CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ~*~*~เรื่องเล่าของงู(ชะตาขาด)ตัวหนึ่ง~*~*~

    ก่อนอื่น จะขอเกริ่นก่อนว่า อันบ้านที่ข้าพเจ้าอยู่ในปัจจุบันมีสภาพแวดล้อมดังนี้

    http://img.photobucket.com/albums/v491/Linmou/house01.jpg

    เวลากลางวัน พี่ชายและพี่สะใภ้ไปทำงาน หลานๆ ไป รร. มีแต่ข้าพเจ้ากับแม่ของพี่สะใภ้อยู่เฝ้าบ้าน (ข้าพเจ้าเรียกท่านว่า ยาย)

    และแล้ววันหนึ่ง เมื่อประมาณ ๒ เดือนก่อน เวลาประมาณบ่าย 2 โมง อยู่ๆ ยายก็มาตะโกนเรียกที่หน้าห้องข้าพเจ้าว่า

    "ซูหลี! งู! งูมันจะเข้าบ้าน!"

    ตอนที่ได้ยินเสียงตะโกนร้องบอกของยาย ความคิดแรกที่แวบขึ้นมาคือ

    ...ก็ประตูมุ้งลวดปิดอยู่ แล้วงูมันจะเข้ามาในบ้านได้ยังไงหว่า? อีกอย่าง ถ้างูมันเข้ามาจริง แล้วฉันจะมีปัญญาจัดการกับมันเหรอ? -_-"...

    อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็ออกไปดูสถานการณ์อยู่ดี

    (บ้านข้าพเจ้าเป็นประตูบานคู่ มี 2 ชั้น  ชั้นนอกเป็นประตูไม้ ชั้นในเป็นประตูมุ้งลวด ประตูไม้นี้ส่วนใหญ่จะเปิดไว้บานหนึ่ง ปิดไว้บานหนึ่ง ส่วนประตมุ้งลวดจะปิดไว้ตลอดเวลา)

    เมื่อเดินออกไปถึงประตู ก็พบยายยืนอยู่โดยชี้ออกไปนอกประตูที่มีเสียงหมาเห่าขรม

    "ตะกี้ยายนั่งดูทีวีอยู่ แล้วได้ยินเสียงหมาเห่า ก็เลยสงสัย เพราะไอ้ตัวเมียที่มันไม่เคยเห่าใครมันเห่าด้วย เลยเดินมาเปิดประตูดู ก็เจองูอยู่หน้าบ้าน ซูหลีลองเปิดประตูดูสิ มันอยู่ตรงหน้าประตูนี่แหละ แล้วรีบปิดประตูเลยนะ!"

    ...บอกแบบนี้ หนูจะไปกล้าเปิดดูได้ยังไงกันล่ะยาย -_-"...

    หลังจากพยายามชะเง้อชะแง้เพื่อจะหางูจากในประตูมุ้งลวดอยู่พักหนึ่ง ก้มองไม่เห็น สุดท้ายข้าพเจ้าเลยตัดสินใจ ออกทางประตูหลังบ้าน แล้วอ้อมมาที่หน้าบ้าน โดยก่อนออกจากประตูหลังบ้าน ก็ไม่ลืมคว้าไม้กวาดดอกหญ้าที่แขวนอยู่ใกล้ประตูหลังบ้านติดมือไปด้วย (อาวุธไง..อาวุธ)

    ที่กล้าเดินออกไปหน้าบ้าน เพราะไงเราก็มีหมาเป็นองครักษ์แหละน่า!

    พอเดินออกไปถึงประตูหน้าบ้าน ก็พบกับภาพนี้

    http://img.photobucket.com/albums/v491/Linmou/housefront.jpg

    ทีแรกก็ตกใจเหมือนกัน คิดว่างูมันกลัวหมา เลยอยู่นิ่งไม่ไปไหน

    หลังจากยืนดูอยู่พักหนึ่ง มันก็ยังไม่ขยับ ข้าพเจ้าก็เลยลองเอาไม้กวาดด้านดอกหญ้าเขี่ยๆ แบบกะให้มันขยับเลื้อยๆ หนีไปซะสิ้นเรื่อง

    มันก็ยังไม่ขยับ...

    เอาไม้กวาดจักจี้เร่งมันอยู่พักนึง ก็นึกขึ้นได้ว่าหมายังยืนเห่าอยู่ใกล้ๆ ก็เลยสั่งให้หมาถอยออกไปห่างๆ แล้วกลับมาใช้ไม้กวาดเขี่ยๆ มันต่อ

    มันก็ขยับยุกยิกเล็กน้อยเหมือนจักจี้ แล้วแน่นิ่งต่อไป

    เอาไงดีล่ะทีนี้ ทำไมมันไม่ยอมไปล่ะเนี่ย ตัวมันเท่าที่เห็นก็ใหญ่ไม่ใช่เล่นซะด้วย -_-"

    และแล้วข้าพเจ้าก็ทำใจกล้า ลองแง้มประตูไปดูหน้ามันซะหน่อย ว่าทำไมถึงไม่ยอมไปซักที (วะ)

    พอแง้มประตูไป ก็ชักจะเข้าใจ...

    ส่วนที่ติดอยู่ตรงร่องประตู คือช่วงกลางของลำตัวมันที่เป็นส่วนที่ "อ้วนที่สุด" พอดี คาดว่ามันคงกะจะเลื้อยผ่านใต้ประตูเข้าไปด้านหลังชั้นวางรองเท้า แต่โชคไม่ดีที่มันคำนวณขนาดตัวของมันเองผิดพลาด ตัวเลยติดแหงกอยู่ตรงร่องประตูไปไหนไม่ได้

    ขนาดตัวของมันจากหัวถึงหาง ยาวเกือบ 2 เมตร ลำตัวส่วนที่ติดแหงกอยู่ตรงร่องประตู มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้ว

    พอข้าพเจ้าแง้มประตูไปดูหน้ามันอย่างระมัดระวัง มันก็มองหน้าข้าพเจ้าตาแป๋ว ข้าพเจ้าเลยเอาไม้กวาดเขี่ยๆ ส่วนหางมันอีก มันก็ขยับยุกยิก แต่ก็ยังไม่หลุด

    เราก็แบบ...ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเผชิญหน้ากับงูในระยะกระชั้นชิดแบบนี้มาก่อนเลยวุ้ย

    แล้วก็แหม...ไอ้งูตัวนี้มันสีดำอย่างกับงูเห่าแน่ะ แถมตรงหลังคอมันมีลายสีเหลืองคล้ายๆ รูปเกือกม้าซะด้วย

    คงไม่ใช่หรอกน่า...ก็มันไม่ได้แผ่แม่เบี้ยใส่เรานิ -_-"

    หลังจากพยายามช่วยลุ้นให้มันหลุดจากร่องประตู มันก็ยังไม่ยอมหลุดซะที ข้าพเจ้าเลยตัดสินใจบอกยาย

    "ยาย! เนี่ย ตัวงูมันติดคาอยู่ตรงร่องประตู มันถูกร่องประตูหนีบแหละ เลยเลื้อยไปไหนไม่ได้ นี่ถ้าเราปิดประตู มันก็จะถูกหนีบตายอยู่ตรงนี้เลยนะ"

    "ไม่ใช่! มันไม่ได้ถูกประตูหนีบ! ตัวมันลื่นจะตาย" ยายบอก

    ...แต่เท่าที่หนูเห็นนี่ ดูยังไงมันก็ถูกประตูหนีบอยู่นะยาย -_-"...

    "งั้นเอาไงดี? ไปตามคนงานมาช่วยจัดการดีมั๊ย?" (เออ แต่ฉานต้องยืนเฝ้างูนี่หว่า แล้วจะไปตามยังไงกันล่ะ -_-" )

    "ดีๆ! เดี๋ยวยายไปตามเอง" ว่าแล้วยายก็ออกจากบ้านทางประตูหลังบ้าน (เหมือนข้าพเจ้า) แล้วอ้อมมาทางหน้าบ้าน

    ระหว่างที่ยายเดินอ้อมมาทางหน้าบ้าน ข้าพเจ้าก็เขี่ยๆ ต่อไป ตัวของงูส่วนที่อ้วนที่สุดก็เริ่มเลื่อนหลุดจากร่องประตูอย่างเชื่องช้า

    "ยายๆ! งูมันหลุดจากร่องประตูแล้ว" ข้าพเจ้ารีบตะโกนบอกยายที่เดินมาถึงหน้าบ้าน และกำลังเดินไปทางบ้านพักคนงาน (บ้านพักคนงานอยู่ข้างแปลงผัก ต้องเดินไปไกลพอสมควร)

    "อย่าให้มันหนีไปได้นะ! ตีมันให้ตายเลย เดี๋ยวมันไปกัดคนอื่นเข้า!"

    ...ง่า...เอางั้นเลยเหรอยาย -_-"...

    (และแล้วงูเคราะห์ร้ายก็ถูกกำหนดชะตะชีวิตในบัดดลนั้น)

    ระหว่างที่ยายเดินไปยังบ้านพักคนงาน งูเคราะห์ร้ายที่ดันเลือกเข้าบ้านผิดก็หลุดรอดออกมาจากร่องประตูทั้งตัวจนได้ ข้าพเจ้าก็เลยดันประตูบ้านปิด เพื่อจะได้เห็นตัวมันได้ชัดๆ (ป้องกันมันเลื้อยเข้าบ้านด้วย)

    งูมันก็นอนนิ่งอยู่กับที่พักหนึ่งในอาการที่ดูว่าสะบักสะบอกและเจ็บหนัก ดูเหมือนตัวจะสั่นนิดๆ ด้วย ดูท่าทางมันพยายามจะเลื้อย แต่เจ็บมากจนขยับได้แค่นิดเดียว และมันก็ยังมองเราตาปริบๆ เหมือนเคย

    หลังจากขยับตัวอยู่ครู่หนึ่ง จนเริ่มเคลื่อนไหวคล่องขึ้น งูมันก็เริ่มเลื้อยเข้าไปที่ใต้ชั้นวางรองเท้าช้าๆ

    ข้าพเจ้าเริ่มตกใจ เพราะรู้ว่ามันกะจะเลื้อยเข้าไปที่ร่องด้านหลังตู้รองเท้า และถ้ามันเลื้อยเข้าไปในนั้น มีหวังตามจับยากแน่

    ข้าพเจ้าก็เลยเลื่อนชั้นวางรองเท้ากะให้ขวางทางเลื้อยของมัน (ชั้นวางรองเท้ามีล้อเลื่อน)

    ปรากฏว่าข้าพเจ้าไปเลื่อนอีท่าไหนไม่รู้ อยู่ๆ ตัวมันก็แข็งทื่อแน่นิ่งไปเลย

    ทีแรกนึกว่ามันแค่ตกใจที่ชั้นวางรองเท้าเลื่อน แต่หลังจากเอาไม้กวาดเขี่ยๆ มันก็ยังตัวแข็งทื่อ ข้าพเจ้าก็เริ่มเหงื่อตก

    ...นี่ฉันคงไม่ได้เลื่อนชั้นวางรองเท้าจนลูกล้อมันไปทับหัวงูตายไปแล้วใช่ไหมเนี่ย -_-"...

    และแล้วตอนนั้นเอง คนงานก็วิ่งมาถึงพร้อมไม้ไผ่ยาวประมาณ 2 เมตรลำหนึ่ง

    ข้าพเจ้าบอกคนงานไปว่า ตะกี้งูมันจะเลื้อยเข้าด้านหลังตู้รองเท้า ข้าพเจ้าก็เลยเลื่อนชั้นวางรองเท้ากะขวางทางมัน แล้วอยู่ๆ มันก็แน่นิ่งไปเลย ไม่รู้ลูกล้อเลื่อนทับหัวมันตายไปแล้วหรือเปล่า -_-"

    คนงานเลยเลื่อนชั้นวางรองเท้าออก (ตอนเขาเอาชั้นวางรองเท้าออก ข้าพเจ้าช่วยเอาไม้กวาดกดตัวงูไว้ให้อยู่นิ่งๆ เผื่อมันยังไม่ตาย) พอชั้นวางรองเท้าถูกเลื่อนออกไป ก็พบงูในสภาพนอนเฉยทำตาปริบๆ

    มันยังไม่ตาย...แต่ลูกล้อของชั้นวางรองเท้าไปทับเนื้อข้างคอของมันเข้าพอดี มันเลยขยับไปไหนไม่ได้ รอยล้อที่ทับคอเห็นชัดเชียว เพราะแผ่นเนื้อข้างคอมันข้างที่โดนทับแผ่ออกมาเป็นแผ่นแบบนี้เลย

    http://img.photobucket.com/albums/v491/Linmou/snake.jpg

    พอเอาชั้นวางรองเท้าออก งูมันก็นอนนิ่งแบบขยับไม่ไหว คนงานก็เอาไม้ไผ่ที่ถือมาเขี่ยมันกระเด็นออกไปที่หน้าบ้าน แล้วตามไปตีๆๆๆ ตรงหัวของมัน

    ข้าพเจ้าก็เดินตามไปดู เลยได้เห็นแม่เบี้ยของงูตอนนี้เอง

    สรุปว่ามันคืองูเห่าจริงๆ ด้วย -_-"

    (แต่มันเพิ่งมาแผ่แม่เบี้ยเอาตอนที่หมดเรี่ยวแรงจะต่อสู้ เลยเห็นสภาพแม่เบี้ยตอนที่หัวมันทอดราบติดพื้นคอนกรีต มันสู้ตอบโต้คนงานไม่ไหวด้วยซ้ำ ถูกตีอยู่ฝ่ายเดียวจนเราแอบนึกสงสารมัน)

    และแล้วเมื่อคนงานแน่ใจว่ามันตายสนิท ก็เขี่ยมันขึ้นมาบนไม้ แล้วถือไม้เดินจากไป (อนาคตมันจะลงไปอยู่ในจานผัดเผ็ด หรือโหลดองยาก็สุดเดา)



    เรื่องเล่าของงูชะตาขาดก็จบลงแต่เพียงเท่านี้



    ส่วนตัวข้าพเจ้านั้นหรือ ถึงกับขาสั่นเลยแหละตอนที่รู้ชัวร์ๆ ว่ามันเป็นงูเห่า แล้วเราก็ต้องอยู่เฝ้ามันตั้งเกือบครึ่ง ชม. ในระยะที่มันสามารถฉกเราได้สบายๆ (แต่มันไม่มีปัญญาจะฉกได้เท่านั้นเอง เพราะตัวโดนประตูหนีบอยู่)

    แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 48 20:01:23

    จากคุณ : ซีเรีย - [ 22 เม.ย. 48 15:02:23 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป