แล้ววันที่เธอต้องไปเชียงใหม่ก็มาถึง เธอแต่งตัวเหมือนผู้ชายจนแม่ทักว่า ทำไมแต่งตัวอย่างนี้ล่ะลูกเธอได้แต่ตอบแม่ไปว่า น้ำแค่อยากเปลี่ยนตัวเองน่ะค่ะ เธอพูดกร้อมกับยิ้มจืดๆ แล้วจึงเข้าไปกอดพ่อแม่และพูดว่า น้ำรักพ่อกับแม่ค่ะ แล้วจึงหอมแก้มพร้อมกับเดินไปขึ้นรถที่ชลธิศจอดรออยู่ ชลธิศให้เหตุผลกับแม่ว่า
อินทิราบังเอิญมีงานด่วนที่เชียงใหม่ เธอจึงล่วงหน้าไปกับเจ้านายก่อนแล้ว แล้วให้ยัยน้ำตามไปทีหลัง เธอบอกว่าจะรีบทำงานจะได้มีเวลาไปเที่ยวกับน้ำเยอะๆน่ะครับ ผมเลยต้องไปส่งยัยน้ำเอง พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับผมจะส่งให้ถึงที่เลย จากนั้นชลธิศจึงขับรถพาเธอขึ้นเหนือไปที่จังหวัดเชียงใหม่
ตกเย็นเธอก็มาถึงรีสอร์ทของภูวนาท ตรงทางเข้ารีสอร์ทนั้น มีป้ายบอกชื่อรีสอร์ทว่า บ้านภูตะวัน
เธอถึงกับบอกกับชลธิศว่า ชื่อรีสอร์ทเพราะจังเลยนะพี่ธิศ พอขับรถเข้ามาภายในรีสอร์ทเธอพบว่า รีสอร์ทแห่งนี้ตกแต่งอย่างสวยงามเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง มีพื้นที่กว้างขวาง ร่มรื่น บ้านพักสำหรับแขกแต่ละหลังสร้างได้น่าอยู่ รอบๆบ้านพักแต่ละหลังปลูกดอกไม้หลายชนิด พร้อมทั้งมีต้นไม้ใหญ่น้อยมากมายล้อมรอบ ทำให้ร่มรื่นยิ่งขึ้น และแล้วชลธิศก็พารถมาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ขนาดใหญ่ รอบๆบ้านปลูกดอกไม้และต้นไม้หลายชนิด อยู่ห่างไกลจากบ้านพักสำหรับแขกพอสมควร ส่วนถัดไปทางด้านหลังห่างจากบ้านนี้พอสมควร มีบ้านหลายๆหลังตั้งอยู่ติดๆกัน เธอคาดว่าคงจะเป็นบ้านพักคนงาน
อ้าว! น้ำ.....เอ่อ......ไอ้ชลมัวแต่ดูอะไรอยู่ รีบๆเข้ามาสิ ระหว่างทางที่ขับจากกรุงเทพมาเชียงใหม่ ชลธิศบอกเธอว่า เขาตั้งชื่อให้เธอใหม่ว่า ชลนิล เรียกสั้นๆว่า ชล ซึ่งเขาได้ย้ำมาตลอดทางให้จำไว้ให้ดีว่าเป็นผู้ชายและชื่อชลนิล
พอได้ยินพี่เรียกเธอจึงรีบเดินเข้าไปในบ้าน พร้อมๆกับมีหญิงวัยกลางคนเดินออกมาต้อนรับ
สวัสดีค่ะ มาพบคุณภูวนาทหรือคะ
ครับ บอกคุณภูว่า ผมชลธิศมาขอพบนะครับชลธิศพูดพร้อมกับสังเกตเห็นว่าหญิงคนนั้นจ้องมองชลธิชาอยู่นานมากจึงรีบพูดว่า
เจ้านี่มันชื่อ ชลนิล ครับ เป็นลูกน้องผมเองได้ยินดังนั้นเธอก็ยิ้ม พร้อมกับพูดว่า
ขอโทษค่ะ จ้องนานไปหน่อย ดิฉันกำลังคิดว่าเด็กคนนี้หน้าตาน่ารักดีเหมือนผู้หญิงเลยนะคะ คำพูดนั้นทำให้ทั้งชลธิศและชลธิชาสะดุ้งพร้อมกัน ชลธิชาจึงรีบพูดขึ้นมาว่า
ไม่ใช่ครับ ผมเป็นผู้ชาย 100% ไม่ใช่ผู้หญิงแน่นอนเธอพยายามดัดเสียงให้ใหญ่และพูดพร้อมกับผงกศีรษะเพื่อเสริมความมั่นใจว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิง เห็นท่าทางนั้นแล้ว หญิงคนนั้นจึงยิ้มด้วยความเอ็นดู แล้วพูดว่า
เดี๋ยวผาดไปตามคุณภูวนาทให้นะคะ นั่งรอสักครู่นะคะ พูดเสร็จเธอก็เดินขึ้นไปชั้น 2
นั่งรอได้สักพัก เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆเดินลงบันไดมา ทันทีที่เห็นคนที่เดินลงมานั้นเต็มตา เธอก็คาดคะเนอายุไว้ว่าน่าจะประมาณ 30 หรือมากกว่านิดหน่อย ผมตัดสั้น ดวงตาคมดุ มีไรหนวดเขียวๆตรงแก้มกับคาง ผิวคล้ำ โดยรวมๆแล้วถือว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดี แต่สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นออกมา คือ ลักษณะท่าทางการเดินและการยืน ซึ่งมีความองอาจ และน่าเกรงขาม ราวกับว่าเขาเป็นผู้ที่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของผู้อื่นได้
สวัสดีครับ คุณธิศ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ เสียงนั้นทำให้เธอตื่นจากภวังค์
สวัสดีครับ คุณภู ตั้งแต่ที่มากับไอ้ดลคราวที่แล้ว ผมก็ไม่ได้มาที่นี่อีกเลย ดูๆแล้วที่นี่ยังเหมือนเดิมเลยนะครับ ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
ครับ แล้วนี่ไอ้ดลมันเป็นยังไงบ้างครับ ภูวนาทถามถึงนภดลที่ไม่ได้เจอกันนานพอสมควร
ก็สบายดีครับ กำลังมุ่งมั่นทำงานจนแทบไม่มีเวลาไปไหนเลยครับ มันอาจจะเปลี่ยนใจจากแต่งกับผู้หญิงแล้วหันไปแต่งกับงานก็ได้นะครับ แล้วทั้ง 2 คนก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน แล้วสายตาของภูวนาทก็หันไปจ้องคนที่นั่งอยู่ข้างๆชลธิศ เห็นดังนั้นชลธิศจึงรีบแนะนำว่า
นี่ ลูกน้องผมครับ ชื่อ ชลนิล เรียกมันว่า ชล เฉยๆก็ได้ครับ ภูวนาทมองชลธิชาอย่างพิจารณา จนทำให้เธอรู้สึกประหม่าและกลัวว่าเขาจะจับได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย
สวัสดี เด็กน้อย ทันที่ที่เธอได้ยินเขาเรียกว่าเด็กน้อย เธอก็จ้องหน้าเขาอย่างเคืองๆ พร้อมทั้งคิดในใจว่า เด็กน้อยอะไร ฉันน่ะ 23 แล้วนะ ชลธิศเห็นสายตาของน้องสาวก็กลัวว่าจะเกิดเรื่องจึงรีบพูดขึ้นมาว่า
ผมมีเรื่องจะรบกวนคุณภูหน่อยครับ ภูวนาทจึงหันเหความสนใจไปยังชลธิศ พร้อมกับถามว่า
เรื่องอะไรครับ บอกผมมาได้เลย ผมยินดีช่วยเสมอ
คือ ผมอยากฝากไอ้ชลไว้ที่นี่หน่อยน่ะครับ คือ มันเป็นลูกน้องผมเองครับ พอดีมันทำงานเป็นสายลับ แต่ถูกจับได้ ยังดีที่ผมไปช่วยไว้ทัน ตอนนี้ไอ้พวกผู้ร้ายมันยังตามหาตัวอยู่ ผมก็ดูแลมันตลอด 24 ชั่วโมงไม่ได้ ผมเลยอยากพามันมาไว้ในที่ที่ปลอดภัยและเป็นที่ที่ผมไว้ใจที่สุด ซึ่งก็คือที่นี่ ผมหวังว่าคงไม่เป็นการรบกวนเกินไปนะครับ ชลธิศพูดพร้อมกับยิ้มอย่างเกรงใจ
ไม่รบกวนหรอกครับ คุณธิศก็เหมือนเพื่อนผม ผมยินดีช่วยเสมอ แล้วนี่ลูกน้องคุณธิศชื่ออะไรครับ ตั้งแต่เข้ามานี่ยังไม่เห็นพูดอะไรสักคำ ภูวนาทพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าชลธิชา
เจ้านี่ มันชื่อ ชลนิล น่ะครับ เรียกว่า นิลเฉยๆก็ได้ครับ
อืม.....ชื่อ ชลนิล ชื่อเพราะดีนี่ เราน่ะ
เธอไม่รู้จะพูดอะไรจึงพึมพำออกไปว่า ครับ
ให้ฉันเรียกว่า ชล เฉยๆ ได้มั้ย ชลธิชาทำท่าอึกอักๆ จนชลธิศต้องเอาข้อศอกกระทุ้งตรงเอวของเธอ เธอจึงตอบไปว่า ครับ ชลธิชาพูดพร้อมกับก้มหน้าหลบสายตาภูวนาทที่จ้องมองเธอด้วยสายตาพิจารณา
ทำไมถึงได้ตัวเล็กจัง อายุเท่าไหร่แล้วเราน่ะ ถึง 20 หรือยัง
ครับ ก็เธอถึง 20 แล้ว แค่เกินมา 3 ปีเอง ทันทีที่พูดคำว่า ครับ ออกไป เธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีของภูวนาท แล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า
นี่ เราน่ะ พูดเป็นแต่ ครับ ครับ และ ครับ เท่านั้นเองเหรอ พูดอย่างอื่นเป็นมั้ย
ครับ คราวนี้เสียงหัวเราะยิ่งดังกว่าเดิม เธอจึงเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา และมองเขาด้วยสายตาราวกับจะถามว่า มีอะไรให้ขำนักหนาหรือ เขาหัวเราะไปสักพักก็หันไปพูดกับชลธิศพูดว่า
อยู่ที่นี่สงสัยต้องให้แม่ผาด พี่เลี้ยงของผมเอง ช่วยขุนให้อ้วนซะแล้ว จะได้ดูสมกับเป็นผู้ชายหน่อย แล้วนี่คุณธิศจะค้างที่นี่หรือขับรถกลับเลยครับ?
เดี๋ยวผมกลับเลยดีกว่า งานที่กรุงเทพยังเหลืออีกเยอะ ต้องกลับไปสะสาง ยังไงก็ฝากมันด้วยนะครับ พูดพร้อมกับยกมือขึ้นตบหัวชลธิชาเบาๆ ทำให้เธอน้ำตาซึมที่ต้องจากบ้านมา
อ้าว! ร้องไห้ซะละ ลูกผู้ชาย เขาไม่ร้องไห้กันหรอกรู้มั้ย ได้ยินดังนั้นเธอจึงรีบพูดว่า
ร้องไห้ที่ไหน แค่ฝุ่นมันเข้าตาก็แค่นั้นเอง จากนั้นเธอก็จ้องหน้าภูวนาทอย่างเอาเรื่อง จนชลธิศต้องเตือนสติแล้วบอกให้สุภาพกับภูวนาท ส่วนภูวนาทนั้นได้แต่ยิ้มอย่างเอ็นดู
หลังจากคุยกันเรื่องอื่นๆอีกสักพัก ชลธิศก็ขอลากลับ ภูวนาทและชลธิชาจึงเดินไปส่ง และก่อนที่ชลธิศจะกลับนั้นเขาก็ได้กอดน้องสาวไว้ด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับพูดว่า
เข้มแข็งไว้นะ อยู่ที่นี่ดูแลตัวเองให้ดีนะ อย่าก่อเรื่องวุ่นวายอีกล่ะ และที่สำคัญอย่าอยู่เฉยๆนะ มีงานอะไรที่พอจะช่วยได้ก็ช่วยนะ แล้วพี่จะรีบกลับมารับ พอถึงเวลาที่ต้องจากพี่ชายไปจริงๆ เธอถึงกับร้องไห้อย่างไม่อายใคร
กลับมารับน้ำ....เอ่อ ชลเร็วๆนะพี่ธิศ เธอพูดพร้อมกับเสียงสะอื้นเบาๆ
พี่สัญญาว่าพี่จะรีบกลับมารับ ชลธิศให้สัญญากับน้องสาว แล้วหันไปลาภูวนาท
ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยผม ผมกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ
ขับรถดีๆนะครับ คราวหน้าเราคงได้มีโอกาสคุยกันอีกนะครับ ชลธิศยิ้มเล็กน้อยแล้วจึงขึ้นรถขับออกไปจากบริเวณรีสอร์ท บ้านภูตะวัน นี้
หลังจากชลธิศขับรถออกไปแล้ว ชลธิชาก็ยังร้องไห้ไม่หยุด ภูวนาทจึงยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ แล้วพูดว่า เช็ดน้ำตาซะ ฉันบอกแล้วไงว่าลูกผู้ชายเขาไม่ร้องไห้หรอกนะ ชลธิชาได้ยินดังนั้น เธอจึงเหลือบตาขึ้นมามองเขาอย่างเคืองๆ ภูวนาทเห็นสายตานั้นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ ซึ่งนั่นยิ่งส่งผลให้คนที่เคืองอยู่แล้วยิ่งเคืองหนักเข้าไปใหญ่ สายตาที่มองเขาจึงเหมือนกับจะฆ่าเขาให้ตายอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ พอเห็นสายตานั้นเขาจึงพยายามกลั้นหัวเราะแล้วไอออกมา 2-3 ครั้ง ก่อนที่จะเรียกหาแม่ผาด ให้พาชลธิชาไปพักที่ชั้น 2 ข้างห้องเขา พอได้ยินว่าเธอต้องพักอยู่ชั้นบนติดกับห้องเขา เธอถึงกับพูดออกมาอย่างตกใจว่า
ไม่ได้ยังไงก็ไม่ได้ ภูวนาทจึงถามกลับว่า ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ แล้วทำไมต้องทำเสียงตกใจขนาดนั้น แค่มาพักอยู่ข้างห้องฉันเนี่ยนะ
พอชลธิชานึกได้ว่าสถานภาพของเธอตอนนี้คือผู้ชายชื่อชลนิล เธอเลยรีบบอกว่า
คือ ผมก็ไม่ได้เป็นเจ้าเป็นนายมาจากไหน แล้วจะให้ผมไปพักบนเรือนคงจะไม่เหมาะมั้งครับ ผมว่า.... เธอพูดยังไม่ทันจบ ภูวนาทก็พูดขัดขึ้นมาก่อนว่า แต่ฉันไม่อนุญาต ฉันสั่งว่าอะไรต้องเป็นไปตามนั้น พร้อมกับมองหน้าเธอราวกับจะถามว่า มีปัญหาอะไรอีกมั้ย แล้วเขาก็หันไปสั่งแม่ผาดว่า แม่ผาดช่วยจัดของให้ชลมันด้วยนะ เดี๋ยวภูจะไปตรวจดูบ้านพักคนงานทางนู้นหน่อย รบกวนแม่ผาดด้วยนะจ๊ะ พูดเสร็จก็หอมแม่ผาดหนึ่งฟอดก่อนเดินออกจากบ้านไป ทิ้งให้เธอได้แต่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง หาที่ระบายไม่ได้ พร้อมทั้งคิดในใจว่า คนอะไรเผด็จการชะมัด เป็นฮิตเลอร์มาเกิดหรือไงนะ
จากคุณ :
ปลายสน
- [
17 พ.ค. 48 10:36:15
A:203.172.51.22 X:
]