ดาวิกา เดินตรงไปที่ซุ้มอาหารลดราคา เพื่อมองหาหมูบะช่อ ราคาลดกระหน่ำ (ไม่ต้องบอกก็รู้ นี่ปลายเดือนนี่ยะ) ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ตามที่ประกาศไว้ในโบรชัวร์ เธอตั้งใจจะทำอาหารเย็นง่ายๆ อย่างแกงจืดตำลึง และ ไข่เจียวหมูสับ
อ้าวไหนว่าซื้อหนึ่งแถมหนึ่งไงล่ะ ฉันซื้อหมูบะช่อ แล้วเธอจะมาแถมลูกชิ้นได้ยังไง โกหกกันี่น่า กลุ่มแม่บ้านที่มุงอยู่ก่อนแล้ว โวยวายขึ้น
เชิญค่ะ ซื้อหมูบะช่อหนึ่งแถมหนึ่งค่ะ พนักงานยังคงโฆษณาต่อไป
โกงโว๊ย โกง ลูกชิ้นนี่ก็เหม็นแล้วด้วย ลูกค้าหลายๆ คนเริ่มไม่พอใจ และอยากจะคืนของ แต่พนักงานทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เดินเลี่ยงไปทางอื่น ดาวิกาเอื้อมมือไปหยิบหมูบะช่อในกะบะมาถุงหนึ่ง
อย่าหยิบนะเธอ เราต้องไม่สนับสนุน ให้มันโกงเรา ป้าคนหนึ่งห้ามเธอ ทั้งยัง ดึงถุงหมูไปจากมือเธอหน้าตาเฉย
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูก็ไม่อยากได้ของแถมเท่าไหร่ เธอตอบ ดึงถุงนั้นกลับมา อะไรฟะ
ประเทศเรามีคนอย่างหนูนี่ซิ พวกนักการเมืองมันถึงได้กินเอาโกงเอา ประชาชนเสียผลประโยชน์ ก็ไม่กล้าเรียกร้อง มันยิ่งได้ใจ คิดดูซิวันนี้ มันโกงหมูบะช่อเรา แล้วพรุ่งนี้ล่ะ พร้อมกันนั้น ถุงหมูบะช่อ ก็ถูกกระชากไปจากความครอบครองของเธอ
ตายละ ! ! ดาวิกา คิด แค่ซื้อหมูบะช่อยังน่ากลัวขนาดนี้ กินไข่เจียวใส่ มะเขือเทศกับหอมใหญ่ ละกัน คิดได้อย่างนั้น หญิงสาวจึงพยายามแหวกฝูงชน ออกไป แต่ว่า
น้องขา หนีไม่ได้นะคะ เราต้องร่วมกันสู้เพื่อสิทธิของผู้บริโภค ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ อย่ายอม ค่ะ ไม่ยอม ไม่ยอม ไม่ยอม เหล่าแม่บ้าน ร่วมกันร้องประท้วง เอาละซิ ฉัน แถม ผู้หญิงตัวโตอีกคนยังดึงรถเข็นเธอเอาไว้ด้วย แง ๆ
โอ คุณพระคุณเจ้า ฉันเข้ามาอยู่กลางวงประท้วงได้ไงเนี่ย เมื่อหลบยังไงก็ออกไปไม่ได้ ดาวิกาจึงจำยอม ร่วมการประท้วง อย่างตกกะไดพลอยโจน หันรี หันขวางไปไหน ก็เจอแต่แม่บ้าน ที่กำลังคลุ้มคลั่ง ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม จากซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ไม่ได้รับความสนใจจากผู้จัดการหรือ พนักงานแม้แต่น้อย นอกจากลูกค้าของห้าง ที่มุงดูอยู่ไม่ห่าง เลยยิ่งทำให้เหตุการณ์ บานปลายต่อไป
โฮ่ง ใครบ้าเอาหมาเข้ามาในนี้อีกล่ะ อารมณ์ ยิ่งเสียๆ อยู่
ดาวมาทำอะไรที่นี่จ๊ะ เสียงชายหนุ่มที่ร้องทัก คุ้นหูเป็นที่สุด ภานพนั่นเอง โอ และ ไอ้ซาฟท์
นพช่วยด้วยค่ะ เอาดาวออกไปที เธอรีบยื่นมือมาขอความช่วยเหลือ ไม่น่าเชื่อสวรรค์มีจริง
เขาประท้วงอะไรกันเหรอ ชายหนุ่มถามขณะที่ช่วยดึงรถเข็นของเธอออกมาด้วย
หมูบะช่อค่ะ ห้างเค้าประกาศถ้าซื้อหนึ่ง แล้วจะได้แถมอีกหนึ่ง แต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับได้เป็นลูกชิ้นหมูเน่าๆ แทน คุณแม่บ้านพวกนี้เธอ ไม่ยอม เลยประท้วงกันใหญ่โต ดาวหลงเข้าไปแล้วออกมาไม่ได้เกือบร้องให้แน่ะ ดาวิกาถอนใจด้วยความโล่งอก ที่พ้นภาวะวิกฤติมาได้
แค่นี้ถึงกับประท้วงกันเชียวเหรอ ชายหนุ่มสงสัย
ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ดาวกลัวจะแย่ อยากโทรหานพ แต่ไม่มีสัญญาณเลย เจ้าหมายักษ์ เอาหัวมาดุนมือเธอเบา เหมือนจะปลอบใจ เออทำดีก็เป็นนะ
ผมก็โทรหาดาวตั้งหลายครั้ง ฝากข้อความไว้ด้วย เห็นไม่โทรกลับเลยลงมาดู ภานพ ยิ้มอยู่ในใจ ได้เป็นพระเอก ไม่รู้ตัว เย้
ทันใดนั้นเอง มีเสียงดังโครมคราม มาจากแผนกของลดราคา เมื่อทุกคนหันไปดู ก็พบว่า แม่บ้านขี้โมโหกลุ่มนั้น คว้ากระจาด และ ป้ายต่างๆ ขว้างปาพนักงาน ด้วยความโกรธแค้นหมูบะช่อ ในกะบะเมื่อครู่ หล่นลงมากองเต็มพื้น
ว๊าย อ๊าย พนักงานสาว ร้องลั่น ต่างวิ่นหนีกันไปคนละทาง ไม่ใช่เพราะหมูแน่ๆ
ซาฟท์ เจ้าหมาเกรทเดนลูกรักของภานพ วิ่งรี่เข้าใส่กองหมู ไม่คิดชีวิต คิดดู๊ คิดดู ถ้าคุณเห็นหมา ตัวน้องๆ ลูกม้า หนักกว่า 55 กิโล วิ่งลิ้นห้อยเข้าหา เป็นใครจะไม่วิ่งหนี รวมทั้ง กลุ่มแม่บ้าน ที่ร่วมประท้วงด้วย ทุกคนแตกหือ ไปหมด
เกิดอะไรขึ้น ใครพาหมาเข้ามาในนี้ เสียง ดุ แถม ตะโกนดังลั่น อยู่ข้างหู ดาวิกา ซึ่ง ยืนนิ่ง ทำอะไรไม่ถูก ตั้งแต่ ไอ้หมาบ้าตัวนั้น วิ่ง แล้ว แฟนหนุ่ม รูปงามของเธอ ก็วิ่งตามไป สมองหญิงสาว หยุดสั่งการไปชั่วขณะ
ขอโทษครับ ขอโทษ หมาผมเอง มันได้กลิ่นหมูบะช่อที่ตกพื้น เลยเตลิด ภานพ พยายามดึง เจ้าซาฟท์ ที่ปักหลัก ยืนเลีย เศษหมู จากถุงที่แตกๆ อยู่อย่างมีความสุข
คุณไม่รู้เหรอ เขาห้ามพาสัตว์เลี้ยง เข้ามาในนี้ แล้วนี่ มันตัวอะไรเนี่ย ม้าเหรอ ชายร่างเล็ก แต่เสียงดัง ยังทำเสียงดุต่อไป แต่ลดระดับลงมาหน่อย คงแหยงๆ กับหมาตัวมหึมาน่ะแหละ
ขอโทษครับ ผมไม่ทราบ ผมเข้ามาตามแฟนฮะ เธอ............... อ้าว เฮ้ย แฟนฉัน หายไปไหนฟะ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าพาสุนัขน้ำหนักเกิน 5 กิโลเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ต
ปล. ไข่เจียว อร่อยมาก แต่ภานพ ไม่โอกาสได้ชิม สมน้ำหน้า
แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 48 20:11:39
จากคุณ :
kwanmanee
- [
2 พ.ค. 48 15:16:38
]