ใครหนะน่ารักจัง มีนาทักขึ้นด้วยใบหน้าที่ระบายรอยยิ้มจาง ๆ ไว้ เมื่อสาวน้อยเรือนร่างบอบบางเจ้าของเขี้ยวสะท้อนเงาจันทร์เดินจากไป
อ้อ คนนี้ชื่อเกวนิน อยู่บริหารธุรกิจปีหนึ่งเหมือนกัน แต่คนละห้องกับเราไงจ๊ะ หญิงอ้อม แล้วที่สำคัญสุด ๆ ก็คือคุณเธอยังเป็นน้องสาวคนเดียวของคุณพี่จอยสุดสวยแฟนพี่โยสุดหล่อคนนี้ไง ไม่เชื่อถามพี่โยดูสิ น้อยหน่าจีบปากจีบคอแจกแจงข้อสงสัยให้เสร็จสรรพ
แกนี่รู้ดีจริง ๆ กับเรื่องชาวบ้านเขาเนี๊ยะ ว่าแต่ว่าจริงรึเปล่าคะพี่โย
อือ พี่ก็ไม่ค่อยได้คุยกับน้องเขาเท่าไหร่หรอก เจอกันบ้างเวลามาหาจอย โยธินตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มจาง ๆอย่างไม่ได้คิดอะไรมากมายกับสาวเจ้าที่น้อยหน่าเอ่ยชื่อถึงเมื่อสักครู่ ก็ไอคนที่เขาไม่ค่อยจะคิดอะไรด้วยนี่แหละ ชอบมาวุ่นวายกับเขาเสียเหลือเกิน ส่วนไอคนที่หัวใจเขาคิดถึงแทบตายกลับทำเหมือนว่าเขาไม่มีตัวตนอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของเธอเลยสักนิด
ไม่ใช่ค่ะ ที่ปุ๋ยถามว่าจริงไหม หมายถึงที่ยายพี่จอยนมยักษ์นั่นเป็นแฟนพี่โย จริงรึเปล่าคะ
ปุ๋ย มีนาเรียกเพื่อนเสียงเข้มพร้อมกับกดมือของเจ้าตัวปัญหาไว้เพื่อไม่ให้ละลาบละล้วงไปมากกว่านี้
โยธินมองหน้าตัณติมายิ้ม ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพื่อไขข้อข้องใจเลยสักนิด กลับเสหันไปจิ้มผลไม้ในจานของพณะเข้าปาก เพื่อบิดเบือนความสนใจจากสาวน้อยขี้เล่นช่างถามตรงหน้า
พณะก็ไม่พูดว่าอะไรเช่นกัน ทั้งที่หมั่นไส้ยายช่างจ้อสมองฝ่อนี่ซะเหลือเกิน กลับยื่นจานผลไม้ที่มีไม้จิ้มเสียบไว้เรียบร้อยไปให้ทุกคนได้ลิ้มรสกัน น้อยหน่าจึงลงมือประเดิมเป็นคนต่อไปพร้อมกับพุฒิพงค์ และตามมาด้วยมีนาหากแต่ดูเหมือนใจจะตรงกัน เพราะจิ้มลงบนแตงโมชิ้นเดียวกันกับโยธินพอดีอย่างกับนัดหมายกันมา ทำให้ทั้งคู่ต้องหยุดชะงักไปชั่วขณะ หากแต่มีนาก็วางไม้จิ้มลงทันทีเช่นกันพร้อมกับโยธินที่เห็นปฏิกิริยาของเธอแล้วก็พานทำให้กินไม่ลงไปดื้อ ๆ เลยทีเดียว ส่วนตัณติมานั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะคุณเธอไม่ได้เฉียดมือเข้าไปใกล้จานผลไม้เลย
น้องอ้อมจ๊ะ ว่างรึเปล่าพี่ขอช่วยอะไรหน่อยสิ เสียงปองฟอยดังมาทางเบื้องหลังของพณะและโยธินโดยมี วินัย ปุยฝ้ายเดินตามมาติด ๆ อย่างสงสัย เพราะเมื่อกี้ปองฟอยยังนั่งคุยกันอยู่ดี ๆ จู่ก็ลุกเดินมาเฉยเลย ไม่พูดอะไรสักคำ
อ้อว่างสิคะ พี่ฟอยมีอะไรให้อ้อมช่วยบอกมาเลยค่ะ
พอดีพี่ลืมกล้องไว้ที่บ้านพัก เดี๋ยวจะมีการแสดงพี่อยากถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึก และเอารูปกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางชมรมปฏิบัติกัน ไปไว้ติดที่บอร์ดชมรมด้วย แต่บังเอิญว่าพี่จะต้องไปช่วยดูแลเรื่องอาหารและพูดคุยกับกลุ่มแม่บ้านชาวเขาติดพันอยู่ เลยไปเอาไม่ได้รบกวนน้องอ้อมไปเอาให้หน่อยได้ไหม๊เอ่ย
โธ่เอ๊ย ได้สิคะ เรื่องแค่นี้เอง ไม่ได้เป็นการรบกงรบกวนอะไรเลย
งั้นโย นายไปเป็นเพื่อนน้องอ้อมหน่อยนะ ทางมันมืดเผื่อมีอะไรจะได้ช่วยกัน
เอ่อ
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ให้ปุ๋ยไปเป็นเพื่อนก็ได้ มีนารีบปฎิเสธทันทีโดยอัตโนมัติไม่ต้องเสียเวลาคิด
อ้อ พอดีพี่จะขอตัวน้องปุ๋ยไปช่วยพี่ด้วยจ๊ะ น้อยหน่าด้วยนะ เอ่อแล้วอีกคนที่นั่งยิ้มฟันขาวอยู่นั่นก็ด้วย พี่ขอแรงหน่อย อ้อมเดินไปกับนายโยแล้วกัน ส่วนณะเมื่อกี้หม่อนถามหาอยู่แหนะ เฮ๊ย โยฝากน้องด้วยหละ ปองฟอยหันไปยักคิ้วให้โยธินแต่นัยน์ตากลับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์บางอย่าง
อือ โยธินรับคำในลำคอเบา ๆ และมองปองฟอยอย่างพอจะรับรู้อะไรบางอย่างที่ถูกส่งมาจากแววตาคู่นั้น
ในที่สุดมีนาก็ต้องยอมเดินมาพร้อมกับโยธินหนุ่มหล่อสายเลือดยูโดเพียงลำพังอย่างปฎิเสธไม่ได้ ทั้งๆ ที่ในทางกลับกันแล้วเธอแทบจะไม่อยากอยู่ใกล้ชิดเขาเลยสักนิด เพราะขนาดไกลกันออกอย่างนี้ เรื่องราวต่าง ๆ ของเขาก็มักจะวิ่งวนเข้ามารบกวนหัวใจเธอเสมอ ทั้ง ๆ ที่ร่างกาย สมองล้วนแต่เป็นของเธอ หากแต่เธอก็ไม่สามารถบังคับหัวใจตัวเองที่เป็นของเขาได้เลย
มีนาก้มหน้าก้มตาเดินดุ่ย ๆ ไปเรื่อยๆ เหมือนจะให้ถึงจุดหมายปลายทางโดยเร็วที่สุด ไม่คิดที่จะสนใจชายหนุ่มที่ถือตะเกียงเดินมาเป็นเพื่อนเลยสักนิด ว่าเขาจะตามมาทันหรือไม่ ทำเหมือนว่าเขาไม่ได้มีความหมายใด ๆ กับเธอเลย จนชายหนุ่มอดที่จะกระทบกระเทียบอย่างน้อยใจไม่ได้
ทำไมกับอีแค่เดินมาพร้อมกับผมแค่นี้ มันทำให้คุณลำบากใจนักหนาเหรอ คุณมีนา
รู้แล้วคุณจะถามทำไม
อ้อม
เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นอย่างเจ็บปวดเหมือนโดนทำร้ายอย่างรุนแรง หากแต่ตรงบริเวณที่เจ็บที่สุด ดูเหมือนว่าจะเป็นก้อนเนื้อที่ฝังอยู่ในบริเวณอกข้างซ้ายของเขามากกว่า ในที่สุดเขาก็รั้งมือสาวน้อยชาเย็นตรงหน้าเอาไว้อย่างหมดความอดทน
มีนาชะงักเท้าที่จะก้าวต่อไปทันทีเมื่อรู้สึกถึงสิ่งบางสิ่งที่กำลังลุกล้ำมาเกาะกุมบริเวณมือของเธอ หากแต่ก็ยังมิได้หันกลับไปมองชายหนุ่มเจ้าของเสียงตัดพ้อและมือที่แสนจะอบอุ่นนั้นแต่อย่างใด
อ้อม เกลียดพี่มากใช่ไหม ทำไมอ้อมไม่ฟังในสิ่งที่พี่พยายามจะพูดบ้างหละ ก่อนหน้านี้อ้อมเคยเป็นคนที่มักจะยอมรับฟังคนอื่นเสมอไม่ใช่เหรอ อ้อมคนที่เคยเข้มแข็งพร้อมจะให้อภัยกับในความผิดพลาดของคนอื่น และเป็นคนที่มีเหตุผลที่สุดคนนั้น หายไปไหนแล้ว
อ้อมคนที่คุณเคยรู้จัก คงไม่ใช่คนเดียวกันกับอ้อมที่ยืนอยู่ตรงนี้หรอกค่ะ คุณโยธิน มีนาตอบกลับไปทั้งที่พยายามสะกดน้ำเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเครือเพราะกลัวว่าเขาจะจับความรู้สึกของเธอได้ว่าตอนนี้หัวใจเธอมันอ่อนล้าแค่ไหน หญิงสาวถือโอกาสสะบัดมือชายหนุ่มที่เกาะกุมมือตนเองไว้หลุดออกไปอย่างรวดเร็ว และวิ่งตรงไปยังบริเวณบ้านพักจุดหมายปลายทางทันที
โยธินถือตะเกียงวิ่งตามไปด้วยหัวใจที่สับสน และกลัวว่าความมืดที่ครอบคลุมอยู่ทั่วไปอาจทำให้มีนามองไม่เห็นทาง จนอาจเกิดอันตรายได้ ในที่สุดเขาก็ตามมาทันถึงหน้าบริเวณบ้านพักพอดี ด้วยความที่มืดจึงทำให้มีนามองเห็นบันไดทางขึ้นไม่ค่อยจะชัดเจนนัก
ชายหนุ่มจึงถือวิสาสะจูงมือหญิงสาวอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้เพียงเพื่อพาหญิงสาวเข้าไปด้านในเท่านั้น เพราะแสงจากตะเกียงจะทำให้มองเห็นอะไรชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อมีนาได้ของตามที่ต้องการแล้ว ก็ออกมาพร้อมกับชายหนุ่มคนเดิมที่ยังคงกุมมือเธออยู่อย่างนั้น แม้ว่าจะถึงบริเวณพื้นทางเดินที่ราบเรียบแล้วก็ตาม เขาก็ยังไม่มีวี่แววที่จะปล่อยมือเธอออกแต่อย่างไร หากยิ่งเกาะกุมแน่นขึ้นไปอีกด้วยความที่กลัวว่าหากปล่อยไปแล้วสาวเจ้าจะวิ่งหนีไปโดยไม่ยอมรับฟังสิ่งใด ๆ ที่เขาอยากจะพูดหรืออธิบายจากหัวใจของเขาให้เธอได้รับรู้
ความเงียบค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้ามาเกาะกุมคนทั้งสองไว้ ในที่สุดเขาก็รับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่าง เกิดขึ้นกับสาวน้อยที่เขาถือวิสาสะจูงมือกึ่งบังคับให้ตามมา เพราะนอกจากแรงสัมผัสจากฝ่ามือที่ค่อนข้างจะสั่นสะท้านแล้ว เขา
จากคุณ :
dokyaka
- [
1 มิ.ย. 48 17:25:20
A:203.150.87.243 X:
]