CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ติชิลา ตอนที่ 21 และ 22 อวสาน

    ชิลา 21
    พศุตม์หน้าหันทันที  เมื่อถูกกำปั้นใหญ่นั่นปะทะกับใบหน้า ชายหนุ่มไม่ได้ตอบโต้อะไรเพียง แต่ยิ้มบาง ๆ ให้ ก่อนที่จะจูงมืออสมาออกไปจากตรงนั้น  แต่กษิดิสก็คว้าแขนอีกด้านของหญิงสาวรั้งไม่ให้เธอไป พร้อมกับที่มืออีกด้านปัด มือพศุตม์ออกก่อนที่จะรั้งตัวหญิงสาวเข้ากับตัว แล้วตั้งท่าจะหาเรื่องกับอีกฝ่าย ฝ่ายนิชาที่เพิ่งเดินตามมาถึง ตะลึงงันกับเหตุการณ์ตรงหน้า เมื่อครู่นี้เธอเห็นพศุตม์ดึง อสมาเข้ามาหอมแก้ม  แล้วพี่ดิสของเธอก็ทำในสิ่งที่ไม่คาดคิด

    “เป็นอะไรไปครับคุณดิส ทำท่าทางอย่างกับจะอัดผม” ท่าทางพศุตม์ที่ยียวนกวนประสาทแบบนี้ นิชาบอกกับตัวเองว่าเธอไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

    “ก็คุณทำอะไร ก็น่าจะรู้ตัวเองดีอยู่” กษิดิสโพล่งออกมาอย่างเหลืออด

    “ผมทำอะไร”  ชายหนุ่มอีกฝ่ายกลับยอกย้อนเข้าให้

    “ก็คุณล่วงเกิน ผู้หญิง คุณ ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย” กษิดิสยกมือขึ้นชี้หน้าพศุตม์ จนนิชาต้องรีบเข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างชายหนุ่มทั้งสอง กลัวว่าจะเกิดเรื่องเกิดราวกันขึ้นอีก

    “ผมล่วงเกินตรงไหนมิทราบ คุณก็เห็นว่าเธอไม่ได้ขัดขืน” เขาปรายตามองหน้าคู่กรณีที่ทำท่าอยากจะอัดเขาลงไปกองนิดนึงก่อนจะพูดว่า

    “จริง ๆ แล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องของคุณไม่ใช่เหรอ คุณดิส อสมาน่ะเขาอาจจะไม่ชอบที่ผมทำแบบนั้น แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมกับเขา ไม่ได้เป็นอะไรกัน” พูดได้เท่านั้น ปลายหมัดใหญ่ก็ตรงเข้าปะทะที่ใบหน้านั้นทันที ก่อนที่ทั้งสองคนจะลงไปกองกับพื้น

    “หยุดเดี๋ยวนี้นะ ทั้งสองคน” อสมา แผดเสียงลั่น  หญิงสาวมองไปรอบ ๆ นักท่องเที่ยวที่บางตา เริ่มจับกลุ่มมองมาที่ พวกเธอ หญิงสาว ไม่ได้อับอายคนพวกนั้น แต่อับอายในสิ่งที่จะต้องเผชิญเหล่านี้

    “ทะเลาะกันอย่างกับ เด็ก ๆ พศุตม์เราไม่ใช่สิ่งของนะ ที่จะทำอะไรกับเราตามอำเภอใจได้ เรารู้ว่าพศุตม์กำลังช่วยเราแต่ อย่าเลย แบบนี้มันไม่ค่อยดี แล้วที่สำคัญ” เธอหยุดคิด สักครู่ คิดอย่างชั่งใจ ก่อนที่จะตัดสินใจพูดว่า
    “ถึงจะทำแบบนี้ เขาก็คงไม่รู้สึกอะไร คงเป็นแค่สุภาพบุรุษที่รักษาเกียรติผู้หญิงเท่านั้น” น่าแปลกที่เธอกล้าพูดประโยคนี้ใส่หน้าเขา  อสมารู้ว่า เขาไม่ใช่คนโง่ การทำแบบนี้ เหมือนเธอเปิดใจอีกทางหนึ่ง จริงอยู่ ว่ามันน่าอายนัก ที่จะยอมรับว่าเธอมีใจกับเขาตรง ๆ  แต่มันก็คงดี หากถ้าเราสองคนจะมีใจตรงกัน แม้ว่าเธอจะสับสนว่า เรื่องเหล่านี้จะลงเอยกันอย่างไร

    “ตามไปสิพี่” เสียงเล็ก ๆ ของน้องสาว เตือนสติ กษิดิส ให้รีบตามหญิงสาวไป เมื่อเห็นว่าเธอเดินออกไปคล้ายกับว่าไม่อยากเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ

    “เป็นพี่น้องกันหรอกเหรอ” นิชาที่หันไปพยุงชายหนุ่มอีกคนให้ยืนขึ้น ถามขึ้นมาทันที ที่ได้ยินสรรพนาม ที่หญิงสาวใช้เรียก นักธุรกิจหนุ่ม

    “อือ ใช่ค่ะพี่น้อง” ศิรนีย์ ยิ้มให้พร้อมกับตอบเสียงใส ทำให้นิชารู้สึกประทับใจในตัวเธอ  ถ้าไม่เพียงแต่ว่า

    “แหมคุณ เนี่ย เท่ห์จริง ๆเลยค่ะ ศิราชักชอบคุณเขาแล้วสิ” สาวน้อยไม่พูดเปล่า เธอยังคว้าหมับเข้าที่แขน อีกข้างของชายหนุ่มอีกด้วย แล้วช่วยพยุงเดินออกไป ทิ้งให้นิชาที่นิ่งอึ้งที่ถูกแย่งหน้าที่ไป

    ----------------------------------------------------------------------------------------

    “เดี๋ยวก่อนอัส รอ ผมด้วย” กษิดิส ร้องเรียกหญิงสาวที่เดิน จ้ำอ้าวไม่สนใจใคร

    “เป็นอะไรไปน่ะอัส” เมื่อเดินมาทันเขาก็พยายามหาเรื่องชวนคุย เมื่อพบว่าหญิงสาวไม่แม้จะหันมามองหน้าเขาเลย

    “นี่หยุดก่อน” เมี่อหมดความอดทนชายหนุ่มจับร่างบางให้หยุดเดินแล้วก็หันใบหน้านั้นมาประจันกับเขา แล้วถามเธอว่าทำไมเธอทำแบบนี้มีอะไรก็พูดกับเขาได้ กษิดิสไม่เข้าใจกับท่าทางแบบนี้ แม้ว่าเมื่อครู่จะเห็นแววตา ดื้อรั้น และ สับสน ที่นัยต์ตาคู่นั้น

    “ไม่มีอะไร” คำตอบที่ชวนโมโห นั้นทำให้กษิดิส เผลอลืมตัวบีบแขนหญิงสาว แน่นเสียจนเธอ ร้องโอดครวญออกมา

    “ไม่มีอะไรได้อย่างไร ตั้งใจจะทำอะไรกัน น่ะอัส แล้วพศุตม์ล่ะ เขาทำแบบนั้นกับอัสได้อย่างไร แล้วทำไม ถึงต้องมาทำต่อหน้าผม” ตอนนี้เขาไม่รู้อะไรแล้ว มือสองข้างเริ่มเขย่า ร่างหญิงสาวด้วยอารมณ์

    “อัสไม่รู้ แล้วทำไม คุณดิสจะต้องโมโหด้วยล่ะ แล้วหยุดเสียทีได้แล้ว อัสเจ็บ” เธอสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเขา แล้วตะโกนใส่หน้าชายหนุ่มอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

    “คุณทำแบบนี้กับผมได้อย่างไร” น้ำเสียงของชายหนุ่มเต็มไปด้วย ความตัดพ้อ จนหญิงสาวไม่รู้จะทำอย่างไร

    “อัสไม่ได้ทำนะ คุณดิส เรื่องที่เกิดขึ้น พศุมต์ทำไปเอง” สุดท้ายหญิงสาวก็ต้องมาแก้ตัว แก้เรื่องราวให้มันเข้าใจถูกต้องทุกฝ่ายเสียเอง

    “แล้วคุณก็ยอมให้เขาทำ….. อย่างนั้นเหรอ”  อสมาไม่ชอบน้ำเสียงเขาแบบนี้เอาเสีย เลย มันเหมือนกับว่าชายหนุ่มกำลังดูถูกเธออยู่

    “จะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่ อัสไม่รู้อะไร พศุตม์เขาทำของเขาไปเอง และไม่ใช่ อัสยอมให้เขาทำแบบนั้น เพียงแต่เขาทำ โดยไม่แม้แต่จะอัสขัดขืนน่ะสิ”  พูดจบ หญิงสาวก็ทำท่าว่าจะเดินหนีจากเขาไป
    “คุณทำร้ายจิตใจผมนะอัส” เสียงตะโกนนั่นของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวชะงักฝีเท้าไป” เธอหันกลับไปทางด้านเขา เห็นแววตาสับสนนั่นชายหนุ่มเบือนหน้าหนี  หญิงสาวลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินเข้าไปหาเขา ยกมือที่สั่นเทา ขึ้นพยายามรวบรวมกำลังใจ สัมผัสใบหน้าเขาแล้วค่อย ๆ ให้หันกลับมามองที่เธอ

    “อัสทำร้ายจิตใจคุณ หรือคะ” น่าแปลกที่ประโยคนี้ที่หญิงสาวพูดออกไป  เธอรู้สึกว่า เธอได้เอ่ยมันขึ้นมาอย่างมีความสุข เมื่อไม่เห็นชายหนุ่มพูดอะไร หญิงสาวหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วย้ำถามอีกครั้งว่า

    “ทำไมคุณถึงว่าร้าย อัสอย่างนั้นล่ะคะ” คราวนี้ ชายหนุ่มหันมามองสบตาเธอแล้ว ถอนหายใจเมื่อเห็นว่าคราวนี้ หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า กำลังพลิกสถานการณ์ให้เขารู้สึกว่า กำลัง จนมุม อยู่

    “คุณทำร้ายจิตใจผม” ชายหนุ่มสบตาเธอ แล้วย้ำคำพูดทุกคำออกมา
    “อย่างไรคะ” อสมา ยังคงทำหน้าที่เธอต่อไป ยามนี้หญิงสาว แสร้งทำตัวมืดมิด ไม่คิดที่จะเข้าใจอะไรง่าย ๆ

    “คุณให้พศุตม์หอมคุณ” ถึงตอนนี้ชายหนุ่มจับมือหญิงสาว ด้านหนึ่งไว้หลวม ๆ แล้ว พาเธอก้าวช้า ๆ ออกไปตามทางเดิน

    “งั้นหรือคะ”  อสมาแกว่งมือไปมา ตอบคำถามเขาแต่สายตาราวกับว่ากำลังชวนนกชมไม้อยู่อย่างสบายใจ
    “ให้จับมือด้วย” ชายหนุ่ม บอก แต่ก็ได้คำตอบเดิม ๆ จากหญิงสาว เขาจึงหยุดเดิน เมื่อคิดว่า การหลอกล่อครั้งนี้ เขาอาจจะแพ้ก็ได้

    “โอเค ครับ คุณผู้หญิง ผมน่ะหัวปั่นไปหมดแล้ว อย่าตอบแบบนั้นอีกเลยนะครับคนดี” น้ำเสียงของชายหนุ่ม อ่อนโยนเสียจนหญิงสาว ไม่กล้าสบตาเขา

    “รู้ไหมอัส ผมให้คุณได้ทุกสิ่งเลย อย่าทำแบบนี้เลยคุณ ตอนนี้บอกมาทีสิ คนดีของผม ว่าคุณอยากได้อะไร” อสมา สบตาเขา เห็นใบหน้าและ แววตาจริงจังนั้น ครั้นแล้วก็นึกดีใจ เพราะ แววตานั้นอบอุ่นเหลือเกิน เขาจะรู้ไหมนะ ถ้าหากเขามองเธอด้วยสายตาแบบนี้แต่ทีแรก  และ ไม่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ใจดีค่อยพาเธอไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ ไม่ทำให้เธอสับสนไปกับความฝันบ้า ๆ หญิงสาวคงจะเปิดใจไปตั้งแต่ทีแรกแล้ว

    “อัสไม่อยากได้อะไรค่ะ คุณดิส” แต่อสมาก็ตอบคำถามไปเพียงเท่านั้น

    “โธ่ ให้ตายสิ ผมอุตส่าห์เปิดใจ เสียจนหมดแล้วนะ” หญิงสาว นิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะ ยิ้มอย่างอ่อนโยน ดึงแขนชายหนุ่มให้เขามาใกล้ ๆ

    “คุณแน่ใจ หรือคะว่า เปิดใจหมดเกลี้ยงแล้ว” น้ำเสียง แกมขบขันนั่นของหญิงสาว ทำให้กษิดิส แทบบ้า

    “ยัง เพียงแต่ผมยังไม่อยากพูดสิ่งนั้นในเวลานี้”  ประโยคนี้ทำให้หญิงสาวหน้าเปลี่ยนสีไปนิดหน่อย

    “ทำไมละคะ”
    “ก็เพราะว่าที่นี่ไม่โรแมนติคเอาเสียเลย” เขาโน้มศรีษะเข้ามา แล้วกระซิบแผ่วเบาข้าง ๆ หูเธอ ก่อนชี้ชวนให้อสมา มองสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัว ที่มีทั้งคุกที่ทรมานนักโทษ ภาพหัวกะโหลก ต่าง ๆ  ก่อนที่จะหัวเราะ เมื่อ หญิงสาวบอกกับเขาว่า จริงด้วยสิคะ มันคงไม่เหมาะเท่าไหร่  

    “ไว้เราไปหาที่โรแมนติคกว่านี้นะคะ” ชายหนุ่มพยักหน้าให้แล้วก็ชักชวนเธอให้ชมสถานที่ท่องเที่ยวต่อ โดยคราวนี้ ไม่ลืมที่จะ กุมมือหญิงสาวไว้ด้วย

    --------------------------------------------------------------------------

    “นิ นั่นอะไรกันเหรอ” เสียงรุจถามขึ้น หลังจากเที่ยวถ่ายรูปจนหลงหายไปกับกลุ่ม พักใหญ่

    “รู้สึกว่าจะถูกใจกัน” นิชาเอ่ยขึ้น อย่างที่ผู้ฟังแบบรุจสรุปว่ามันเป็นน้ำเสียงที่บ่งบอก ถึงอารมณ์เซ็งสุด ขีด
    “ใครถูกใจใคร” รุจมองภาพที่หญิงสาว หน้าตาดีกำลังทำแผลให้เพื่อนรักของเขา
    “นายก็เบิ่งตาดูเอาเองสิว่าใครกันแน่ที่ถูกใจ แต่ฉันว่าเพื่อนนายน่ะ ก็คงไม่เบาเหมือนกัน ” นิชา เดินประจำที่คนขับแล้วสตาร์ทรถรอ เมื่อเห็นว่า กษิดิส กับ อสมาเดินมาถึงสมทบแล้ว

    “พี่พศุตม์คะ ว่าง ๆ ศิราจะไปเที่ยวที่ไซด์งานนะคะหวังว่าเราจะได้เจอกันอีก” สิ้นเสียงหวานนั่น นิชาก็กระชากรถ เสียจนผู้โดยสารทั้งสามหน้าคะมำ

    “เฮ้ย ขับดี ๆ ก็ได้นิ” เสียงรุจ ตะโกนโหวกเหวกขึ้นมาทันที
    “ขับดีได้แค่นี้ ถ้าใครว่าไม่ดีก็ลงไป” หญิงสาวกระแทกเสียงใส่

    “อย่าพาลน่า”  เมื่อเห็นว่าจะเกิดศึกฝีปากย่อม ๆ ไปตลอดทางแน่ พศุตม์จึงรีบเอ่ยห้าม แต่คำพูดที่เขาเลือกใช้ กับกระทบจิตใจของนิชาอย่างแรง แทนที่จะไปห้ามนายรุจปากเสีย ดันว่าเธอพาล แล้วใครล่ะทำให้เธอพาล รู้อยู่แก่ใจ ไม่อยากให้หงุดหงิด ทีหลังก็อย่ามาทำให้เห็นสิวะ หญิงสาว เข่นเขี้ยวอยู่ในใจ

    พอกลับถึงบ้านนิชา ก็รีบแพ็คกระเป๋าทันทีเธอบอกกับ อสมาว่า จะไปเที่ยว สัก อาทิตย์ ขับรถคันเก่งของเธอไปเที่ยวทางพระตะบอง หรืออาจเลยไปทางพนมเปญเลยก็ได้ แต่ถ้าอสมาไม่อยากไปด้วยก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเธอจะไปเอง  อสมาทักท้วง เพื่อนสาว จนเหนื่อย เมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจก็บอกว่าตามใจ

    แต่ผลปรากฎว่า รุ่งเช้าเมื่อ นิชา เหวี่ยงกระเป๋า ขึ้นรถ ก็กลับมีกระเป๋า เป้ใบโตอีกใบโยนตามมา พร้อม ๆ กับ คว้ากุญแจรถที่มือ เธอไปสตาร์ทรถ
    “ไปเร็ว สายแล้ว” พศุตม์ เอ่ยเร่งหญิงสาวเมื่อเห็นว่าเธอยังไม่มีทีท่าว่าจะขยับออกจากตรงนั้น

    “มาทำไม”
    “อัสโทรไปบอก เราว่าไปคนเดียวมันอันตราย เราเลยจะไปเป็นเพื่อน” จบประโยค ชายหนุ่มก็ บึ่งรถออกไปทันที ทิ้งให้นิชา นั่งจมอยู่กับความคิดคนเดียว ว่าอยากจะจับเพื่อนสาวมาเขย่า หัวเล่นสักสองสามที อุตส่าห์จะหนีไปเที่ยวให้สบายใจ ดันหา ตัวกวนใจ ให้ไปด้วย

    “โอ๊ย ปวดกบาลเสียจริง” เสียงตะโกนของหญิงสาว ทำให้ชายหนุ่มหันมามองทางเธออย่างแปลกใจ
    “เธอนี่พูดไม่เคยเพราะเลยนะ” เสียงตำหนิ เล็ก ๆ นั่นทำให้หญิงสาวที่อารมณ์คุกกรุ่นอยู่แล้ว ทำในสิ่งที่เรียกว่า ตบะแตก ออกไปทันที

    “ใช่สิใครจะอ่อนโยน อ่อนหวาน พูด คะ พูดขา ล่ะ ตัวเองไม่ชอบ ก็ไม่ต้องสนใจก็ได้ แล้วนี่นะ ถ้าเบื่อล่ะก็ รีบเปลี่ยนใจ ลงไปได้เลย ใครใช้ให้มาด้วยเนี่ย” นิชา พูดจบก็หอบ ฮั่ก ๆ แต่ชายหนุ่มน่ะสิ กับส่ายหน้า ไม่สะทกสะท้านอะไร

    “เราขับรถ อยู่ คงไม่เปลี่ยนใจแล้วล่ะ” พูดเพียงเท่านั้น หญิงสาวก็รู้สึกเหมือนกับว่าไม่สามารถทำอะไรชายหนุ่มตรงหน้าได้ จึงเบือนหน้ามองไปทางอื่น

    “แย่จัง อุตส่าห์ นึกว่ามาจะดัดนิสัยให้เรียบร้อย เผื่อจะได้เอามาเชิดหน้าชูตาได้บ้าง” เสียงที่แว่วมาจากคนข้าง ๆ นั้นทำให้นิชาหันขวับกลับไปทันที

    “ว่าอย่างไรนะ”
    “ก็ตามที่พูด ถ้าทำตัวดี ๆ นะ เรา อาจจะ…” ว่าแล้วชายหนุ่มก็หัวเราะ หันมายิ้มใส่ตาหญิงสาวทีหนึ่งก่อนที่ จะหันกลับไปดูทาง นิชานึกขอบคุณฟ้าดินที่พศุตม์เป็นคนขับรถ อยู่ เพราะถ้า เขามีเวลามองหน้าเธอนานกว่านี้ สักวินาที ก็คงจะพบว่า เลือดในกายมันสูบฉีดมาที่ใบหน้ามากเพียงใด


    ปล... ตอน อวสาน  เด๋วนะ จุ๊ ๆ

    แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 48 19:24:14

    จากคุณ : ทะเลกับความมืด - [ 29 พ.ค. 48 19:23:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป