เช้าวันนี้มีฝนตก สายลมพัดหยาดฝน เข้ามาทางหน้าต่าง
วันทำงาน ที่ไม่อยากทำงาน แล้วมีฝนตกแบบนี้ แทบไม่อยากลุกจากที่นอนเลย
จะเช้าไปไหม ถ้าจะกินเบียร์ ไม่เอาดีกว่า ต้องไปทำงาน ผมตอบตัวเอง
ระหว่างทางทำงาน เสียงสายลม บอกเล่าเรื่องราวในวันฝนตกหนักมาอีกครั้ง
เสียงเล่าเรื่องราว อาจจะเบาไปบ้าง ในเวลาอยู่ในรถไฟฟ้า
คล้ายๆเป็นเสียงรำพึงเสียมากกว่า
สายลมเล่าให้ผมฟังว่า ในวันที่ ฝนตกหนักมากถึงมากที่สุด
คิดไหมว่าเมฆก้อนใหญ่คงเสียใจมาแน่ๆ
ถึงได้ร้องไห้หนักขนาดนี้ จะเป็นพระจันทร์ หรือว่าดาวที่ทำก้อนเมฆให้ร้องไห้
ก้อนเมฆคงหลงรักดาวสักดวงหนึ่ง
ดาวดวงเล็กๆธรรมดาดวงหนึ่งบนท้องฟ้า
ไม่สำคัญเท่าดาวเหนือที่จำเป็นต่อการเดินเรือ
ไม่ได้เป็นดาวในหมู่ดาวราศีต่างๆ
แต่เป็นดาวเล็กที่ส่องแสงสีเขียวอ่อน
แสงของดวงดาวสีเขียวอ่อน ไม่สว่างพอสู้แสงของดวงจันทร์ได้หรอก
เมื่อพระจันทร์ข้างขึ้นฉายแสง
ดวงดาวดวงน้อยขี้อายก็จะหายไปจากท้องฟ้า เข้าไปในอ้อมกอดของท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม
แสงจันทร์สว่างนวล ทำให้ ดาวดวงน้อยไม่ต้องทำงานมากนัก
ก้อนเมฆก็เลยได้คุยกับดาวสีเขียวบ่อยๆ
ความหวังดีของดาวดวงน้อยต่อก้อนเมฆนั้น ยิ่งใหญ่กว่าแสงมากมายนัก
แสงเล็กๆสีเขียว ทำให้ก้อนเมฆหลงรัก
ก้อนเมฆมักจะถามเรื่องราวของรัก กับดาวสีเขียว
ดาวสีเขียว หน้าแดง บอกว่า ดาวสีเขียว หลงรักดวงจันทร์อยู่
ดวงจันทร์แสงนวล ชวนหลงไหล แต่ดาวสีเขียวไม่กล้าที่จะบอกออกไป
ได้แต่เพียงฝัน ว่าจะได้อยู่เคียงข้างในบางวัน
วันหนึ่ง วันที่ดาวเต็มฟ้า พร้อมๆกับพระจันทร์ก็สองแสง
วันนี้เป็นวันดี วันที่ดาวสีเขียวรวบรวมความกล้า
ออกมาจากอ้อมอกของท้องฟ้า บอกรักกับดวงจันทร์
ดวงจันทร์หัวเราะ ดวงดาวบนท้องฟ้ามีมากมาย
ดวงจันทร์ให้ความสำคัญกับดาวสีเขียวไม่ได้หรอก
พระจันทร์ยังต้องคิดถึงดาวอีกหลายดวงบนท้องฟ้า มีดาวที่อยู่ไกลต้องคิดถึงอีก
ความรัก ความหวังดีของดาวสีเขียว ไม่จำเป็นสำหรับพระจันทร์
จากนั้นมา ดาวน้อยสีเขียวก็หายไปจากท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม
ไม่มีใครรู้ว่าหายไปไหน มีดาวบางดวงบอกว่าดาวสีเขียวหนีไปสุดขอบจักรวาล
บางครั้ง อูฐก็ว่าดาวดวงน้อยหนีไปอยู่กลางทะเลทรายอันห่างไกล
มีค้างคาวบางตัวว่าดาวดวงน้อยหนีไปอยู่ก้นหุบเหวที่ลึกที่สุด
มีต้นไม้บางคนก็บอกว่าเห็นดาวดวงน้อยบนภูเขาสูงใหญ่ที่สุด
ก้อนเมฆเที่ยวออกตามหา หลังจากที่รู้เรื่องราวจาก
ดาวหางที่บังเอิญผ่านมาในวันนั้น วันที่ดาวดวงน้อย บอกรักออกไป
ความเศร้าและระยะทางที่ห่างไกล เกินไปทำให้ก้อนเมฆสีเข้มขึ้นทุกๆวัน
หลังจากการตามหาอยู่นาน
ก้อนเมฆเหนื่อยและเศร้าเกินทนไหว
ก้อนเมฆจึงมาร้องไห้ออกมา
ความเศร้าทำให้เกินฝนตกลงมามากมาย
ทุกๆที่ ที่ก้อนเมฆผ่านจะได้รับน้ำตาจากก้อนเมฆ
ในหนึ่งปี ก้อนเมฆจะมา ร้องไห้กับแผ่นดินสัก สักช่วงหนึ่ง
พอมีแรงออกตามหาดาวสีเขียว ก็จะล่องลอยออกตามหาดาวสีเขียว
แล้วก็จะกลับมาหลังการเดินทางอันอ่อนล้าเพื่อมาร้องไห้กับแผ่นดินอีก เรื่อยๆมา
แผ่นดินยินดีอยู่เสมอที่จะได้คุยกับก้อนเมฆ ได้รองรับน้ำตาของก้อนเมฆ
สิ่งต่างๆมากมายเกิดขึ้นหลังการร้องไห้ของก้อนเมฆ
มีรอยยิ้มของต้นไม้ ดอกไม้ เสียงหัวเราะของต้นอ่อน เสียงร้องชื่นชมยินดีจากกบ
เสียงสายลม พัดผ่านจากไป ผมวิ่งผ่านน้ำตาของก้อนเมฆในวันนี้
เข้ามานั่งทำงาน ใจวนๆ อยู่กับเรื่องราวของ ก้อนเมฆ และคิดว่า
ไม่รู้จักความเศร้าเลย คุณค่าของความยินดี ก็คงน้อยลงไป
วันหนึ่งเมื่อก้อนเมฆร้องไห้
ผมหวังเอาไว้ว่าการร้องไห้ครั้งนี้ไม่ได้ร้องไห้เพราะความเศร้า
อยากเห็นก้อนเมฆร้องไห้เพราะความสุขบ้าง
ใครเจอดาวน้อยสีเขียว ช่วยบอกก้อนเมฆด้วยแล้วกัน
ผมเคยเจอแต่ดาวสีแดงข้างขวดสีเขียวๆ คงไม่สามารถบอกก้อนเมฆได้
ได้แต่รับฟังเรื่องราว ของก้อนเมฆพร้อมแผ่นดิน ผ่านสายฝนแบบนี้ เรื่อยๆไป
จากคุณ :
คนผิดชื่อก้อง
- [
27 เม.ย. 48 11:20:21
]