แล้วโลกก็เต็มไปด้วยน้ำเอ่อท่วม ฉันกุมมือเธออยู่ท่ามกลางมวลน้ำ ชี้นิ้วให้เธอแหงนมองดูปลาที่แหวกว่ายอยู่เบื้องบนแทนการมองดูดวงดาว เธอรักโลกที่เต็มไปด้วยน้ำนี่ไหม เธอไม่ตอบ
ส่วนตัวฉัน ฉันหลงรักโลกที่เต็มไปด้วยน้ำนี้ เพราะเวลาที่ฉันต้องเสียน้ำตาฉันคงไม่รู้ว่าน้ำตาฉันมันไหลออกมามากเท่าไร จนบางทีฉันคงไม่อาจรู้สึกตัวว่ากำลังร้องไห้อยู่
....................
เมื่อคืนผมฝันแบบนั้น ในฝันไม่ตรงกับความเป็นจริงเท่าใด ผมไม่เคยกุมมือเธอแล้วชี้ให้ดูปลาแทนดูดาว ผมอยากให้ฝันเป็นจริง ผมอยากกุมมือเธอชี้ชวนให้แหงนชมปลาหลากสี ผมไม่เคยพบเธออีกเลยนับแต่เลิกกัน เราไม่เคยนัดเจอกัน ช่วงแรกผมยังหวังให้ทุกอย่างกลับมาเป็นดังเดิม เพียรโทรหาทุกวัน ผ่านไปเดือนกว่าเธอมีคนใหม่เสียแล้ว ผมเคว้ง บลอแล้วก็เบลอ
ผมโยนโทรศัพท์ของผมเข้าไปในปากปลาวาฬตัวหนึ่ง ถ้าใครได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังเวลาเจอปลาวาฬตัวนั้นโปรดรับรู้ไว้ด้วยว่านั่นคือเครื่องผม ผมไม่เคยบอกใครเรื่องนี้ ผมแก้ตัวไปว่าทำหาย ไม่รู้ว่าที่ไหน
เรื่องจริงของความฝันมีอย่างเดียว คือ ผมไม่รู้ว่าเสียน้ำตาไปมากมายขนาดไหน มันปนเปละลายจางไปกับน้ำเสียหมด จนไม่ต้องเสียเวลาปาดน้ำตา ผมสามารถร้องไห้ที่ไหนเวลาใดก็ได้ ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นเลยสักคน
ผมไม่เคยทำหน้าบูดเบี้ยวคิ้วขมวดโหนกแก้มย่น เวลาร้องไห้หน้าผมเรียบนิ่ง ปล่อยให้น้ำตาหยาดซึมหล่นอาบแก้ม
ผมนั่งดูข่าวเกี่ยวกับนกเพนกวินที่สวนสัตว์ในเยอรมันเมืองหนึ่ง เขาพบว่าอัตราการเป็นรักร่วมเพศของบรรดาเพนกวินตัวผู้เพิ่มสูงขึ้น ทุกๆ13ตัวจะมีเพนกวินเป็นรักร่วมเพศเสีย12ตัว เจ้าพวกนั้นพากันจับคู่อยู่ด้วยกัน มีการนำก้อนหินมากกแทนไข่ พยายามพึงทำกิริยาแบบคู่ผัวตัวเมีย โชคดีของผมที่ไม่ได้เป็นเพนกวินในสวนสัตว์ที่เยอรมันนั่น เหตุเพี้ยนนี้เกิดจากตัวเมียมีจำนวนน้อยเกินไป ทางสวนสัตว์เตรียมการแก้ไขโดยจัดหาตัวเมียมาเพิ่ม ไม่มีข่าวอีกเลยว่าเพนกวินพวกนั้นเป็นอย่างไร ผมเริ่มมองเพื่อนบางคนแบบแปลกๆไปมี2คนที่สมัยมัธยมมาจากโรงเรียนกินนอนที่มีแต่ชายล้วน
3วันหลังจากข่าวนี้ มวลน้ำทะลักเข้ามาแทนที่มวลอากาศ ทุกคนต้องปรับตัวกันใหม่ แรกๆสายตายังไม่คุ้นชิน สิ่งที่มองเห็นล้วนพร่าเลือน สีสันรางจืดไม่มีความชัดเจน ผู้คนพากันใส่แว่นตาถ้วนทั่ว แว่นตาทุกประเภทที่หยิบได้ใกล้มือ ผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ สายตาเริ่มชินกับน้ำ แว่นตาจึงถูกถอดทิ้ง ผู้ที่ยังใส่แว่นอยู่คือคนที่เป็นโรคสายตาเท่านั้น
บริษัทที่ผลิตน้ำดื่มขายต่างพากันเจ๊งไปเป็นแถบๆ เครื่องกรองน้ำต่างถูกซื้อออย่างถล่มทลาย สระว่ายน้ำทุกแห่งต่างพากันปิดไม่มีกำหนดเปิด
นกและแมลงต่างพากันหายหน้าไม่ปรากฏ ฝูงปลาหลากพันธุ์ว่ายน้ำกันไปมาทั่วทุกแห่ง มันเดินทางมาจากหลายที่ ปลาหลายชนิดผมไม่เคยเห็นมาก่อน เคยมีพะยูนว่ายข้ามหลังคาบ้านผมอยู่ครั้งหนึ่ง ผมพยายามนำกล้องมาถ่ายภาพมันแต่มันว่ายไปไกลเสียแล้ว
ผมซื้อหนังสือเกี่ยวกับปลามาหลายเล่ม ทั้งปลาน้ำจืดและปลาทะเล เวลาว่างผมใช้กล้องส่องดูปลาชนิดต่างๆ ต่อมาเพื่อนผมชวนให้ไปอยู่ชมรมดูปลา เดือนละครั้งทางชมรมจัดกิจกรรมดูปลานอกสถานที่ สมาชิกในชมรมมีการนำภาพถ่ายปลาแปลกๆที่หาชมได้ยากมาแลกกันดู ผมถ่ายภาพไว้ไม่กี่ชนิด ที่หาดูยากคงเป็นปลาฉลามหางไหม้ ส่วนปลาวาฬมีคนเจอกันบ่อย
ก่อนน้ำท่วม2วัน ผมไปดูหนังกับเธอ โรงหนังแห่งนั้นอนุญาตให้สูบบุหรี่ได้ ม่านควันขุ่นพวยกรุ่นอยู่ตามจุดต่างๆ หนังที่ฉายเป็นขาว-ดำ เรื่องของนักสืบคนหนึ่งที่ชอบเลี้ยงแมว ผมเกลียดแมวแต่หนังเรื่องนั้นสนุก ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับแมวในจอหนัง ผมเกลียดแมวตัวเป็นๆเท่านั้น
วันถัดมาเธอขอเลิกกับผม ทุกอย่างห้วนกระชับ ตรงไปตรงมา ตัดเข้าประเด็น สรุปจบไร้การโต้แย้ง ผมกลับไปดูหนังนักสืบที่โรงเดิมอีกครั้ง ผู้คนบางตา มีปลาบางตัวว่ายผ่านหน้าจอ ผมสูบบุหรี่ไป 15 ตัว บุหรี่ยี่ห้อเดิมแต่ปรับปรุงใหม่ให้สามารถมีควันในพื้นน้ำ ผมนั่งน้ำตาไหลโดยไม่เกี่ยวกับเนื้อหาบนจอ
ผมดูหนังเรื่องนี้อีก2ครั้ง ก่อนหนังลาโรง โรงหนังที่นี่กลายเป็นโรงประจำของผม ผู้คนยังน้อยเช่นเคย มีตระไคร่จับบนเบาะบางที่กับตรงมุมซ้ายด้านบนของหน้าจอ แสงจากเครื่องฉายส่องทะลุผ่านมวลน้ำแลเห็นอนุภาคเล็กๆเจือปนฟุ้งว่อน หนังฉายจบผู้คนพากันเดินออกจากโรง ผมนั่งอยู่จนขึ้นเครดิตสุดท้าย
ผมอกหักสถานการณ์เวลานั้นไม่เอื้อต่อการเมามายให้คลายเศร้า รสชาติเหล้าชืดลงเจือจาง น้ำแข็งละลายเร็วขึ้น เปลืองเหล้ามากกลมกว่าในยามปกติมากนัก ผมนั่งสูบบุหรี่ เพื่อนในโต๊ะต่างเฮฮาสนุกสนาน ผมมองดูผู้คนในร้าน แฟชั่นแว่นตากันน้ำหลากสีต่างเป็นที่นิยมเป็นความนิยมที่สั้นนัก ไม่ถึงเดือนกลายเป็นความเชย
ผมเริ่มชอบการไปนั่งฟังคอนเสิร์ตแจ๊ซ ความโปรดปรานของผมอยู่ตรงเครื่องเป่า ฟองอากาศที่ลอยออกมาจากบรรดาเครื่องเป่าต่างๆ ดูเข้ากันกับจังหวะทำนอง ผมนำกล้องโพราลอยด์ไปถ่ายรูปนักแซกโซโฟนคนหนึ่งไว้ พอคอนเสิร์ตเลิก ผมเตร่อยู่หลังเวที รอโอกาสพบเจอ ผมเก็บรูปนั้นไว้อยู่จนทุกวันนี้ ลายเซ็นเขาอ่านง่าย
น้ำท่วมอยู่ครึ่งปี แล้วมันก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครทันคิดมาก่อน ใช้เวลาเพียง2ชั่วโมง น้ำได้อันตรธานหายสิ้น วันนั้นผมนอนดูดาวจนถึงเช้า ดวงอาทิตย์สุกปลั่งค่อยๆโผล่พ้นขอบฟ้า แล้วทุกอย่างก็ค่อยๆคืนมาเป็นเช่นเคย เนื้อปลาหาคนกินได้ยากเต็มที กว่าคนจะเริ่มกลับมากินปลากัน ต้องใช้เวลากว่า3เดือน
ไม่มีใครอยากไปเที่ยวชมทะเลสักเท่าใด ทุกที่ร้างผู้คน ผมเดินทางไปเที่ยวทะเล เดินลัดเลาะเลียบหาดปล่อยให้แดดแผดพุ่งสู่ผิว ผมไม่มีความคิดลงเล่นน้ำ แม้แต่ให้คลื่นเปียกเท้าผมยังไม่ยอม
หลังน้ำท่วมมีนกบินกันเต็มท้องฟ้า หลากหลายพันธุ์จากทั่วทิศ รวมทั้งแมลงพันธุ์ต่างๆ ผีเสื้อสีสดสวยมากมายที่ผมไม่เคยพบเจอ พากันบินว่อนทั่วบริเวณบ้าน มันแย่ตรงที่เวลานอนนั้นเต็มไปด้วยฝูงยุง ผมต้องนั่งตบเกือบทั้งคืน
หาดนั่นมีผมเพียงคนเดียวเท่านั้น ผมนั่งมองทะเลอยู่ครึ่งค่อนวัน ทะเลที่มีน้ำตาของผมเป็นส่วนประกอบ ยามน้ำเอ่อท่วมผมหลั่งน้ำตาปะปนไปกับพื้นน้ำ เมื่อน้ำลดกลับคงพาน้ำตาแห่งความเศร้าของผมไปด้วย ทะเลเป็นสัญลักษณ์แห่งความฟูมฟายของผม
ทั่วท้องฟ้านกบินกันว่อน พวกมันคงอัดอั้นมานาน คืนนี้ผมคงต้องนอนตบยุงอีกตามเคย
.......................................................
จากคุณ :
อุปกรณ์ประกอบฉาก
- [
19 พ.ค. 48 00:27:09
A:203.113.81.38 X:
]