[[o[[แง้ม 01]]o]] ฉันชื่อเพียว
ท่ามกลางความแจ่มใส ของท้องฟ้าอันปลอดโปร่ง ภายในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ซึ่งนับเป็นโรงเรียนชื่อดังที่สุดในละแวกนี้ สิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้อย่างถึงที่สุดกำลังเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นภายในโรงยิมที่คราคร่ำไปด้วยฝูงชนรายล้อมมหาศาล ไอ้เจ้าสิ่งที่ว่านี้มันก็คือ....
การต้อสู้เจ้าค่ะ...การต่อสู้หรือเรียกอีกอย่างว่าการวิวาท มันกำลังเกิดขึ้นในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง และประวัติยาวนานหลายสิบปี.....
มันเป็นการต่อสู้ที่สุดแสนจะไม่ธรรมดา.....ทำไมถึงไมธรรมดาน่ะเหรอ......
ก็เพราะไอ้ภาพที่ปรากฏสู่สายตาฝูงชนนับร้อยตอนนี้คือ ภาพของหญิงสาวหุ่นเพรียวบางได้สัดส่วน ใบหน้าสวยน่ารักอย่างกับนางเอกมิวสิค ผมสีดำสนิทถูกรวบเป็นหางม้าสลวย ดวงตาสีน้ำตาลคมเข้มเป็นประกายวาวดุดัน เธอกำลังออกหมัดชกหน้านักบาสหนุ่มที่รูปไม่ค่อยหล่อ แต่หุ่นล่ำเร้าใจเป็นชุดๆ
เท่านั้นไม่พอยังมีการส่งลูกถีบ ลูกเตะ และลูกกระทืบ ไปยังชายหนุ่มอย่างไม่ลดละ นี่ขนาดเจ้านักบาสร่างใหญ่มันล้มลงไปกองกับพื้นเลือดกบปาก บวกด้วยอาการดิ้นพล่านๆอย่างสุดแสนจะทรมาน สาวเจ้าก็ยังไม่หยุดการกระทำอันโหดร้ายนั้นลง
จนกระทั่งมีสาวน้อยร่างหนึ่งวิ่งแทรกฝูงชนเข้ามาขวางเธอเอาไว้...
พอเถอะไอ้เพียว เดี๋ยวเค้าก็ตายกันพอดี เธอพูดไป หอบไป คล้ายกับว่าเพิ่งแข่งวิ่งสี่คูณร้อยมาหมาดๆ เป็นผลให้เจ้าของชื่อที่ถูกเอ่ยหันไปมองตาขวาง
นี่มันทำกะแกขนาดนี้แกยังจะปกป้องมันอีกเหรอไอ้ผักกาด แกยังไม่เข็ดรึไงห๊า...เพียวหรือเจ้าของสมญานามเพียว ส.กระทิงดำยิมที่ไม่มีใครตั้งให้ หันไปโวยใส่คนห้ามทัพเสียงดังลั่น
ฉันไม่ได้ปกป้องเค้า ฉันกลัวว่าแกจะถูกจับส่งห้องปกครองต่างหากล่ะ พอเหอะเพียว มันไม่คุ้มหรอกแก
เหอะ...อย่างฉันไม่โดนอาจารย์เล่นง่ายๆหรอกไม่ต้องห่วงพอพูดจบเจ๊แกก็หันกลับไปทำท่าจะซัดคู่ต่อสู้ผู้ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวต่อ แต่ยังไม่ทันได้ง้างหมัดก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาขัดซะก่อน
น้องเพียวครับ พวกอาจารย์สามสี่คนกำลังเดินมาทางนี้ครับ ตอนนี้ใกล้ถึงอาคารสามแล้วนะครับ
ห๊ะ!!...จริงเหรอพี่วิทย์เมื่อเห็นชายหนุ่มพยักหน้ารับ สาวน้อยก็รีบวางมือจากร่างสะบักสะบอมตรงหน้า แล้วคว้าข้อมือเพื่อนสาวเดินแหวกออกมาจากกลุ่มชนที่กำลังมุงดูเหตุการณ์ ก่อนจะหันไปพูดกับชายหนุ่มคนเดิมที่เดินตามออกมาพี่วิทย์ที่เหลือช่วยจัดการต่อทีนะ แล้วเรื่องที่ขอไว้เดี๋ยวเพียวจัดให้
ครับน้องเพียว....พวกเราลุยประโยคแรกมันรับคำ ประโยคหลังมันหันไปพูดกับชายหนุ่มรุ่นใกล้เคียงกันเกือบๆยี่สิบคน แล้วไอ้พวกนั้นก็กรูกันเข้าไปบรรเลงไอ้นักบาสนั่นต่ออย่างรู้หน้าที่....มีหวังงานนี้มันคงเละเป็นโจ๊กปั่น
----------[[o[[แง้ม ]]o]]----------
เพียวคือชื่อของฉันเอง ฉันเป็นนักเรียนมอปลายของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งก็คือที่นี่
ตอนนี้หลายๆคนอาจจะมองว่าฉันเป็นเจ้าแม่แก็งค์อันธพาลประจำโรงเรียน เที่ยวหาเรื่องชาวบ้านเค้าไปทั่ว
แต่ขอบอกไว้ตอนนี้เลยว่า ม่ายช่ายว้อย......
ที่ฉันไปมีเรื่องกับไอ้นักบาสบ้าๆนั่น เพราะมันหลอกเพื่อนฉันให้คบแล้วมันก็ทิ้ง
ทีนี้เข้าใจรึยังคะว่าทำไมฉันถึงเล่นมันซะขนาดนั้น เนี่ยฉันว่ามันยังน้อยไปด้วยซ้ำ เพื่อนฉันหลงมันหัวปักหัวปำ แต่มันกลับทิ้งไปได้ลงคอ
ไอ้สารเลววว....คิดๆแล้วก็อยากวิ่งกลับไปกระทืบมันต่อ แต่ตอนนี้คงไม่ได้เพราะอาจารย์กำลังเดินมาแล้วต้องหาทางชิ่งก่อน ขืนชิ่งไม่ทันมีหวังซวย... แถมซวยหนักซะด้วย
แล้วจะชิ่งยังไงดี ขืนวิ่งไปคงไม่ทัน ต้องหายตัวไปจากโรงเรียนให้เร็วที่สุด....
ปิ๊ง.....ในที่สุดฉันก็เห็นหนทางสว่าง คว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดจึกๆสามสี่ครั้ง จากนั้นก็เริ่มทักทายกับคนปลายสาย
พี่ไพน์...พี่ไพน์....ไอ้พี่ไพน์โว้ย....
อะไรไอ้เพียว แหกปากซะเสียงดังเชียว
ก็พี่เป็นบ้าอะไรล่ะ รับโทรศัพท์แล้วไม่ยอมพูด
พี่กำลังคุยเรื่องสำคัญกับน้ำตาลเค้าอยู่อ่ะสิเลยยังไม่ทันได้พูด เออ..นี่พี่รอแกอยู่ตรงลานจอดรถแล้วนะทำไมแกออกมาช้าจัง
มีเรื่องนิดหน่อย เดี๋ยวพี่ไพน์ขับรถวนมารับเพียวที่หลังโรงยิมนะ เดี๋ยวนี้เลย ด่วนที่สุด เข้าจั๊ย
เออๆๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ
แล้วสัญญาณโทรศัพท์ก็ถูกตัดไป....
----------[[o[[แง้ม ]]o]]----------
ไม่นานเท่าไรรถบีเอ็มสีดำรุ่นใหม่ล่าสุดก็มาจอดอยู่ตรงพิกัดที่บอกมันไปเป้ะๆ แล้วไอ้คนขับที่มีหน้าตาหล่อเหลาบาดใจสาวๆก็ชะโงกหน้าออกมาเรียกฉัน
ใช่แล้ว....มันคือไอ้พี่ไพน์ของฉันนั่นเอง หน้าตามันไม่ต่างจากฉันซักเท่าไร ตาก็สีเหมือนกัน จะมีก็แต่ผมซอยสั้นๆของมันที่ไม่เหมือน เพราะดันไปนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อให้ช่างทำผมเค้าละเลงสีเล่น
ฉันไม่รอช้ารีบลากข้อมือไอ้ผักกาดไปขึ้นรถทันที...
ฉันดันไอ้ผักกาดให้นั่งเบาะหลัง แล้วฉันก็ขึ้นมานั่งเบาะหลังกับมันนั่นแหละ พอฉันปิดประตูรถปุ๊บพี่ฉันมันก็เริ่มอาการเก่ากำเริบ มองกระจกหน้ารถ แล้วยิ้มกรุ้มกริ้ม
ฉันเห็นน่าว่าแกยิ้ม......
หวัดดีจ้ะผักกาด ไม่เจอตั้งนานน่ารักขึ้นเยอะเลยนะมันเริ่มแล้ว ไอ้อาการเห็นหญิงไม่ได้ของมันเริ่มอีกแล้ว และเพราะฉันเป็นน้องสาวที่รักเพื่อนมากกว่าพี่ชาย ฉันจึงต้องเป็นคนหยุดสถานการณ์ชั่วร้ายนี้
เงียบๆปากแล้วขับรถไปเลยพี่อ่ะ คนยิ่งรีบๆอยู่เท่านั้นแหละไอ้เจ้าพี่ชายมันก็หันมาทำตาขวาง หน้าเครียด ใส่ฉัน แต่คนอย่างเพียวหาได้ใส่ใจไม่
พอรถเลี้ยวออกมานอกโรงเรียน ฉันก็หันไปออกคำสั่งกับพี่ไพน์ทันที เพราะยังไงซะวันนี้มันก็มีหน้าที่เป็นคนขับรถ สั่งนิดสั่งหน่อยจะเป็นไรไป
ไอ้พี่ไพน์ เดี๋ยวเลี้ยวไปส่งผักกาดมันก่อน แล้วค่อยไปเดินเล่นต่อที่เซ็นทรัล
อ้าว แล้วน้องผักกาดไม่ไปด้วยกันเหรอจ๊ะ ไม่มีตังค์เดี๋ยวพี่เลี้ยงก็ได้นะน่านมันยังไม่เลิก คราวนี้คิดจะทำตัวเป็นเสี่ยเลี้ยงต้อยอย่างงั้นเหรอไอ้พี่ไพน์
พอดีผักกาดไม่ได้บอกแม่ไว้ค่ะ ดีมากอย่าไปยอมมันแกต้องหนักแน่นผักกาด
เดี๋ยวเอาโทรศัพท์พี่โทรไปบอกก็ได้นะ เอามั้ยพี่ชายฉันยังตื๊อไม่เลิก นี่มันกะเอาจริงเหรอเนี่ย
ไม่ดีกว่าค่ะ ผักกาดไม่อยากให้แม่เป็นห่วงคำตอบคราวนี้เล่นเอาพี่ฉันเงียบไปเลย มันแพ้ลูกที่แสนดีอย่างผักกาดเข้าซะแล้ว ฮ่าๆๆ
...แต่...ฉันคงคิดผิดไป พี่ไพน์มันกำลังอ้าปากจะพูดอะไรซักอย่าง ฉันนี่ก็ลืมไปได้ว่าไอ้บ้านี่มันไม่เคยเลิกราอะไรง่ายๆ ยังไงก็ต้องรีบขัดไว้ก่อน
พี่ไพน์ก็ ผักกาดมันไม่อยากไปจะไปบังคับมันทำไมล่ะ
พี่ไม่ได้บังคับซักหน่อย
ถ้าอย่างงั้นก็อยู่เงียบๆบ้างดิ้
เวลาผ่านไปจนมาถึงบ้านผักกาด ฉันลงไปส่งมันแล้วก็ล่ำลากันตามภาษาเพื่อนรักอยู่ไม่นานนัก เรื่องส่วนใหญ่ก็จะเป็นการถามให้แน่ใจว่ามันไม่ได้โกรธที่ฉันไปต่อยอดีตแฟนมัน แล้วมันก็ไม่ได้โกรธจริงๆด้วย แถมมันยังขอบใจฉันอีกแน่ะที่แก้แค้นให้ รู้สึกหน้าบานไงไม่รู้แฮะ...
และแล้วฉันก็กลับมาขึ้นรถแต่เปลี่ยนที่นั่งจากข้างหลังมาข้างหน้าแทน พอออกจากบ้านผักกาดมาซักพัก พี่ฉันก็เริ่มคุยกับฉันแบบจริงๆจังๆขึ้นมา แหมทีไม่มีหญิงอยู่ล่ะซีเรียสขึ้นทันใจเลยนะ...
แกไปทำอะไรมาเพียว สารรูปงี้ดูไม่ได้เลย
ไปกัดกับหมามามั้งฉันตอบแบบไร้อารมณ์สุดๆ เพราะไม่อยากจะพูดถึงวีรกรรมตัวเองซักเท่าไร
งั้นเหรอ...ทีหลังอย่าทำงี้นะเพียวมันไม่ดีฉันเดาว่าพี่ไพน์รู้ และยังเดาอีกว่ามันเป็นห่วงฉัน โอว์...พระเจ้ายอด!!! สงสารหมามัน แกก็รู้ว่าพี่เป็นคนรักหมา
แป่วววว!!!.....
ไอ้......ไอ้พี่บ้า ไว้ที่ฉันมั่งละกัน แงร่ม~.
ฉันได้แต่นั่งส่งสายตาอาฆาตแค้นไปหาไอ้พี่ชายปากเสีย แต่มันก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เราสองคนนั่งเงียบอยู่ซักพักพี่ไพน์มันก็เริ่มชวนคุย
อีกแล้ว..นี่มันเป็นโรคหุบปากไม่ลงรึไงกัน....
เพียว...แกมีแฟนรึยังวะ
พรวดดด!!!
ค่อกๆ...แค่กๆๆ
ฉันทั้งพ่นทั้งสำลักน้ำลายตัวเอง นี่ปีศาจตัวไหนมันไปดลใจให้พี่ฉันถามคำถามบ้าๆแบบนี้เนี่ย...
มีไม่มีมันเกี่ยวไรกับพี่อ่ะ ยุ่งไม่เข้าเรื่อง
ก็ฉันเป็นพี่แกอยากรู้บ้างไม่ได้รึไง บอกมาดีกว่าว่าตกลงแกมีรึเปล่า
ไม่มีฉันแหกปากเสียงดังลั่นรถ ชัดมะ
พอฉันพูดจบเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ซึ่งก็คือของฉันนั่นแหละ ฉันกดรับสายทีนที
ฮัลโหลเพียวพูดอยู่นี่คือคำทักทายประจำตัวของฉันเวลารับโทรศัพท์
น้องเพียวครับนี่พี่วิทย์นะ พี่จะโทรมาบอกว่าเรื่องที่ให้จัดการเรียบร้อยแล้วนะครับ
เหรอคะ ขอบคุณมากนะคะพี่
ในฐานะประธานชมรมกิ๊กน้องเพียวพี่ยินดีเสมอครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ อย่าลืมสัญญานะครับ บายๆ
บายๆ
พอฉันวางหูปุ๊ปพี่ไพน์ก็หันมาจ้องหน้าฉันตาเขม็ง แต่แล้วก็มีเสียงรบกวนดังขึ้นก่อนที่มันจะได้ขยับปากพูดเสียงนั้นก็คือ........เสียงโทรศัพท์ฉันอีกแล้ว หุหุหุ
ฮัลโหล เพียวพูดอยู่
เพียวจ๋า พี่นิคกี้นะจ๊ะ พี่จะโทรมาบอกว่าสมาชิกเค้าเรียกร้องอยากไปเที่ยวกับเพียวเป็นการฉลองที่ทำหน้าที่สำเร็จอ่ะจ้ะ เพียวจะว่าไงจ๊ะ
อืม...ก็คงได้มั้งคะ ไว้เพียวว่างเมื่อไรจะคอนเฟิร์มอีกทะละกันนะ
จริงเหรอจ๊ะ พี่ดีใจที่สุดเลยรู้มั้ยเนี่ย
ค่า..รู้ค่ะ แต่เพียวจะเป็นคนเลือกสถานที่เองนะ
จ้าตามใจเพียวอยู่แล้ว งั้นแค่นี้ก่อนนะจ๊ะพี่ต้องรีบคาบข่าวไปบอกพวกมัน บายๆจ้า
บายๆ ค่ะ
พอพูดจบพี่ไพน์ก็คว้ามือถือฉันไปปิดเครื่องทันที ก่อนจะหันมาทำหน้าดุๆใส่
ไหนแกบอกไม่มีไง แล้วที่แกคุยด้วยเมื่อกี๊มันใคร
โอ้ววว...พี่ชายของฉันมันสวมบทพี่ชายหวงน้องสาวได้แมนสุดยอดเลยงานนี้
กิ๊ก ฉันตอบสั้นๆ ไม่อยากอธิบายไรมากความ ก็ทีมันยังมีได้ทำไมฉันจะมีมั่งไม่ได้ล่ะ
ห๊า...กิ๊กพี่ไพน์ร้องเสียงหลงอย่างกับโดนเชือด ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ากับอีเรื่องแค่นี้ตกใจอะไรกันนักกันหนา ไหน..ไหนแกบอกว่าแกไม่มีไงห๊ะ
ก็พี่ไพน์ถามว่าเพียวมีแฟนมั้ย เพียวไม่มีก็ตอบว่าไม่มีอ่ะดิ้ พี่ไพนน์ไม่ได้ถามเพียวนี่ว่าแกมีกิ๊กมั้ย เพียวจะได้ตอบว่ามีเกือบๆยี่สิบคนอ่ะ
.เอ้อถามไม่เคลียร์ยังมาบ่นอีก
----------[[o[[แง้ม ]]o]]----------
จากคุณ :
-LemOnade-
- [
14 พ.ค. 48 14:52:46
A:202.133.143.86 X:
]