CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    =[+] ฉิกจับอิด [+]= นิยายจีนร่วมแต่งแนวทดลอง : ตอนที่ 79 "กระดาษเปล่า"

    "ตอนนี้ท่านคิดทำเช่นใด?" นี่คือคำพูดที่ฟาหลินซีกล่าวแก่ซุนหยางเป็นประโยคแรก

    รั่วซุนจื่อจิงใช้สายตาแดงก่ำจับจ้องนิ้วมือชุ่มโลหิตทั้งสิบของตน จากนั้นจึงมองไปทางซิเหวินคังที่นอนสลบไสล

    มันกลับมิมีทีท่าเดือดดาลอย่างที่คิด กล่าวเสียงเรียบมั่นคง "เราไม่คิดทำอันใด เพียงไม่แน่ว่าท่านเป็นผู้ชนะ"

    "ฮา ฮา หัตถ์เทพบัญชาก็สิ้นท่า ตัวเจ้าก็บาดเจ็บถึงเพียงนี้ ยังมีปัญญาขัดขวางพวกเราอีกหรือ?" เสี่ยวโกยกล่าวอย่างเย้ยหยัน

    มุมปากของซุนหยางพลันปรากฏรอยยิ้มลี้ลับชวนหวาดหวั่นขึ้น

    ฉายาคัมภีร์เป็นซุนจื่อของมันย่อมมิได้มาเพราะโชคช่วย การที่มันสามารถสงบจิตใจจนเยือกเย็นถึงเพียงนี้ หรือว่ามันยังมีแผนการสำรอง?!!

    "มิต้องสนใจมันดอก พวกเราเพียงจากไป ดูว่ามันยังสามารถสกัดยับยั้งพวกเราหรือ?!" ฮั่นตงกล่าวเยือกเย็น

    คนอื่นๆ พยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย เหวินเหม่ยชิงจึงถลันเข้าข้างกายของซุนหยาง ฟันฝ่ามือขวาเข้าซอกคอให้มันสิ้นสัมปชัญญะ แล้วกลับมาประคองฮั่นตง ขณะที่เสี่ยวโกยเข้าพยุงฟาหลินซีเช่นกัน

    "พี่รอง แม่นางเหวิน พวกเราปลดปล่อยมันไปเช่นนี้มิกลัวจะเป็นภัยในวันหน้า?" เสี่ยวโกยถามพลางมองร่างซุนหยาง

    "หากมิจำเป็นพวกเราพึงฆ่าคนให้น้อยจะประเสริฐกว่า" ฮั่นตงพูดเรียบๆ ดวงตาเขาคล้ายปรากฏแววสะทกสะท้อนบ้าง

    หากเมื่อทั้งสี่ผ่านพ้นประตูใหญ่ถึงหน้าลานกว้าง ก็พลันพบคนสามคนที่มีลักษณะผิดแผกกันยืนขวางอยู่

    ทั้งสามประกอบด้วยสองบุรุษ หนึ่งสตรี

    ฝ่ายชายคนแรก ร่างสูงใหญ่บึกบึนราวเจดีย์เหล็ก ผมสั้นเกรียน บนใบหน้าประดับด้วยรอยแผลดาบสามสาย ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่เบ่งพอง ผิวกายดำคล้ำ ในมือถือกระบองยาวเจ็ดเชี๊ยะ

    คนที่สองกลับเป็นบุรุษผมยาวที่สูงโปร่ง ใบหน้าเรียบใสราวกับหยกเนื้อดี ในมือถือพัดจีบด้ามหนึ่ง โบกสะบัดไปมา

    สตรีสาวคนสุดท้ายสวมใส่ชุดรัดกุม เสื้อกางเกงตัดเย็บจากหนังเสือดาว ตัวกางเกงคลุมแค่เข่า ไม่สวมรองเท้าเผยให้เห็นท่อนขาเรียวยาวเปล่าเปลือย และ ข้อเท้าขาวผ่องกลมกลึง ให้ความรู้สึกดึงดูดอย่างประหลาด

    ขณะนี้นางกำลังใช้ดวงตากลมโตของนางจับจ้องบนร่างมือปราบหนุ่มกล่าวว่า

    "ฮั่นตงช่างร้ายกาจจริง กระทั่งรั่วซุนจื่อจิง กับหัตถ์เทพบัญชายังไม่สามารถสกัดขวางทางได้ ประมุขคงพูดผิดที่ว่าท่านสูญเสียพลังฝีมือมิอาจสู้แม้เพียงเด็กน้อย"
    ที่แท้ทั้งสามคือสามมารตลบเมฆซึ่งพึ่งเข้ามาจากนอกด่าน เป็นผู้ที่ได้รับคำกล่าวขานว่ามีฝีมือทัดเทียมกับ ‘เกี่ยมฮุ้น’ เลยทีเดียว!

    ฮั่นตงยิ้มกล่าวว่า "แม่นางเสี่ยวเหมยกล่าวถูกแล้ว เราในเวลานี้กระทั่งเด็กทารกก็สามารถต่อยล้มลงได้"

    "แต่ตอนนี้ท่านยังไม่ล้มลง?" ผู้พูดคือบุรุษสูงโปร่งถือพัดจีบ หรือไซเทียนนั่นเอง

    "ยังคงมิได้ล้มลง" ฮั่นตงผงกศีรษะ

    โฮ่วฮงที่สูงใหญ่ราวเจดีย์เหล็กพลันส่งเสียงที่ดังปานฟ้าร้อง "มิเพียงยังมิล้ม กลับทำจนผู้แซ่ซุน แซ่ซิล้มลงแทน!!!" ไปๆ มาๆ พวกมันทั้งสามเพียงเจรจากับฮั่นตง โดยมิได้สนใจ ฟาหลินซี เสี่ยวโกย และเหวินเหม่ยชิงเลย ในสายตาของพวกมันคนบาดเจ็บพิการผู้หนึ่งยัง เหนือล้ำกว่าคนมือเท้าดีที่ด้านข้างทั้งสามคนอีกหรือ?

    เสี่ยวโกยรู้สึกมิพอใจกล่าวขึ้นเสียงดัง "พวกเจ้ามิต้องพล่ามมากความ หากคิดขัดขวางพวกเราก็ลงมือได้อย่างเต็มที่!"

    เสี่ยวเหมยชม้ายดวงตากลมโตของนางนิดหนึ่ง "ตกลง!" นางร้องโดยพลัน

    วินาทีนั้นมือหญิงสาวเพิ่มแส้ยาวดำมะเมื่อมขึ้นมาเส้นหนึ่ง นางตวัดแส้ยาวราวกับงูที่พุ่งฉกกัด บังคับให้เหยียดปลายตรงพุ่งเข้าใส่หว่างคิ้วของเสี่ยวโกยอย่างดุดัน

    สตรีนางนี้ใบหน้างดงามราวเทพธิดา วาจาที่กล่าวก็อ่อนหวานไพเราะ รูปร่างของนางยิ่งอ่อนช้อย คิดไม่ถึงพอบอกลงมือก็ลงมือ หนำซ้ำยังลงมือโดยอำมหิต!!!

    เสี่ยวโกยย่อมมิทันระวังป้องกัน เห็นได้ชัดว่าศีรษะมันต้องถูกทะลวงเป็นรูโหว่แน่!
    หากขณะนั้นพลันปรากฏมือข้างหนึ่งคว้าจับปลายแส้เอาไว้อย่างมั่นคง!!

    เป็น....ฟาหลินซี!

    ฟาหลินซีเพียงยื่นมือออกก็คว้าจับแส้เหล็กกล้าเอาไว้ได้ เสี่ยวเหมยหันหน้าไปทางฟาหลินซียิ้มหวานกล่าวว่า

    "ที่แท้ท่านก็พอมีฝีมืออยู่ท่าสองท่า ลองรับมือดู!" กล่าวจบบิดมือกระตุกวูบ แส้เหล็กเหลี่ยมพลันพลิกตลบคราหนึ่ง

    "ระวัง!" เหวินเหม่ยชิงร้อง

    ฟาหลินซีพลันพบว่าผิดท่า รีบปลดปล่อยตัวแส้เหล็กออก แส้เส้นนั้นกลับมีเข็มแหลมเล็กหลายร้อยหลายพันเล่มยืดยาวออกมา บนปลายแหลมของเข็มเหล่านี้ยังปรากฏสีเขียวปนครามสะท้อนแสงอาทิตย์อยู่วูบวาบ แสดงถึงการฉาบโชลมด้วยยาพิษร้ายแรง!!!!

    เสี่ยวโกยพลันสะอึกเข้าหา ปังตอในมือกรีดวาบเข้าใส่แขนที่ขาวผ่องนวลเนียนของเสี่ยวเหมย

    หากก่อนปังตอจะดื่มเลือดก็ปรากฏร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งพุ่งเข้าขวางมันเช่นกัน!!

    "ปึ้ก!!"

    เสี่ยวโกยรู้สึกข้อมือสะท้านชาด้าน ราวกับฟาดปังตอลงบนแผ่นยางอันแข็งแกร่ง มันพบว่าผู้ที่เข้าขวางตนเองนั้นคือ โฮ่วฮง ที่น่าตื่นตระหนกกว่านั้นก็คือ โฮ่วฮงกลับสามารถใช้ท่อนแขนเปล่าเปลือยต้านปะทะกับปังตอเหล็กกล้าโดยมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย!!!!

    เสี่ยวโกยสะดุ้งตวาดเสียงดัง "ย้ากก!!!!" ปังตอในมือตวัดวูบวาบติดต่อกันเจ็ดแปดครา แต่ละคราที่ฟาดฟันออกทั้งรุนแรง และดุดัน พลังลมที่ปังตอแหวกฝ่านั้นดังหวีดหวิวสะท้านสะเทือนโดยรอบ

    "ปึ้กๆๆๆๆๆๆ" เสียงยังคงดังราวกับเหล็กแข็งแกร่งฟาดกระทบถูกแผ่นยาง

    เสี่ยวโกยรู้สึกข้อมือชาด้าน มือที่เกาะกุมด้ามปังตอถึงกับคลายออกจนปังตอในมือแทบหลุดร่วงลง

    โฮ่วฮงที่สมควรจะถูกปังตอเชือดเฉือนเป็นหลายชิ้น กลับยืนตัวตรงสูงตะหง่าน บนซอกคอซ้ายขวา แขนทั้งสอง ทรวงอก ช่วงท้องปรากฏรอยกรีดสีขาวบางเบาขึ้นเล็กน้อย

    "เจ็บเพียงมดกัดเท่านี้ ยังเรียกว่าเป็นเพลงยุทธอีกหรือ?" โฮ่งฮงกล่าวหยามเหยียด ที่แท้มันบรรลุวิชากำลังภายนอกถึงขั้นสุดยอด จนกล้ามเนื้อแข็งทั่วร่างคล้ายเหล็กกล้า ผิวหนังทั้งหยุ่น ทั้งเหนียว ศาตราวุธมิอาจกล้ำกราย

    เสี่ยวโกยเห็นเช่นนั้นเกิดร้อนใจ สะบัดฟาดฟันออกหลายเพลงโดยไร้ผล ถึงจุดหนึ่งมันก็พบว่าอีกฝ่ายมิใช่หุ่นไม้ปล่อยให้ตนเชือดเฉือนตามอำเภอใจอีก

    โฮ่วฮงลงมือตอบโต้แล้ว!

    "ฟึ่บ!" หมัดขวาที่ใหญ่โตราวผลแตงโมพุ่งกระแทกเข้าใส่ร่างปังตอเชือดสุกร หากเสี่ยวโกยแม้พลังฝีมือมิสูงส่งขนาดยอดฝีมืออันดับต้นๆ ทว่าปฏิกิริยายังไวพอ รีบวกด้านข้างปังตอเข้าหาสกัดขวางหมัดโฮ่วฮง

    "พลั่ก!" เสี่ยวโกยรู้สึกราวกับพะเนินเหล็กแข็งแกร่งประทับลงบนร่าง ปังตอในมือของมันสั่นสะท้านมิหยุดยั้ง ร่างทั้งร่างถูกกระแทกถดถอยไปร่วมสิบก้าว!!!

    ทางด้านฟาหลินซีเวลานี้ก็ย่ำแย่เช่นกัน มันต้องเผชิญหน้ากับวิชาแส้ของเสี่ยวเหมยที่บังคับอาวุธประดุจอสรพิษร้ายนับร้อยพุ่งฉวัดเฉวียนทั้งมุ่งตรง ตีขวาง วกอ้อมจู่โจมเข้าใส่ร่างของศัตรูอย่างดุร้าย! บีบให้ถอยไม่เป็นกระบวน!

    เหวินเหม่ยชิงที่ด้านข้างจับจ้องทางฟาหลินซีที เสี่ยวโกยที ในที่สุดมือชักเอากระบี่ออก พุ่งทะยานเข้าจู่โจมช่วยเสี่ยวโกยอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า

    ฉับพลันนั้น เหวินเหม่ยชิงพบว่ามีเงาใหญ่พาดผ่าน เป็นเงาดำที่มีรูปร่างราวกับนกอินทรี ทว่ามีขนาดใหญ่โตกว่ามาก

    "ฟุ่บ"

    พัดจีบที่กางสุดจนมีลักษณะคล้ายจันทร์เพ็ญผ่าครึ่ง ได้พุ่งตีวงโค้งเข้าใส่ใบหน้าของนางอย่างว่องไว

    "เคร้ง!" เหวินเหม่ยชิงวกกระบี่ในมือปัดป่ายพัดจีบกระดอนห่าง เงาตะคุ่มดุจอินทรียักษ์นั้นพลันโฉบเข้าหา เจ้าสำนักหันซานเงยหน้าขึ้นก็พบว่าไซเทียนผู้พี่ใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งซัดฟาดเข้าใส่ร่างของนาง ส่วนอีกมือหนึ่งทำท่าคล้ายคว้าจับ กลับสามารถดึงดูดพัดจีบเล่มนั้นหมุนคว้างเข้าหาร่างของมันอย่างว่องไว เพียงฝีมือประการนี้ก็นับว่าเป็นศัตรูที่มิอาจประเมินต่ำทรามไปได้เลย

    เวลานี้ผู้ที่ยังเว้นว่างอยู่เพียงผู้เดียวก็คือ... ฮั่นตง!

    ยอดมือปราบแม้นได้รับบาดเจ็บภายในสาหัสจนมิสามารถใช้พลังฝีมือ ทว่าสติปัญญายังสมบูรณ์ เขาจับจ้องการต่อสู้ทุกคู่อย่างละเอียด สมองคิดประเมินสถานการณ์

    ฮั่นตงหันไปทางเหวินเหม่ยชิงที่กำลังร่ายรำกระบี่ปัดป้องการจู่โจมของไซเทียนที่โผพุ่งอยู่ไปมา ทั้งยังต้องปัดป่ายพัดบินที่สะบัดร่อนไปมาอยู่โดยต่อเนื่อง เขาพบว่าไซเทียนนี้มีวิชาตัวเบาสูงส่งจนถึงขั้นร้ายกาจ ทว่ากลับมิคลับคล้ายวิชาฝีมือกำลังภายในของภาคกลางเลย...

    อันที่จริงวิชาตัวเบาของชาวยุทธจงหยวนล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับลมหายใจ ทุกคราที่เปลี่ยนลมหายใจ การเคลื่อนไหวย่อมเชื่องช้าลงบ้าง หากไซเทียนกลับสามารถเปลี่ยนลมหายใจโดยสะดวก กระบวนท่ายังเร็วขึ้นทุกคราไป

    ทางด้านฟาหลินซีนั้นแม้นจะเชี่ยวชาญ ‘กรงเล็บมังกร’ ซึ่งเป็นวิชาที่มีทั้งความแข็งแกร่ง รวดเร็ว หนำซ้ำยังมีกำลังภายในกล้าแข็ง ทว่าก่อนหน้านี้มันได้รับบาดเจ็บจากการประมือกับพวกซุนหยาง พลังถดถอยลง กลับตกเป็นฝ่ายรับให้เสี่ยวเหมยรุกไล่เข้าใส่โดยมิหยุดยั้ง

    ส่วนเสี่ยวโกยนั้นมิต้องพูดถึง เพราะมีพลังฝีมืออ่อนด้อยที่สุด ตอนนี้กำลังใช้ปังตอในมือปัดป่ายกระบองเจ็ดเชี๊ยะของอีกฝ่ายอย่างลำบากยากเย็น ทุกครั้งที่ปังตอกระบอกกระทบถูกกัน พลันปรากฏเสียงดังเปรื่องปร่าง ปังตอเหล็กกล้าของเสี่ยวโกยถึงกับบิ่นไปทีเดียว!

    ยอดมือปราบตระหนักแล้วว่าพวกตนย่อมมิอาจมีชีวิตรอดไปจากที่นี่ได้โดยง่าย
    สามมารตลบเมฆเป็นผู้มีฝีมือโดยแท้จริง ต่อให้พวกตนมิได้รับบาดเจ็บมาก่อนหน้านี้ ยังมิแน่ว่าจะเอาชัยจากพวกมัน อย่าว่าแต่ตอนนี้พวกตนได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า...

    ทันใดนั้นฮั่นตงพลันตวาดขึ้นคำหนึ่ง

    "ทั้งหมด หยุดมือ!!!" น้ำเสียงของมือปราบหนุ่มแม้นมิได้แฝงกำลังภายในอันลึกล้ำ ทว่ายังคงความเฉียบขาดประการหนึ่ง ทำให้คู่ต่อสู้ทั้งหกคนพากันหยุดมือลงโดยพร้อมเพรียง

    จากนั้นฮั่นตงกล่าวต่อเนื่องว่า "ข้าพเจ้ามีข้อเสนอ"

    "ข้อเสนออันใด?" เสี่ยวเหมยรีบเอ่ยย้อนถามทันที

    "พวกท่านปลดปล่อยเหม่ยชิง และพี่น้องทั้งสองของเราไป เราจักยอมจำนนทันที"

    "พี่ฮั่น! ทำไม่ได้!" เสี่ยวโกย และเหวินเหม่ยชิงพากันร่ำร้อง ส่วนฟาหลินซีนิ่งอยู่ จ้องน้องรองของมันด้วยสายตากังวล

    "ฮั่นตงเอย ฮั่นตง ท่านคิดว่าเราพี่น้องเป็นเด็กอมมือหรือ? เวลานี้เรากำลังได้เปรียบชัดๆ พวกท่านอย่างไรเป็นเพียง 'ส้มในกระจาด' รอเวลาหยิบฉวย เหตุใดกล้าต่อรองอีก?" ไซเทียนกล่าวเย้ยหยัน คำพูดของมันเป็นสำเนียงภาคกลางแจ่มชัด แสดงว่าศึกษาภาษาของชาวฮั่นมาอย่างดี

    ฮั่นตงตอบโดยไม่สะทกสะท้านว่า "รอจนถึงเวลานั้น มิแน่ว่าหนึ่งในพี่น้องพวกท่าน อาจพลาดท่าเสียทีแก่พี่น้องข้าพเจ้า ต่อให้ท้ายที่สุดพวกท่านเป็นฝ่ายได้ชัย ยังคงต้องเสียค่าตอบแทน" คำพูดนี้กลับทำให้ไซเทียนหน้าเปลี่ยนสีไปบ้าง

    ฮั่นตงกล่าวต่อว่า "ยังมี... หากเวลาล่วงเลยไป อาจมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ท่านมั่นใจหรือว่าพวกเราไร้หนทางอื่น?"

    เสี่ยวเหมยเห็นพี่ชายคนโตนิ่งอึ้งก็รีบร่ำร้อง "พี่ใหญ่อย่าฟังวาจาเพ้อเจ้อ หากพวกมันมิตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน มีหรือจะเสนอเงื่อนไขเช่นนี้ออกมา อย่าลืมสิท่านประมุขกำชับอย่างชัดเจนว่ามิเพียงต้องจับกุมฮั่นตง กระทั่งเหวินเหม่ยชิงก็มิอาจให้หลบหนีเด็ดขาด!"

    "จริงด้วย หากพวกเราช่วงชิงเวลาสยบพวกมันเสียตอนนี้ ก็มิต้องกลัวเหตุเปลี่ยนแปลง นอกจากนั้นที่นี่เป็นเขตอิทธิพลของพวกเรา หากจะมีคนมาสอดแทรกก็น่าจะเป็นพวกเรามากกว่า!!!" โฮ่วฮงตะโกนสำทับมา

    ไซเทียนนิ่งครู่หนึ่งจึงถลึงตาตวาดก้อง "ตกลง ลงมือสยบคนก่อน!" มันโผพุ่งใส่เหวินเหม่ยชิงอีกครา ส่วนโฮ่วฮง และเสี่ยวเหมยก็พากันจู่โจมเข้าใส่ ฟาหลินซี และเสี่ยวโกยตามลำดับ

    ทันใดนั้นเอง ปรากฏเงาคนไหววูบวาบ ร่างชายผู้หนึ่งถลาร่อนดุจเหินบิน พริบตาเดียวเคลื่อนผ่านระยะทางนับสิบวา พุ่งหาคนทั้งเจ็ดอย่างเร่งร้อน

    "ครืนนนนนนนนนนนน"

    คนผู้นั้นซัดฟาดฝ่ามือทั้งสองข้าง พลังแตกทะลักราวกับกระแสน้ำพุ่งโหมกระหน่ำ

    เป้าหมายที่จู่โจมเป็น... สามมารตลบเมฆ!

    จากคุณ : ทีมแต่งนิยาย - [ วันฉัตรมงคล 12:23:04 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป