CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ตามรักคืนใจ # 5 (จบแล้วนะ)

    “นี่พิม …. ยายพิม” เสียงของนุชนาถทำให้สติของพิมพ์ชนกกลับมา

    “ใจลอยไปถึงไหนแล้วล่ะเนี่ย เฮ้อออ…เพื่อนฉัน อ้าวดูสิว่าใครมานู่น” นุชนาถพูดพลางมองไปยังภานุ

    “เป็นไงบ้างครับพิม ดีขึ้นหรือยัง ไหนดูสิ” ภานุถามพร้อมกับเอื้อมมือไปแตะหน้าผากพิมพ์ชนก

    “ตัวไม่ร้อนแล้วหนิ ว่าแต่พิมทานข้าวหรือยัง” ภานุถาม พิมพ์ชนกพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร ภานุจึงถอยออกมาแล้วหันมาคุยกับนุชนาถ

    “หวัดดีนุช มานานแล้วเหรอ”

    “หวัดดีเช่นกันย่ะ ฉันมาได้สักพักหนึ่งแล้วล่ะ”

    “ว่าแต่นุชล่ะจะกลับไปเมื่อไหร่”

    “แหมอะไรกันนุ มาถึงก็มาไล่กันเลยนะ” นุชนาถแกล้งเย้าเพื่อน

    “ไม่ใช่อย่างนั้น ที่ถามน่ะหมายถึงกลับไปประจวบ ฯ น่ะ”

    “อ๋อ…. นึกว่าจะไล่กันซะละ ก็อีก 2 วันน่ะ ไปเที่ยวด้วยกันมั้ย” นุชนาถบอกพร้อมกับชวนเพื่อน

    “อืมก็น่าไปอยู่เหมือนกันนะ ว่าแต่คนที่จะชวนไปด้วยเนี่ยสิ ไม่รู้จะยอมไปด้วยมั้ย” ภานุพูดพลางหันไปทางพิมพ์ชนก

    “พิมไปเที่ยวประจวบ ฯ ด้วยกันมั้ย” นุชนาถหันไปถามเพื่อน

    “ไม่อยากไปอ่ะ”

    “ไปหน่อยน่า ไปเปิดหูเปิดตาซะบ้าง ทำงานมาเกือบปีแล้วนะ” นุชนาถขยั้นขยอเพื่อน

    “นี่ยายนุช ฉันกำลังจะฟื้นไข้นะ” พิมพ์ชนกให้เหตุผล

    “แต่แม่ว่าไปก็ดีเหมือนกันนะจ๊ะลูก เป็นการพักฟื้นไปในตัว” คุณประไพสนับสนุนอีกเสียง

    “แต่ว่างานล่ะคะแม่”

    “นี่ยายพิมไม่เห็นต้องห่วงเลย มีแฟนเป็นถึงผู้บริหารบริษัทแกจะกลัวไปทำไม ใช่มั้ยนุ” นุชนาถหันไปขอความเห็นจากภานุ โดยที่ไม่สนใจว่าพิมพ์ชนกจะว่ายังไง

    “ไปเถอะครับพิม เรื่องงานไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวผมให้คนอื่นทำแทนได้” ภานุหันไปบอกพิม

    “เห็นมั้ยยายพิม พรุ่งนี้แกก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว มะรืนเราก็เดินทางไปกันเลย โอเคมั้ยนุ”
    นุชนาถพูดพร้อมกับหันไปถามภานุ ภานุพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าตกลง

    “งั้นก็ตามนี้เลย นุนายอย่าลืมไปรับฉันด้วยนะ” นุชนาถบอกภานุ ก่อนที่จะลาทุกคนกลับบ้าน
    ระหว่างการเดินทาง มีแต่นุชนาถเท่านั้นที่คุยจ้อตั้งแต่เชียงใหม่ยันประจวบ ฯ ส่วนพิมพ์ชนกนั้นปิดปากเงียบมาตลอดทาง ภานุแอบมองพิมพ์ชนกอยู่บ่อย ๆ จนนุชนาถจับสังเกตได้

    “โอ๊ย ! เบื่อพวกฟอร์มจัดเหลือเกิน นี่อย่าหัดปากหนักกันนักเลย คิดอะไรอยู่ก็รีบ ๆ พูดกันให้มันเข้าใจซะ เดี๋ยวก็มีลูกไม่ทันใช้กันพอดี” นุชนาถพูดขึ้นมาลอย ๆ พลางลอบสังเกตดูพฤติกรรมของพิมพ์ชนกและภานุว่าทั้งคู่จะมีปฏิกิริยายังไงกับคำพูดของตน และก็ได้ผล เพราะทั้งพิมพ์ชนกและภานุหันมามองหน้ากัน ก่อนที่ทั้งคู่จะหันกลับไปตามเดิม หึ ๆ ฉันคงมีงานเสริมเป็นกามเทพจำเป็นซะแล้วล่ะงานนี้ นุชนาถคิดในใจ

    ภานุพารถเข้ามาจอดบริเวณบ้านพักตากอากาศของเขา บ้านหลังนี้พ่อของภานุซื้อไว้ก่อนที่จะไปตั้งรกรากอยู่ที่เชียงใหม่

    “สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า”

    “อ้าวคุณภานุ มายังไงคะ ทำไมไม่โทร.มาบอกป้าก่อน ตาฝั้นช่วยคุณเขาขนของหน่อยเร็ว” แกหันไปบอกลูกชายให้ไปช่วยภานุขนของ

    “เอ่อ… พิม นุช นี่ลุงฉ่ำกับป้าปริก ลุงกับป้าเขาเป็นคนดูแลบ้านหลังนี้”

    “สวัสดีค่ะ” พิมพ์ชนกและนุชนาถยกมือไหว้ลุงกับป้าพร้อมกัน

    “เอ่อ พิมฉันคงไม่ได้พักที่นี่กับเธอหรอกนะ เพราะฉันมีงานค้างอยู่ต้องรีบไปเคลียร์เพราะต้องส่งพรุ่งนี้ ไม่งั้นหัวหน้าได้เฉ่งกะบาลฉันเละแน่ ๆ” นุชนาถหันไปบอกเพื่อนหลังจากขนของลงรถเรียบร้อยแล้ว

    “อ้าว แล้วฉันจะอยู่ยังไงล่ะ เฮ้ย ! อย่าบอกนะว่าฉันต้องอยู่กับนายนุสองคนที่นี่ นุชแกกลับไปเอามาทำที่นี่ไม่ได้เหรอ” พิมพ์ชนกเริ่มโวยใส่เพื่อนพร้อมทั้งขอร้อง

    “โอยไม่เอาล่ะ ขี้เกียจขนไปขนมา นี่พิมฉันมาทำงานนะจ๊ะ ไม่ได้มาเที่ยวเหมือนเธอ” นุชนาถปฏิเสธพร้อมกับขยิบตาให้กับภานุ ถึงเวลาเริ่มทำงานเสริมของนุชนาถแล้วล่ะ

    “นุ ดูแลยายพิมให้ดีล่ะ อย่าปล่อยให้เป็นไข้กลับเชียงใหม่นะ” นุชนาถหันไปบอกกับภานุ ก่อนที่จะช่วยถือกระเป๋าของพิมพ์ชนกขึ้นบ้านไป

    “นุช เดี๋ยวอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนสิ” ภานุชวนนุชนาถ

    “แน่นอนอยู่แล้ว ถึงนายไม่ชวนฉันก็จะอยู่ เอ่อ เดี๋ยวฉันกับพิมออกไปซื้ออาหารสดนะ ส่วนนายก็จัดของไปก่อนก็แล้วกัน”

    พูดจบนุชนาถและพิมพ์ชนกก็พากันขับรถออกไป โดยมีนุชนาถเป็นคนขับ เพราะถือว่าชำนาญที่สุดก็ไม่ให้ชำนาญได้ไง ทำงานอยู่ที่นี่เกือบปีแล้วนี่นา ไม่รู้ก็เกินไปล่ะ
    พิมพ์ชนกออกมาเดินเล่นที่ชาดหาด ตอนเช้าที่นี่อากาศดีจริง ๆ ไม่แพ้ที่เชียงใหม่เลย อยู่เชียงใหม่เห็นแต่ป่าแต่เขา ก็ดีเหมือนกันเปลี่ยนบรรยากาศ พิมพ์ชนกเดินไปเรื่อย ๆ พลางคิดอะไรไปเพลิน ๆ จนลืมเวลา ทางด้านภานุก็ออกตามหาพิมพ์ชนกใหญ่ ไปเดินเล่นถึงไหนของเขานะ ภานุคิดขณะที่เดินหาพิมพ์ชนก

    “พิม มาอยู่นี่นี่เอง ผมตามหาแทบตาย”

    “ใครใช้ให้นายมาตาม”

    “นี่พิมยังไม่หายโกรธผมอีกเหรอ”

    “ยัง” พิมพ์ชนกตอบ ก่อนที่จะเดินหนีภานุกลับไปทางเดิม
    พิมพ์ชนกเดินออกมานอกระเบียง จากจุดนี้ของตัวบ้านมองออกไปก็จะหาดทรายสีขาวยาวสุดลูกหูลูกตา คลื่นม้วนตัวเข้าฝั่งลูกแล้วลูกเล่า พิมพ์ชนกยืนมองภาพข้างหน้าได้ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันกลับมาแล้ววางหนังสือเล่มโปรดไว้บนโต๊ะ  ความคิดที่จะลงไปเล่นน้ำตอนนี้เป็นอันต้องยกเลิกไปเลย เพราะดูแล้วคงไม่ไหวแดดแรงเหลือเกิน เอาไว้ตอนเย็นก่อนเถอะ พิมพ์ชนกคิด ก่อนที่จะเอนตัวลงนอนบนฟูกข้างโต๊ะกลมเตี้ยนั่นเอง

    “พิม” เสียงทุ้มคุ้นหูของภานุ ทำให้พิมพ์ชนกหันไป

    “นายมาทำไม” พิมพ์ชนกถามพร้อมกับเดินต่อ

    “ก็มาเดินเล่นเป็นเพื่อนพิมไง ผมกลัวว่าพิมจะเหงา” พิมพ์ชนกหันไปมองหน้าภานุแว้บหนึ่ง แต่ก็ไม่พูดอะไร ทั้งคู่เดินเล่นกันอย่างเงียบ ๆ ไม่มีใครเอื้อนเอ่ยวาจาใด ๆ ออกมาอีกเลย แล้วภานุก็ยื่นมือไปจับมือพิมพ์ชนก

    “นี่นายจะทำอะไร” พิมพ์ชนกเริ่มหน้าเสีย

    “นั่งตรงนี้เถอะ ดูพระอาทิตย์ตกด้วยกัน”  จากนั้นทั้งคู่ก็ไม่พูดอะไรกันอีก จนภานุรู้สึกอึดอัด

    “พิม”

    “ฮึ”

    “ผมมีอะไรอยากจะบอกพิม” ภานุพูด พร้อมกับเอามือของพิมพ์ชนกไปกุมไว้

    “อะไรของนาย นี่อย่ามาทำซึ้งใส่ฉันนะ” พิมพ์ชนกพูด พร้อมกับดึงมือกลับ โธ่เอ๊ย ! นายภานุฉันก็อายเป็นเหมือนกันนะ นี่ดูสิยังมาทำตาหวานใส่อีก แต่ภานุก็ไม่ยอมปล่อย กลับจับแน่นกว่าเดิมอีก

    “พิม ผมรักพิมนะ” พอจบคำพูดของภานุ พิมพ์ชนกก็ได้แต่อ้าปากค้าง  

    “เอ่อ…นี่นุ อย่ามาแกล้งพิมเล่นน่า ไม่ตลกนะ” พูดจบพิมพ์ชนกก็เดินหนีภานุไปเสียดื้อ ๆ เพราะทั้งอายทั้งเขิน ก็ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครบอกรักพิมพ์ชนกเลย ก็มีครั้งนี้แหละและก็แอบโรแมนติกซะด้วย

    “พิม เดี๋ยว ผมพูดจริง ๆ นะไม่ได้แกล้ง ผมรักพิมตั้งแต่วันแรกที่เราพบกันแล้วนะ ตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้วด้วยซ้ำ ผมเฝ้านับวันนับคืน ว่าเมื่อไหร่ผมจะได้กลับมาหาพิม พอเจอกัน พิมก็ทำท่าไม่อยากจะญาติดีกับผมจนถึงวันนี้พิมยังจะใจร้ายเดินหนีผมไปอีกเหรอไง” ภานุวิ่งตามพร้อมกับตะโกนบอกพิมพ์ชนก คำพูดของภานุทำให้พิมพ์ชนกหยุดชะงักก่อนที่จะหันหลังกลับ ภานุค่อย ๆ สวมกอดพิมพ์ชนก คราวนี้เจ้าตัวยอมให้กอดแต่โดยดี ไม่มีการขัดขืนแต่อย่างใด แล้วน้ำใส ๆ ที่เกิดจากความดีใจและตื้นตันก็ไหลลงมาอาบแก้มใส ๆ ของพิมพ์ชนก

    “พิมก็รักนุเหมือนกัน และก็รักมาตลอดเลย” พิมพ์ชนกบอกภานุเสียงอุบอิบ ภานุกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นรับรู้กับวาจาที่เอื้อนเอ่ยมาจากปากของหญิงสาว ก่อนจะคลายอ้อมแขนออก

    “พิมหายโกรธผมแล้วใช่มั้ยครับ”
    พิมพ์ชนกพยักหน้ายิ้มทั้งน้ำตา ก็จะไม่ให้หายโกรธได้ไงล่ะ ก็รักเขาซะขนาดนี้ แล้วทั้งคู่ก็นั่งดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าด้วยกัน
    ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ ว่าคนที่คอยเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่สมัยสิบกว่าปีที่แล้วจะมาลงเอยด้วยกันได้ ถ้านุชนาถรู้เข้าคงได้แซวกันตายไปข้างหนึ่งแน่ ๆ หรือว่าพิมพ์ชนกและภานุกลัวมีลูกไม่ทันใช้ เหมือนอย่างที่นุชนาถพูดหรือเปล่านะ พิมพ์ชนกยิ้มก่อนจะเอนศีรษะซบลงบนไหล่ของภานุ …………….

    จากคุณ : sandglasswk - [ 8 พ.ค. 48 18:15:28 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป