ตอน "แร๊พ-นางเงือก-เกาะแก้วพิศดาร"
เนื่องจากปรานทัศน์ไม่เคยสนใจเรื่องราวของสุนทรภู่เลยจึงทำให้เขาประติดประต่อเรื่องราวอะไรในยุคนี้ไม่ได้เลยดังนั้นเขาจึงเริ่มเปิดหาข้อมูลในหนังสือเล่มนั้นให้มากที่สุด เย็นนั้นขณะที่ปรานทัศน์กำลังคร่ำเคร่งอยู่กับการค้นหาประวัติของสุนทรภู่อยู่ด้วยหนังสือเล่มเก่าเล่มนั้น
เจ้าเป็นกวีหรือ? เสียงนั้นถามขึ้นมาอย่างกะทันหันปรานทัศน์จึงไม่ทันได้ตั้งตัว
เอ่อ...ช-ใช่ ขอรับ เขาตอบด้วยความตกใจ
แล้วนั่นหนังสือตับจากหรือทำไมไม่เห็นเหมือนของบ้านเมืองข้าเลย สุนทรภู่สังเกต
มันคือกระดาษนะขอรับ
กระดะ-กระ? เจ้าเรียกมันว่าเยี่ยงไรนะ
กระดาษ ขอรับ กระดาษ
กระดาษ อ๋อ แล้วมันใช้เขียนดีกว่าใบลานหรือ
ดีกว่ามากขอรับ
สงสัยข้าคงต้องไปเยี่ยมเยียนบ้านเมืองเจ้าจริง ๆ เสียแล้วไว้ให้ข้าเสร็จธุระทางนี้ก่อนแล้วข้าจะตามเจ้าไป พอพูดจบสุนทรภู่สีหน้าหมองเศร้าขึ้นทันทีจนสังเกตได้ ปรานทัศน์เห็นท่าไม่ดีจึงถามขึ้นมา
เอ่อ...แล้วท่านจะทำอย่างไรต่อไปขอรับ
มิรู้สิ หลังจากองค์เลิศหล้านภาลัยทรงเสด็จสวรรคตแล้ว ชีวิตข้าคงเปลี่ยนไปแน่ ๆ
ทำไมล่ะท่าน ปรานทัศน์สงสัย
ก็เพราะ องค์เจษฎาบดินทร์ท่านมิชอบด้วยการกวีนะสิ อีกอย่างข้าเกรงว่าอยู่ไปก็รังแต่จะมีภัยถึงตัวเพราะว่าข้านั้นได้หักหน้าพระองค์ด้วยการแก้บทกวีของพระองค์ถึงสองครั้งสองครา ข้าเห็นทีจะต้องขอลาจากราชวงศ์นี้เสียที สุนทรภู่ทำหน้าสลดพลางเปิดหนังสือของปรานทัศน์ดูตัวหนังสือไทยสมัยใหม่ได้มีการปรับแก้แล้ว จึงไม่เหมือนกับสมัยเก่าแต่จะคล้ายกันมากสุนทรภู่เห็นแปลกตาเลยถามขึ้นมาว่า
นี่ลายสือบ้านเจ้าหรือที่เมืองไทย น่ะ แปลกตาดีเหลือเกินมันเรียกว่าภาษาอะไรหรือ?
ภาษาไทยขอรับ
แล้วมันเหมือนของพวกขอมหรือเปล่าล่ะ? เอ...แต่ว่ามันดูคล้ายลายสือของสยามบ้านข้าเลยไว้เจ้าสอนข้าบ้างได้หรือเปล่า
โอเคขอรับ
ฮะ เจ้าว่าเยี่ยงไรนะ
ป-เปล่าขอรับ
มิเป็นไรดอก เจ้าสอนภาษาของบ้านเจ้าให้ข้าบ้างก็ได้มันน่าขันดีข้าชอบ สุนทรภู่เริ่มอารมณ์ดีขึ้นปรานทัศน์เห็นดังนั้นจึงหยอกล้อ
โอเคก็ได้ขอรับโอเค
ดี ในเมื่อเจ้าเป็นกวีเยี่ยงข้าเราคงสนทนากันถูกคอมากขึ้น เยี่ยงนั้นเรามาเป็นสหายกันเถอะ
เช้าวันรุ่งขึ้นปรานทัศน์เดินทางเข้าวังกับสุนทรภู่ ด้วยความตั้งใจที่ว่าจะไปขอลาออก วันนั้นสุนทรภู่จึงมีความเศร้าใจมากเพราะเขารักงานที่ตนทำอยู่แต่ด้วยสถานการณ์บังคับอีกทั้งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 ไม่ทรงโปรดบทกวีเขาจึงไม่มีทางเลือก
หลังจากลาออกจากงานสุนทรภู่ก็ตกยากปรานทัศน์เห็นทุกอย่างแห่งความลำบากและเขาก็อยากจะช่วยเย็นวันนั้นทั้งสองนั่งอยู่นอกชานปรึกษาหารือกันสุนทรภู่นั่งดื่มเหล้าเรื่อยมาตั้งแต่วันที่ลาออกและมีท่าทีว่าจะดื่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
ท่านขุน ต่อไปท่านจะทำอะไรล่ะขอรับ ปรานทัศน์ตั้งคำถาม
มิรู้สิ คงจะต้องประพันธ์คำกลอนหรือนิยายขายแล้วล่ะ
ให้ข้าช่วยนะท่าน ปรานทัศน์เสนอตัวเพราะขณะนั้นสุนทรภู่เหมือนคนหมดอาลัยตายอยากและเขาก็ไม่สามารถแม้กระทั่งจะแต่งกลอนสักบทตอนนั้น
ปรานทัศน์ไม่มีความสบายใจเป็นอย่างมากที่เห็นสุนทรภู่เป็นอย่างนี้เขาจึงนำกลอนบทหนึ่งของเขาแกล้งทำเป็นดูแล้วพูดขึ้นว่า
ท่านรู้มั๊ยว่าข้าเห็นบทกลอนพวกนี้แล้วข้านึกถึงอะไร ปรานทัศน์ชักชวนเพื่อดึงความสนใจของสุนทรภู่เพื่อให้กลับมาใส่ใจกับงานประพันธ์อีกครั้ง
นึกถึงสิงใดหรือท่าน สุนทรภู่ถามพลางทอดสายตามาที่กลอนบทนั้น
ข้านึกถึงเพลงแร๊พน่ะท่าน ปรานทัศน์คิดว่าถ้าเขาเกร็งพูดจาตามน้ำต่อไปคงไม่ดีแน่ ไหนๆ คนในสมัยนี้ก็ไม่รู้จักประเทศไทยอยู่แล้วเขาจึงเริ่มใช้ภาษาของเขาเองเพื่อจะได้ดูเหมือนว่ามาจากที่อื่นจริงๆ
เพลงแลบ! สุนทรภู่โพล่งขึ้นมา
แร๊พนะท่าน ไม่ใช่แลบ!
แล้วมันคล้ายกับเพลงเรือหรือบทละครหรือเปล่า
เอ่อ...แบบว่ามันก็คล้ายๆ กันนะแต่ของข้ามันจะมีจังหวะ ตึ๊บๆ น่ะ
ตึ๊บๆ เอ...แบบไหนนะ เจ้าลองเล่นเพลงแร๊พหรืแลบอะไรของเจ้าให้ข้าชมหน่อยสิ ด้วยจิตใจที่เป็นกวีสุนทรภู่จึงสนใจทันทีแล้วปรานทัศน์ก็นึกสนุกจึงสอนสุนทรภู่ไป
ก่อนอื่นนะท่าน เรามารู้จักท่าประกอบเพลงกันก่อนนะ ทำตามข้านะ เขายกมือขึ้นระดับสายตาแขนชูตรงไปข้างหน้าใช้ปลายนิ้วที่เรียงติดกันสี่นิ้วชี้ลงพื้นแล้วพูดออกมาดังๆ โย่! สุนทรภู่เห็นดังนั้นก็เกิดความอยากเรียนรู้จึงทำตาม โย่ นี่หรือคือท่าฟ้อนรำของบ้านเมืองเจ้า เจ้ารำกันแปลกๆ อย่างนี้หรือสุนทรภู่พูดพลางหัวเราะชอบใจ
เอ่อ...ก็เป็นบางกลุ่มน่ะท่าน ปรานทัศน์ยิ้มแหยๆใจหนึ่งก็คิดไปว่าถ้าอาจารย์สอนภาษาไทยที่โรงเรียนเห็นว่าเค้ากำลังสอนให้สุนทรภู่กวีเอกของโลกเล่นพิเรณอย่างนี้ล่ะก็มีหวังโดนยำเละแน่ๆ
สุนทรภู่มีอาการที่ดีขึ้นมากเย็นวันนั้นเองทั้งสองก็ได้นั่งปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรต่อไปเกี่ยวกับเรื่องที่สุนทรภู่คิดขึ้นใหม่
ทัศน์บ้านเมืองเจ้าช่างน่ารื่นรมย์ดีนะแล้วอยู่ที่นั่นเจ้ารับตำแหน่งอะไรหรือเหมือนข้าหรือเปล่า
นักศึกษาขอรับ เขาตอบ
นักศึกษา อือ...แปลกดีนะ
ท่านขุนขอรับให้ข้าช่วยท่านประพันธ์งานชิ้นใหม่นะขอรับข้าอยากช่วย
ได้สิ สุนทรภู่ตอบ เข้านอนเถอะรุ่งเช้าเราต้องตื่นแต่เช้า
ทั้งสองแยกย้ายกันไปนอน ปรานทัศน์เริ่มคิดถึงบ้านแล้วไม่รู้ว่าแม่ของเขาจะเป็นห่วงหรือเปล่าแต่เขาอยู่กับสุนทรภู่มาเกือบ 2 อาทิตย์โดยลืมคิดถึงเรื่องกลับบ้านเสียสนิทแต่ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวเขาจึงไม่รู้ว่าจะคิดไปทำไมเขาจึงหลับไป
เช้าวันต่อมา
โย่! ท่านขุน ปรานทัศน์ทักสุนทรภู่ขณะที่เขานั่งอยู่ที่นอกชานหน้าบ้าน
อะไรหรือคำนั้นอะไรที่เจ้าทำเมือครุ่น่ะ
เป็นการทักทายแบบ แร๊พๆ ที่ข้าสอนท่านเมื่อวานไง แบบโย่ น่ะ โย่
หึ ๆ เจ้านี่หน้าขันเสียจริงนะ สุนทรภู่ชวนปรานทัศน์ออกไปนั่งทำงานที่ริมน้ำ
แสงแดดยามเช้าต้องผืนน้ำสวยงามมากและจากที่ปรานทัศน์อ่านประวัติของสุนทรภู่ในหนังสือเล่มนั้นปรากฏว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่แต่งหลังจากลาออกจากราชการแล้วเขาจึงถามขึ้น
ท่านขุนประพันธ์มากี่ชิ้นแล้วขอรับ
ก็ไม่กี่ชิ้นดอกนะแต่ส่วนใหญ่ข้าจะชอบคำกลอนมากกว่าเรื่องนิทานน่ะ
เอ่อ...ท่านขุนลองประพันธ์เรื่องแปลกๆ ดูบ้างใหมขอรับปรานทัศน์แกล้งเสนอ
เยี่ยงไรหรือ สุนทรภู่เริ่มสนใจ
อือ เห็นแม่น้ำสงบอย่างนี้ข้านึกถึงนางเงือกนะท่านรู้จักหรือเปล่าเงือกน่ะ
เงือกหรือมันคือสิ่งใดหรือ
อ๋อ เป็นคนครึ่งปลาน่ะท่าน
มีหรือแล้วมันอาศัยอยู่ที่ใดล่ะ
ก็ไม่ทราบนะ แต่บ้านเมืองข้าเค้าเล่าต่อกันมาว่าอยู่แถวทะเลลึกน่ะ
น่าแปลกดีนะ เยี่ยงนั้นข้าขอมาเป็นตัวละครในนิทานเรื่องใหม่ของข้าได้หรือไม่ สุนทรภู่ถามอย่างกระตือรือร้น
เรื่องอะไรล่ะท่าน ปรานทัศน์ถามขึ้นทั้งที่รู้ว่ามันคือเรื่องพระอภัยมณี
เกาะแก้วพิสดารน่ะ สุนทรภู่ตอบอย่างมั่นใจเพราะเรื่องที่นึกขึ้นได้นั้นมันต้องมีแต่สัตว์แปลกๆ พิสดารๆ ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะว่าเขามัวไปนึกถึงแต่นางเงือกเป็นส่วนใหญ่
อ้าว! ไม่ใช่เรื่อง พระอภัยมณี หรอกหรือ ปรานทัศน์ถามอย่างงงๆ
แล้วเจ้ารู้ได้เยี่ยงไรว่าข้าคิดชื่อนั้นไว้ แต่ไม่เป็นไรข้าได้เรื่องใหม่ๆ แล้ว
ปรานทัศน์คิดในใจว่าถ้าเขาไม่พูดถึงนางเงือกเด็กไทยก็ได้อ่านพระอภัยมณีอยู่แล้ว แล้วดันไปพูดทำไม เขาคิดอยู่พักหนึ่งแล้วได้ความคิดว่า
แล้วทำไมท่านไม่นำทั้งสองเรื่องมารวมเข้าด้วยกันเสียล่ะ ปรานทัศน์เสนอ
ทัศน์ เจ้านี่เป็นกวีชั้นยอดจริงๆ นะขอบใจมาก ข้าว่าเรื่องนี้ต้องขายดีแน่ๆ เลยเช่นนั้นเราให้ชื่อเรื่องว่าพระอภัยมณีแล้วกันเจ้าว่าเยี่ยงไร
ดีขอรับ ปรานทัศน์ตอบอย่างโล่งใจไม่อย่างงั้นเด็กไทยคงไม่รู้จักพระอภัยมณีแน่นอนเพราะในนิทานตามที่ปรานทัศน์คิดคงมีแต่สัตว์ประหลาดแน่ๆ
สุนทรภู่ทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นมาว่า ข้าได้เนื้อเรื่องแล้วเอาเยี่ยงนี้นะ เจ้าคอยเล่าถึงสัตว์แปลกๆ ของบ้านเมืองเจ้าส่วนข้าจะคิดเนื้อเรื่องเอง โอเคนะ สุนทรภู่ล้อเล่นกับปรานทัศน์เพราะตอนนี้จิตใจของเขากลับสู่สภาพดีมากแล้วและประกอบกับที่เขาได้นิทานเรื่องใหม่แล้วจึงอารมณ์ดี
โอเคก็โอเคขอรับ ปรานทัศน์รับคำ
แล้วต่อจากนี้เขาจะต้องช่วยสุนทรภู่แต่งเรื่องพระอภัยมณีต่อไปและนี่เองคงเป็นเหตุผลที่เขามีหนังสือเล่มนี้ติดตัวมาด้วยแต่ถึงอย่างไรเขาก็จะช่วยสุนทรภู่จนถึงทีสุดอยู่แล้ว
จากคุณ :
ขุนไกรพลพ่าย
- [
วันวิสาขบูชา 00:41:14
]