ตอนที่แล้ว
แมวปิลาร์ ติดรถไปกับรถบรรทุกแตงโม โดยไม่ตั้งใจ จนมาถึงหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซุกตัวท่ามกลางขุนเขาแมกไม้สายลม
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3489465/W3489465.html
++++++
พอมาถึงทางแยกเล็ก ๆ แยกออกจากถนนใหญ่ ปิลาร์ก็ไม่ได้สนใจคนพวกนั้นอีก เพราะด้วยสัญชาตญาณแมวทำให้รู้ว่าถนนสายนี้จะต้องมุ่งหน้าเข้าไปยังแหล่งชุมชนแน่นอน
ถนนสาย นี้มุ่งหน้าเข้าสู่หมู่บ้านจริงๆ
ลึกเข้าไปพอสมควร มองเห็นหลังคาบ้านคนเรียงรายขณะที่ผ่านเลี้ยวโค้งออกมาจากแนวป่า หมู่บ้านเล็กๆ ซุกตัวอยู่ในอ้อมอกของขุนเขาลำเนาไพรดูสงบและร่มเย็นเป็นสุข บางบ้านยังมีควันไฟลอยกรุ่น เหมือนกำลังมีการหุงหาอาหาร อาจเป็นปลาตัวน่ารักกำลังย่างไฟอ่อนๆได้ที่ ตามผิวของปลาซึ่งกำลังส่งกลิ่นหอมยังมีร่องรอยของเกลือซึ่งโรยแผ่วเบาละมุนละไมละอองไอก่อนย่าง ทำให้ส่งกลิ่นหอมจนน่ากัด
แค่คิดก็แทบกระโดดงับปลาย่างในอากาศแล้ว รู้สึกหิวขึ้นมาอย่างทันทีทันใด ย่อตัวลงตั้งท่าแมวจะกระโดดตะครุบหนู ก่อนกระโดดผึงวิ่งตรงไปด้วยความเร็วสุดชีวิตของแมวหิวโหย
ขณะที่กำลังจะเข้าเขตรั้วของบ้านหลังแรก ฟ้าเหมือนจะมืดหม่นลงอย่างทันทีทันใด สองหูอื้ออึงลั่นเปรี๊ยะไปด้วยเสียงคำรามกึกก้องราวฟ้าผ่า!
โฮ่ง......!!!!!!!!
แมวปิลาร์ใจหายวาบ เบรคสุดชีวิตจนร่างหมุนคว้างเสียหลักหัวทิ่มแทบชนใส่ริมรั้ว เศษดินกระจัดกระจายตามรอยเท้า
ด้านหน้าห่างออกไปประมาณ สี่ห้าช่วงตัว พญามัจจุราชยืนตระหง่านชะโงกเงื้อม ปากอ้ากรรโชกสนั่นหวั่นไหวและเขี้ยวคมกริบยาวเรียงรายอย่างสยดสยอง....หมาบ้านหน้าโหดท่าทางไร้สุนัขสัมพันธ์...เถื่อน..ตัวเขื่อง ...ใหญ่...พอที่จะขย้ำแมวหน้าไหนก็ได้ให้ฉีกขาดกระจัดกระจาย
และยังไม่ทันจะตั้งตัว มัจจุราชหน้าหมาก็ถาโถมครืนเข้าใส่เป็นพายุบุแคมถล่มทลาย
แมวปิลาร์หมุนตัวไปด้านข้าง กระโจนออกไปในขณะเขี้ยวนรกพุ่งเฉียดปลายหางไปอย่างหวุดหวิดที่สุดฃนิดเส้นยาแดงผ่าสามสิบสอง! แล้วเผ่นไม่คิดชีวิตโดยมีหมาหน้าโหดหมุนตัวกลับลำวิ่งไล่ตามราวเงามรณะ
ตามปกติหมาวิ่งเร็วกว่าแมวอยู่แล้วแม้ว่าดูเผินๆ จะประหนึ่งว่าแมววิ่งเร็วกว่า ดังนั้นทางที่จะหลบพ้นได้จึงไม่ใช่การวิ่งทางตรง แมวปิลาร์ใช้วิธีวิ่งหักหลบ โยกไปทางซ้าย โยกไปทางขวา เป็นระยะเป็นจังหวะ ราวศูนย์หน้าทีมฟุตบอลวิ่งลากลูกหลบฝ่ายตรงข้ามจะเข้ายิงประตู ทำให้หมาหน้าโหดเสียหลักตามแรงเฉื่อยวิ่งเลยไปทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนทิศทาง
และนอกจากจะวิ่งโยกซ้ายขวาแล้ว แมวปิลาร์ยังเพิ่มความสับสนให้แก่อีกฝ่ายโดยการสุ่มเปลี่ยนแนววิ่งแบบไม่มีการวางแผนล่วงหน้าไปด้วย ทำให้การไล่ตาม สับสนและยากไปอีกหนึ่งระดับ
นั่นยิ่งเพิ่มความโมโหให้กับหมาหน้าโหด ลีลาการวิ่งแบบนั้นมันเป็นการจงใจหยามศักดิ์ศรีของความเป็นหมาชัดๆ สี่เท้าของผู้ล่าตะกุยตะกายดินจนเศษดินเศษหินฟุ้งกระจัดกระจายเมื่อมีการเปลี่ยนแนวการวิ่ง ผ่านไปตามถนนจนฝุ่นคลุ้งเป็นทาง ผ่าเข้าไปในพงหญ้าจนเศษหญ้ากระจัดกระจายกระเจิดกระเจิงราวพายุคลั่งพัดกระหน่ำ ผ่านไปริมรั้วไม้ระแนงหักโค่นโครมครืนล้มระเนระนาด ความตายไล่เฉียดปลายหางไปมาอยู่ใกล้ๆ นี่เอง
แต่สถานการณ์ดูจะแย่ลง ในขณะจะพุ่งตัวไปตามทางเดินหน้าบ้าน มัจจุราชหน้าหมาอีกสามสี่ตัวก็เรียงหน้าสลอนออกมาจากใต้ถุนบ้านซึ่งยกสูงจากพื้นดินตามแบบฉบับชองบ้านตามชนบท หมาแต่ละตัวสีหน้าท่าทางไม่เป็นมิตรแม้แต่น้อย
แมวปิลาร์หมุนตัวเป็นวงกลมหนึ่งรอบอย่างสวยงาม ก่อนวิ่งออกไปด้านข้าง กะว่าจะเลาะไปตามแนวรั้ว แต่มัจจุราชสี่เท้ากระดำกระด่างอีกชุดหนึ่งซึ่งกำลังตะกุยดินวิ่งตรงมาจนฝุ่นกระจายทำให้ต้องกระโดดพลิกตัวกลางอากาศ ก่อนเบนเป้าหมายแฉลบออกไปทางแนวป่าเพราะไม่มีทางเลือก
ทันใดนั้น ทำมกลางสรรพสำเนียงอื้ออึง ก็มีเสียงแหลม ๆ แทรกมาจากทางตัวบ้าน
ทางนี้ ...มาทางนี้.... อย่าเข้าไปในป่า!!!!!
หันไปมองก็พบว่ามีแมวตัวหนึ่งกำลังยืนชะโงกมองลงมาจากกองฟืนซึ่งวางกองริมรั้ว ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม น้ำเสียงของแมวตัวนี้ดูเหมือนว่าจะมีความเป็นมิตรและกังวลห่วงไย
ใช่แล้ว... หนีออกไปในแนวป่าซึ่งห่างออกไปไกลพอสมควร คงโดนงับก่อนจะวิ่งไปถึง หรืออาจจะมีมัจจุราชหน้าหมารออยู่ในแนวป่าก็มีทางเป็นไปได้ โบราณว่าอย่าใจทางอย่าวางใจหมา
ตัดสินใจหันตัวกลับ แล้ววิ่งสวนฝูงหมาสามตัวซึ่งกำลังดาหน้ามาอย่างกระเหี้ยนกระหือ ราวฝูงบินกามิกาเซ่ หรือแมวพลีชีพ เพราะคงไม่มีแมวตัวไหนกล้าทำแบบนี้...!!! แมวบ้าที่ไหนจะกล้าวิ่งฝ่าเข้าไปในดงหมา..นอกจากแมวคิดจะฆ่าตัวตาย!
หมาทั้งสามแสยะยิ้มแยกเขี้ยวอ้าปากกว้างสุดกรามสุดล้า เร่งฝีเท้าสุดกำลัง มองเห็นภาพแมววิ่งเข้ามาในปาก ถูกงับกระเด็นเซ็นซ่านเลือดเนื้อเศษกระดูกกระจัดกระจาย แมวซึ่งยืนมองบนกองฟืนปากอ้าตาค้างอย่างตะลึงพรึงเพริดแบบไม่เชื่อสายตา!
ก่อนที่จะปะทะกับกลุ่มมัจจุราชหน้าหมา แมวปิลาร์พลันกระโดดขึ้นไปกลางอากาศ ลอยข้ามหัวมัจจุราชหน้าหมาไปอย่างสวยงาม แถมมีการหมุนตัวตีลังกาเกลียวอีกหนึ่งรอบ ก่อนพลิ้วลงพื้นดินอย่างนุ่มนวล ในขณะที่ฝูงหมาวิ่งเลยไปชนไม้พุ่มล้มระเนระนาดเศษใบไม้ใบหญ้ากระจัดกระจาย
กระบวนท่านี้ปิลาร์จดจำมาจากหนังหมาๆแมวๆ ในทีวีซึ่งคุณนายใจดีเปิดให้ดูบ่อยๆ สมัยยังอยู่กับเจ้านายใจดีคนนั้น
ก่อนที่พวกหมาหน้าโหดจะตั้งสติได้ แมวปิลาร์ก็เผ่นแพลวขึ้นไปอยู่บนกองฟืนเสียแล้ว พวกหน้าหมาจึงทำได้แค่ล้อมวงเห่าอยู่โดยรอบ หมาตัวหนึ่งอับอายจนต้องหันไปเห่าใบตองแห้งแก้เขิน
แมวที่ส่งเสียงเรียกป็นแมวตัวเมียตัว ลายขาวเหลืองค่อนข้างผอมโซ ลักษณะท่าทางเป็นแมวบ้านนอกสมบูรณ์แบบ เทียบไม่ได้เลยกับแมวในเมืองอย่างปิลาร์
ขอบใจนะที่บอก
แมวปิลาร์ยืดคอนิดๆ แบบแมวคุณนายอย่างไว้เชิงและไว้ตัว แน่ล่ะ.. ก็เรามันแมวลูกครึ่ง แมวในเมือง อย่างไรก็ต้องเหนือกว่าแมวบ้านนอกอยู่แล้ว
คุณคงเป็นแมวแปลกหน้าสำหรับที่นี่
แมวบ้านนอกถาม ในขณะมองอย่างสุภาพและอ่อนน้อมถ่อมตน
ฉันผ่านมาโดยบังเอิญน่ะ
แล้วจะไปไหนต่อคะ
ประโยคนี้ทำเอาปิลาร์คอแข็ง ไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนเหมือนกัน
ถ้าไม่มีที่พักไปพักที่บ้านฉันก่อนก็ได้นะ
แมวเจ้าถิ่นดูเหมือนจะสังเกตสถานการณ์ของแมวมาเยือนออก จึงเอ่ยปากชวนอย่างหวังดี พลางแนะนำตัวเองก่อนว่า
อ้อ..ฉันชื่อมะเหมี่ยวค่ะ
ฉันชื่อปิลาร์
ยินดีที่รู้จักค่ะ คุณปิลาร์
ฮื่อ..
ตามมานะคะ ระวังพวกหน้าหมานั้นด้วย
แมวเจ้าถิ่นค่อยพาเพื่อนใหม่ลัดเลาะไปตามกองฟืนขนาดยักษ์ ลัดเลาะอย่างชำนาญและคุ้นเคยสถานที่ไปตามหลังคาเตี้ยๆ ขึ้นไปตามหลังคาซึ่งปูด้วยแผ่นไม้ เวลาเหยียบให้ความรู้สึกต่างไปจากหลังคากระเบื้องอย่างบ้านในเมือง การปีนป่ายไม่เป็นปัญหาสำหรับแขกใหม่ของที่นี่ เพราะเรื่องปีนป่ายปิลาร์ถนัดอยู่แล้ว ส่วนบรรดาหมาก็ยังด้อมๆ มองๆ ตามแห่แหนเป็นระยะตามความเหมาะสม
ฉันอาศัยอยู่บนหลังคาโรงครัว กับลูกอีกสามตัวค่ะ
มะเหมี่ยวชวนคุย ในขณะพาเพื่อนใหม่ลัดเลาะไปตามหลังคาบ้านซึ่งแต่ละหลังไม่ห่างกันมากนักอย่างไม่รีบร้อน
อ้าว..แต่งงานแล้วเหรอ
แมวปิลาร์ถามอย่างงงๆ เพราะดูว่ามะเหมี่ยวอายุก็รุ่นราวคราวเดียวกับตัวเอง ทำไมมีครอบครัวเร็วจังเลย
สังคมแมวบ้านนอกก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ ...
หลังคาบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านใหญ่โตพอสมควร บริเวณหน้าจั่วมีมุมให้หลบแดดหลบฝน และที่นั่นเอง ลูกแมวน่ารักสามตัวกำลังพากันเรียงแถวเอียงคอมองมาตาแป๋ว
แม่มาแล้ว.... แม่มาแล้ว
บรรดาลูกๆ พากันร้องอย่างดีใจ แต่ก็ชะงักเมื่อเห็นแม่พาแมวแปลกหน้ามาด้วย
ลูกๆ ของฉันค่ะ.. มะเหมี่ยวแนะนำลูกๆทั้งหลาย
ตัวขาวจุดดำตัวเล็กกว่าเพื่อนนั่นตัวเมียชื่อเหมียวน้อย ตัวขาวลายเหลืองนั่นชื่อกะปอม ตัวขาวจุดน้ำตาลนั่นชื่อกุดจี่
.สองตัวนี่ตัวผู้วัยซน
..อ้าว แมวน้อยทั้งหลาย มาทักทายสวัสดีป้าเขาสิจ๊ะ
ไม่ใช่ป้า...พี่ ...เป็นพี่
แมวปิลาร์สะกิดสีข้าง มะเหมี่ยวยิ้มอย่างเข้าใจแล้วพูดขึ้นใหม่ว่า
..อ้าว แมวดีตัวน้อยทั้งหลาย มาทักทายสวัสดีพี่ปิลาร์สิจ๊ะ
พี่เขาเป็นแมวในเมือง มาพักอยู่กับเราระยะหนึ่ง
แมวในเมือง....
พวกแมวน้อยพากันร้อง ทำตาโตอย่างตื่นเต้น
ปกติแล้วหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ไม่เคยมีแมวในเมืองมาเยี่ยมเยือนเลย เรื่องราวภายในเมืองจึงคล้ายมายาภาพที่สวยงามเต็มไปด้วยแสงสีราวสวรรค์ของแมวทั้งหลาย
กะปอมกับกุดจี่เข้ามาหาด้วยสายตาแสดงความขื่นชม แมวปิลาร์รีบยืดคอวางมาดทันที
ลองแตะดูสิ
กุดจี่กระซิบเบาๆ ข้างหูกะปอม ขณะที่วนไปมารอบๆ แขกผู้มาเยือน
แมวในเมืองเชียวนะ..ลองแตะดูแล้วเอาไปคุยให้พวกแมวท้ายหมู่บ้านรับรองว่ายืดเลยล่ะ
เอางั้นเหรอ
เอางั้นเลยล่ะ
กุดจี่เชียร์ แมวกะปอมจึงค่อยๆ ยื่นอุ้งเท้าหน้าซ้ายไปแตะขาหน้าข้างขวาของปิลาร์เบา ๆ
ไชโย....ได้แตะแล้ว ได้แตะแล้ว !!!!!!
กะปอมน้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจที่ได้แตะแมวในเมืองอย่างไม่เคยคาดคิดหรือฝันมาก่อน คืนนี้เขาคงนอนไม่หลับแน่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ พรุ่งนี้คงจะเอาไปคุยรอบหมู่บ้านว่าได้แตะแมวในเมือง คงเท่ห์พิลึก ส่วนกุดจี่กองเชียร์ได้แต่มองด้วยความอิจฉา เพราะตัวเองไม่มีความกล้าพอ แต่รับบทเป็นแมวยุยงล่ะเก่งนัก
นี่หนูๆ เอ้ย..แมวๆ ทั้งหลาย มีมรรยาทบ้างสิ เดี๋ยวอายคุณปิลาร์เขา
มะเหมี่ยวส่งเสียงปรามลูกๆ
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตามสบาย เด็กๆ ก็อย่างนี้แหละค่ะ กำลังซนตามประสาแมวน้อย
พี่ครับ..
กุดจี่เอ่ยขึ้นเบาๆ อย่างเกรงใจ
เอ่อ...แมวในเมืองเหาะได้ไหมครับ
อะไรนะ....แมวเหาะ
ปิลาร์ทำหน้างงทันที เพราะนึกไม่ถึงว่าจะเจอคำถามแบบนั้น แต่พอมองหน้าแมวถาม ก็เห็นใบหน้านั้นใสซื่อบริสุทธิ์ไร้เดียงสาและอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น แมวพวกนี้เป็นแมวบ้านนอก ไม่เคยเดินทางเข้าไปในเมือง ทำให้เรื่องราวชองแมวในเมืองเป็นเรื่องราวที่พิสดารพันลึก ยิ่งนานยิ่งมีการแต่งเติมเสริมสร้างจนเพริดแพร้วพิสดารราวเทพนิยาย
ปิลาร์ยิ้มพลางบอกว่า
แมวที่ไหนๆ ก็เหาะไม่ได้หรอกจ๊ะ....พวกเราไม่ใช่แมวเทวดา
แหม..นึกว่าจะเหาะได้เสียอีก แล้วอาหารการกินคงกองเป็นผู้เขาเลากาใช่ไหมครับ
กองเป็นผู้เขาเลากานั่นมันขยะแล้วจ๊ะ
แมวปิลาร์ยิ้มอย่างรู้สึกขำในความคิดของกุดจี่ แมวบ้านนอกคงมองภาพแมวในเมืองหรูหราราวแมวฟ้าแมวสวรรค์
โอ.....อย่างนั้นคงสนุกสนานมากเลย
กุดจี้น้อยทำตาลอย เลียปากแผลบๆ
คงตะกายหาอาหารอย่างสนุกสนาน เลือกกินไม่หวาดไม่ไหว น่าอิจฉาพวกแมวกรุงจังเลย อาหารการกินเหลือเฟือแบบนั้น
.เล่าให้ฟังบ้างสิครับเรื่องกองขยะในฝันนั่น
จากคุณ :
GTW
- [
21 พ.ค. 48 22:02:34
]