CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ... กว่ารัก ...

    ...

    “พุทธ มาดูนี่สิ"

    เสียงนิชาเรียกอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นกรอบรูปบนโต๊ะอาจารย์ตรีรัตน์

    “อะไรกันยายนิช ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น“

    คนตอบและเดินเข้ามาไม่ใช่พุทธิมน   แต่เป็นบุณฑริกาซึ่งช่วยจัดสมุดส่งงานบนโต๊ะอาจารย์แนะแนว    ขณะที่คนถูกเรียกยังสาละวนจัดสมุดเรียงตามรหัสนักเรียน

    “โอ้โฮ!   หล่อเด็ดขาดไปเลย    แล้วนี่ฉันยิ่งเป็นโรคแพ้เครื่องแบบอยู่ด้วย"

    บุณฑริกาทำตาลอยๆเมื่อเห็นคนที่อยู่ในรูปถนัด    ส่วนนิชาก็มองรูปแล้วทำตาหวานราวกับคนในรูปมองมาอย่างนั้นล่ะ

    “เกินไปหรือเปล่ายะคุณนายบุณ”

    พุทธิมนพูดข้ามโต๊ะมาอย่างขันขันเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนทั้งสองคน

    “เพราะฉันน่ะไม่เห็นหล่อนตื่นเต้นสักทีเวลาเห็นลุงทองนักการดีเด่นประจำโรงเรียนแต่งเครื่องแบบเต็มยศ"
     
    บุณฑริกาค้อนขวับ  

    “ต๊าย... บ้าจังยายพุทธนี่ ฉันว่าหล่อนมาดูเองดีกว่าย่ะ  ขี้คร้านจะหลงอีกคน"

    “ใช่... มาดูก่อนแล้วค่อยพูดนะยะ"  นิชาพยักพเยิด

    พุทธิมนรับกรอบรูปขึ้นมาดูใกล้ๆ  

    คนในรูปแต่งเครื่องแบบเต็มยศของนักเรียนนายร้อย    เสื้อสีแดงสดประดับเครื่องหมายมากมาย ใบหน้าคมสันยิ้มแย้มเต็มที่   มือข้างหนึ่งโอบอาจารย์ตรีรัตน์ซึ่งดูตัวเล็กลงไปถนัดตาเมื่อยืนเคียงร่างสูงใหญ่นั้น



    “ก็หน้าตาไม่เลว"   พุทธิมนออกความเห็น

    “ว้า"  เพื่อนสองคนอุทานพร้อมกันด้วยความผิดหวัง

    “จะไม่ใจจืดไปหน่อยหรือยะ คนเขาออกหล่อ"   บุณฑริกาต่อว่า

    “ใช่...  นี่ถ้าฉันได้ไปเป็นแฟนนะ  อนาคตคงได้เป็นคุณนายหรือคุณหญิงไปโน่นเลย"  

    นิชาทำตาลอยเหมือนตกอยู่ในห้วงฝันเต็มที่

    “ หล่อนนึกว่าเป็นคุณหญิงคุณนายนี่สบายมากหรือยะ   ฉันคนหนึ่งล่ะที่ไม่เอาด้วยหรอก   ครอบครัวต้องแยกกันอยู่หรือไม่ก็ต้องย้ายตามไปโน่นมานี่    ที่ไกลทั้งนั้น  

    ตอนฉันเป็นเด็กนะ   เวลาที่พ่อได้รับคำสั่งย้ายทีไร   ฉันกับพี่ต้องเปลี่ยนโรงเรียนทุกที    จนแทบจะไม่มีเพื่อนสนิทเลยก็ว่าได้    พอโตเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ    พ่อก็ยังต้องประจำที่ต่างจังหวัด   น้อยเหลือเกินที่จะได้อยู่พร้อมหน้ากัน      

    แล้วเวลาที่คุณพ่อต้องออกตรวจหรือต้องออกชายแดน  ทางบ้านก็ต้องมานั่งใจหายใจคว่ำอีก กว่าจะได้อยู่ด้วยกันอย่างทุกวันนี้.. เฮ้อ.. ฉันล่ะไม่อยากคิดเลย"

    พุทธิมนพูดแล้วก็ทำหน้าเมื่อย

    “โอ๊ย... แม่คุณ   นี่หล่อนจะปล่อยให้ฉันฝันหน่อยไม่ได้หรือไงยะ   พูดเสียยืดยาวเชียว   รู้ล่ะว่าหล่อนไม่อยากมีแฟนเป็นทหาร   เพราะที่บ้านก็มีทั้งพ่อ ทั้งพี่ๆเป็นทหารกันเต็มบ้าน  เฮ้อ... หมดอารมณ์เลย"  นิชาบ่นพึม

    “แต่ฉันว่าก็ดีนะที่ยายพุทธไม่สนใจ   หล่อนจะได้ตัดคู่แข่งอีกคนไงล่ะนิช  แล้วคู่แข่งอย่างพุทธนี่น่ากลัวเสียด้วย เพราะแม่เจ้าประคุณอะไรจะคุณสมบัติครบปานนั้น  ไหนจะเป็นหัวหน้าห้อง  ไหนจะเรียนเก่ง  เป็นดาวดวงเด่นประจำโรงเรียน  และแถมยังเป็นคุณหนูลูกสาวคนเดียวของท่านนายพล  ลูกผู้จัดการโรงเตี๊ยมอย่างหล่อนสู้ได้หรือ"

    บุณฑริกาลอยหน้าลอยตาว่า

    “ไม่ต้องทำมาเป็นยกยอฉันให้เลิศลอยหรอกย่ะคุณนายบุณ   ถึงคุณหนูนิชจะเป็นลูกผู้จัดการโรงเตี๊ยมแต่ก็เป็นโรงเตี๊ยมระดับห้าดาวเชียวนะยะ“  พุทธิมนว่า

    “เออ.. พุทธพูดจาดี  และถึงฉันจะหมวยก็หมวยอินเตอร์ย่ะ  นังคุณนายโรตี“



    สรรพนามของเพื่อนทั้งสามคนมีที่มา  เริ่มจากนิชาที่มีพ่อเป็นผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมระดับห้าดาวติดอันดับโลก  เจ้าหล่อนมีผิวขาวผ่องตามเชื้อสายของผู้เป็นบิดา  นัยน์ตายาวรีอย่างลูกคนจีนทั่วไป  แต่ถึงอย่างนั้นเครื่องหน้าอันจิ้มลิ้มพริ้มเพราทำให้หล่อนดูน่าเอ็นดูไม่น้อย

    ส่วนบุณฑริกา  แม้หล่อนจะมีเชื้อสายภารตะแต่หล่อนก็มีผิวขาวเกลี้ยงเกลา  นัยน์ตาใหญ่และขนตาที่ยอนยาวเช้งคือส่วนที่ทำให้หน้าหล่อนสวยคม  บุณฑริกาเป็นลูกสาวของนายห้างใหญ่แถบพาหุรัด

    พุทธิมนมาจากครอบครัวทหาร  พ่อเป็นนายพลโท  ส่วนพี่ชายทั้งสามคนก็เป็นทหารเช่นกัน  หล่อนผิวคล้ำกว่าเพื่อนในกลุ่มหากแต่เกลี้ยงเกลาเพราะเจ้าตัวไม่ค่อยได้ออกแดดมากนักด้วยพ่อและพี่ๆออกจะหวงลูกสาวคนสุดท้องและคนเดียวของบ้าน  นัยน์ตาของพุทธิมนกลมโตเป็นประกาย  แม้จะไม่คมหวานเท่าบุณฑริกาแต่ก็คมเข้มและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา  ลักยิ้มข้างแก้มซ้ายถือเป็นเสน่ห์ของพุทธิมนเลยทีเดียว

    แม้จะมาจากครอบครัวที่แตกต่างกัน  รูปร่างหน้าตาแตกต่างกัน  แต่ทั้งสามก็เป็นเพื่อนที่รักกันมากตั้งแต่เริ่มแข้ามาเรียนมัธยมต้นที่โรงเรียนแห่งนี้



    “เอาล่ะเป็นอันว่าตัดยายพุทธออกจากสนามแข่งคราวนี้ แล้วเธอล่ะยะคุณนายบุณ"   นิชาถาม

    “ถ้าหล่อนคิดว่าสามารถทำได้ล่ะก็ เอาไปได้เลยย่ะ “  บุณฑริกาพูดอย่างใจป้ำ





    “มีอะไรกันหรือจ้ะสาวๆ “  

    เสียงถามจากข้างหลังทำเอาเพื่อนรักทั้งสามสะดุ้งไปตามๆกัน  แถมเมื่อหันหลังไปก็เป็นอาจารย์ตรีรัตน์เจ้าของรูปเสียด้วยสิ  นิชาที่มี "ของกลาง" อยู่ในมือยิ้มเจื่อนที่สุด

    “ไม่เคยเห็นอาจารย์มีรูปมาตั้งโต๊ะเลยนะคะ “   เจ้าหล่อนพูดด้วยน้ำเสียงเก้อๆพร้อมกับวางรูปไว้ที่เดิม

    “อ๋อ.. ลูกชายครูเอง  ถ่ายตอนวันซ้อมใหญ่พิธีสวนสนามหลายปีก่อน  เขาใส่กรอบมาให้เสร็จสรรพ  บอกให้แม่เอามาตั้งที่โต๊ะทำงานไว้ดูเวลาเหนื่อยจะได้ชื่นใจ"

    อาจารย์พูดถึงลูกชายอย่างปลาบปลื้ม    มันก็น่าอยู่หรอก

    “แล้วมีใครมาสมัครเป็นลูกสะใภ้หรือยังคะ"  บุณฑริกาที่กล้ากว่าใครเพื่อนถามโพล่งขึ้นมา

    อาจารย์ตรีรัตน์ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำชั้นคุ้นเคยกับความแก่นแก้วของทั้งสามคนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

    “ที่มาสมัครกับครูน่ะยังไม่มีหรอก แต่ที่เจ้าตัวนี่ยังไม่รู้เหมือนกันนะ สนใจหรือจ้ะ"

    “นิชาสนใจค่ะอาจารย์"  บุณฑริกาโบ้ยให้เพื่อนทันที

    “ยายบุณ"  นิชาขึงตาใส่ก่อนยายคนปากดีก่อนจะหันมายิ้มเจื่อนๆ



    “เอ... เห็นทีครูคงต้องคิดหนักหน่อยล่ะ เพราะที่บ้านไม่เคยเลี้ยงลิง"



    พุทธิมนกับบุณฑริการหลุดหัวเราะเสียงดัง ทำเอานิชาหน้าเบ้ ...แต่ครู่เดียวก็หัวเราะออกมาพร้อมเพื่อนและอาจารย์


    ...

    จากคุณ : Gracie Lou Freebush - [ 21 พ.ค. 48 14:42:47 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป