คนมีครู
เมื่อหลายปีมาแล้ว ผมไปแต่งงาน สมพัน ลูกน้องคนโปรดของผมที่บ้านของเจ้าสาว ซึ่งสวยระดับนางงามสงกรานต์ ที่หนองแค อยุธยา ผมเอารถสองแถวเล็กสมัยก่อนซึ่งมีที่นั่ง ด้านหลังสองแถวหันหน้าเข้าหากัน จุคนได้เกือบ ๒๐ คน ของลูกน้องอีกคนหนึ่ง บรรทุกเพื่อนพ้องของเจ้าบ่าวจากที่ทำงานไปกันแน่นเอี้ยด
เราไปถึงบ้านงานในตอนบ่ายทันกำหนดพิธีรดน้ำสังข์ ต่อด้วยงานเลี้ยงตอนเย็นเลยไปถึงค่ำ ตามแบบไทย ๆ ซึ่งพวกเราก็ล่อกันเข้าไปจนดึก เพราะเจ้าบ่าวไม่ยอมให้กลับ บอกว่า เจ้าภาพฝ่ายเจ้าสาวได้จัดที่ไว้ให้ค้างคืน บนเรือนใหญ่แล้ว พวกเราล้วนแต่ดี ๆ กันเข้าไปแล้วทั้งนั้น รวมทั้งคนขับด้วย ก็เลยไม่มีใครขัดศรัทธา
แต่ผมเองนึกสะกิดใจอยู่นิดหน่อยว่า แขกรุ่นหนุ่มในงานหลายคนซึ่งเป็นชาวบ้านท้องถิ่นนั้น ออกจะมีท่าทีนักเลงอยู่ไม่น้อย และดูไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับพวกเราสักเท่าไร สาเหตุสำคัญนั้น ผมเดาเอาเองว่าคงเป็นเพราะเจ้าสมพัน ซึ่งเป็นคนกรุงเทพดันไปคว้าเอาไม้งามประดับหมู่บ้านของเขาไปครองนั่นเอง
ผมกำชับพวกเราทั้งหลายว่า ตัวผมเป็นเจ้าภาพฝ่ายชาย และเราทั้งหมดก็เป็นแขกผู้มีเกียรติของงานนี้ ใครจะอย่างไรก็ช่าง อย่าพยายามให้มีเรื่องเป็นอันขาด ต้องรักษาศักดิ์ศรีของเราไว้ให้ดี
ดังนั้นเหตุการณ์จึงผ่านไปโดยเรียบร้อย จนกระทั่งงานอย่างเป็นทางการได้เลิกราไปเมื่อประมาณสองยาม และต่างฝ่ายต่างก็เมากันได้ระดับแล้ว ผมกับพวกเพื่อนคออ่อนก็เข้ามุ้งนอน ในห้องที่เจ้าภาพเขาจัดไว้ให้ พวกลูกน้องหนุ่ม ๆ คอแข็งก็คงโจ้กันต่อไปที่ห้องชั้นล่างไม่กี่คน
ผมม่อยหลับไปได้สักพัก ก็มีคนมาสะกิดข้าง ๆ มุ้ง ลืมตาขึ้นมาก็พบนายสะอาด ลูกน้องอีกคนหนึ่งของผม ยื่นหน้าตุงเข้ามาในมุ้ง
" หัวหน้าครับ ผมขออนุญาตไปตีกันหน่อยครับ "
" เฮ้ย "
ผมร้องเหมือนโขน ผุดลุกขึ้นนั่งตาสว่างทันที
" ว่าไงนะ "
" ไอ้พวกบ้านนี้มันท้าให้ออกไปตีกันข้างนอกบ้านครับ "
เขาพูดเสียงเหี้ยมหาญ
" อ้าวมันเรื่องอะไรกันล่ะ ก็สั่งแล้วว่าให้อยู่แต่ในกลุ่มของพวกเรา อย่ามีเรื่องกับใคร "
" ผมทำตามคำสั่งหัวหน้าแล้วครับ กินอยู่วงของเรา มันมาสะกิดให้ผมออกไปข้างนอกครับ "
" แล้วไง "
" ผมก็ออกไปกับมันที่หน้าบ้าน มันถามผมว่าลูกศิษย์อาจารย์ไหน ? "
" อ้าว ไหงงั้นล่ะ "
" มันเห็นรอยสักที่คอผมครับ "
ผมลืมบอกไปว่าเจ้าสะอาดนี่ตัวมันเล็กนิดเดียว แต่สักเต็มพรืดไปหมด ทั้งหน้าอกและแผ่นหลัง แต่ฉลาดที่ไม่แลบออกมานอกเสื้อเลย แม้แต่จะใส่เสื้อคอกลมตัวเดียว จึงไม่มีใครรู้ มีโผล่อยู่นิดเดียวคือ อุณาโลม ที่ใต้ลูกกระเดือก ผมเองเพิ่งจะเห็นเมื่อมันบอก
" ผมบอกชื่ออาจารย์ให้ มันก็บอกว่าขอลองหน่อยได้มั้ย ว่าเหนียวจริงไม่จริง ผมบอกเอาเลย "
" เฮ้ย เอามาแล้วเรอะ "
" ยังครับ เพื่อนบอกว่า ถ้าจะเอากะมันจริง
ๆ ต้องไปขออนุญาตหัวหน้าก่อน ให้ผมไปนะครับ ผมไปคนเดียวไม่ให้ใครเดือดร้อน "
ถึงอย่างไรผมก็ไม่อนุญาต เพราะเราเป็นแขกของเจ้าบ่าว จะยกพวกไปตีกับญาติของเจ้าสาวในวันแต่งงาน แล้วผัวเมียมันจะมองหน้ากันได้อย่างไร แต่ผมก็ไม่อยากให้ลูกน้องเสียใจ หรือถูกสบประมาทว่าขี้ขลาด
" เอางี้แล้วกัน แกนอนเสียก่อน เช้าค่อยออกไปล่อกะมัน ออกไปเดี๋ยวนี้ เราไม่รู้ลู่ทางเกิดมันรุม
เอา ก็เสียเปรียบ "
" แหมหัวหน้า มันก็ดูถูกผมแย่ซีครับ ผมรับปากกะมันแล้วนี่ "
" เอาน่า " ผมปลอบ
ขณะนั้นหลายคนที่นอนข้าง ๆ ผมเต็มมุ้ง ต่างลุกขึ้นมานั่งฟังหน้าสลอน
" เชื่อหัวหน้าเถอะถ้าเราเสียเปรียบจะไปตีกับมันทำไม พรุ่งนี้เอากันแจ้ง ๆ ตัว ๆ เลย "
สะอาดยกมือไหว้
" ขอผมสักครั้งไม่ได้หรือครับ "
" ไม่ได้....นี่เป็นคำสั่ง ไป...ไปนอนเดี๋ยวนี้ " ผมเล่นไม้แข็ง
ตกลงคืนนั้น ลูกน้องนักเลงของผม ก็เลยต้องยอมนอนซุกอยู่ข้างมุ้งของผม ไม่ช้าพวกเราก็หลับกันเงียบ
วันรุ่งขึ้นเราตื่นสายโร่ หลังจากที่ถอนกันคนละเล็กละน้อย ตามด้วยข้าวต้มหมู ร้อน ๆ คนละถ้วยสองถ้วยแล้ว ก็ร่ำลาเจ้าของบ้านขึ้นรถย้อนกลับทางเดิมที่มา ทุกคนต่างก็นั่งเงียบระวังกันรอบตัว จนกระทั่งโผล่ออกถนนพหลโยธิน จึงค่อยมีเสียงคุย
เพื่อน ๆ ต่างก็แซวสะอาดกันคนละคำสองคำ เจ้าตัวก็ไม่ว่าอะไร นอกจากขอเหล้า ที่ยังเหลืออยู่อีกครึ่งแบนมากระดกเสียกรุ๊บหนึ่ง แล้วปรารภว่า
" แย่เลยครับหัวหน้า เมื่อคืนนอนไม่หลับทั้งคืน "
"ทำไมวะ "
ผมอดรนทนไม่ได้
" ไม่ได้ตีกะเขาแล้วนอนไม่หลับเรอะ "
" เปล่าครับหัวหน้า ยุงมันกัดผมทั้งคืน "
ว่าแล้วก็ถกเสื้อยืดขึ้น ให้ดูรอยยุงกัดเป็นจุดแดงทั้งตัว โดยเฉพาะที่สีข้าง แถว ๆ รอยสักรูปเสือเผ่นมีจุดแดงแผ่เป็นปื้นใหญ่ พวกเพื่อนหัวเราะครืนทั้งคันรถ
" เฮ้ย สักออกเต็มตัว ยุงยังกัดเข้า แล้วจะ
ไปตีกะเขาได้ยังไงวะ "
" โธ่...หัวหน้า "
เสียงไม่เหมือนตอนเข้าไปปลุกผมเมื่อคืนนี้เลย
" อาจารย์ผม ไม่ได้สักมาให้ตีกะยุงนี่ครับ "
??????????????????????????????????????????????????
จากคุณ :
เจียวต้าย
- [
21 เม.ย. 48 06:53:17
]