ฝากขอบคุณทุกความคิดเห็นจากกระทู้ที่แล้วด้วยนะคะ คุณกาญจน์ฏี คุณปิยะรักษ์ คุณscottie
ขอตอบคุณหนมจีนจากตอนที่สองเกี่ยวกับเรื่องเกมนะคะ เกม CSI มีสามภาคเป็นเกมคอมค่ะ ได้ยินว่า xbox ก็มี ให้เราเป็นนักอาชญาวิทยาคอยเก็บหลักฐานให้หมด เล่นง่ายเก็บให้หมดไว้ก่อน ภาค miami จะดีที่สุดเพราะบั๊กน้อยที่สุด ส่วน Law & Order นี่มีสี่ภาค เราจะได้เป็นนักสืบ(ต่างจาก CSI เล็กน้อย ตรงที่ไม่ได้วิเคราะห์หลักฐานเอง) พอหาหลักฐานจับได้แล้วเราก็ต้องเป็นอัยการทำการฟ้องในศาลด้วยซึ่งยากมากค่ะเพราะมันเป็นศัพท์ทนายน่ะค่ะ แต่ก็สนุกดีค่ะ ถ้าจะลองเล่นขอแนะนำ Justice is served ซึ่งผู้ต้องสงสัยและพยานมีเกือบ 20 คน
สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่าน(รวมถึงรีวิวเกมเกี่ยวกับนักสืบที่เราจะค่อยๆเอามาใส่) อ่านได้ที่นี่นะคะ
http://celleigh.exteen.com/
เนื้อเรื่องนี่ใกล้จะถึงจุดสนุกๆแล้วค่ะ
--------------------------------------------------------
รถหยุดอยู่ที่หน้าบ้านแห่งหนึ่ง เป็นบ้านไม้เก่าๆสองชั้น สีเขียวอ่อนที่ผนังบ้านเริ่มจางหายไป บางส่วนก็มีรอยน้ำฝนหรือรอยขาวด่างขึ้นมาแทนที่ ที่นี่เคยเป็นบ้านหลังเก่าของเคท ก่อนที่เธอจะมาซื้อบ้านที่อยู่ในเมืองเพราะมันใกล้ที่ทำงานกว่า ข้าวของส่วนใหญ่ที่ไม่ใช้ส่วนมากจะถูกเก็บอยู่ที่นี่ เธอยังจำได้ว่าตอนเธอเป็นเด็กที่นี่สวยงามต่างจากตอนนี้อย่างมาก อาจจะเป็นเพราะบ้านที่ทำด้วยไม้มักจะทรุดโทรมเร็วแล้วเธอก็ไม่มีเวลามาที่นี่บ่อยซะด้วย
เคทหยิบพวงกุญแจขึ้นมา เธอมองตัวเลขบนกุญแจก่อนจะไขประตูหน้าบ้านเข้าไป ข้างในเป็นห้องนั่งเล่นกว้างๆ ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องน้ำและห้องครัว แต่ตอนนี้ที่นี่ดูโล่ง เครื่องใช้บางชิ้นถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้า เธอเดินขึ้นบันไดไป ดอนปิดประตูตามเธอมา
"ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าเรากำลังหาอะไรอยู่" เขาถามขณะเดินขึ้นบันได เขามองไปรอบๆบ้านอย่างกังวลใจอาจจะเพราะมันดูไม่น่าจะมีอะไรที่จะเป็นประโยชน์เลย
"เบาะแสไง" เธอตอบขณะกำลังไขประตูที่ห้องนอนเก่าของเธอเอง
ภายในห้องมีเตียงไม้ขนาดเล็กสีแดงเข้ม โต๊ะกลมทรงสูงที่อีกด้านของเตียง และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ริมหน้าต่าง ดอนรีบเดินตรงไปที่ปลายเตียงเขาหยิบตุ๊กตาหมีขึ้นแล้วขยำที่ตัวมันเล่นพร้อมกับยิ้มให้เธอ
"คุณก็มีของแบบนี้กับเค้าด้วยเหมือนกันนี่" เคทมองที่เขาเหมือนคุณครูกำลังมองเด็กที่ทำผิด รอยยิ้มเขาเริ่มจางหายไป ก่อนจะวางตุ๊กตาลงแล้วขอโทษ เคทรีบยกเก้าอี้มาตั้งก่อนจะดึงตะขอที่เปิดห้องใต้หลังคาลงมา เธอหยิบบันไดมาพาดเอาไว้
"ช่วยจับบันไดหน่อยสิคะ ดอน" เธอพูด เขาถอดแจ็คเก็ตหนังสีดำยาวเกือบถึงเข่าวางไว้ที่เตียงก่อนมาช่วยจับขาบันได ข้างใต้ห้องหลังคาเป็นที่สำหรับใช้เก็บของสมัยที่เธอยังอยู่บ้านนี้ เธอเคยกลัวที่นี่มากจนไม่กล้าขึ้นมาเลย แต่สำหรับการหาเอกสารเก่าๆของพ่อของเธอ บางทีที่นี่อาจมีอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง เธอหันไปมองดอนกำลังจะปีนบันไดขึ้นตามมา
"คุณรอที่นั่นดีกว่าค่ะ จะได้จับบันไดให้ฉันตอนลงไป" เคทรีบพูดเพราะเธอไม่อยากให้เขาเข้ามายุ่งกับของส่วนตัวของเธอ สีหน้าของดอนเหมือนพลาดอะไรสนุกไป แต่เขาก็พยักหน้ายอมรับ
เกือบสามชั่วโมงแล้ว การค้นหาของที่นี่เหมือนเป็นการเรียกความทรงจำในอดีตของเธอกลับคืนมา เธอเจอไดอารี่เก่าของเธอ ที่มุมห้องเธอเจอภาพวาดของอเล็กซ์พี่ชายของเธอ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาชอบวาดภาพมากและเขาก็วาดภาพได้เก่งพอตัวเลยทีเดียว
เคทรวบรวมของที่เป็นเอกสารและของที่อาจจะมีประโยชน์รวมใส่กล่องเดียวกัน เธอตะโกนให้ดอนมาช่วยจับบันไดก่อนจะเอามือโอบรอบกล่องแล้วปีนลงมา
ทันใดนั้นเธอก็ก้าวพลาดเนื่องจากไม่กล้าปล่อยมือจากลัง ทำให้เธอเสียหลักตกลงมาทั้งตัว ลังที่เธอโอบอยู่ร่วงออกจากมือของเธอ เสียงแก้วแตกดังสนั่น
เคทรู้สึกทันทีว่าดอนเอามือประคองข้างหลังเธอเอาไว้ก่อนที่เขาจะดึงตัวเธอหลบบันไดที่ล้มลงมาได้ทันเวลาพอดี ทั้งคู่ก็ยืนอยู่ด้วยความตกใจ ของที่อยู่ในลังตกกระจายอยู่เต็มพื้น บางจุดมีเศษแก้ว เคทถอนหายใจเพราะของส่วนมากเป็นของสำคัญซะด้วย ก่อนจะนึกได้ว่าตอนนี้ดอนกำลังกอดเธออยู่และมือของเขาก็อยู่ส่วนหน้าอกของเธอ
"เอ่อ ดอน" เธอพูดกับเขา เพราะเขายังไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยมือ
"ขอโทษๆ" เขาปล่อยแล้วมือยกขึ้นเหนือศรีษะเพื่อบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ เคทยักคิ้วแล้วก็ก้มเก็บของบางอย่างใส่กล่อง ดอนก็ช่วยเธอเก็บเช่นกัน
เคทยังพูดไม่ออก เธอน่าจะส่งลังให้ดอนก่อนปีนลงมา แต่ไม่นานนักเธอก็สะดุดตากับกุญแจสีเงินขนาดเล็กดอกหนึ่งที่ตกอยู่บนพื้น ตอนที่เก็บของเธอไม่ยักเห็นมีกุญแจซักดอกดูจากขนาดแล้วมันไม่น่าจะไว้ใช้ไขประตู นึกไม่ออกว่ามันใช้ไขอะไรในบ้านนี้ได้บ้าง เธอยกมันขึ้นดูใกล้ๆมีเศษผงสีเทาติดอยู่ด้วย เธอหันกลับไปมองของที่กระจัดกระจายอยู่
'มันอาจจะมาจากอะไรที่แตก' ดอนหันมามองเพราะเธอหยุดเก็บ
"มีอะไรหรอ" เขาถามขึ้น เคทส่งกุญแจให้เขา เขาหยิบมันมาดูใกล้ๆ
"ขนาดของมันคล้ายกับกุญแจสำหรับไขลิ้นชัก แต่มันมีรอยประทับเฉพาะตัวที่ด้ามจับ ฉันไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลย" เธอพูด ดอนพยักหน้าก่อนจะส่งให้เธอคืน
"ที่นี่พอจะมีอะไรที่น่าจะไขได้ไหมล่ะ" เขาถามด้วยน้ำเสียงแบบนักสืบ แต่เคทส่ายหน้า
"งั้นลองส่งไปให้หน่วยค้นข้อมูลดูดีไหม เผื่อจะได้อะไรขึ้นมาบ้าง" เคทพยักหน้ารับ เธอไม่คิดว่ามันจะมีประโยชน์ซํกเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วตอนนี้
หลังจากที่ช่วยกันเก็บของใส่กล่องจนเรียบร้อย เคทเพิ่งจะสะดุดตากับถุงแฮมเบอร์เกอร์สีขาวและถ้วยกาแฟบนโต๊ะริมห้อง
"ผมซื้อมาเผื่อคุณด้วย เรายังไม่ได้กินข้าวกลางวันกันเลยนี่" ที่จริงเคทหิวอยู่เหมือนกันหลังจากที่นั่งจัดของมานาน เธอจึงพยักหน้าและยิ้มให้เขา อย่างน้อยดอนก็ไม่ใช่คู่หูที่ไม่เอาไหนเลยเสียทีเดียว
ท้องฟ้าสีเทาในตอนบ่าย ที่จริงเคทชอบท้องฟ้าสีแบบนี้มากทีเดียวเพราะอย่างน้อยก็ไม่มีแดด เธอกับดอนกำลังนั่งกินแฮมเบอร์เกอร์อยู่ที่บันไดหน้าบ้าน เธอกำลังครุ่นคิดถึงกุญแจดอกนั้นและวิธีที่จะหาเบาะแสเพิ่มเติมอยู่ก่อนที่เขาจะถามถึงเรื่องพ่อของเธอ
"สรุปว่าเขามีความสำคัญต่อคุณมากใช่ไหมล่ะ" เคทพยักหน้า ที่จริงเธอไม่ชอบพูดเรื่องครอบครัวให้ใครฟังเท่าไหร่ แต่ในฐานะคู่หูแล้วคงพอจะยกเว้นได้
"ตอนเด็กๆฉันไม่ค่อยมีเพื่อนหรอกนะ ฉันชอบปีนต้นไม้ ขี่จักรยาน จึงมักจะได้เล่นกับกลุ่มเด็กผู้ชายมากกว่า จนกลุ่มเด็กผู้หญิงแถวนี้พากันเกลียดฉัน" เธอเว้นวรรคอยู่ชั่วครู่ มันเป็นความทรงจำที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย แต่ก็คงจะดีถ้าได้พูดมันออกมาบ้าง ดอนยังคงเคี้ยวแฮมเบอร์เกอร์แล้วมองมาที่เธอ
"มีอยู่วันหนึ่ง เด็กผู้หญิงข้างบ้านของฉัน ตะโกนล้อว่าฉันบ้าที่เล่นอะไรแบบเด็กผู้ชาย ที่จริงมันก็ไม่ได้รุนแรงมากนักหรอกนะ แต่ตอนนั้นฉันรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นตัวประหลาดไปเลย" เธอยิ้ม ถึงตอนนี้ถ้าเธอโดนล้อแบบนั้นเธอคงจะไม่รู้สึกอะไรซักนิด เธอหันกลับไปหาเขา ตอนนี้เขาหยุดเคี้ยวแล้วหันมามองที่เธอเหมือนกับรอฟังว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
"ฉันร้องไห้ วิ่งกลับบ้าน พ่อเดินเข้ามาถามฉันว่าเป็นอะไร ฉันถามเขาว่าทำไมพระเจ้าถึงสร้างให้ฉันเป็นตัวประหลาด" เธอถอนหายใจก่อนจะเริ่มเล่าต่อไป
"เขาเข้ามากอดฉันแล้วบอกว่า ลูกไม่ได้เป็นตัวประหลาด พระเจ้าตั้งใจสร้างลูกให้แตกต่างจากคนอื่น เพราะความแตกต่างนั้นไม่ใช่ความประหลาดแต่เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีเอกลักษณ์และพิเศษกว่าคนอื่นๆ" เธอหัวเราะเบาๆแม้จะรู้สึกว่าเริ่มชื้นคอและน้ำเสียงเริ่มสั่นแล้วก็ตาม พ่อยังคงเป็นต้นแบบในใจเธอตลอดมารวมถึงการที่ทำให้เธออยากเป็นนักอาชญาวิทยาด้วย เคทพยายามหันไปมองที่พื้นแล้วเริ่มคิดถึงเรื่องอื่น ดอนเอามือจับไหล่เธอเอาไว้
"ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงสำคัญสำหรับคุณ" เธอพยักหน้า เขายืนขึ้นแล้วหันมาที่เธอ
"มีคนบอกว่าเสียเวลาเปล่าที่มาทำคดีนี้ แต่ผมไม่คิดแบบนั้นหรอกนะ ถ้าผมมีโอกาสทำอะไรให้กับคนสำคัญของตัวเองซักครั้ง เป็นผมก็คงทำเหมือนกัน" เขายักไหล่ เคทยิ้มแล้วมองหน้าเขา นี่แหละคำปลอบใจที่ดี เธอรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย
เคทเพิ่งจะเดินเข้าห้องทดลอง หลังจากที่เธอแยกออกมาจากดอน เขาบอกว่าจะส่งกุญแจนั้นไปตรวจสอบ เกรซเดินสวนออกมาพอดี เคทจึงเดินตามไป เกรซขมวดคิ้วก่อนจะพูด
"ฉันได้ยินจากแฟรงค์แล้ว เสียใจด้วยนะเรื่องคู่หูคดีนี้" เธอพูดขึ้นขณะเดิน
"มันก็ไม่เลวร้ายมากนักหรอกนะ" เคทตอบ เกรซยักไหล่
"แล้วคดีเมื่อคืนสองวันก่อนล่ะ" เคทถามขึ้นเพราะความอยากรู้ ถึงแม้ FBI จะมารับช่วงต่อไป แต่เกรซน่าจะได้ชันสูตรไปก่อนแล้ว
"ก็ไม่มีอะไรมากนักหรอก ฉันส่งคราบน้ำลายจากคอไปตรวจแล้วก็ผ่ากระสุนออกมา แล้วคดีของเธอล่ะ" เกรซก้มลงมองนาฬิกาขณะเดิน
"ได้มาแค่กุญแจน่ะ ยังไม่รู้เลยว่าจะใช้อะไรได้รึเปล่า ของในกล่องก็ต้องตรวจดูอีกที" เคทตอบ
"วันนี้จะไปดื่มกันหน่อยไหม" เกรซหันมาถามก่อนจะหยุดเดิน ทั้งคู่มาหยุดอยู่ตรงที่หน้าประตูอีกด้านหนึ่งของสถานีตำรวจ เคทอยากกลับไปตรวจของที่ได้มามากกว่าแต่เธอก็ไม่อยากทำร้ายจิตใจของเพื่อนสาว
"ก็ได้ๆ แต่ไม่อยู่ดึกนะ" เกรซยิ้มทันที ก่อนจะกระพริบตาให้กับเคทเพื่อเป็นสัญญา
ที่บาร์แห่งหนึ่งในเมือง เป็นบาร์ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ดูทันสมัยและมีลูกค้าเยอะทีเดียว เคทไม่ค่อยได้มาที่นี่บ่อยนักแต่ดูเหมือนเกรซจะรู้จักที่นี่ดี เพราะเธอเดินเข้าไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์อย่างเป็นกันเอง ส่วนเคทลังเลก่อนจะสั่งตาม ซักพักทั้งคู่ก็นั่งอยู่ที่บาร์ เคทจึงได้โอกาสเล่าเรื่องโจขอเธอแต่งงานเมื่อวานให้กับเกรซฟัง
"โอ้ ว้าว เธอโชคดีจัง ยินดีด้วยนะ" เกรซยิ้มให้เธอ อยู่ๆเคทก็สะดุดตากับผู้ชายคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่โต๊ะเกือบท้ายร้าน
เธอจำเขาได้แล้ว วันแรกเขาวิ่งไล่เธอ วันต่อมาก็ชวนเธอเต้นรำแล้วก็จูบเธอต่อหน้าแฟน แต่วันนี้เขากลับมานั่งอยู่กับผู้หญิงอีกคน ผู้หญิงหน้าตาดีผิวสีคนหนึ่งกำลังเอาแขนเท้าไหล่ของเขา เหมือนกับจะยั่วยวนแต่เขาดูไม่ค่อยจะสนใจผู้หญิงคนนั้นเท่าไหร่ เกรซมองมาที่หน้าเคทแบบสงสัยก่อนจะหันไปมองทางเดียวกับที่เคทมอง
"โอ้ นายตัวแสบคนนั้นน่ะเอง" เกรซยักคิ้วก่อนจะจิบเหล้าในแก้ว เคทหันกลับไป เธอเริ่มเล่าเรื่องที่วิ่งหนีผู้ชายคนนี้ให้เกรซฟัง ทีแรกเกรซก็ไม่เชื่อ
"สาบานได้ ฉันเห็นเขี้ยวเขาจริงๆนะ"เคทพยายามทำให้ดูน่าเชื่อถือ แต่เกรซยังทำหน้าเหมือนฟังเรื่องตลก
"งั้นมันคงอธิบายเรื่องแผลที่คอของศพได้ถ้าเขามีเขี้ยวจริงๆน่ะนะ" เกรซยิ้มแล้วหัวเราะ เธอคิดว่าเคทเล่าเรื่องตลกจนเคทเริ่มมองแบบจริงจัง เกรซเอานิ้วเคาะแก้วซักครู่เพื่อคิด
"ถ้าอย่างงั้นเรามาลองหาวิธีพิสูจน์กันดีไหม" เกรซพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เคทยิ้มทันที นิสัยของเกรซที่เคทชอบที่สุดก็คือการไปไหนไปกันนี่แหละ
"ฉันมีแผน" เคทพูดอย่างมั่นใจ เกรซจึงเอนตัวมาฟังแต่เธอเริ่มขมวดคิ้วเมื่อได้ฟังจบก่อนจะพูด
"ฉันไม่คิดว่ามันจะได้ผลนะ" เกรซพูดพร้อมส่ายหน้า
"อย่างน้อยมันก็น่าจะเป็นแผนที่ดีที่สุดแล้ว" เคทเริ่มมองเธอด้วยสายตาที่จริงจัง เกรซยักไหล่เธอวางแก้วก่อนจะเดินไปกับเคท
จากคุณ :
Daphne
- [
27 พ.ค. 48 00:10:31
A:61.90.12.106 X:
]