CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    (ไม่..ไม่รักเธอ...)

    (ไม่...ไม่รักเธอ)
                         ...................................

    “โครม……”

    เสียงแฟ้มใส่เอกสารปึกใหญ่ ตกกระทบอย่างแรง บนโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม ที่กำลังก้มหน้าง่วนอยู่กับแป้นคีย์บอร์ด หน้าจอคอมพิวเตอร์
    สายตา 4-5 คู่ ในห้องเล็ก ๆ ติดแอร์เย็นฉ่ำ มองมาที่ต้นเสียงเป็นจุดเดียว

    ชายหนุ่มขยับแว่นตากรอบบางเฉียบ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองที่มาของเสียงนั้น
    ที่เขาเห็นก็คือ หน้าตาบูดบึ้งของหญิงสาวผมยาว ร่างป้อม สวมแว่นสายตาเล็ก ๆ กำลังยืนท้าวสะเอวทำตาขวางโลก มองตามแฟ้มที่กองกระจายอยู่บนโต๊ะ
    ข้าง ๆ หญิงสาว มีชายหนุ่มผอมสูง หนวดเคราครึ้ม ผมยาวสลวยถูกมัดลวก ๆ รวบไว้ข้างหลัง ยืนทำปากขมุบขมิบ ทำท่าเหมือนจนปัญญา กับสิ่งที่ได้เจอมา

    “อีกแล้วเหรอ คราวนี้ อะไรอีกล่ะ ยัยไหม”  ชายหนุ่มส่งเสียงถาม กลั้วหัวเราะในลำคอ พร้อมกับส่ายหัวเบา ๆ

    “โอ้ยย ก็ยัยเจ๊เบียบ ที่อีลุงให้ ไหม ไปสัมภาษณ์น่ะ โห ม่ายหวายเลย จุกจิกจู้จี้ น่าเบื่อที่สุด ไอ้นั่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่ได้” หญิงสาวเล่าเร็วปรื๋อ พร้อมกับออกท่าทางประกอบ

    “เนี่ยนะ นักสิทธิสตรีของอีลุง ฮี่โธ่ สร้างภาพชัด ๆ ไหม เห็นกะตาเลยว่า เจ๊แกเนี่ย ทั้งจิกหัว ทั้งกดขี่ผู้หญิง” หญิงสาวใส่ต่อเป็นชุด แบบไม่ต้องหยุดพักหายใจ

    “เฮ้ยยย เปล่านะเว้ย ไม่ใช่นักสิทธิสตรีของผม” ชายหนุ่มขัดขึ้น แล้วหัวเราะเบา ๆ

    “นั่นแหละ ของอีลุงนะแหละ อยากได้นัก ไม่รู้จะให้ไปสัมภาษณ์ทำไม แหม แค่เด็กในบ้านทำน้ำหก เจ๊แกยังตวาดแว๊ด ๆ จนเด็กตัวสั่นงันงก” หญิงสาวยังไม่เลิกบ่นกระปอดกระแปด

    “ไม่เชื่อถาม น้าหมี ดูสิ หูยยย ตอนถ่ายรูปนะ เจ๊เธอฉีกยิ้มได้ปุ๊บปั๊บ แบบหน้ามือกับหลังเท้าเลย ใช่ปะ น้าหมี” หญิงสาวหันหาพวก พยักเพยิดถามช่างภาพคู่หู ขณะที่เจ้าตัวยิ้มแหย ๆ  

    “คราวหน้า ถ้าเป็นพวกแบบนี้อีกนะ อีลุง ไปสัมภาษณ์เองเลย ไม่ต้องมาใช้ ไหม แล้วนะ” หญิงสาวทำเสียงสูงแกมคาดคั้น

    “อ้าวเฮ้ย งานก็ส่วนงานสิ แล้วตกลงงานเสร็จไหมล่ะ” ชายหนุ่มปรามเบา ๆ แล้วถามถึงงานที่มอบหมายไป

    “ก็แฟ้มข้อมูลบนโต๊ะนั่นไง เดี๋ยว ไหม แกะเทปฟังอีกทีก่อน แล้วจะเขียนให้ ตอนนี้ ขอไปล้างหูล้างหน้าล้างตาก่อน เฮ้อ ! นึกถึงหน้ายัยเจ๊เบียบขึ้นมาทีไร จะอ้วกให้ได้ทุกที”
    หญิงสาวบ่นพึมพำ แต่ก็ยังหันมาทำหน้าทะเล้น แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ชายหนุ่ม ก่อนจะเดินบิดเอวลงส้นตึง ๆ จากไป

                  @@@@@@@@@@@@@@@@@

    “ไหมฝัน” หญิงสาววัย 22 ปีเศษ ๆ เพิ่งเข้ามาทำงานที่กองบรรณาธิการนิตยสาร “ประชาไทยรายสัปดาห์” ได้ปีกว่า ๆ แต่ช่วงเวลาที่เธอมาอยู่ด้วย ก็ทำให้ทุกคนในกองบรรณาธิการรู้ซึ้งว่า เธอเฮี้ยวขนาดไหน
    อะไรที่เธอเห็นว่า ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรม เธอก็จะยกสารพัดเหตุผลมาค้าน แบบหัวชนฝา
    แล้วทุกคนในวงประชุม ก็ต้องยกเหตุผลไปหักล้าง จนกว่าเธอจะรู้สึกว่า เถียงยังไงก็ไม่ชนะ
    จากนั้น เธอก็จะใช้ความเงียบ เป็นการประท้วงอีกแบบหนึ่ง
    ข้อดีอย่างหนึ่งของ “ไหมฝัน” ก็คือ การยอมรับกติกาเสียงข้างมาก
    แต่ที่มากกว่า ก็คือความรับผิดชอบ กับงานที่ได้รับมอบหมาย
    มีหลาย ๆ งาน ที่ “ไหมฝัน” ไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิง แต่เมื่อกองบรรณาธิการ ลงมติให้เธอเป็นคนทำ เธอก็ทำได้ดีเกินเป้าที่วางไว้เสียอีก
    ที่เป็นอย่างนั้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะประสบการณ์ และความคิดที่ถูกบ่มเพาะมา ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย

    ผมรู้ดี เพราะเธอเป็นน้องในคณะ ที่ผมดึงมาทำกิจกรรมระหว่างเรียน
    “ไหมฝัน” เด็กสาวตัวดำร่างเล็ก ช่างคิด ช่างพูด แต่แสนดื้อและแสนงอน
    และก็เป็นคนเดียวกันกับ “ไหมฝัน” หญิงสาวร่างป้อม ที่กำลังเพิ่มน้ำหนักอย่างต่อเนื่อง ในวันนี้

        @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    “ยัยไหม ยัยกุ้งแห้งตากแดดไหม้เกรียม จะไปออกค่ายที่อุบลฯ กับพี่หรือเปล่า” ชายหนุ่มร่างเล็กส่งเสียงถาม พร้อมกับหัวเราะดังลั่น

    “นี่ พี่แทน อย่ามาเรียก ไหม อย่างนี้นะ” เด็กสาวตัวเล็กทำเสียงขึ้นจมูก แสดงความไม่พอใจ

    “อ้าว ก็ ไหม ผอมซะขนาดนั้นนี่นา ข้าวปลาไม่ยอมกิน” ชายหนุ่มพูดต่อ

    “ช่างเค้าสิ ไม่เห็นต้องยุ่งเลย” เด็กสาวสะบัดหางเสียงเบา ๆ แล้วพูดต่อ “พี่แทน ไปค่ายเมื่อไหร่ล่ะ”

    “เสาร์หน้านี่แหละ จะไปด้วยกันหรือเปล่า”

    “ไป ๆ ๆ ไหม ยิ่งเบื่อเรียนอยู่ อิอิ โดดดีกว่า”
    “ดี ๆ งั้น พี่ จะได้เตรียมกุ้งแห้งไปเผื่อ”

    “บ้าแน่ะ ยี้ ทำอย่างกับตัวเองดีนักแหละ แก่ก็ปานนั้น ดีล่ะ งั้น ไหม เรียกพี่แทน เป็น อีลุง ดีกว่า อิอิ อีลุง อีลุง อีลุง ….”

             @@@@@@@@@@@@@@@@@@

    ลมหนาวปลายเดือนตุลาคม พัดแผ่ว ๆ เป็นระยะ สลับกับการกระโชกแรงเป็นครั้งคราว คล้าย ๆ ยั่วเย้ากองไฟกองใหญ่กลางลาน ให้เปลวไฟไหววูบไปมา
    นักศึกษาชายหญิงประมาณ 50 คน นั่งสลับกับชาวบ้าน ล้อมรอบกองไฟ
    ผู้นำของชาวบ้าน อยู่บนเวทียกพื้นง่าย ๆ กำลังพูดขอบคุณกลุ่มนักศึกษา ที่มาออกค่ายอาสา สร้างศาลาอ่านหนังสือให้กับหมู่บ้านแห่งนี้

    ข้างหน้าเวที มีกองหนังสือมัดกองสุม ๆ รวมกับกองเสื้อผ้า อาหารแห้ง และของอื่น ๆ อีกหลายอย่าง ที่กลุ่มนักศึกษา ขอบริจาคมาจากเมืองหลวง
    เด็ก ๆ หลายสิบคน บ้างก็วิ่งเล่น บ้างก็จับจ้องมองไปที่กลางลาน อย่างตื่นตาตื่นใจ
    บนเวที ตัวแทนนักศึกษา กำลังพูดขอบคุณชาวบ้าน

    ข้าง ๆ เวทีอีกมุมหนึ่ง ชายหนุ่มผมยาว 3-4 คน กำลังเตรียมเครื่องดนตรี สำหรับขึ้นบรรเลง
    ลมหนาวเดือนตุลาคม ยังพัดแผ่ว ๆ สลับกับการกระโชกแรงเป็นครั้งคราว
    บนเวที เสียงเพลง “เพื่อมวลชน” ของวง “กรรมาชน” กำลังบรรเลงอยู่

    “ถ้าหากฉัน เกิดเป็นนก ที่โผบิน
    ติดปีกบิน ไปให้ไกล ไกลแสนไกล
    จะขอ เป็นนก พิราบขาว
    เพื่อชี้นำ ชาวประชา สู่เสรี
    ถ้าหากฉัน เกิดเป็นเมฆ บนนภา
    จะนำพา ความร่มเย็น เพื่อท้องนา
    หากฉัน เกิดเป็น เม็ดทราย
    จักโถมกาย เป็นทาง เพื่อมวลชน
    ชีวา …. ยอมพลีให้
    มวลชน ที่ทุกข์ทน
    ขอพลีตน ไม่ว่า จะตายกี่ครั้ง”


    คืนเดือนดับ ดวงดาวระยิบระยับเป็นประกาย ตัดกับฟากฟ้าสีดำ ทำให้เวิ้งฟ้าเวิ้งว้าง คล้ายกับอยู่ใกล้ และก็คล้ายกับอยู่ไกลสุดเอื้อมถึง
    ลมหนาวยังพัดแผ่ว ๆ สลับกับการกระโชกแรงเป็นครั้งคราว
    “ไหมฝัน” นั่งกอดเข่าอยู่ข้าง ๆ ชายหนุ่ม ที่แหงนหน้ามองเวิ้งฟ้าเวิ้งว้าง

    “อีลุง เพลงนี้ เนื้อหาดีนะ ชื่อเพลงอะไรอ่ะ ไหม ชอบจังเลย” เด็กสาวส่งเสียงถามเบา ๆ

    “ชื่อเพลง “เพื่อมวลชน” ทำไมล่ะ ยัยไหม จะเปลี่ยนจากกุ้งแห้ง เป็นนกพิราบ เหรอ” ชายหนุ่มตอบแล้วกระเซ้ากลับ

    “ฮื่อ ดีออก” เด็กสาวตอบพร้อมกับสยิวกาย เมื่อลมหนาวพัดมากระทบร่าง

    “แล้ว ไหม จะเป็นนกพิราบขาว นะ อีลุง” เด็กสาวส่งเสียงกระซิบเบา ๆ แล้วพูดต่อ “ไหม จะอยู่เคียงข้างมวลชนที่ทุกข์ทน”

    “เหนื่อยนะ อยู่กับมวลชน เราต้องมีความรักที่แท้จริง ถึงจะทำได้” ชายหนุ่มอธิบาย

    “ทำได้สิ ไหม ก็มีความรักทีแท้จริงนะ อย่างมาออกค่ายนี่ ไหมก็มาทำด้วยหัวใจนะ” เด็กสาวแย้ง

    “ม่ายช่าย” ชายหนุ่มลากเสียงยาว ๆ

    “ทำไมล่ะ” เด็กสาวถาม

    “ที่เรามาออกค่ายนี่ เหมือนกับเรามาเรียนรู้จากชาวบ้าน ต่างคนต่างเรียนรู้กันและกัน เพื่ออยู่ด้วยกัน ช่วยกัน ทำให้ชีวิตดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่”

    ชายหนุ่มทำความเข้าใจกับเด็กสาว แล้วพูดต่อ “มันก็เหมือนกับความรักของผู้ชายกับผู้หญิง นั่นแหละ ต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจร่วมกัน”

    “ก็นั่นแหละ ไหม ก็ทำได้”

    “จริงอ่ะ ไหม รู้จักความรักที่แท้จริงเหรอ”

    “รู้สิ ความรัก ทำให้เราอดทน และทำได้ทุกอย่างไง”

    “งั้น ถ้าพี่ก็เป็นคนหนึ่งในมวลชน แล้ว ไหม จะทำทุกอย่างร่วมกับพี่หรือเปล่า”

    “พี่แทน….” เด็กสาวขัดขึ้นเบา ๆ แล้วนิ่งไปครู่หนึ่ง

    “ม่ายอาวแล้วล่ะ ไหม ไปนอนดีกว่า” เด็กสาวตัดบท พร้อมกับลุกขึ้นยืน

    “พี่แทน เป็นอีลุง ของ ไหม นั่นแหละดีแล้ว อิอิ” เด็กสาวหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหันหลังวิ่งกลับที่พัก พร้อมกับป้องปากตะโกนโหวกเหวก

    “ไหม จะเป็นนกพิราบขาว บินไปสู่เสรี”

    ชายหนุ่มหน้าสลดไปวูบหนึ่ง แต่ก็เพียงครู่เดียว ก่อนจะบ่นพึมพำกับตัวเอง “บ้าไปแล้ว ยัยไหม ยัยกุ้งแห้งตากแดด เอ๊ย”

    (มีต่อค่ะ)

    จากคุณ : คุณน้องนับดาวฯ - [ 29 เม.ย. 48 15:22:58 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป