พี่อ้อ ดูโน่นสิ รุ้งๆๆๆ มีตั้ง 2 อันแน่ะ เด็กหญิงตัวน้อยตะโกนก้องทั่วท้องทุ่งอย่างดีใจ ชี้มือชี้ไม้ไปที่รุ้งรุ้งที่มีสองอันตัดผ่านกัน นานๆ จะได้เห็นรุ้งสองรุ้งพร้อมๆ กัน
น้องเกตุอย่าชี้เดี๋ยวนิ้วกุด ผู้สูงวัยกว่าร้องห้าม เขาพยายามจะลดมือเธอลง แต่เด็กหญิงวิ่งเข้าไปหารุ้งนั้นอย่างดีใจ ไม่ฟังเสียงปราม
อย่าวิ่ง เดี๋ยวหกล้มนะ ปากเขาเหมือนมีวาจาสิทธิ์ เพียงแปบเดียวเขาก็ได้ยินเสียร้องไห้จ้าจากเด็กหญิง
บอกแล้วว่าอย่าวิ่งก็ไม่เชื่อ ล้มเองอย่าร้องนะ ถ้าร้องพี่ไม่รักนะ ประโยคสุดท้ายทำให้เด็กหญิงรีบกลืนก้อนสะอื้นลงไปในคออย่างรวดเร็ว กลัวคนตรงหน้าจะทำตามอย่างที่พูด
น้องเกตุไม่ร้องแล้ว พี่อ้อรักน้องเกตุนะ นะ นะ อย่าทิ้งน้องเกตุแบบคุณแม่กับคุณพ่อนะคะ
เด็กหญิงตัวน้อยกอดคอเขาประจบ ชายหนุ่มถึงกับอึ้ง เด็กหญิงตรงหน้ามีปมในใจมาตลอด
เด็กน้อยไม่รู้จักคำว่า หย่า จึงคิดเสมอว่าว่าพ่อแม่ไม่รักทิ้งเธอไว้กับยายและตาที่นับวันจะชราลงทุกวัน หากสิ้นท่านทั้งสองแล้ว เด็กหญิงตรงหน้าจะอยู่กับใคร
พี่สัญญานะ ว่าจะดูแลน้องเกตุตลอดไป รอยยิ้มของเด็กน้อยเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาจนเขาอดจะเอ็นดูไม่ได้
ถึงเขาจะไม่ใช่ญาติแต่ด้วยความที่อยู่บ้านรั้วติดกันก็สนิทเสียยิ่งกว่าญาติ เห็นเด็กน้อยตั้งแต่ยังนั่งไม่ได้จนป่านนี้วิ่งนำเขา เด็กสาวตรงหน้าหาเรื่องเล่นจนมอมแมมได้ทุกวัน
ไหนดูแผลหน่อยคนเก่ง ถลอกนิดหน่อย เดี๋ยวแวะบ้านพี่นะจะใส่ยาให้ น้องเกตุส่ายหน้าอย่างแรง
ไม่เอา กลัวทิงเจอร์ เรียกเสียงหัวเราจากเขา งั้นพี่จะเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอลแทนนะ
พี่อ้อใจร้าย น้องเกตุจะฟ้องคุณป้า เด็กหญิงขืนตัวไม่ยอมตามเขาไปบ้าน เพราะกลัวทิงเจอร์กับแอลกอฮอลเป็นที่สุด แต่ก็แพ้แรงคนตรงหน้า
หากแต่เมื่อถึงเวลาเจ้าตัวไม่รู้สึกแสบแม้แต่น้อย มือของชายหนุ่มเบามากยายกับตายังทำเจ็บกว่านี้ตั้งเยอะ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถ้าได้แผล เด็กหญิงจะวิ่งจากบ้านมาให้เขาใส่ยา
ถ้าไม่เจอตัวก็จะรอ
- - -
ยัยเกตุ จะนอนขี้เซาไปถึงไหน ผู้สูงอายุตวัดผ้าห่มคลุมกายออกจากร่างของหลานสาว
ยายจ๋า มันหนาว เสียงงัวเงียแหบเล็กน้อยฟังดูเซ็กซี่ บอกได้ว่าเจ้าตัวไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ผมหยิกหยักโศกสยายยาวเต็มที่นอน
ไม่ใช่เด็กแล้วนา แม่เกตุ ลุกๆๆ วันนี้ไปตลาดเป็นเพื่อนยายหน่อย คำว่าตลาดช่างเป็นนาฬิกาปลุกชั้นยอดสำหรับหลานสาว
ทำไมยายจะไม่รู้
ไปตลาดหรอจ๊ะยาย พอดีเลย
วันนี้เกตุจะลองทำข้าวหมกไก่กะทิ กับห่อหมกปลาช่อน เมื่อวานเกตุกับพี่อ้อวิดน้ำออกจากนา ได้ปลาช่อนตัวไย๊
ใหญ่ หญิงสาวเล่าวีรกรรมเพียงบางส่วน ทำมือประกอบเสียงเวอร์เกินจริง และวีรกรรมอีกอย่างที่ไม่ได้เล่า
และเล่าไม่ได้ จะเล่าได้อย่างไรว่าเธอมัวแต่กลัวปลาช่อนหลุดมือ จนลืมระวังตัวลื่นไถลไปกับพื้นโคลนดีที่พี่อ้อมารับไว้ได้ทัน และนั่นทำให้เธอตกอยู่ในอ้อมกอดชายหนุ่มเป็นเวลานาน เพราะถึงเธอจะทรงตัวได้แล้วแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยเธอจากอกกว้างเสียที
ใบหน้าของผู้อ่อนเยาว์แดงลงจนผู้เป็นยายสังเกตได้ แต่ไม่ได้ซักถาม เพราะรู้ว่าสิ่งไหนที่หลานสาวไม่อยากบอกต่อให้คาดคั้นสักเท่าไรก็ได้คำตอบกลับมาเป็นเพียงสายลมเท่านั้น หากแต่หมายมาดว่าต้องจับตาดูอากับกิริยาของหลานสาวให้ได้ว่าเป็นเพราะเหตุใดเจ้าตัวถึงหน้าแดง
แต่วันนี้ยายว่าจะแกงลูกบัวไปถวายพระสักหน่อย ผู้เป็นยายบอก หญิงสาวทำหน้าระรื่นอาสาขอเก็บบัวมาเอง เพราะคลองกับตลาดเป็นอะไรที่หญิงสาวชอบมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก
ดีเลยจ๊ะยาย เกตุว่าจะใส่เม็ดบัวลงไปในข้าวหมกไก่ด้วย จะได้หอมๆ
มัวแต่พูด วันนี้พระจะได้ฉันไหมเนี่ย ผู้สูงวัยบอกทำให้หญิงสาวนึกได้ รีบลุกจากเตียงไปอาบน้ำ ถึงหนาวก็ยอมเพื่อตลาด
ข้าวของเต็มสองมือ หญิงสาวถึงกับบ่นเมื่อยเมื่อกลับมาถึงบ้าน หากแต่นึกได้ว่าตนยังไม่ได้เก็บดอกบัวมาให้ยายเลย จึงกลับเข้าไปเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดเพื่อจะลงน้ำ
ยาย เกตุไปเก็บดอกบัวก่อนนะ หญิงสาวตะโกนบอกยายเมื่อลงจากเรือน วิ่งไปยังท่าน้ำ
หากได้ยินเสียงแซวแว่วๆ ของตาดังมาจากแปลงผักที่ปลูกไม่ห่างจากบ้าน พระท่านจะฉันวันนี้นะโว้ยนังเกตุ เพราะถ้าไม่บอกหลานแบบนี้ เกตุก็จะเล่นน้ำเพลินจนลืมเวลาเสมอ
ในไม่ช้าผู้เป็นตาก็ได้ยินเสียโดดน้ำดัง
ตูม ชะ นังนี่ ลงน้ำทีไรปลาเปลอตกใจหนีหมด ผู้เป็นตาหัวเราะ กี่ปีเด็กหญิงตัวน้อยในความคิดของตาก็ยังไม่รู้จักโตเสียที
(ต่อ...ข้างล่าง)
จากคุณ :
yodaoi
- [
24 เม.ย. 48 20:24:36
]