CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ขิงก็ราข่าก็แรง (ขุนช้างขุนแผนฉบับนิทานข้างกองฟาง ๙)

    ขุนช้างขุนแผนฉบับนิทานข้างกองฟาง (๙)

    ขิงก็ราข่าก็แรง

    พ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักขอรับ กระผมคิดว่าพวกเราปล่อยให้ พ่อพลายแก้ว นอนอยู่ในห้องแม่สายทอง เป็นเวลานานพอสมควรที่วิบากกรรมของตน จะได้ปรากฏผลชัดเจนขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้วนะขอรับ

    คือเมื่อแม่พิมเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาในห้อง ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่คนเดียวเสียแล้ว เธอก็ตกใจฟายน้ำตาว่า ได้เกิดขัดใจอะไรขึ้นมา พลายแก้วจึงลุกไปไม่บอกกล่าว แต่พอพยายามนึกไว้ในแง่ดีก็จึงคิดว่า พลายแก้วอาจมีธุระจำเป็นต้องรีบไป แต่จะได้สั่งความไว้กับพี่สายทองหรือเปล่าหนอ

    เท้าไวเท่าความคิด แม่พิมก็รีบเดินออกจากห้องของตน ไปที่ห้องแม่สายทองเพื่อจะถามดูให้รู้แจ้ง

    แต่พอเดินมาถึงห้องพี่เลี้ยงคนสนิท ก็กลับพบเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ดังที่ฉบับหลวงท่านกล่าวไว้ดังนี้

    ก็เยื้องย่องมาถึงห้องสายทองพลัน
    ได้ยินเสียงพูดกันงึมงึมอยู่
    แอบฟังยังทวารบานประตู
    รู้ว่าอยู่ในห้องสายทองนอน ฯ

    พอผลักบานประตูพลัวะเข้าไป ก็บ้านแตกซิขอรับพ่อแม่พี่น้อง ลงจับได้คาหนังคาเขาอย่างนั้น อะไรจะไปเหลือ เมื่อสอบความกันครั้งแรก แม่สายทองก็เอาแต่ก่นโศกร้องไห้เป็นน้ำหูน้ำตา

    เปิดมุ้งมองเขม้นพอเห็นหน้า
    กอดกันคาคิดแค้นแล้วค้อนค่อน
    สายทองลุกทะลึ่งจากที่นอน
    พ่อแก้วหล่อนรังแกฉันแม่พิม
    จะขับไล่ผลักไสไม่ยักไป
    ว่าเท่าไรมีแต่จะยิ้มกริ่ม
    ครั้นจะอึงกลัวจะผิดถึงแม่พิม
    ป้ำปิ่มเลือดตาจะกระเด็น
    หวานกินขมกินเพราะรักน้อง
    ความสัตย์สายทองใครจะเห็น
    ไม่รู้เลยพ่อแก้วหล่อนจะเป็น
    เช่นนี้คิดมาน่าน้อยใจ ฯ

    แต่แม่พิมในวินาทีนั้นก็หูอื้อนัยน์ตาลายเสียแล้ว พี่ก็พี่เถิดวะ คำพังเพยที่ว่า
    เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร นั้น
    ก็เพิ่งจะเข้าใจรู้ซึ้งซึมซาบในเวลานี้เอง

    ว่าแล้วแม่พิมก็ไม่ฟังเสียง ด่ากราดอีกทั้งประชดประชันเสียจนสายทองเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาบ้าง เหตุการณ์ตอนนี้ก็เรียกว่าเข้าขั้นวิกฤต ราวกับมหาอำนาจสองฝ่ายกำลังเผชิญหน้ากันในสงครามเย็น เมื่อก่อนที่ รัสเซียจะล่มนั่นแหละขอรับ

    ครานั้นจึงโฉมเจ้าสายทอง
    ฟังน้องตอบมาหาช้าไม่
    สารพันว่าได้ไม่เกรงใจ
    เป็นไรเป็นไปเถิดตามกรรม
    ปากกล้าดีก็ว่ามาอีกซี
    ตีผางเดี๋ยวนี้ให้ล้มคว่ำ
    มันลึกละใครจะนิ่งให้พี่ทำ
    อย่าเชื่อล่ำถึงข้าเล็กไม่อยากกลัว
    เมื่อกระนั้นถึงจะตีก็ไม่ว่า
    เดี๋ยวนี้ข้าถือว่าเป็นเจ้าผัว
    อีเมียน้อยก้ำเกินไม่เกรงกลัว
    ต้องจิกหัวลงตบด้วยกะลา
    ชิชะถ้อยคำกระไรนี่
    จะต้องตีว่ายากนางปากกล้า
    นางพิมเคืองขุ่นมุ่นขึ้นมา
    กล้าดีตีข้านางสายทอง ฯ

    ถึงตอนนี้พ่อแม่พี่น้องก็คงนึกถึงความรู้สึก ของพ่อพลายเจ้าเสน่ห์ ตัวต้นเหตุได้นะขอรับ ว่าจะกระอักกระอ่วนเพียงใด ภาวะนี้ก็เปรียบเหมือนกำลังอยู่ระหว่าง เสือตัวเมียสองตัว ที่กำลังจะปะทะกันอื้อฉาวลั่นบ้านไป จะเข้าข้างฝ่ายใดก็ให้อิหลักอิเหลื่อ จะไกล่เกลี่ยเสียก็เหลือกำลังนัก

    แต่ก็ปรากฏว่ามี "ระฆังช่วย" มาในวินาทีสุดท้าย โดยมีเสียงท้าวมาลีวราช ศรีประจัน ที่ได้แผดเสียงออกมาห้ามทัพไว้ได้ทันการ

    แต่เอะอะอื้ออึงทั้งสามเสียง
    ศรีประจันหลับบนเตียงตกใจตื่น
    กูหนวกหูกูจริงดังยิงปืน
    จนดึกดื่นนี่มันทำอะไรกัน
    สายทองตัวดีมีความคิด
    บอกติดว่าแม่พิมหล่อนด่าฉัน
    นอนหลับอยู่หมาจู่กินน้ำมัน
    ศรีประจันร้องว่าสาแก่ใจ
    นางพิมยิ้มพลางทางช่วยปด
    ฉันมาไล่หาไม่หมดสิ้นทั้งไห
    ว่าพลางค้อนด้วยขัดใจ
    กลับไปเข้าห้องเสียฉับพลัน ฯ

    ฝ่ายพ่อพลายแก้วนั้นก็รู้ดีว่า แม่พิมนั้นขี้หึงอย่างสุดเดชแต่ก็รู้ดีไปจนถึงที่ว่า ผู้หญิงนั้นยิ่งหึงมากก็หมายความว่ายิ่งรักมาก จึงกล้าถึงขนาดที่เดินตามไปปลอบแม่พิมในห้อง

    ก็มีการตัดพ้อต่อว่ากันพอสมควรทีเดียว ซึ่งก็น่าเห็นใจแม่พิมเขาอยู่ดอกนะขอรับ หรืออย่างไรขอรับ คุณผู้หญิง ?

    แต่ก็น่าขันที่พ่อจอมกะล่อนของเรา รู้ตัวเสียแล้วว่าเป็นต่อ ฉะนั้นจึงโมเมแก้ตัวไป น้ำขุ่น ๆ ชนิดที่ถ้ากระผมเป็นแม่พิม ก็คงจะถึงกับร้องกรี๊ดเลยทีเดียวละขอรับ ท่านว่าไว้ว่า

    โอ้ว่าอนิจจาเจ้าพิมพี่
    ทุกวันนี้ไม่เชื่อกันหรือเจ้า
    สารพันว่าได้ก็ว่าเอา
    เมื่อทุกข์เข้าทับอกไม่เห็นเลย
    ไปเมื่อหน้าพี่ จะมาสู่ขอน้อง
    เผื่อท่านไม่ปรองดองเล่าน้องเอ๋ย
    ทุกข์เท่านี้จึงไม่มีสบายเลย
    จึงไปเปรยปรับทุกข์กับสายทอง
    ไม่ทันเคี้ยวหมากแหลกเสียอีกเจ้า
    พอแม่พิมขวางเข้าไปในห้อง
    ไม่พอทีวุ่นวายกับสายทอง
    นิจจาเปล่าดอกน้องอย่ารำคาญ ฯ

    ก็คงจะคล้าย ๆ กับ "ทั่น" คนไหนซักทั่นหนึ่ง ที่ตกค่ำกลับบ้านแล้วเนื้อตัวหอมกรุ่น แถมมีแป้งติดสะดืออีกต่างหาก แล้วก็มาแก้ตัวกับศรีภรรยา ว่าลูกน้องเขาจัดพิธีรดน้ำดำหัว เนื่องในโอกาสเลื่อนตำแหน่งใหม่ อย่างนั้นกระมังขอรับ ?

    แต่ก็อย่างว่า คนเรารักกันปานจะกลืนกินเสียอย่าง วิธีปรับความเข้าใจกันมันก็ไม่ยากนัก พอได้ยินเสียงแว่วดุเหว่าร้องแสงเงินแสงทองก็ส่องฟ้า คู่รักทั้งสองก็รู้อยู่แก่ใจว่าจะต้องจากกันแล้ว

    พลายแก้วจึงบอกแม่พิมว่าจะรีบกลับไปบอกแม่ทองประศรี ที่เมืองกาญจน์ ว่าให้มา สู่ขอโดยเร็วที่สุด ด้วยความรักความเป็นห่วง

    เมื่อรู้ว่าคนรักจะต้องเดินทางไกล จะพบทุกข์พบร้อนอะไรก็ไม่ทราบ แม่พิมจึงใจอ่อน จนทำเป็นลืม ๆ เรื่องแม่สายทองเมื่อคืนนี้เสียสิ้น แถมยังมีการให้ "ค่ารถ" อีกต่างหาก ดังที่ฉบับหลวงท่านว่าไว้ดังนี้ขอรับ

    ร้องไห้พลางทางลุกไปไขหีบ
    รีบหยิบเงินมาน้ำตาปริ่ม
    ห้าชั่งพลางห่อสีทับทิม
    นี่ของพิมให้พ่อจงเอาไป
    แล้วจ้างช้างขี่ไปให้จนถึง
    จะเอาสักสิบตำลึงจงเสียให้
    เชื่อเมียนะหม่อมอย่าเดินไป
    เจ้าพลายรับเงินไว้น้ำตานอง
    เอาคางพาดบ่าพิมกระซิบสั่ง
    จงระวังตัวไว้อยู่ในห้อง
    ชั้นหน้าต่างก็อย่าย่างไปเยี่ยมมอง
    อย่าเที่ยวท่องลงแล่นไปแผ่นดิน
    จะจากไปแทบใจ เจียนจะขาด
    แสนสวาทห่วงอยู่มิรู้สิ้น
    แบ่งภาคได้จะแบ่งไว้เป็นเพื่อนกิน
    นี่สุดสิ้นมิใช่ฤทธิ์พระนารายณ์ ฯ

    พ่อแม่พี่น้องผู้ฟังนิทานข้างกองฟางขอรับ กระผมเล็งเห็นถึงความเป็นห่วงซึ่งกันและกัน ระหว่างพลายแก้วกับแม่พิมได้อย่างชัดเจน จากฉบับหลวงที่กระผมยกมาให้ท่านทั้งหลายฟังนี่แหละขอรับ แต่ความพิลึกพิสดารในความรักนั้น ยังมีมากกว่านี้อีกขอรับ

    เพราะตอนจะกลับจริง ๆ นั้น พลายแก้วไม่ได้จ้างช้างจ้างม้า อย่างที่แม่พิมเขาอุตส่าห์เป็นห่วงหรอกขอรับ ตะแกเรียกผีหัวหน้าป่าช้าที่รออยู่ในสวน ให้มารับทางหน้าต่างห้องนอน ขึ้นขี่คอพาเหาะไปหาแม่ทองประศรีที่เมืองกาญจน์ ต่อหน้าต่อตาแม่พิมนั้นเอง !

    มิหนำซ้ำฉบับหลวงท่านยังว่าไว้ว่า มีการอาลัยอาวรณ์กันถึงขนาดเชียวขอรับ

    ย่างลงบนบ่าไม่ช้าที
    เอาเงินผูกคอผีหาช้าไม่
    เหลียวหลังสั่งเสียแสนอาลัย
    ดวงใจอยู่เถิดพี่ขอลา
    นางพิมมัวหมองเฝ้าร้องไห้
    ยกมือไหว้น้ำตาลงนองหน้า
    กลุ้มกลัดอัดใจไม่เจรจา
    สะอื้นออกปากว่าจงไปดี
    เจ้าพลายแก้วรับไหว้ใจจะขาด
    น้ำตาหยาดหยดลงตรงบ่าผี
    ผีก็พาผายผันไปทันที
    ต่างก็มีใจวิโยคโศกถึงกัน ฯ

    นี่ถ้ากระผมเป็นแม่พิมละก็ พอพบภาพซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้เข้า ก็คงจะถึงขั้นชักดิ้นชักงอน้ำลายฟูมปาก ตายอยู่ตรงหน้าต่างนั้นแล้วแหละขอรับ แต่ตามที่ท่านว่านั้น แม่พิมกลับมีใจจรดจ่ออยู่กับการจากลาอาลัย เสียจนมิได้หวั่นกลัวต่อภาพมหิทธิฤทธิ์ เหนือธรรมชาติ ที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตา เป็นครั้งแรกนั้นเลยแม้แต่น้อย อานุภาพแห่งความรักนั้น ช่างยิ่งใหญ่ถึงปานฉะนี้เชียวหนอ !

    ถึงตรงนี้แล้ว กระผมก็เห็นจะต้องขอให้พ่อแม่พี่น้อง อดใจให้เวลา พ่อพลายแก้ว แกเดินทาง ไปหาแม่ที่เมืองกาญจน์หน่อยเถิดขอรับ แล้วก็จะได้ทราบว่างานมงคลสมรส ที่เป็น หัวข่าวสังคมดังระเบิดเปรี้ยงปร้าง ตั้งแต่สุพรรณฯ ยันเมืองกาญจน์ในครั้งนั้น ยิ่งใหญ่มโหฬารแค่ไหน ซึ่งกระผมจะได้นำมาเล่าสู่กันฟัง ในตอนหน้าขอรับ.

    ##########

    จากคุณ : พจนารถ - [ 15 พ.ค. 48 18:45:30 A:61.90.14.43 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป