CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    น้องใหม่หัวใจ>>รักเธอ<< ตอนที่14

    ทั้งสามคนเดินมาหยุดตรงบริเวณหน้าศาลาที่นัดหมายและค่อย ๆ ทรุดกายลงจับจองพื้นที่เพื่อฟังรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมต่อไป

    “ มีสองคนที่จะมาแนะนำให้รู้จักกันในวันนี้นะครับ คนแรกก็คือผู้ใหญ่บ้านใจดีที่จะคอยช่วยดูแลที่พัก และอาหารการกินของพวกเราตลอดระยะเวลา 3 วัน ที่พวกเราอยู่ที่นี่ และอีกคนก็คือคุณครูหม่อนไหม อดีตรุ่นพี่มหาวิทยาลัยเรานี่เอง หากใครมีข้อสงสัยอะไรก็ถามทั้งสองท่านได้นะครับ เดี๋ยวเราจะแบ่งงานให้โดยสมาชิกชมรมจะต้องแบ่งเป็น3 กลุ่มด้วยกัน และก็รับผิดชอบงานที่มอบหมายให้ หากกลุ่มไหนทำเสร็จเร็ว ก็สามารถมาช่วยกลุ่มอื่น ๆ ได้ เนื่องจากเรามีเวลาจำกัดเพียงแค่สามวัน จึงอยากให้เพื่อน ๆ ช่วยเร่งมือกันหน่อย และตั้งใจทำกันให้เต็มที่ อะไรที่พอจะช่วยได้ก็ขอให้ช่วยกันไปนะครับ โดยจะมีคนในหมู่บ้านที่อยู่บริเวณแถบใกล้ๆ มาช่วยด้วยอีกแรง”

    เมื่อแบ่งกลุ่มเสร็จเรียบร้อยแล้ว พณะก็มอบหมายงานให้กับทุกกลุ่มเพื่อที่จะแจกจ่ายงานไปให้ทุก ๆ คนในกลุ่ม และก็เริ่มลงมือทำกันทันทีอย่างไม่รอช้า เพราะยังคงเหลือเวลาอีกประมาณ3-4 ชั่วโมงกว่าฟ้าจะมืด ได้แค่ไหนก็ทำกันไปก่อนดีกว่าไม่ได้อะไรเลย สิ่งที่ทางชมรมต้องทำให้เสร็จตามเป้าหมายก็คือกลุ่มแรกจะค่อนข้างหนักหน่อย จึงจำเป็นต้องใช้คนมากกว่ากลุ่มอื่น เพราะต้องสร้างห้องสมุดสำหรับใช้ประกอบในการเรียนการสอนของนักเรียนหรือแม้แต่คนอื่น ๆ ในหมู่บ้านแห่งนี้ที่ต้องการจะหาความรู้เพิ่มเติม โดยเขาได้รวบรวมหนังสือที่ได้รับบริจาคมาให้และจัดแบ่งเป็นหมวดหมู่ หนังสือใหม่ ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์ก็หาซื้อมาไว้เช่นกัน มีแม้กระทั่งการทำเกษตรกรรมที่เหมาะกับสภาพดิน ฟ้า อากาศ ของคนในหมู่บ้าน รวมไปถึงงานอดิเรกเป็นอาชีพเสริมของกลุ่มแม่บ้านชาวเขาด้วย แม้แต่ความรู้รอบตัวที่เด็กนักเรียนหรือคนที่ไม่มีโอกาสได้ไปผจญชีวิตในเมืองสักเท่าไหร่ ก็สามารถมาศึกษาหาความรู้กันได้ตามแต่จะสนใจ และยังจัดหาคอมพิวเตอร์มาลงไว้อีก 2 เครื่อง เพื่อให้นักเรียนชาวเขาชาวดอยได้มีโอกาสสำผัสปฏิบัติกันจริง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่เห็นตามหนังสือเท่านั้น แม้ว่าจะไม่ทัดเทียมเหมือนโรงเรียนในเมืองอื่น ๆ ที่เจริญแล้วหากแต่เขาก็คิดว่าคงจะให้ประโยชน์ได้มากพอสมควร งบประมาณเขาก็ได้ได้ติดต่อทางผู้ใหญ่ตามหน่วยงานต่าง ๆ ที่ท่านพอจะช่วยเหลือกันได้มากน้อยแค่ไหนในรูปแบบใดก็ส่งกันมา บางแห่งก็ช่วยมาเป็นพวกอุปกรณ์เช่นปูนนี่ก็ได้มาจากร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างที่ตั้งอยู่บริเวณแถวตัวเมืองเชียงใหม่นี่เอง ซึ่งดูเหมือนจะได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีทีเดียวจากหลายๆ ฝ่าย อาจจะเป็นเพราะพณะเป็นคนมุ่งมั่นพูดจริงทำจริงเสมอ และมีวาจาที่น่าเชื่อถือ อีกทั้งยังเป็นนักกิจกรรมตัวยงจึงมีคนที่เขารู้จักมากมายรวมไปถึงองค์กรใหม่ ๆ ที่เขามักจะเอาโครงการเหล่านี้ไปเสนอและมักจะได้รับการตอบสนองที่ดีกลับมาซะเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงจากมหาวิทยาลัยเองด้วย

    อีกหนึ่งชิ้นที่จะต้องทำให้เสร็จก็คือลานสำหรับปฎิบัติกิจกรรมของเด็ก ๆ โดยอุปกรณ์ต่างๆรวมไปถึงของเล่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ เขาได้เอามาลงไว้เรียบร้อย เมื่อจัดสถานที่เสร็จแล้วก็สามารถเอาลงพื้นที่จริงได้เลย ดูเหมือนกลุ่มนี้น่าจะเสร็จเร็วจึงใช้คนไม่มากนัก

    และอีกกลุ่มสุดท้ายก็คือการแปรรูปไม้ที่ชาวหมู่บ้านหามาเตรียมมาไว้ให้เป็นโต๊ะ เก้าอี้ และชั้นวางหนังสือ อย่างง่าย ๆ ซึ่งก็จำเป็นต้องใช้แรงงานคนมากหน่อยเช่นกัน โดยงานนี้อาจารย์จะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลเอง รวมไปถึงออกแบบให้ด้วย การมาครั้งนี้มีแรงงานมาร่วมใจช่วยกันเยอะพอสมควร เพราะนอกจากจะมีเฉพาะพวกนักศึกษาแล้วพวกชาวเขาเองก็มาช่วยเหลือกัน แม้ว่าจะไม่มากนัก เพราะคนหนุ่ม ๆ มักจะออกไปหางานทำที่อื่นกันมาก ยังคงเหลือไว้เพียงผู้สูงอายุและเด็ก ๆ ซะมากกว่า แต่ยังไงซะพณะก็คิดว่าน่าจะเสร็จทันตามกำหนด

    “ ในที่สุดเดี่ยวกับปุ๋ยก็มาอยู่กลุ่มเดียวกันจนได้ นี่ไงที่เขาเรียกว่าพรหมลิขิต ” พุฒิพงค์พูดขึ้นอย่างดีใจที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับตัณติมาสาวสวยที่ตนหมายปอง
    “ ลิขิตกะผีอะดิ ก็พ่อคุณเสนอตัวมาอยู่ในกลุ่มเองต่างหากแล้วใครจะไปว่าอะไรได้หละ” ตัณติมาหันมาบ่นพึมพำกับมีนาอย่างเอือมระอาเต็มทน

    “ ก็ไม่แน่นะอาจจะเป็นพรหมลิขิตจริง ๆก็ได้ ”มีนาพูดไป มือก็ทำหน้าที่ขนก้อนอิฐมาใส่ไว้ยังรถเข็นที่จะต้องนำไปใช้ในการสร้างห้องสมุด

    “ พรหมเช็ดเท้าสิไม่ว่า แกอย่ามาทำเป็นพูดดีเลย อ้อม ลองถ้าแกโดนแบบฉันดูบ้าง ฉันว่าทันทีที่คำพูดเน่า ๆ หลุดออกจากปากนายนั่น อาจจะโดนแกเตะฟันล่วงไปแล้วก็ได้ แกนะแกไม่น่าไปอือ ออเข้าข้างเขาด้วยเลย ฉันเพื่อนแกนะโว๊ย ” ตัณติมาพยุงรถเข็นที่บรรทุกทรายไว้จนเต็มเคียงคู่ไปใกล้ๆรถเข็นของมีนาที่บรรทุกอิฐ

    “ แกอย่าลืมสิปุ๋ย ว่าฉันเป็นคนเทคแคร์เขานะ เพราะฉะนั้นอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้ฉันก็ช่วยไง อย่างเรื่องของแกเป็นต้น ไม่แน่นะต่อไปมันอาจจะมีดอกและผลตามมาด้วยก็ได้ เขาว่ารักแท้แพ้ยาสีฟัน… ใกล้ชิด ” เจ้าของเสียงพูดจาพาซื่อไปแต่มิวายหัวเราะตบท้ายอย่างขบขำ กับบุบเพอาละวาดที่เริ่มเข้ามาป้วนเปี้ยนแถวเพื่อนสาวคนสวยของเธอ

    “ ทำไมไม่เป็นพี่โยน้า ถ้าเป็นพี่โยสุดหล่อมาพูดกับฉันแบบนี้ ฉันจะยอมถวายตัวถวายหัวใจให้เลย ว่าแต่แกจะให้อะไรเป็นที่ระลึกสำหรับคนที่คอยเทคแคร์แกวะ อ้อม ”

    มีนาไม่ตอบหากแต่ค่อยๆ หยุดรถที่เข็นมาและนำอิฐลงมาเรียงตั้งไว้ตรงบริเวณที่จะสร้างห้องสมุด หากก็ไม่ได้ไกลจากจุดที่กองอิฐ หิน ทราย ทิ้งไว้เท่าไหร่นัก

    แม้จะมีเสียงพูดคุย หยอกล้อกันบ้างจากชาวสมาชิกที่มาช่วยพัฒนากันในวันนี้ หากแต่ก็ใช่ว่าจะทำให้เสียงานเสียการกันแต่อย่างไรเพราะแม้ปากจะพูดแต่ทุกคนก็ร่วมแรงแข็งขันกันอย่างเต็มที่ และยิ่งเมื่อเห็นเหล่าบรรดากลุ่มแม่บ้านในหมู่บ้านที่มีทั้งไทยแท้และชาวเขาปะปนกัน แม้จะมีไม่มากมายนัก หากแต่ทุกคนก็อิ่มท้องกันทั่วหน้า เพราะเหล่าแม่บ้านได้จัดของว่างไว้ให้กินเพื่อแก้หิว แก้เหนื่อยกันไป รวมถึงเด็ก ๆ ชาวเขาที่มายืนดูของเล่นกันตาแป๋ว เหมือนกับกำลังรอว่าเมื่อไหร่จะเสร็จเสียที เพราะพวกเขาอยากเล่นกันเต็มทนแล้ว ยิ่งทำให้กำลังใจวิ่งมาหามากขึ้นอีกโข

    “ พี่โยคะ น้ำค่ะ ”
    ”ขอบใจมาก ครับน้องปุ๋ย ” โยธินวางจอบที่กำลังใช้กวนปูนเพื่อเตรียมจะราดลงยังพื้นที่จะใช้ทำเป็นฐานของห้องสมุด ซึ่งคนในหมู่บ้านได้มาเคลียร์พื้นที่ไว้ให้ก่อนแล้ว และค่อย ๆ รับน้ำจากตัณติมาขึ้นมาดื่มแก้กระหาย

    “ ไม่เป็นไรค่ะ สำหรับพี่โยแล้วน้องปุ๋ยคนนี้เต็มใจเสมอ ” น้ำเสียงว่าหวานแล้วแต่แววตายิ่งหวานกว่า
    “ อ้าวนั่นเสื้อพี่ขาดเหรอคะ งั้นเดี๋ยวตอนค่ำปุ๋ยจะเอาไปเย็บให้นะคะ ”
    “ น้องปุ๋ยมี เข็มกับด้ายเหรอครับ แล้วพี่ก็เกรงใจด้วย ”
    “ ไม่ต้องห่วงค่ะยายอ้อมเขาเตรียมมาครบ พี่โยไม่ต้องเกรงใจนะคะ ปุ๋ยบอกแล้วไงว่าสำหรับพี่โยแล้วปุ๋ยเต็มใจเสมอ”
    มีนาอดไม่ได้ที่จะหันมามองหน้าตัณติมาอย่างหมั่นไส้กับท่าทางบิดไปบิดมาของคุณเธอแต่ก็ไม่ได้พูดว่าอะไร

    “ ปุ๋ยมีเข็มกับด้ายเหรอ งั้นเดี่ยวยืมหน่อยได้ไหม “

    “ เสื้อเดี่ยวก็ขาดเหรอ “ มีนาถามขึ้นมาอย่างสงสัย

    ” ป่าวจะเอามาเย็บหัวใจครับอ้อม เห็นหน้าปุ๋ยแล้วเดี่ยวใจจะขาด”

    จบคำพูดอันหวานซึ้งปานจะกลืนกินของพุฒิพงค์ โยธินที่กำลังยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ก็สำลักแทบจะทันทีเช่นกัน และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างขบขัน พร้อมเสียงโห่ฮาที่ดังตามมาติด ๆ ของสมาชิกในกลุ่มที่กำลังทำงานกันอยู่อย่างขะมักเขม้น ขณะทำงานไปก็คุยกันไปเรื่อยๆ ทำให้ความเหนื่อยลดลงไปได้บ้าง ยิ่งเวลามีเสียงออดอ้อนของพุฒิพงค์ลอยลมมาแจกขนมจีบแม่สาวตัณติมาแบบมุขด้วน ๆด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ลืมความเหนื่อยล้ากันไปเลยทีเดียว

    ในที่สุดความมืดก็เริ่มโรยตัวลงมาทุกขณะ จึงได้เวลาแยกย้ายกันไปตามอัธยาศัย เพื่อชำระล้างร่างกายที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ให้สดชื่นและพร้อมที่จะรับประทานอาหารเพื่อเสริมสร้างเรี่ยวแรงที่หายไปให้คืนกลับมา โดยนัดกันอีกหนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ ทางกลุ่มแม่บ้านทั้งชาวเขาและไทยแท้ พร้อมใจกันมาทำให้ทานกินอย่างสุดฝีมือเลยทีเดียว

    เมื่ออาบน้ำอาบท่าทำธุระส่วนตัว เปลี่ยนองค์ทรงเครื่องกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็มารวมตัวพร้อมกันที่หน้าศาลาจุดนัดหมายเดิม อีกครั้ง เริ่มแยกย้ายตั้งวงรับประทานอาหารกันอย่างตั้งอกตั้งใจเนื่องจากใช้แรงงานไปมากจึงต้องกอบโกยกันให้เต็มที่ ขณะทานกันไป ผู้ใหญ่บ้านและตัวแทนก็ได้ออกมากล่าวขอบอก ขอบใจเหล่านักศึกษาทุกคนที่สละเวลามาช่วยเหลือกัน และขอให้รับประทานกันอย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้จะมีการแสดงพื้นเมืองเล็ก ๆ น้อย ๆ ของกลุ่มเด็ก ๆ และสาว ๆ พื้นเพชาวเขามาให้ชมกันเพื่อความบันเทิง

    ตัณติมารับประทานอาหารไปตาก็อดไม่ได้ที่จะหันไปยังบริเวณที่พณะและสาวข้างกายคนเดิมของเขา นั่งทานข้าวกันอยู่อย่างหมั่นไส้ //อะไรจะหวานกันปานนั้น แทบจะป้อนให้กันอยู่แล้ว

    จากคุณ : dokyaka - [ 28 พ.ค. 48 09:48:51 A:203.150.87.63 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป