แก้ว
กลางใจ
1.
วันนี้เป็นวันที่ท้องฟ้าเป็นสีครามสด อบอวลไปด้วยไอระอุของเปลวแดดที่แรงจัดจ้า กลุ่มเมฆสีขาวสว่างราวกับปุยนุ่นลอยละล่องเอื่อยอ่อยราวกับไม่อยากจะเคลื่อนที่ไปไหน เป็นสีสันที่ตัดกันอย่างสวยงามและชวนให้ใครก็ตามที่มองเห็นแล้ว น่าจะรู้สึกถึงความกระปรี้กระเปร่าแห่งพลังชีวิตจากสิ่งที่ธรรมชาติบรรจงแต่งแต้มสร้างสรรมาให้มวลมนุษย์ได้ชื่นชมกันอย่างไม่ยาก
หากแต่สำหรับตติยะแล้ว วันนี้ไม่ต่างอะไรกับฝันร้าย!
มือเรียวสะอาดถูกเจ้าตัวยกขึ้นทึ้งผมสั้นๆดกดำของตัวเองอย่างไม่รู้จะจัดการอย่างไรดีต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ดวงตาสีดำจัดเป็นมันเงาวะวับ จับจ้องตรงแหน่วไปยังร่างเล็กๆของเด็กชายวัยไม่เกินเจ็ดขวบตรงหน้าอย่างตรองไม่ตก ริมฝีปากได้รูปถูกยกขึ้นเล็กน้อยเกือบกลายเป็นแสยะ ขณะเอ่ยถามเสียงคำรามเหี้ยมแบบข่มขวัญเด็กออกมา
ทำไมไม่กินข้าวหาเจ้าบอย?
เจ้าบอย หรือเด็กชายรภัทร พองลมเข้าปากแก้มป่อง ปรายตามองอาหารบนโต๊ะซึ่งได้แก่ขาหมูต้มยำ ผัดผักรวมมิตรและ แกงจืดวุ้นเส้นด้วยท่าทางแง่งอนเอาเรื่อง
น้องบอยไม่ชอบ ก็ไม่กิน พี่ซีอยากกินก็กินไปคนเดียวสิ
เสียงเล็กๆนั่นวางท่าอวดผยองได้ไม่แพ้ผู้ใหญ่เลย ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นญาติผู้น้องที่อาระรินดา น้องสาวแท้ๆของพ่อเขาเอามาฝากไว้ให้ดูแลในช่วงที่เธอไปดูงานที่ต่างประเทศกับสามีถึงหนึ่งเดือน เขาคงเขกกะโหลก(ที่คาดว่าจะหนากว่าวัย) ของเจ้าตัวเล็กไปแล้ว
เป็นเด็กเป็นเล็ก เลือกกินได้ยังไง กินๆเข้าไปเถอะน่า ของอร่อยทั้งนั้น
ชายหนุ่มพยายามชี้ชวนเด็กชายเสียงห้วน แต่อีกฝ่ายกลับสะบัดหน้าพรืด ทำปากจู๋บู้บี้ หยิ่ง เริ่ด เชิด ผยอง
ระดับน้องบอย ไม่ต้องมาทนกินของที่ไม่อยากกินร้อก
เฮอะ แกไม่กินนี่แล้วจะไปกินที่ไหนไม่ทราบวะ ไอ้คุณบอย ตติยะอดไม่ได้ที่จะแสดงความเหนือกว่าให้เด็กได้รับรู้ซะบ้าง บอกให้รู้เลยนะ ว่านอกจากฉันที่ดวงซวยต้องรับดูแลแกแล้วเนี่ย พวกพี่ๆของแกคนอื่นๆไม่มีใครเขาใยดีแกแล้วรู้ไว้ด้วย
เขาหมายถึงพี่ชายของเขาอีกสองคนที่ต่างก็ต้องทำงานไม่มีเวลามาคอยดูแลเด็กเล็กอย่างรภัทร์ ส่วนน้องสาวคนเดียวของเขา คือศศรินทร์ก็กำลังยุ่งๆวุ่นวายอยู่กับการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาว
ทั้งบ้านก็มีแต่เขานี่แหละที่ว่างที่สุด เพราะกำลังเรียนปริญญาโท มีเวลาว่างมากพอที่จะช่วยดูแลเด็กอย่างรภัทร์ได้บ้าง
นี่ถ้าไม่ติดว่าทั้งพ่อทั้งอาฝากฝังกำชับกำชาแน่นหนา จ้างให้เขาก็ไม่มีทางมานั่งทนเป็นพี่เลี้ยงเจ้าเด็กบ้านี่แน่ๆ
ดีเลย ได้ซีช่วยดูแลบอยอย่างนี้อาก็สบายใจ ยังกลัวๆอยู่เลยนะ ว่าลูกอาออกอาการคล้ายผู้หญิงเกินไป ซีช่วยดูน้องแทนอาหน่อยนะ ได้แบบแมนๆอย่างซีก็ยิ่งดีที่สุดเลย
อาระรินดาฝากฝัง กำชับกำชาเขาเรื่องพฤติกรรมเบี่ยงเบนบางอย่างของลูกชายมาด้วย ตติยะจึงคิดว่าต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม สอนความแข็งกระด้างของผู้ชายให้เจ้ารภัทร์มันซึมซับเข้าไว้บ้าง แต่เจ้าเด็กแสบมันก็ช่างกวนโมโหเขาไปเสียทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องห้องนอนเป็นต้นมา
น้องบอยไม่นอนเตียงเดียวกะพี่ซีแล้วนะ กรนเสียงดังหนวกหูชะมัด
เจ้าเด็กแสบโวยวาย หลังจากที่นอนห้องเดียวกับเขาไปหนึ่งคืน ตื่นเช้ามามันก็หัวฟู สะลึมสะลือขึ้นมาแหกปากป่าวประกาศอย่างมุ่งมั่น ทำเอาคนเป็นพี่ ที่อายุมากกว่าถึงสิบหกปีต้องเอื้อมมือมากดหัวมันลงไปเพื่อเป็นการลงโทษอย่างอดใจไม่ไหว
แต่แทนที่เจ้าตัวเล็กจะรู้ซึ้งซะมั่งว่าใครใหญ่กลับแหกปากร้องลั่นหนักกว่าเดิม ผลก็คือเขาเลยถูกคนทั้งบ้าน รุมบ่นเสียกระบุงโกยโทษฐานรังแกเด็ก เออหนอ
ไอ้เจ้าบอยนี่ มันมีตรงไหนที่เป็นตุ้ดเป็นแต๋วกันนะ ที่เขาเห็นๆนี่ มีแต่ความเจ้าเล่ห์แสนกล รู้มากเกินกว่าวัยของมันทั้งนั้น
ระดับน้องบอยไม่ต้องรอการใยดีของพวกพี่ร้อก
เสียงเล็กๆตอกกลับมาอย่างอหังการ ดวงตาสองชั้น ยาวรีมีแววว่าโตขึ้นจะเป็นหนุ่มหล่อคมเข้มคนหนึ่ง ถูกเจ้าตัวหรี่ลงอย่างเจ้าเล่ห์ ยิ่งชวนฉงนแก่ชายหนุ่มที่นั่งตรงกันข้ามยิ่งนัก
เจ้าบอยมันหมายความว่ายังไง
เด็กเล็กอย่างนี้ อย่าบอกนะ ว่ามันจะมีปัญญาทำกับข้าวกินเองเป็นน่ะ?
น้องบอยมีคนมาทำให้กิน แค่โทรเรียกกริ๊งเดียวเอง เร็วกว่าสั่งปิซซ่าอีก
มันบอกต่อเสียเองอย่างต้องการอวด คนเป็นพี่นั่งหน้าเหรอ ตาโตค้างอึ้งๆ
เฮ้ย ล้อเล่นน่าเจ้าบอย มีบริการเดริเวอรรี่เอ็งขนาดนี้ด้วยเรอะ?
ฮ้า พี่ซีไม่เชื่อใช่มั้ย งั้นมา เดี๋ยวน้องบอยจะสำแดงให้ดู
มันว่าแล้วก็กระโดดตุ้บลงจากเก้าอี้ วิ่งตื๋อเข้าไปคว้าโทรศัพท์ไร้สายในห้องนั่งเล่นมากดเบอร์ กรอกเสียงหวานแจ่มๆสุดฤทธิ์ของมันลงไป
ฮัลโหล
คุณครูแก้วหรือค้าบ
ผมน้องบอยนะครับครูค้าบ
มาช่วยน้องบอยด้วย น้องบอยกะลังจะอดตายแหล่ว
ตติยะ(แอบ)ฟังได้ความว่า มันกำลังทำเสียงออดอ้อนออเซาะแอเลาะคุณครูของมันให้มาส่งข้าวส่งน้ำให้
ชะหนอยแน่ะ ตัวเท่าเมี่ยง ริอ่านจีบสาวข้ามรุ่นเชียวเรอะเอ็ง?
แล้วตกลงว่ามันจะเป็นตุ๊ดหรือจะเป็นเสือผู้หญิงกันแน่ล่ะเนี่ย?
++++++++++++++++++++++++
ร่างเล็กบางที่วิ่งลงมาจากแท็กซี่อย่างรีบร้อนนั่น ทำให้คนที่ยืนมองมาจากในบ้านต้องขมวดคิ้วเข้มหนาของตัวเองเข้าหากันก่อนจะคลายออกด้วยอาการประหลาดใจ
ถ้าตาเขาไม่ฝาด นั่นยัยหนูน้อย เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของน้องสาวเขานี่นา
ตั้งแต่ที่เธอกับศศรินทร์น้องสาวของเขาเรียนจบ หนูน้อยก็ไม่ค่อยมาที่บ้านของเขาบ่อยอย่างแต่ก่อนอีก รูปลักษณ์ของเธอเป็นอะไรที่เฉิ่มเชยจนกลายเป็นเอกลักษณ์เห็นแค่แว่บเดียวก็จำได้ไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
ขายาวๆของเขาก้าวไม่กี่ทีก็มาถึงหน้าประตูรั้วบ้าน ใบหน้าขาวจัดของเธอซีดเซียวราวกับไม่มีสีเลือด กระนั้นแก้มกับริมฝีปากบางก็ยังเป็นสีแดงตามธรรมชาติอย่างน่ามอง
แต่ก็แค่นั้น เครื่องหน้าเจ้าหล่อนไม่ค่อยเด่นนัก ตาก็ชั้นเดียว จมูกก็ไม่โด่ง แถมยังใส่แว่นสายตาหนาเตอะไว้ตลอดเวลาราวกับเป็นยาเสพติด
เขาไม่เคยเห็นวันไหนที่เธอจะไม่ใส่แว่นเลย นัยว่าสายตาเธอจะสั้นเอามากๆนั่นเอง
มาหายัยดีหรือหนูน้อย เขาไม่อยู่หรอกวันนี้
เขาบอกโดยที่ยังไม่ทันเปิดประตูรับหญิงสาว เพราะเข้าใจว่าเธอคงจะมาหาน้องสาวของเขา ทว่าอีกฝ่ายสั่นหน้าจนผมยาวสีดำสนิทของตัวเองสะบัดพลิ้วไปมา
เปล่าค่ะ น้อยไม่ได้มาหายัยดี เธอสอดส่ายสายตาเข้าไปในบ้านอย่างเป็นกังวลก่อนจะกล่าวต่อเสียงเรียบ น้อยมาหาน้องบอยต่างหากล่ะคะ
หา? หนุ่มหน้าคมตาเข้มร้องเสียงหลง อ้าปากค้าง อย่าบอกนะ ว่าครูที่เจ้าบอยมันโทรไปเรียกมาน่ะ คือเรา?
เขาชี้นิ้วไปที่เธอทำท่าเหมือนไม่อยากเชื่อว่าหน้าตาอย่างเธอจะเป็นครูของน้องชายเขาไม่ได้อย่างนั้น?
แก้วอาภากัดริมฝีปากตัวเอง ข่มความไม่พอใจเอาไว้มิดเม้น ก่อนจะยอมรับออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน
ใช่ค่ะ น้อยเป็นครูของน้องบอยเอง ขอโทษนะคะที่ไม่ได้แจ้งให้พี่ซีทราบก่อน
น้อยไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้น
พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น หนุ่มหล่อเสยผมตัวเองอย่างยุ่งยากใจ ท่าทางของเขาสร้างความขุ่นใจให้กับฝ่ายตรงข้ามไม่น้อยทีเดียว
ร่างสูงหลีกทางให้อีกฝ่ายเดินก้มหน้าเข้ามา แม้ว่าดวงหน้าขาวๆนั้นจะแดงระเรื่อขึ้นเพราะแรงอารมณ์ภายใน แต่แก้วอาภาก็ยังคงเป็นตัวของตัวเอง ที่ไม่ปริปากอะไรง่ายๆ หากไม่ถึงที่สุดจริงๆ
เธอเดินนำหน้าเขาเข้ามาในบ้านหลังใหญ่นั้นอย่างคุ้นชินดี เจ้าตัวเล็กที่ชะเง้อคอยาวมองเธออยู่แล้วรีบวิ่งแจ้นเข้ามาโถมตัวกอดเธอเอาไว้แน่น กระดี๊กระด๊าอย่างน่าหมั่นไส้
ชายหนุ่มที่เดินตามมา นึกอยากเขกกะโหลกน้อยๆของเจ้าตัวแสบเป็นกำลัง
น้องบอยหิวจะแย่อยู่แล้วค๊าบครูแก้ว
ทำอะไรให้น้องบอยหม่ำหน่อยนะค๊าบ
..
มันฉอเลาะ ตีหน้าหิวโซ ราวกับอดอยากมาแต่ชาติปางไหน คนเป็นครูก็เชื่อมันทันทีเหมือนกัน
เหรอคะ
โอ๋ ไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวครูแก้วจะไปทำอาหารอร่อยๆให้น้องบอยทานเองนะจ๊ะ
เธอก้มลงไปบอกเด็กชายอย่างเอ็นดู ก่อนจะเงยหน้ากลับมาสบตากับคนเป็นพี่ชายของเด็กด้วยสายตาเย็นชา
น้อยขออนุญาตใช้ห้องครัวของพี่ซีหน่อยนะคะ
เชิญตามสบายเลย
เขายักไหล่ไม่สนใจ ทำเมินไม่แยแส จนอีกสิบห้านาทีต่อมา ข้าวผัดผลไม้กลิ่นหอม หน้าตาแจ๋วแหววชวนกินก็ถูกนำมาวางต่อหน้าเจ้ารภัทร์
เด็กชายหน้าบาน ตรงเข้าจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างไม่มีอิดเอื้อน กินไปก็ชมชื่นครูสาวของมันไป ข้าวเต็มปาก
คุณครูทำอาหารอร่อยที่ซู้ด
น้องบอยช้อบชอบ
อ้อ ตกลงที่มันหลงรักยัยหนูน้อยนี่ ก็เพราะแม่สาวเจ้าขยันทำอาหารให้มันกินใช่มั้ย?
ตติยะเหล่ตามองข้าวผัดใส่สับปะรด ใส่ลูกเกด ถั่วลันเตา ข้าวโพด และแฮมกับแครอทหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆดูมีสีสันน่ารับประทาน กลิ่นหอมของมันยั่วน้ำลายเขาพิกล..
เจ้าตัวเล็กตวัดตาดุเงยหน้าขึ้นมามองเขาเขม็งราวกับมีตาวิเศษ พอเห็นคนเป็นพี่ชายมองมาเท่านั้น มันก็หยิบจานเลี่ยงหนีไปอีกทางอย่างหวงกันทันที
น้องบอยไม่ให้พี่ซีกินหรอก อย่าหวังเลย
แล้วใครอยากจะกินของๆแกกันไม่ทราบ
พี่ชายตัวโตชักสีหน้าเข้าใส่น้องชาย ท่าทางของเขาหงุดหงิด จนแก้วอาภานำข้าวผัดผลไม้อีกจานมาวางต่อหน้าเขานั่นแหละ ชายหนุ่มจึงเงยหน้ามองหญิงสาวแว่นโตอย่างพาลหาเรื่องต่อ
ใครบอกว่าพี่จะกินหา?
ชายหนุ่มผลักจานข้าวกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอออกห่างอย่างกลั้นใจ งอนไม่ผิดกับเด็กอย่างเจ้าบอยเท่าไหร่นัก
(ยังมีต่อค่ะ)
จากคุณ :
ลันเตา...
- [
4 พ.ค. 48 11:03:59
]