CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    +++[[[Trick or treat!]]]+++ (2)

    ลิงค์ตอนแรกค่ะ >> http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3367704/W3367704.html


    ........................................................................................................

    กริ๊ง.........กริ๊งง..................กริ๊ง...........

    “ฮาโหลลลล โทรมาดึกดื่นป่านนี้ไม่มีอะไรทำหรือไง ไอ้พวกโรคจิต!!!”
    นายกิวของเราโวยวายอย่างหงุดหงิด หลังจากมองนาฬิกาแล้วเป็นเวลาตีสองกว่าๆ

    “เออเดะ คนโรคจิตที่โทรมาให้แกด่าไง ไอ้บ้า”
    สายทางปลายโทรศัพท์บอกได้ถึงความขบขันเล็กน้อย

    “อ่าว ไอ้มานา มีอะไรวะ ถึงโทรมาดึกดื่นป่านเนี้ย”

    “แกจำที่พูดกันเมื่อตอนนั้นได้เปล่าวะ ที่บอกว่าดวงอาทิตย์มันจะดับสูญน่ะ”

    “เออๆๆ มีอะไรก็ว่ามาอย่าลีลา”

    “................กุจะบอกเมิงว่า .... มันกำลังจะเกิดขึ้น”

    โครม!!!!...

    “ฮัลโหล ไอ้กิว เป็นไรป่าววะ แค่นี้ต้องตกเตียงด้วย ไอ้ประสาทเอ้ย”


    กิวและครอบครัวได้เดินทางมาพักที่แห่งเดียวกับมานาพร้อมทั้งได้เอาแบบแปลนและเครื่องมือที่ติดต่อกับUFO มาด้วย ได้เข้าถึงถึงที่พักในวันถัดมา และรอ ดร.พิเชษฐ์ ซึ่งได้เอาแบบแปลนของมานาเข้าที่ประชุมพร้อมกับตัวของมานาเอง


    แบบแปลนที่มานาเขียน ทำให้พวกฝรั่งทึ่งเป็นอย่างมาก และได้ทำการหารือกันว่าจะสามารถทำได้ทั้งหมดกี่ลำ ในเวลาอาทิตย์กว่าๆที่เหลือนี้ นอกจากนี้มานายังได้มีโอกาสเสนอในที่ประชุมเรื่องการเพิ่มความเร็วของเครื่องยนต์เพื่อที่จะทำให้การเดินทางเร็วขึ้น นอกจากนี้นายกิวก็ยังมีส่วนร่วมในการติดต่อชาวกาเลเลี่ยนเพื่อขอความช่วยเหลือในการหาดาวเคราะห์ดวงใหม่ซึ่งเป็นโชคดีของชาวโลกโดยแท้ ที่สามารถหาดาวเคราะห์ในกาแลคซี่กาเลเลี่ยน ได้คล้ายคลึงกับโลกใบสีน้ำเงิน ณ ปัจจุบันราวกับแกะ และสื่อเริ่มประโคมข่าวไปทั่วโลก ซึ่งผลก็เป็นไปตามคาด คือชาวโลกต่างพากันตกใจจนเกือบเกิดความชุลมุนวุ่นวายใหญ่โต ดีที่สื่อได้ออกข่าวว่าสามารถพาทุกคนบนโลกออกไปได้หมดไม่เหลือแม้กระทั่งมดซักตัวจึงทำให้ชาวโลกวางใจ และต่างรีบเร่งเก็บข้าวของรอทางการมารับเป็นการใหญ่


    ความคืบหน้าการสร้างยานอวกาศเป็นไปได้ด้วยดีอย่างไม่น่าเป็นไปได้ และเรายังได้เพื่อนบ้านใจดีอย่างชาวกาเลเลี่ยน ที่ส่งวิศวกรอันเก่งการร่วม10ชีวิต มาสร้างยานอวกาศให้ ซึ่งวันเดียวสามารถสร้างเสร็จไปได้ถึง 20 ลำ และแต่ละลำยังสามารถจุคนและสิ่งของอื่นๆได้อีกมากมายอย่างคาดไม่ถึง นอกจากนี้ยังส่งยานลำใหญ่มาให้ถึงสองลำเพื่อบรรทุกโลหะที่ใช้เป็นวัตถุสำคัญในการทำงาน ซึ่งโลหะนั่นก็คือ อราไทน์ ซึ่งมีเฉพาะชาวกาเลเลี่ยนเท่านั้น และคุณสมบัติของมันดีกว่าโลหะไหนๆที่มนุษย์เคยเจอมา


    และ นายกิวและมานาของเราก็หน้าบานไม่หุบ เมื่อสื่อทั้งหลายทั่วโลกขอสัมภาษณ์แล้วสัมภาษณ์อีกจนไม่มีเวลาได้พักผ่อน ทั้ง2คนยังได้รับเหรียญกล้าหาญ และอะไรอีกสารพัด ไม่ว่าจะเป็นรางวัลโนเบลสาขาต่างๆอีกมากมาย


    และแล้ว..... เหลือเวลาอีก 4 วัน ประชากรส่วนใหญ่ของโลกและคณะวิทยาศาสตร์บางส่วนได้เดินทางล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ซึ่งเดินทางไปเพื่อก่อสร้างตึกรามบ้านช่อง และสำรวจทรัพยากรต่างๆบนดาวเคราะห์ใบใหม่ของพวกเรา พวกที่เหลืออยู่ก็คือพวก กิวและมานานั่นเอง เขาอยากจะจดจำดาวเคราะห์ผู้ที่เป็นบ้านเกิดของเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากมา....


    ยานอวกาศลำสุดท้ายเคลื่อนออกจากชั้นบรรยากาศโลก ทำให้มานาได้เห็นเกือบจะวาระสุดท้ายของดวงอาทิตย์ ...น่ากลัวใช่เล่น... เขาคิดในใจ และนำกล้องมถ่ายภาพดวงอาทิตย์ ซึ่งตอนนี้จุดดำบนดวงอาทิตย์กินไปครึ่งนึงแล้ว และยังสามารถเห็นคลื่นแม่เหล็กบนดวงอาทิตย์วุ่นวายสับสนไปหมด อุกกาบาตที่อยู่ใกล้ๆ ต่างถูกดูดหายไปหมด มานาและกิวหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมายและต่างคิดตรงกัน

    น่ากลัวชะมัด!!

    ทุกคนถูกเรียกไปที่แคปซูล เพราะการเดินทางต้องใช้เวลาพอสมควร จึงจำเป็นต้องเก็บพลังงานไว้ แคปซูลของมานาตรงข้ามกับกระจกของยานอวกาศพอดี กิวเข้าไปในแคปซูลที่ติดกับมานา

    “เจอกันที่กาเลเลี่ยนนะเพื่อน”
    กิวกล่าวลาก่อนแคปซูลปิดและหลับไป

    “อืม...เจอกันที่โลกใบใหม่ ลาก่อนนะโลกสีน้ำเงินใบเก่า หลับให้สบายล่ะ”
    และมานาก็ผลอยหลับไป
    ......................................................................................................................................................



    “เฮ้ๆๆ ตื่นได้แล้วพ่อคนขี้เซา ตากุมั่งเดะ........เร็วๆ”
    เสียงขอกิวร้องเหย็งเมื่อจะแย่งของคืนจากมานา

    “อะไรว้า คนคิดก็ต้องลองก่อนเดะ อุตส่าห์ประดิษฐ์ตั้งนานนะเฟ้ย”
    มานาบ่นอุบพลางถอดอุปกรณ์ออกจากหัว ซึ่งดูไปก็คล้ายหมวกกันน็อกที่มีแว่นต่อกับสายระโยงระยาง

    “เออๆ กุรู้ ว่าเมิงประดิษฐ์มาด้วยความยากลำบาก แต่ใจคอจะไม่ยอมให้หุ้นส่วนผู้ที่ช่วยเอ็งพล็อตเรื่องลองมั่งหรอวะ อยากเป็นฮีโร่เหมือนเอ็งมั่งนี่”
    พูดไม่พูดเปล่า พลางไล่เจ้าของสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ลงไปแล้วตัวเองขึ้นมานั่งแทน ทำหน้าราวกับได้ของถูกใจเป็นที่สุด

    “เออๆๆ รีบๆใส่ไปซะเพื่อนยาก ก่อนที่วันหลังถ้านายอยากใส่ต้องเสียตังค์ ฮึๆ”
    มานาพูดพลางทำหน้าทะเล้น และโยนหมวกให้เพื่อนเข้าที่ท้องเข้าเต็มรัก จนเพื่อนซี้ของเขาได้แต่ทำปากขมุบขมิบว่าฝากเอาไว้ก่อนโดยที่ไม่กล้าทำอะไรเพราะกลัวไอ้เพื่อนตัวดีจะไม่ให้ยืม


    ใช่แล้วเครื่องมือที่มานาประดิษฐ์คือ “หมวกความสุขและการผจญภัย” เพียงแค่เลือกเรื่องที่เราต้องการก็สามารถจะกลายเป็นตัวเอกในเรื่องนั้นได้ราวกับอยู่ในนั้นจริงให้ความรู้สึกสมจริงมากๆ เพราะมานาได้คิดค้นชิพอัจฉริยะ ที่เราสามารถทำให้เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างที่ต้องการเพียงแค่คิด

    ใช่!! เพียงแค่คิดเท่านั้น

    หรือแม้เราจะคิดเรื่องราวเองก็ได้อย่างเมื่อตะกี้นี้มานาและกิวได้เขียนเรื่องผจญภัยที่ตัวเองอยากจะเจอ และเพียงแค่ป้อนข้อมูลลงไปเท่านั้น มานาคิด และพลางมองเพื่อนซี้ของตนซึ่งตอนนี้นอนอมยิ้มไปเสียแล้ว สงสัยคงถูกใจกับเรื่องนี้มาก ผลงานชิ้นนี้ถือเป็นผลงานชิ้นเอกที่เค้าเฝ้าเพียรประดิษฐ์มาแทบไม่ต้องหลับต้องนอน และเค้าได้ลองส่งแบบแปลนนี้ไปให้บริษัทผลิตของเล่นยักษ์ใหญ่ของอเมริกาซึ่งทางบริษัทก็ตอบรับและจะนำไปเสนอประธานบริษัทอีกทีซึ่งน่าจะเป็นไปได้ด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร เพราะมานาฟังจากน้ำเสียงของครีเอทีฟของบริษัทก็ดูพอใจเป็นอย่างมาก

    ใครจะไปรู้......... เขาอาจจะเป็นเด็กหนุ่มที่รวยที่สุดในโลกก็เป็นได้........



    ..............................................End.............................................

    จากคุณ : ไร้นาม - [ 21 เม.ย. 48 17:56:14 A:61.91.118.238 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป