ดวงตาของผมยังมองไปตามร้านขายของที่ระลึก หรือร้านขายของนานาชนิด ซึ่งวางเรียงเหยียดยาวทั้งสองฟากถนน เป็นงานเทศกาลประจำปีที่ร้านรวงจะนัดแนะกันมาเพื่อเสนอสินค้า แม้แต่สินค้าจากกรมราชทัณฑ์ก็ยังมีวางขายอยู่ที่นี่
งานผลิตจากมือ จนไปถึงงานที่เกลาสลักจากเครื่องจักร วางอยู่ดาษดื่น หากมีเงินเยอะพอ ผมอยากได้อะไรหลายอย่างติดไม้ติดมือกลับห้อง ท้องของผมยังคงร้องเร่งมันคงหิวต่ออาหารตรงหน้า ไม่มีทางที่ผมจะตามใจมันหรอกนะหากผมยังไม่เจอต่อสิ่งที่ตัวเองมุ่งหวัง แต่ดวงตาของผมยังไม่พบสิ่งที่ต้องตาพึงใจ ผมยังคงเดินไปตามตรอกซอยแห่งร้านรวงกลับไปกลับมา
แต่ยังคงไม่พบสิ่งของสักชิ้นที่มีค่าพอต่อความต้องการของหัวใจ ที่พร่ำบอกถึงความหมายและนัยยะความสำคัญที่มากกว่าราคาสินค้า ความร้อนเผาน้ำในกายให้ระเหือดเป็นเม็ดเหงื่อผุดพราว ผมไม่แม้จะยกมือปาดเม็ดเหงื่อเหล่านั้นออกจากใบหน้า อันเต็มไปด้วยตรรกะแห่งความครุ่นคิด ผมพอใจให้มันประดับอยู่อย่างนั้น บางทีผมคิดไปว่านั่นคืออัญมณีของคนทุกข์ยาก ที่ควรทะนุถนอมยิ่งกว่าดอกไม้ในแจกันทองคำ
อีกฟากของทางสามแพร่งยังมีร้านที่ตั้งขยายออกไปไม่มากนัก ร้านแรกเห็นเป็นเก้าอี้,โต๊ะ เครื่องประดับตบแต่งที่ทำจากล้อเกวียนเก่า คนขายใบหน้าแต้มหนวดนั่น ทำให้ผมคิดไปว่าเขาหลุดมาจากยุคสมัยเดียวกันกับสิ่งที่เขากำลังนำเสนอ ร้านถัดไปเป็นร้านขายดอกไม้และ ต้นไม้กระถางเล็กๆ
ผมมองต้นกระบองเพชรด้วยความพิศวง คงเป็นไม้ดอกเดียวที่มันจะอยู่กับผมได้ในภาวะแห่งความแห้งแล้งที่ผมเป็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ผมมองกระถางไม้สีเขียวด้วยความพิสมัยในอารมณ์ถวิลหาธรรมชาติที่จากมา แต่ธรรมชาติก็ไม่เอื้อต่อคนจนที่ดิ้นรนในเมืองใหญ่เช่นผม ธรรมชาติในสังคมเมืองมักยอกย้อนเสมอ ผมมีเงินเพียงน้อยนิดนั่นแหละคือธรรมชาติของแรงงานขั้นต่ำอีกเช่นกัน
ได้แต่มองและเสพจินตนาการแห่งการครอบครองเพียงลำพัง ร้านต่อไปต่างหากที่หยุดเท้าของผมเอาไว้ มันถูกตอกตรึงเอาไว้ด้วยความอ่อนโยนของสิ่งผ่านเข้ามากระทบ
ผมแพ้ความงาม ความน่ารัก มันคงเป็นปรากฏการณ์ธรรมดาของผู้ชายอกเปลี่ยว ในกรงขังขนาดเล็กมีหนูตัวจิ๋ว ผมถามคนขายด้วยภาษาของลูกค้าผู้ต้องการครอบครองในสิ่งที่เขานำเสนอ แต่เสียงของชายผู้ขายหวานเหลือเกิน
ผมรู้ว่าตัวเองตกอยู่ในวังวนแห่งความสับสนอีกครั้ง เขาบอกว่ามันเป็นหนูพันธุ์ต่างชาติที่หายากเดินทางมาจากออสเตรเลีย ตัวเล็กเท่าหัวแม่มือแต่ราคามันแพงกว่าเนื้อหมูสองกิโลกรัม ผมตบกระเป๋าฟังเสียงสะท้อนจากธนบัตรมันไม่พอ ผมรู้ ผมเข้าใจเสียงสะท้อนได้ดี ถึงแม้ไม่ใช่อ้ายแบทแมน ผมมองหนูเหล่านั้นด้วยความประหลาดใจ มันนอนหงายท้อง เหยียดขา
ตลกฉิบ..หนูต่างชาติมันนอนได้ทุกท่าแฮะ ผมเกลียดการนอนอย่างเกียจคร้านของมันขึ้นมาสนิทใจ ทั้งๆ ที่หนูตามท้องทุ่งนาบ้านเราต้องดิ้นรนเหลือล้นถึงคาบเม็ดข้าวกลับรูป้อนลูกของมันได้ ต้องผ่านกับดักหลากยี่ห้อ อุปสรรคล้นทุ่ง แต่หนูต่างชาติมันเพียงนอนหงายท้องให้คนป้อนอาหาร ไม่แน่นักมันอาจถือดีในชาติสกุล
ผมผละออกจากกรงหนู มาดูกรงกกระต่ายดีกว่า เอาเข้าแล้ว ผมหลงรักมันแบบประชิด มันยิงดวงตาสีชมพูใส่หัวใจเหงาของผม ขนสีขาวนุ่มสลวยทำให้ผมอดยื่นมือลูบไล้แผ่วเบาไม่ได้ คิดไปถึงหนังสือ เพื่อนยากของ จอน สตินเบิร์ก เพื่อนของพระเอก ชายตัวโต ผู้โง่เขลาชอบลูบไล้สิ่งที่อ่อนโยนและเขาก็ตายเพราะความอ่อนโยน เขาตายเพราะขนนุ่มสลวย
ตอนนี้ผมไม่ต่างจากเขากำลังจะต้องจ่ายเพราะความอ่อนโยนเช่นเดียวกัน อะไรเล่าจะมีค่าไปกว่า สิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวได้ด้วยสี่เท้าน้อยๆ ของพวกมันเอง มันบ่งบอกถึงคุณค่าที่ควรต่อการถนอม ผมจะเลี้ยงกระต่าย แค่คิดความรู้สึกเป็นสุขก็ฉาบฉายในหัวใจแล้ว
2.
ห้องที่เคยตกอยู่กับความเงียบได้ยินเพียงเสียงย่ำเดินของนาฬิกานั้น ได้ถูกลูกกระต่ายสองตัวเข้ามาแทนที่ ดวงตาของมันกวาดมองสิ่งรอบข้างแล้วกระโดดเหยาะไปตามพื้นห้อง ผมได้แต่เฝ้ามองพวกมันอยู่เงียบๆ ดูทุกกิริยาบทที่มันแสดงออกมา จะว่าไปมันก็เหมือนเด็กๆ ที่อยากรู้อยากเห็นต่อสิ่งใหม่ ผมหา กล่องเล็กๆ มาไว้หลังห้องเพื่อทำเป็นบ้านหลังใหม่ของพวกมัน แล้วเอาอาหารสำเร็จรูปใส่ไว้ในจาน เป็นอาหารที่พวกมันเคยชินและกินกันเป็นประจำ แต่เมื่อผมเอาผักบุ้งใส่ลงไปแทน
มันเลือกที่จะกินผักบุ้งกัน ไล่ตั้งแต่ปลายยอดอ่อนลงมา ฟันหน้าซี่เล็กๆ ของมันเคี้ยวรวดเร็ว มันอาจอร่อยที่ได้กินยอดผักบุ้งอวบๆ หรือผักกะหล่ำปลี ในค่ำคืนที่ห่างญาติ
รุ่งเช้าผมก็ต้องพบกับความเสียใจอีกระลอกเมื่อลูกกระต่ายตัวหนึ่งนอนตายอยู่ในกล่อง ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร อาจเป็นเพราะอาหาร หรือไม่ก็ที่แห่งนี้ ไม่มีแม้แสงจันทร์ผ่านมาให้พวกมันชม ผมมองร่างที่เหยียดยาวและแข็งทื่อ ดวงตาของมันยังไม่ปิดลง เหตุใดหนอชีวิตจึงเปราะบางถึงปานนี้ต่อความเป็นอยู่
ส่วนกระต่ายอีกตัวยังคงเคี้ยวยอดผักบุ้งที่ยังหลงเหลืออยู่บ้าง จะรู้หรือไม่ว่าเพื่อนของมันได้จากไปแล้ว หรือว่าธรรมชาติแห่งสัตว์ไม่มีซึ่งความเสียใจต่อโชคชะตาของสัตว์ตัวอื่น
หรือบางทีความเสียใจนั้นมิอาจแพ่งพรายออกมาเป็นภาษาสื่อที่เราเข้าใจได้ ขนของมันยังคงนุ่มสลวย ขนสีขาวยังส่องประกายเกล็ดหิมะต่างแต่ว่าลมหายใจได้เหือดหายไปสิ้นแล้ว ผมห่อร่างมันด้วยถุงพลาสติกและถังขยะหน้าตึกพักคือหลุมฝังศพอันจำเป็น
ผมพร่ำขอโทษในใจและเฝ้าภาวนาขอให้มันไปสู่สุคติในสรวงสวรรค์แห่งกระต่าย บางทีวิญญาณของมันอาจได้ไปอยู่กับบรรพชนที่เฝ้ารักษาดวงจันทร์บนท้องฟ้าอันไกลโพ้น ไปอยู่กับสิ่งที่มันรัก การเดินทางของภพชาติเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเกินกว่าที่ผมจะนิยามตายตัวได้ มันอาจเป็นได้ทั้งดับสูญไม่มีการเกิดอีกและกลับมาเกิดใหม่ได้อีกเช่นเดีวกัน
หากสัตว์มี วัฏจักรหรือนรกสวรรค์เป็นของตัวเอง สัตว์ประเภทกินเนื้อจะได้ผุดเกิดหรือไม่นั้น ก็ยากแท้จะตีความ โชคดีที่กระต่ายของผม มันเกิดมาเพื่อความดีงาม ถึงแม้จะตกตายก็อาจได้อยู่ร่วมกับนางฟ้า
3.
เหลือกระต่ายอีกเพียงตัวเดียวเท่านั้น ขนของมันไม่ขาวราวหิมะเหมือนตัวที่ตายจากไป แต่มีสีน้ำตาลแซมอยู่ทั้งตัว มันแข็งแรงเชียวล่ะ ผมเองก็พลอยมีความสุขไปกับมันลืมความเศร้าโศกที่พึ่งได้รับ ที่ได้เฝ้ามองและเป็นผู้ให้อาหาร
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในนิคมแห่งอุตสาหกรรมก็ตาม สิ่งแวดล้อมที่อันตรายนั้นมิอาจทำให้ดวงตาแห่งความอ่อนโยนของกระต่ายเปลี่ยนไปได้ มันยังคงใช้เวลาว่างในการกินและกระโดดเหยาะไปทั่วห้อง อาณาเขตของมันมีเท่าๆ กันกับผมมี เราต่างตกอยู่ในกรงขังเดียวกัน
มิตรภาพระหว่างผมกับมัน ถักทอขึ้นเรื่อยๆ จากวันเวลาที่เราอยู่ร่วมกัน กลางคืนผมจะอุ้มมันไปนอนในกล่องและหวังว่าเศษผ้าที่รองนอนของมันนั้น จะเป็นคล้ายพรมหญ้าอันวิจิตรในความนึกคิดของมัน ผมอยากบอกมันเหลือเกินว่าอาณาเขตของผู้คนมากมายแถบนี้ก็มีเพียงสถานที่แคบๆ ไม่ต่างกัน วกวนอยู่กับสิ่งเดิมๆ เป็นเดือนเป็นปี สุดท้ายจิตวิญญาณที่มุ่งหวังจะโบยบินไปที่ไหนสักแห่ง ก็แผ่วหายไป เมื่อถูกเบ้าหลอมจากความเคยชินของการงานที่ทำ
ความฝันจึงกลายเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยไปในที่สุด เขามีแต่งานเท่านั้นที่จะดำรงเลี้ยงชีวิตอยู่ได้ มิใช่ความเพ้อฝันบางประการ ฉะนั้นจะต่างอะไรเล่ากับเฟืองของเครื่องจักรในโรงงาน
ผมได้แต่หวังว่ากระต่ายมันยังคงคิดหมายจันทร์ อยากให้มันมีความฝัน ความหวัง ในการเป็นอยู่ ลมหายใจของมันจะได้มีคุณค่ามากกว่าการหล่อเลี้ยงชีวิตไปวันๆ ในห้องสี่เหลี่ยมมันเริ่มคุ้นชินต่อองค์ประกอบภายใน
เช่นเดียวกันกับผมที่คุ้นชินต่อการพบปะกับมันในทุกวัน ผมอาจพูดกับมันบ้างหวังว่าความปรารถนาดีนั้นไร้ซึ่งพรมแดนขวางกั้นทางชนชาติแห่งเผ่าพันธุ์ ผมพอใจที่ได้ลูบขนอ่อนนุ่มที่ละเอียดอ่อนพลิ้วสลวย
บางทีผมก็คิดไปว่าหากมันเกิดมาพร้อมกับความงาม เป็นไปได้หรือไม่ว่าอิสรภาพในการดำรงชีวิต ย่อมมีน้อยกว่าสัตว์ประเภทอื่นๆ เพราะทุกคนต้องการครอบครองในสิ่งที่งดงาม ไม่ต่างจากหญิงสาวผู้เลอโฉมหรอก เธอย่อมโดนหมายปองและถูกเด็ดได้เร็วกว่าหญิงสาวที่มีควางามอย่างพอเพียง
หรือผมก็เป็นเช่นเดียวกับคนอื่น กักขังและหน่วงเหนี่ยวอิสรภาพของมันเอาไว้ในโลกที่มันไม่คุ้นเคย ผมอยากปล่อยมันอยู่หรอกนะ แต่ในนิคมแห่งอุตสาหกรรมนั้น มีกี่ที่กันเล่าที่มันจะกระโดดโลดเต้นไปได้อย่างอิสระ อย่างน้อยในหับห้องนี้ มันยังมีผมเป็นเพื่อน
4.
สิ่งไม่คาดหมายมักเกิดขึ้นกับเราเสมอ บางทีเราอาจเรียกมันว่าปรากฏการเหนือธรรมชาติ บางครั้งเราก็เรียกมันว่าความเซอร์ไพรส์ และมันอาจเป็นได้ทั้งโศกนาฏกรรมชั้นเยี่ยม ในบ่ายของวันหนึ่งในการอยู่ร่วมกันกับกระต่าย ผมยังคงอ่านหนังสือและเฝ้ามองมันอยู่เงียบๆ เพียงเห็นมันนอนตะแคง
เท้าน้อยๆ ตะกุยอากาศไปมา ทีแรกผมแปลค่าในสิ่งที่มันทำนั่นคือการออกกำลังกาย เหมือนอย่างที่ผมเห็นผู้คนตามสวนสาธารณะ แต่ยิ่งเฝ้ามองนานขึ้นเท่าไหร่ ผมก็เห็นขี้สีดำเหลวติดอยู่ตามขนของมันเป็นทางยาว
ที่แท้มันพยายามจะลุกขึ้น ผมรู้สึกถึงสถานที่อันเปลี่ยวร้าง ที่โรยเอาไว้ด้วยกลีบแห่งความเหงาและเปล่าดาย ผมจับมันลุกขึ้นแต่ไม่นานนัก มันก็กลับลงไปนอนหงายอีกรอบ ปากของมันมีคราบสีดำติดอยู่และบางทีเหมือนน้ำตามันจะไหล
ดวงตาสีชมพูนั้นคล้ายเพ่งมองมาที่ผมอยู่ตลอดเวลา ผมได้แต่ให้กำลังใจมันไปว่า เอ็งจะไม่เป็นไร เราจะอยู่ร่วมกันไปอีกนาน มันหายใจแรงเร็วขึ้น ผมเฝ้ามองท้องที่ยุบพองของมัน ห้วงแห่งหายใจกระชั้นถี่
มันร้องดังขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ผมเองก็พึ่งเคยได้ยิน คล้ายเป็นการร่ำลา หรือบางทีมันอาจอยากให้ผมกลับไปอยู่กับสิ่งที่ผมควรอยู่ร่วมมากกว่า ไม่ใช่สถานที่แห่งนี้ ที่ซึ่งจันทร์ไม่อาจเผยดวง
ขาที่ตะกุยอากาศนั้นหยุดเคลื่อนไหวแล้ว ท้องที่เคยยุบพองตามจังหวะแห่งลมหายใจก็คล้ายพอใจที่จะพักผ่อนนิ่งสงบเป็นนิรันดร์ มีเพียงดวงตาของมันเท่านั้นที่ยังเพ่งมอง ผมหายใจเข้าลึกๆ โลกยังคงมีสุขเพียงชั่วขณะและโศกอันถาวรไว้ให้กับทุกผู้คน
หลายวันต่อมาผมเพียงเพ่งมองความเหี่ยวเฉาของยอดผักบุ้งที่เหลือทิ้งค้างเอาไว้ และเพ่งมองดูเงาตัวเองในกระจก ตาของผมช่างคล้ายตาของกระต่ายในวินาทีสุดท้ายที่อยู่ร่วมกันไร้ซึ่งประกายหวัง หรือว่าจิตวิญญาณอันเสรีและต้นไม้ที่วาดไว้ในความฝันกำลังจะตกตายเช่นเดียวกัน
.
ทิวแถวของผู้คนมากมายกำลังหลั่งไหลเข้าสู่ปากประตูโรงงาน ดวงตาของพวกเขาไร้ซึ่งประกาย ใบหน้าเหมือนฉาบเอาไว้ด้วยน้ำแข็งไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใดๆ หนึ่งในนั้นมีผมอยู่ด้วย
.
จากคุณ :
เดอะแหลม
- [
1 มิ.ย. 48 12:21:04
]