ถ้าหาก...ฉัน...บอกเธอว่ารัก ...
นิดจะแต่งงาน น้ำเสียงใสเอ่ยบอกท่ามกลางกลิ่นกาแฟที่อบอวลไปทั่วห้องรับแขกเล็กๆภาย
ในคอนโดมิเนียมของผม แววตาของว่าที่เจ้าสาวราวกับจะตัดพ้ออะไรผม
อืม ยินดีด้วยนะ ผมบอกพลางคนน้ำสีน้ำตาลในถ้วยกระเบื้องไปมาเป็นวงกลม พยายามฝืน
ยิ้มเต็มที่
ดิษฐ์จะมางานนิดไหม เธอถามผม ทำให้ผมต้องเงยหน้าจากถ้วยกาแฟ หากว่าผมก็เลือกที่
มองเลยร่างของเธอไป จ้องมองไปยังนาฬิกา หรือว่าจะพัดลมโบราณด้านหลัง
ด้วยกลัวว่า
สายตาผมจะบอกอะไรที่มันไม่ควรออกไป
ผมกับนิดเรียนหนังสือด้วยกันมาตั้งแต่ประถมจนจบมัธยมปลาย กับนิดเธอเลอค่าจนผมไม่กล้า
ที่จะเอื้อมแตะ แต่ดอกฟ้าก็มักจะโน้มลงมาให้ผมได้เอ็นดู และพอนิดเข้ามหาวิทยาลัยได้ ส่วนผมก็เลือกที่
จะเล่นดนตรีตามที่ผมสนใจ ทำให้เราห่างกันไป
และผมก็เจียมตัวเองมาตลอด กับนิดผมไม่กล้าจะทำ
ลายเธอ
ไปสิ นิดแต่งงานทั้งทีเราต้องไปอยู่แล้ว ผมตอบยิ้มๆ แม้ว่าหัวใจจะร้าวจนจะแตกเป็นเสี่ยง
ว่าที่เจ้าสาวยิ้มตอบ ก่อนจะก้มหน้าลงมองปลายนิ้วของตัวเอง ผมไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้น
เธอคิดอะไร และผมเองก็พยายามที่จะไม่มอง
ให้รู้ว่าเธอคิดอะไร
ดีใจไหมที่นิดจะแต่งงาน เธอถามทั้งที่ก้มหน้า น้ำเสียงสั่นเล็กน้อยหากว่าผมก็จับได้ถึงความผิด
ปกตินั้น
ดีใจสิ เราว่าแฟนเธอก็ดีนะ รวย หล่อ ดีไปทุกอย่าง
ไม่เหมือนผม นักดนตรีที่ปากท้องตัวเองยัง
ยากที่จะเลี้ยง แล้วจะให้ผมหน้าด้านหน้าทนบอกไปได้อย่างไรว่าผม
ไม่คู่ควรสักนิด
กับนางฟ้าอย่างเธอ
ผมไม่กล้าฉุดลงมาหรอก
งั้นหรือ
นิดก็ดีใจ ที่เธอดีใจ เธอเงยหน้าส่งยิ้มให้ผม รอยยิ้มบางๆกับนัยน์ตาเศร้าสร้อยจนผม
ต้องเสมองไปที่เชลโล่ตัวโปรดที่วางพิงอยู่ข้างโซฟาแทน
งั้นเราไปก่อนนะ ไว้จะส่งข่าวมาให้อีกที เธอลุกขึ้น ผมเดินไปส่งเธอที่ประตูห้อง
กลับดีๆนะ แล้วก็ดูแลตัวเองดีๆด้วย ผมบอกลาเธอ เธอจะรู้สึกถึงความหมายลึกๆของผมไหม
ดูแลตัวเอง
แทนส่วนของผม
เพราะผมคงไม่มีโอกาสได้ทำอย่างนั้น
อือ ดิษฐ์ก็ต้องดูแลตัวเองดีๆนะ อย่านอนดึก แล้วก็แต่งเพลงเพราะๆเยอะๆนะ นิดชอบเพลง
ของดิษฐ์มากเลย เธอพูด และก่อนที่ร่างบางของเธอก็หันไป แว่บหนึ่งนั้นดวงตาของเธอจ้องผมราวกับ
จะให้ผมรั้งเธอไว้
ตัวผมเองก็ประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก
รู้แต่ว่าผมไม่อยากจากเธอเลย
นิด! ปากของผมเรียกชื่อเธอออกไป มันไม่ได้มาจากสมองสั่งการ หากมาจากหัวใจดวงนี้ที่
ปวดร้าวเหลือเกิน ผมดึงร่างของนิดมากอดไว้แน่น ซ่อนใบหน้าที่ปริ่มจะร้องไห้ของผมไว้เหนือศีรษะที่
ปกคลุมด้วยผมยาว เอ่ยกระซิบเสียงเบาๆ
ดูแลตัวเองให้ดีนะ เราจะไม่ลืมนิดเลย ไม่ลืมความทรงจำของเราสองคน
ผมพยายามกลั้นความเศร้าเจียนขาดใจกลั่นกรองออกมาให้น้ำเสียงดูนิ่งที่สุด แม้กระนั้นร่าง
ในอ้อมแขนผมก็สั่นไหว
ผมผละกายออก จ้องมองร่างเล็กด้วยแววตาอาวรณ์มากมาย แต่ผมก็ต้องตัดใจหมุนกายเดิน
กลับเข้าห้องไป ประตูห้องปิดลง กั้นกลางระหว่างผมกับเธอ
กั้นไว้ตลอดไป

วันนั้น วันแต่งงานของนิด ผมไม่กล้าที่จะไปงานของเธอ ผมกลัว
กลัวจะห้ามใจตัวเองไม่ไหว
กับการมองผู้หญิงที่ตัวเองรัก ยืนเคียงคู่กับผู้ชายที่ดีพร้อม
เสียงกริ่งประตูดังขึ้นในขณะที่ผมกำลังนอนก่ายหน้าผากด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง
กริ๊ง --- กริ๊ง ---
ผมลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูก็ต้องแปลกใจ เมื่อผู้ชายที่เพียบพร้อมที่ควรจะอยู่ในงานกับนิด
นางฟ้าของผมเขามายืนอยู่ตรงหน้า และกายของเขาสวมชุดธรรมดาหาใช่ชุดแต่งงาน
คุณคือคุณดิษฐ์ใช่ไหมครับ เขาถามผม
ครับ ส่วนคุณ
ผมภาคย์ครับ ขอผมเข้าไปข้างในได้ไหมครับ เขาถามผมอีกครั้ง ผมเบี่ยงกายหลบ
ร่างของชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องก่อนจะนั่งลงยังโซฟารับแขกชุดเล็กๆ ผมได้แต่ปิดประตูห้อง
แล้วตามไปนั่งตรงข้ามกับเขา
ห้องสวยดีนะครับ เขามองไปรอบๆห้องที่ผมแต่งไว้อย่างเรียบๆแล้วเอ่ยชม
ขอบคุณครับ ว่าแต่ทำไมคุณถึง ผมสงสัยเป็นอย่างมาก เวลานี้สามทุ่ม เขากับนิดต้องยืน
อยู่ในงานแต่งงานไม่ใช่หรือ
นายภาคย์คลายยิ้มให้ผมน้อยๆก่อนจะยื่นบางอย่างให้
กล่องดนตรีสีชมพูที่ผมเคยมอบให้นิด ผมลงทุนไปหาร้านที่รับอัดเพลงที่ผมแต่งให้เธอลงไป
ผมมอบให้นิดเป็นของขวัญวันเกิด
ผมเงยหน้ามองอย่างไม่เข้าใจ
นิดเขาฝากผมมาให้คุณ คุณดิษฐ์
ให้ผมหรือครับ ผมรับมาถือไว้อย่างงุนงง
ครับ เขาตอบผมด้วยรอยยิ้มเศร้าๆยามเอ่ยถึงนิด
แล้วนิด
ผมถามถึงคนที่ฝากมันมาให้ รอยยิ้มของเขาลางลงจนหายไป ผมได้ยินเสียง
ถอนหายใจออกจากร่างเขาเบาๆ
นิดเขา
เขาเสียไปได้สามเดือนแล้วครับ
ว่าไงนะครับ!! กล่องดนตรีในมือผมร่วงหล่นกระแทกกับพื้น ทำให้ของด้านในกระจาย
ออกมา จดหมายฉบับหนึ่งกับของมากมายที่ผมหยิบขึ้นดูแล้วต้องกลืนก้อนสะอื้นลงไป
แหวนเด็กเล่น มงกุฏดอกไม้แห้ง และยังรถพลาสติกคันเล็ก
นิดเขาเป็นมะเร็ง ก่อนเขาตายเขาฝากให้ผมมอบกล่องดนตรีนี้ให้คุณในวันนี้ครับ หมดธุระ
แล้วผมขอตัวก่อนดีกว่า ภาคย์พูดจบก็ลุกขึ้น หากว่าผมร้องรั้งเขาเอาไว้ก่อน
เดี๋ยวครับ ผมไม่เข้าใจ ทำไมนิดตาย ทำไมก็เขาบอกว่าวันนี้เขาจะแต่งงานกับคุณ ทำไมผมไม่รู้
ผมถามออกไป มือสั่นสะท้านกำของเล่นเล็กๆเอาไว้แน่นจนเจ็บไปหมด
แต่งงาน
ผมก็อยากให้เป็นแบบนั้น แต่ว่าตลอดมานิดเขาไม่เคยรักผมเลย เขาทรมานมากและ
ก็เสียไปเพราะโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ภาคย์ตอบเสียงเศร้า
วันไหนครับ วันที่นิดเสีย ผมรู้สึกชาไปทั่วร่าง สมองยากที่จะเข้าใจว่าที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง
วันที่ 12 เดือนเมษาครับ
เมษา
12 เมษา
ทำไม ก็วันนั้นเธอเพิ่งมาหาผม ก่อนหน้านั้นไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ!
หลังจากที่เขามาหาคุณเขาก็อาการทรุดลงทันทีครับ พวกเราพยายามช่วยเธอ แต่คนไม่มี
กำลังใจจะอยู่เราทำอะไรก็ไม่อาจจะ
ผมว่าคุณอาจจะเข้าใจอะไรมากขึ้นจากจดหมายนั่น ผมขอตัว
ก่อนนะครับ ภาคย์พูดต่อไม่ออก เขาเลือกที่จะเอ่ยลาผมที่ยังไม่เข้าใจอะไรเลย ผมไม่อยากจะเข้าใจ
ไม่อยากจะรับรู้ว่า
นิดเสีย
ผมก้มลงหยิบจดหมายจากพื้นขึ้นมา ลายมือของนิดเป็นระเบียบเสมอ
ผมจำได้ดี
ดิษฐ์คะ
วันที่ดิษฐ์ได้อ่านจดหมายฉบับนี้ นิดก็คงจากโลกนี้ไปแล้ว
ดิษฐ์คะนิดขอโทษที่โกหกดิษฐ์เรื่องพี่ภาคย์ ความจริงพี่ภาคย์เขาเป็นหมอที่นิดไปรักษาตัวอยู่
นิดรู้ว่านิดอาจจะอยู่ได้อีกไม่นานนิดเลยขอพี่ภาคย์มาพบดิษฐ์ นิดไม่ได้ตั้งใจหลอกดิษฐ์เลย
แต่นิดอยากรู้ นิดอยากให้ดิษฐ์รั้งนิดเอาไว้ มันเป็นความเอาแต่ใจของนิดที่อยากฟังคำว่ารัก
จากดิษฐ์ก่อนที่นิดจะตาย แต่ก็ไม่
และถ้าถามว่าทำไมนิดถึงได้ไม่ยอมบอกดิษฐ์เรื่องที่นิดป่วย ก็เพราะนิดอยากให้ดิษฐ์จดจำภาพ
ของนิดในสภาพที่ดีตลอดไป นิดรักดิษฐ์ รักเพียงคนเดียว และก็จะรักตลอดไปถึงแม้ดิษฐ์จะไม่
เคยรักนิดเลยก็ตาม
น้ำตาของผมหยดลงบนหน้ากระดาษ ดวงหน้าของนิดลอยเด่นขึ้นมา ดวงหน้าของนางฟ้าที่สดใส
เสมอ
ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าวันนั้นผมทำตามหัวใจตัวเอง ผมได้บอกเธอว่ารักสักคำ
.ถ้าได้บอก
อย่างน้อยผมก็อาจจะได้อยู่ในช่วงเวลาครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะหายไปจากโลกใบนี้
ถึงแม้จะไม่สามารถเปลี่ยนให้นิดกลับมามีชีวิต
แต่ถ้าคำว่ารักของผมเรียกรอยยิ้มของนิดได้ ... แต่ทำไมผมถึงได้ปล่อยเวลานั้นไป ... ทำไม
ถ้าผมบอกไป ...
อย่างน้อยที่สุด
นิดก็จะได้รู้ รู้ว่าผมรักนิดมาตลอดเหมือนกัน
.
มองไกลสุดท้องฟ้า ช่วงเวลาที่ฟ้านั้นกำลังแปรเปลี่ยนสี
ยังจดจำทุกๆเวลา และทุกๆนาทีที่เธอกับฉันนั่งมองฟ้าไกล
มอง
ยิ่งมองยิ่งเหงา ที่ตรงนี้ไม่เหลือเพียงเงาของเธอต่อไป
มีแต่ความอ้างว้างวังเวงที่ปรากฏขึ้นในใจ กับความทรงจำมากมายที่เหลือ
ถ้าหากวันนั้นฉันตัดสินใจ ทำตามอย่างที่หัวใจของฉันได้สั่ง
ให้โอกาสตัวฉันเองบอกความจริงให้เธอได้ฟัง คงจะพอมีหวังรั้งตัวเธอเอาไว้ได้
ถ้าหากวันนั้นฉันตัดสินใจ บอกเธอว่าเธอสำคัญกับฉันแค่ไหน
ถ้าฉันบอกว่ารักเธอ บอกว่ารักมากมายเท่าไหร่ วันนี้ก็คงไม่ต้องมานั่งมองฟ้าคนเดียว
เธอไปอยู่ที่ไหน ไม่มีทางได้รู้ว่าฉันยังเป็นอย่างนี้
เธออาจลืมเรื่องฉันไปนาน แต่ฉันกี่ร้อยกี่ปียังคงมีภาพเธอเสมอ
(เพลง ถ้าหาก album Mar&Venus)
จากคุณ :
iNt_GaL
- [
27 เม.ย. 48 04:45:49
]