CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    มนตรา (ฉบับแก้ไข) บทที่ 25 ตอน คลื่นใต้น้ำ

    ตอนที่ 25 คลื่นใต้น้ำ


    ...เพดานไม้..เป็นภาพแรกที่เห็นเมื่อลืมตาตื่น  กรรณิกานอนกระพริบตามองอยู่หลายครั้งจึงหยัดตัวลุกขึ้นมานั่ง  รับรู้ถึงความนุ่มยวบของเตียงขนาดใหญ่สีขาวที่มีร่างปุกปุยสีเทานอนหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องอยู่เคียงข้าง  


    และเมื่อเลื่อนสายตามองเลยไปทางขวาของเตียงจะเห็นช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ปราศจากกระจกกั้น  และผู้คนมากมายด้านล่างเดินสัญจรสวนกันขวักไขว่  ถัดจากหน้าต่างลงมาคือโต๊ะกลมทำจากไม้เนื้อแข็งสีเข้ม  มีเหยือกและแก้วน้ำทำจากไม้ชนิดเดียวกันวางตั้งเรียงรายอยู่ แล้วภาพความทรงจำล่าสุดก็ผุดขึ้นมาในหัว


    ...อิซัคใช้เวทย์เรียกประตูมิติพามายังเมืองซีเรียส  หลังจากนั้นก็มาเช่าที่พักที่นี่เพื่อจะได้นอนรอพวกฮาเรฟกับยัยจาที่คาดว่าน่าจะยังมาไม่ถึง  และทันทีที่ได้ห้อง...ทั้งเธอและยัยอรก็ขึ้นมานอนเล่นบนเตียงจนเผลอหลับไปไม่รู้ตัว ...


    คิดพลางอดเหลือบมองเพื่อนร่วมทางสี่ขาที่กำลังนอนหลับบนพื้นข้างโต๊ะกลมไม่ได้  พลันเงาวูบไหวของใครบางคนเบื้องล่างก็พุ่งเข้าสู่ดวงตา  ใครบางคนที่เธอจะไม่สนใจเลยถ้าคน ๆนั้นไม่มีรูปร่างหน้าตาหน้าเหมือนเจ้าดำยามเป็นคนเมื่อวานนี้...


    ไวเท่าความคิดเธอรีบเหวี่ยงเท้าหนาหนักลงจากเตียง ชะโงกหน้าออกจากขอบหน้าต่างเท่าที่ร่างอวบอ้วนจะอำนวย  เพื่อดูให้แน่ใจว่าสิ่งที่เธอเห็นไม่ได้เกิดเพราะตาฝาด หรือเมาขี้ตา


    โครม..


    จู่ ๆเจ้าดำที่เธอคิดว่าหลับก็ลุกพรวดกระแทกโต๊ะกลมจนเซล้ม  พร้อมของที่วางอยู่ข้างบนตกกระจายกลิ้งอยู่บนพื้น ส่งเสียงดังปลุกร่างเล็ก ๆบนเตียงให้สะดุ้งงัวเงียตื่นขึ้นมา


    หากตัวต้นเหตุไม่สนใจเพราะความสนใจทั้งหมดพุ่งไปที่ชายด้านล่างผู้มีใบหน้าเหมือนกับมันยามเป็นคนเมื่อวานนี้เท่านั้น  หากแววตาใช้มองกลับทั้งกร้าว ดุดันและน่ากลัวราวกับจะฆ่าให้ตายด้วยสายตา


    ‘อเดนเต้!!’


    เป็นคำพูดทิ้งท้าย ก่อนที่มันจะกระโดดออกจากหน้าต่างลงไปด้านล่างเพื่อสร้างความชุลมุนวุ่นวายและกลืนหายไปกับฝูงคนที่พากันแตกฮือ


    “เจ้าดำมันเป็นอะไรของมันเนี่ย”  ผู้เป็นพี่หันไปมองแมวสาวที่กำลังจิกปลายเท้าไปข้างหน้าและเหยียดร่างบิดขี้เกียจบนเตียง  นึกเห็นด้วยในใจแต่เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้เจตนาจะถามเธอจึงไม่ตอบอะไร  เดินไปยกโต๊ะและเก็บข้าวของที่ตกระเนระนาดอยู่บนพื้นขึ้นมาตั้งเหมือนเดิม  หากสายตากลับเลื่อนไปมองภาพผู้คนวุ่นวายเบื้องล่างอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว  พร้อมกับปริศนาในใจผุดขึ้นมาอีกครั้ง


    ...ทำไมเจ้าดำตอนเป็นคนจึงมีใบหน้าเหมือนชายคนที่มันเรียกว่า ‘อเดนเต้’ และทำไมเมื่อวานหญิงสาวที่ชื่อลัสจึงไปกอดมัน หรือเพราะเข้าใจผิดว่ามันคือ ‘อเดนเต้’...แล้วถ้าเป็นการเข้าใจผิดทำไมมันถึงกอดตอบ  ไม่สิ...ถ้าไม่ใช่การเข้าใจผิดล่ะ..!!


    ...ถ้าสมมติว่าเจ้าดำรักลัสทั้ง ๆที่เป็นสุนัข...แต่บังเอิญเธอมีคนรักอยู่แล้วชื่ออเดนเต้  นั่นก็พอจะตอบได้ว่าทำไมพอกลายเป็นคนมันถึงมีใบหน้าเหมือนชายคนนั้น  เหมือนชายคนที่มันหวังอยากจะเป็นตลอดมา และเมื่อบังเอิญเจอลัส  ซึ่งเข้าใจผิดว่าเจ้าดำคืออเดนเต้  ทำให้เธอโผเข้าไปกอด  ส่วนเจ้าดำที่หลงรักลัสอยู่แล้วก็เลยกอดตอบ...แต่พอเธอรู้ความจริงจึงใช้เวทย์นิทรากับเจ้าดำและจากไป..


    สิ่งที่คิดทำเอาใจหายวาบ เพราะมันช่างดูสมเหตุสมผลเสียจนน่ากลัวว่าจะเป็นเรื่องจริงมากกว่าแค่การสันนิษฐานมั่ว ๆของเธอเท่านั้น  แต่สุดท้ายจะจริงหรือเท็จ ผู้ที่จะยืนยันคำตอบนี้กับเธอได้คงมีเพียงเจ้าดำเท่านั้น...


    แอ๊ด...ปัง


    ประตูไม้หน้าห้องเปิดและปิดลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับชายหนุ่มผมแดงก้าวฉับๆเข้ามาข้างใน  มือสองข้างถืออะไรบางอย่างคล้าย ‘ถุง’ สีเขียวขนาดใหญ่  แต่เมื่อสังเกตให้ดีแล้วสิ่งนั้นน่าจะทำจากใบของต้นไม้อะไรสักอย่างที่นำมาสานต่อกันแน่นจนสามารถใส่สิ่งของได้


    แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้นน่าจะเป็นของข้างใน ‘ถุง’ ที่ส่งกลิ่นโชยมายั่วน้ำลาย จนต้องหยุดความคิดทั้งมวลในหัวลงแทบจะทันที เพราะกลิ่นนั้นช่างเหมือนกับหมูทอดกระเทียมพริกไทยอาหารโปรดของเธอเหลือเกิน...


    “ว้าว..กลิ่นเหมือนพิซซ่าหน้าชีสเลย”  คำพูดที่ได้ยินทำให้กรรณิกาอดเหลียวไปมองน้องสาวบนเตียงไม่ได้  ก็เธอได้กลิ่นหมูทอดกระเทียมพริกไทยนี่นา  แต่ไหงยัยอรถึงได้กลิ่นพิซซ่าหน้าชีสไปได้  แล้วความสงสัยก็ยิ่งทวีมากขึ้นกว่าเดิมเมื่ออิซัคนำถุงนั่นวางลงบนโต๊ะกลมใกล้เตียง และใช้มือฉีกปากถุงออกจากกันเพื่อให้ทุกสายตาได้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน  สิ่งที่มีรูปร่างคล้ายกับซาลาเปาสีขาวจำนวนมาก


    ...เหมือนซาลาเปาแบบไม่มีไส้  แต่ไหงกลิ่นดันเหมือนหมูทอดกระเทียมพริกไทยล่ะ  ...


    ‘อยากรู้ ก็กินพิสูจน์เลยสิ’ อิซัคอมยิ้มนิด ๆอย่างเจ้าเล่ห์  พลางหยิบ ‘อาหารบนโต๊ะ’ ส่งยื่นให้หญิงสาวร่างอ้วนรับไปพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะมอง สัมผัส หรือสูดดม และ..ชิม


    งั่บ...   งั่บ  งั่บ งั่บๆๆๆ


    อาหารชิ้นแรกหมดไปอย่างรวดเร็วทั้งที่ตั้งใจจะแค่ชิม  แต่ทันทีที่เจ้าก้อนนั่นเข้าไปในปาก มันก็แผ่กลิ่นอายและรสชาติหมูทอดกระเทียมพริกไทยร้อน ๆกระจายไปทั่วปาก  ยิ่งเคี้ยวยิ่งเหนียวนุ่มราวกับกำลังกินหมูหมักทรงเครื่องรสชาติเยี่ยมแบบที่เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม  


    นั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเปลี่ยนจากการชิมเป็นสวาปามแทนจนกระทั่งหมดชิ้นแรก ชิ้นที่สอง  ชิ้นที่สาม  และชิ้นที่สี่กำลังรอจ่อคิวอย่างเป็นระบบระเบียบ


    ‘อร่อยใช่ไหมล่ะ’ เสียงทักขึ้นมาทำให้อาการยัด เอ๊ย กินของสาวอ้วนชะงักเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่เสียกระบวน


    ‘กินต่อไปเถอะ  มีอีกเยอะ  เจ้านี่น่ะเป็นอาหารที่มีรสชาติเปลี่ยนไปตามสิ่งที่คนกินอยากกินมากที่สุด  ไม่ว่าจะกลิ่นหรือรสชาติ...เป็นที่สุดของอาหารแห่งอเวนิสเชียวนะ  หาง่ายราคาถูกและยังอร่อยอีกด้วย’  คำอธิบายประกอบราวกับได้ค่านายหน้ามา  ทำให้เจ้าตัวบนเตียงฟังแล้วน้ำลายสอจนต้องละเมิดกฎไม่กินอาหารเย็นของตัวเอง  กระโดดลงจากเตียงไปสะกิดขาอ้วนดำของผู้เป็นพี่สาวให้แบ่งให้บ้าง


    ‘อยากกินเหรอ...’  คนพูดฉวย  ‘ซาลาเปา’ จากมืออ้วนๆที่กำลังยื่นให้น้องสาวขึ้นมาถือไว้สูง เพื่อล่อร่างสีเทาให้ออกแรงกระโดดงับ  แต่เพราะความไม่เคย  จึงกลายเป็นล้มก้มจ้ำเบ้าไม่เป็นท่าแทน เรียกว่าทั้งเจ็บทั้งอายจนอยากสะบัดหน้าพรืดงอนไม่กินไปเลย  ถ้าไม่ติดที่กลิ่นยั่วน้ำลายหอมหวนจนกระตุ้นความอยากอาหารที่แทบไม่เคยมีมาก่อนของเธอล่ะก็...


    ‘อยากกินก็กระโดดให้ถึงสิ  เอ้า  อีกนิดเดียวเท่านั้นเอง ...หรือถ้าไม่อยากกินก็...ไม่เป็นไร  ข้ากินเองก็ได้’  อิซัคหัวเราะร่วน  นัยน์ตาเป็นประกายพราว  แกว่ง ‘ชิ้นอาหาร’ ในมือล่อแมวสาวไปมา  พลางยักคิ้วให้อย่างล้อเลียน  งานนี้เจ้าเหมียวเลยเปลี่ยนจากกระโดดงับ ‘ซาลาเปา’ เป็นงับขาคนแกล้งแทนซะเลย


    ภาพหยอกล้อแมวสาวกับหนุ่มหล่อตรงหน้า  ทำเอาหญิงสาวอีกคนในห้องอิ่มเอาดื้อ ๆ เบนหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้งด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก นอกจากคิดถึงเจ้าดำขึ้นมาจับใจ



    ก๊อก ก๊อก ก๊อก


    เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นเรียกความสนใจจากทุกคนภายในห้องให้หันไปมอง  กรรณิกาเป็นคนแรกที่ได้สติเดินแกมวิ่งไปเปิดประตูให้คนข้างนอก..ที่คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าดำ..


    แอ๊ด...


    ด้านหลังประตูคือหญิงสาวงดงาม ผู้มีดวงตาสีม่วงเปล่งประกายสดใส และเรือนผมยาวสลวยสีแดงเข้มที่เธอจำได้ดีว่าจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคนที่แย่งคำคืนอันแสนหวานของเธอไป!!


    ‘ลัส!!’ เสียงที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้กรรณิกาสะดุ้งโหยง นึกว่าเธอเป็นฝ่ายหลุดปากเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายขึ้นมา  


    ‘อิซัค!!’


    ผู้มาเยือนแทรกผ่านตัวเธอเข้ามาในห้องและวิ่งไปกอดชายเจ้าของชื่อแน่น ราวกับภาพเมื่อค่ำคืนฉายซ้ำอีกครั้ง เพียงแต่คราวนี้เปลี่ยนจากเจ้าดำเป็นอิซัคที่สวมกอดร่างบางนั่น


    ‘ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน’ ลัสพูดขึ้น มองใบหน้าหล่อที่เหมือนใครบางคนที่แสนคิดถึง จนน้ำตาเอ่อคลอขึ้นกลบดวงตาคู่งาม


    ‘ข้าก็คิดถึงเจ้าเหมือนกัน’ คำตอบจากอีกฝ่ายเสียดแทงบาดลึกใจใครบางคนที่ยืนยังตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น


    ‘ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ’ คำถามนั้นทำให้ร่างบางในวงแขนมีอาการกระตุกอย่างแรง  สักพักจึงนิ่งสนิทราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แต่ยังไม่ทันถามว่าลัสเป็นอะไร  คำพูดห้วนแฝงไปด้วยอารมณ์ของสัตว์สี่เท้าข้างตัวก็ดังแทรกขึ้น


    “คงรักกันมากสินะ ถึงต้องถามไปกอดไป!!” แม้อิซัคจะรู้สึกโหวงในใจกับคำพูดที่ได้ยิน หากเลือกที่จะไม่สนใจ  จนคนในวงแขนนั่นแหละที่ต้องเป็นฝ่ายถอยผละออกมา  


    ‘เอ่อ..คือ..เราไม่ได้เจอกันมานานแล้ว’ ลัสนึกว่าเสียงที่ได้ยินในหัวมาจากหญิงสาวอัปลักษณ์ที่ยังยืนมองเธอนิ่งอยู่หน้าประตู  จึงหันไปส่งยิ้มให้อย่างขอลุโทษ  หากอิซัคกลับปรายตาดุไปประสานกับแมวสาวที่จ้องมองอยู่ก่อนหน้าอย่างคาดโทษ  หากอะไรบางอย่างที่เห็นในแววตาหญิงสาวต้องสาปทำให้รู้สึกเจ็บแปล๊บกลางใจ ด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถบอกได้ และไม่พร้อมที่จะค้นหาว่ามันเกิดขึ้นเพราะเหตุใด  ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะละเลยมันไปเช่นทุกครั้ง

    (มีต่อ)

    แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 48 09:24:02

    จากคุณ : Sushii - [ 24 พ.ค. 48 10:07:04 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป