาก  
    ดุงดุงดุง   ซวยหล่ะสิ ฝนตก  สันคิดในใจ  ซวยแล้ว ฝนตก  จ่าจิ้ม คิดในใจอีกคน
              “สันคะ  ฝนตกแล้ว  ถุงปูนกลัวจัง  ถุงปูนว่ายน้ำไม่เก่ง”
              “นั่นสิผมก็ว่ายน้ำไม่เก่ง  ผมจับฉลากสอบว่ายน้ำเป็นนายตำรวจเข้ามา”  อันนี้สันคิดในใจ ขืนพูดดังๆออกไป  ลูกน้องรู้เข้า  เสียฟอร์มหมด

              “ถุงปูนอย่างกังวลเลยครับ  ฝนที่ตกเสียงแบบนี้  น้ำไม่ท่วมหรอกครับ  แต่ดาวบนฟ้าจะถูกบดบังด้วยเมฆดำ ครึ้ม พรึม กระจายเต็ม  แล้วถุงปูนจะนับดาวยังไง  ผมเป็นห่วง”
              “สันคะ  คุณช่างน่ารักอะไรอย่างนี้   ถุงปูนนั่งนับดาว คุณก็เป็นห่วง  ถุงปูนไม่มีดาวให้นั่งนับคุณก็เป็นห่วง”
             
              “ดุงดุงดุงดุงดุงดุง   ดุ่งดุ่งดุ่ง  ดุ๊งดุ๊งดุ๊ง ดุ้งดุ้งดุ้ง”
    (คาดว่า เทวดา คงครึ้มอกครึ้มใจ  เทน้ำฝนพร้อมกับฮัมเพลงไปด้วยเป็นแน่แท้)

               แล้วทั้งคู่ก็กุมมือกัน  นั่งนับดาว (ที่มีแต่มองไม่เห็น)  บนฟ้าด้วยกัน ราวกับว่าทั้งโลกมีเขาและเธออยู่สองคน  ลูกน้องสองคนของสันคือ จ่าจิ้ม กับ หมู่ตุ้ย  เหลือบมอง

                “ตุ้ย  ข้าเหลือบมองอยู่  เอ็งอย่าเหลือบตาม  ข้าไม่ชอบ”
               “งั้นผมชายตามองละกัน  จ่าไม่ว่าผมนะ”
    แล้วหนึ่งจ่าและหนึ่งหมู่ก็ เหลือบมองและชายตามอง  ผู้หมวดหนุ่มกับแฟนนั่งกุมมือนับดาวกัน  โดยไม่สนใจใคร
               “สงสัยหมวดลืมไปแล้วว่ะ  ว่าเราสามคนมาจับโจร”
               “แต่ฉันเคยได้ยิน  นะจ่า  หมวดสันเคยบอกผู้กำกับแล้วว่า  แกไม่ถนัดจับโจร  แกถนัดจับมือแฟนมากกว่า  แต่ผู้กำกับก็ยังดื้อรั้นให้หมวดสัน มาจับโจร”
               “ผู้กำกับนี่  ไม่ได้เรื่องจริงๆ  ใช้คนผิดงาน  ให้งานผิดคนตลอด”

                “หลับตาสิจ๊ะคนดี  ถึงดาวบนฟ้าไม่มี  แต่ดาวในความรู้สึกยังสว่างไสวอยู่เต็ม  คุณเห็นไหมถุงปุนของผม”    หมวดสันโชว์คำหวาน  ถุงปูนเลยหลับตาเอาใจหมวดสัน
                “ดาวในใจของเราสองคน เต็มไปหมดเลยค่ะ  สัน”
                “ไม่ว่าฝนจะตกอย่างไร  ฟ้าจะฮึมฮึม ดำทะมึนแค่ไหน  ดาวจะหลบเร้นเล่นซ่อนหากับเรา อีกนานเท่าไหร่  เราสองคนก็จะรอ  ที่จะนับดาวทั้งดาวในใจและดาวนอกใจ  ใช่ไหมจ๊ะคนดี"    ว่าแล้ว  ก็หลับตาพริ้มลงพร้อมกันสองคน กุมมือ  หน้าเงยมองฟ้า แต่ตาไม่ลืม

               “จ่า  จ่าว่าผู้หมวดกับแฟน แกจะเมื่อยไหม  เงยหน้ามองดาวบนฟ้าและหลับตาไปด้วย”    แน่ะจ่าจิ้ม  ถามทำหยิ่งไม่ตอบ  เอ๊ะเสียงใครลอยมา
                “ไม่รู้สิ หมู่ตุ้ย  ผมไม่เคยทำเลย เงยหน้ามองดาวบนฟ้าและหลับตาไปด้วยพร้อมกับจับมือแฟน  ว่ามันเมื่อยไหม  หรือหมู่ตุ้ยจะลอง  มือผมยังว่าง”      ว่าแล้วจ่าจิ้ม  ก็วางมือป้าบ ไปที่มือของหมู่ตุ้ย  พร้อมขยิบตา  
                  “อย่านะจ่า   มือผมยังไม่เคยต้องมือชายใด  จ่าอย่านะ  จ่าอย่า  จ่าอย่า  อย่าสิ จ่า   โอวไม่  จ่าอย่า  จ่า  อย่า อย่าอย่า”    หมู่ตุ้ย หลับตาพริ้ม  จับมือตัวเองอยู่คนเดียว

    เสียงป้าบเข้าไปที่กบาลของหมู่ตุ้ย
              “เป็นบ้า ไรไปวะไอ้ตุ้ย  นี่แค่ผู้กองกับคุณถุงปูน นั่งกุมมือกันไม่ไปจับโจร  กรูก็จะบ้าอยู่แล้ว  เอ็งยังมาเพ้อไรอีก”
               “ก็จ่าจับมือ ผมทำไมอะ”
                “ไม่ได้จับโว๊ย   ไอ้นี่ฝันกลางคืน  เราต้องหาทางแยกให้หมวดสันกับคุณถุงปูน พรากมือจากกัน  แล้วคุณถุงปูนก็จะนั่งนับดาวคนเดียว  แล้วก็จะเป็นลม  หลังจากนั้น  ไอ้โจรสุเมธ มันจะทนไม่ไหว  มันจะต้องออกมาช่วยคุณถุงปูน  เราก็จับมันเรียบร้อย”            
                  “ทำไม  จ่าแน่ใจว่าไอ้โจรสุเมธมันจะออกมา”
                  “เพราะมัน เป็นหมอด้วย  มันเป็นโจรด้วย  มันเป็นหมอ ที่จบวิชา เอกด้านการช่วยชีวิตคนเป็นลม  จบโทด้านช่วยชีวิต  หมาเป็นลม  มันทนเห็นคนหรือหมาเป็นลมในระยะร้อยเมตรไม่ได้แน่นอน  อันนี้จ่ามั่นใจ  เพราะแฟนจ่า  จบหมอสาขานี้เหมือนกัน”

                  “สันคะ  ฝนตกหนักมากขึ้นทุกที  ถุงปูนกลัว”
                   “ฝนตกแค่นี้  น้ำไม่ท่วมหรอกเชื่อสัน”
                   “เปล่าค่ะ  ฝนตกหนักมากทีไร  ถุงปูนกลัว  กลัวคำหวานของสันที่มีต่อถุงปูน  จะเหมือนกับสายฝน   บางวันก็ลงมาหนักมากให้ชื่นใจ  บางวันก็ไม่มีรอให้ถุงปูนชะเง้อหารอฟัง”
                  “ถุงปูนครับ   จำวันนั้นได้ไหมครับ  วันที่เราไม่เข้าใจกัน เพราะสันนับดาวได้  พันเก้าร้อยดวง  แต่ถุงปูนนับได้พันเก้าร้อยกว่าๆ ดวง  แล้วถุงปูนจากสันไปกลางสายฝน  เพราะคิดว่าสันไม่เชื่อ มั่นในการนับดาวของถุงปูน  สันร้องเพลง  รีตึ๋มออฟเดอะเร็ง  ให้ถุงปูนฟัง  เพื่อจะบอกถุงปูนว่า  ถุงปูนหัวใจของสันอยู่กับถุงปูน  ถ้าถุงปูนเดินจากไป  แล้วสันจะรักคนอื่นได้อย่างไรกันเล่า   ฝนจ๋าฝน  โปรดช่วยสัน  โปรดให้ถุงปูนเข้าใจว่า  ความรักของสันสำคัญกว่าจำนวนดาวบนท้องฟ้า  สำคัญกว่า  การไม่เข้าใจกันแค่ใครนับผิดนับถูก”

    ถุงปูนทำท่าเอียงอาย  หันไปเจอ หมู่ตุ้ยกับจ่าจิ้มพอดี  ทั้งคู่ยังคงชายตามองและเหลือบมองไม่เลิก
                 “ถุงปูน ชิมน้ำฝนสิครับ  น้ำฝนที่ตกลงมาพร้อมคำหวานของสัน  รสชาติรัญจวนใจยิ่งนัก”      สันเอาน้ำฝนกรอกปากถุงปูน   “กินเข้าไปเยอะๆครับ  วันไหนฝนไม่ตก  จะได้ไม่ต้องชะเง้อรอคำหวานจากสันอีก  กินเข้าไปเยอะๆ  กินเข้าไป”  สันทำเสียงเข้ม  แต่ไม่วายมือยังกุมกัน  ตายังมองดาว  เดี๋ยวหลับ  เดี๋ยวลืมเอาไงกันแน่  เดี๋ยวนับดาวเดี๋ยวไม่นับดาว  สับสนเฟ้ย

                   “ผมว่านะจ่า  ตัดมือทั้งคู่เลย  เพราะถ้ามือไม่ติดกัน นั่นก็แปลว่า คุณถุงปูนนั่งนับดาวคนเดียว  แล้วต้องเป็นลมแน่ๆ”
                   “ไม่เอาอะ หมู่ตุ้ย  เดี๋ยวหมวดสัน  เหลือมือเดียว  ทีมอื่นล้อแย่  เรามีหัวหน้ามือเดียว”
                   “งั้นผมว่านะจ่า  ตะโกนบอกดังๆ  ไปเลย มีคนเป็นลม  เดี๋ยว  หมอโจรสุเมธ มันทนไม่ไหว  มันออกมาเองแหล่ะ”  
                   “เจ็บใจว่ะ  นี่ถ้ามันหนีไปซุ่มหมู่บ้านโน่น  ที่ไม่ใช่หมู่บ้านที่ใช้คนจีนสร้างกำแพง  ป่านนี้เราทำลายกำแพง เข้าไป จับมันได้แล้ว”
                    “งั้นใช้นี่ ครับ  จ่า  เดี๋ยวผม  ไปหามาให้”
                    “หมู่จะใช้วิธีไหนอีกหล่ะ”
                   “หุ่นไล่ตำรวจครับ  แบบหุ่นไล่กาไงครับ  ผมทำแป๊บเดียว  เอาหุ่นไล่ตำรวจมาตั้งปู๊บ  เราสามคน ก็จะอยู่ไม่ได้  คุณถุงปูนก็นั่งนับดาวคนเดียว  แล้วเป็นลม  หมอโจรสุเมธก็เข้ามาช่วย เราก็มาจับ แค่นี้เรียบร้อย”
                     “เออ  หมู่ตุ้ยนี่  ความคิดเข้าท่า  ไม่เสียแรง  ฉันฝึกมาจริงๆ  ไปจัดการเลย”



    เสียง ตึงตึงตึงตึงตึงตึงตึงตึง  (ใครวิ่ง  ดังมาก)
    แม่เดินเข้ามา   หมอนกำลังนั่งจับตุ๊กตาของเขา
    แม่   :             หมอนเอาอีกแล้วนะลูก   เล่นตุ๊กตาเป็นผู้หญิง
                             อีก แล้ว
    หมอน :             แม่ค้าบ  นี่ตุ๊กตา  ตำรวจสามคน  ชื่อ สัน  ตุ้ย  
                            แล้วก็ จิ้ม  อันนี้ก็  ผู้หญิงจ๋วยชื่อ  ถุงปูน  นี่ก็หุ่น
                            ไล่ตำรวจ
    แม่ :             พอๆ  แล้วลูก  ไปนอนซะ  พรุ่งนี้ต้องไป โรง
                             เรียนแล้วนะ  รีบนอน  อย่ามัว นั่งนับดาวบนฟ้า
                             คนเดียวอีกหล่ะ  เดี๋ยวเป็นลม

    พูดไม่ทันขาดคำ  หมอนกับตุ๊กตาของเขา  ก็นั่งนับดาวบนฟ้าพร้อมกัน   ดวงที่หนึ่ง เมื่อกี้เริ่มตรงไหน  อ้าวสันนับสิ   นับพร้อมๆกัน  เดี๋ยวเป็นลมนะ  ถุงปูนนับหรือยัง

    แม่ :              แน่ะ  พูดไม่ทันขาดคำ  อย่าเงยหน้านับดาวอย่าง
                            นั้นลูก  ลูกเป็นโรค เงยหน้าแล้วเงยกลับเร็วๆ
                            ไม่ ได้  ต้องใช้เวลา สามวัน คุณแม่บอกแล้วใช่ไหม
                             คะ  เห็นมั้ยคะ   แล้วพรุ่งนี้  ต้องถ่ายรูปติดบัตร
                            หน้าตรงไม่สวมหมวก แล้วทำไงหล่ะนี่   หน้าต้อง
                             เงย  ไปอีกสามวัน  ลูกคนนี้ แม่บอกไม่เคยเชื่อ

    หมอน นั่งเงยหน้า  พลิกหัวกลับไม่ได้  ล้มตัวลงนอน  หน้าก็ยังเงยอยู่   นอนนับดาว  จนปวดหัว  แม่หายไปไหนแล้ว  

    ปล่อยหมอนนับดาวคนเดียว  และกำลังจะเป็นลม  ตากำลังจะหลับ  ดีจัง เป็นลมแล้ว ตาหลับ   ตาหลับจะได้ฝัน  และจะได้เห็นพ่อกับแม่ในฝัน  พ่อกับแม่ที่นั่งนับดาวกับเขาและไม่เคยบ่นหรือว่าเขาสักครั้ง  เวลาเขาทำอะไร ที่ไม่เหมือนชาวบ้าน

    แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 48 14:49:17

    แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 48 14:38:40

    จากคุณ : สะติมม๊อนโสสะโตเบ้ว - [ 19 เม.ย. 48 14:31:02 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป