สวัสดีค่า เสนอหน้ามาอีกแล้ว ขอต้อนรับสู่ต้นสัปดาห์ที่ร้อนเปรี้ยงนะคะ...สำหรับตอนนี้จะขอฝากเตือนคุณผู้ชายให้ระวังคนใกล้ตัวไว้ให้ดีๆนะ...เหอๆๆ
------------------------------------------------------------
ความลับใต้ท้องน้ำสีคราม
ภายใต้ค่ำคืนอันร้อนอบอ้าวของเดือนเมษายน
ผู้คนส่วนใหญ่พากันหลับไหลในความมืดมิด เหลือเพียงผู้คนจำนวนน้อยเท่านั้นที่ยังคงลืมตาท้าแสงไฟนีออน
สายลมเย็นโชยเอื่อยเข้ามาตามช่องหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้กระทบกังสดาลพวงเล็กสีเงินยวงที่แขวนกลางหน้าต่างสั่นไหวเสียงดังกรุ๊งกริ๊ง สลับกับเสียงต๊อกแต่กดังรัวเร็วราวข้าวตอกแตกของแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์
หญิงสาวอ่อนวัยที่นั่งข้างหน้าต่างหยุดปลายนิ้ววางค้างบนแป้นพิมพ์ ละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ผินใบหน้าขึ้นมองกังสดาลที่ไหวเอนตามแรงลม และพ่นลมหายใจยาวคล้ายระบายความตึงเครียดอยู่ชั่วครู่ แล้วจึงหันกลับมาที่จอคอมพิวเตอร์พร้อมๆกับเคลื่อนปลายนิ้วรัวเร็วตามตัวอักษรอีกครั้ง
ปลาปักเป้ามีพิษ (PUFFER FISH POISONING)
ปลาปักเป้า หรือ Puffer fish พบได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็มในเขตประเทศที่มีอากาศร้อนและอบอุ่น ได้มีการจัดแบ่งปลาปักเป้าตามหลักทางวิชาการไว้ 2 วงศ์ตระกูล
1. Tetraodontidae ลักษณะปลาปักเป้าจะมีฟัน 4 ซี่ มีผิวค่อนข้างเกลี้ยง
2. Diodontidae ในวงศ์นี้มีฟัน และมีหนามรอบตัวเห็นได้ชัด และในประเทศไทยมีปลาปักเป้าทั้งชนิดที่อาศัยในน้ำจืดและน้ำเค็ม รวมกันประมาณราว 20 ชนิด
ความเป็นพิษ : พิษปลาปักเป้ามีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า เตตโตรโดท็อกซิน (tetrodotoxin) มีสูตรเคมีคือ C11H1708N3 มีน้ำหนักโมเลกุล 319.3 ขนาดที่ทำให้มนุษย์เสียชีวิตอยู่ที่ 2 มิลลิกรัมและมีความทนความร้อนได้เป็นอย่างดี ขนาดความร้อน 170 องศาเซลเซียสต้มนาน 10 นาที สภาพยังดีอยู่เหมือนเดิม
สารพิษเตตโตรโดท็อกซิน จะขัดขวางกระบวนการทำงานของระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาท ทำให้เกิดอาการลิ้นชา เข้าสู่สภาวะเป็นอัมพาต หายใจลำบาก ซึ่งหากเป็นมากจะหยุดหายใจและเสียชีวิตในระยะเวลาสั้น อาการมักจะเกิดขึ้นหลังรับประทานประมาณ 10 45 นาที หรืออาจนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณของพิษ
ปัจจุบันยังไม่มีทางยาแก้โดยเฉพาะ จำเป็นต้องให้การรักษา แบบประคับประคอง จนกระทั่งพิษถูกขับออกจากร่างกายทางไต จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการทุเลาขึ้น
ที่มา : ปลาปักเป้ามีพิษ เขียนและเรียบเรียงโดย ประพันธ์ เชิดชูงาม นพ. ศุภชัย รัตนมณีฉัตร ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
เสียงรัวเร็วกับจังหวะเคาะแป้นพิมพ์ยังคงดังต่อไปอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนที่หญิงสาวจะทำการเซฟข้อมูลทั้งหมดลงแผ่นดิสก์และปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ในเวลาต่อมา
เฮ้อ
เสร็จซะที
เจ้าของร่างเพรียวสมส่วนลุกขึ้นยืนบิดกายไปมา ไล่ความปวดเมื่อย หลังจากที่นั่งอยู่หน้าจอเป็นเวลานาน เพื่อทำรายงานกลุ่ม เกี่ยวกับพิษของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล เพื่อส่งอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล
หลังจากที่บิดไล่ความปวดเมื่อยแล้ว หญิงสาวก็ทิ้งร่างนอนแผ่กับที่นอนนุ่มใกล้ๆกับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมันได้นอนนิ่งเงียบเหงา รอคอยสัญญาณเรียกเข้าจากชายหนุ่มที่เฝ้าคิดถึงที่ไม่เคยโทรมาหานานเกือบเดือนแล้ว มีเพียงเธอเท่านั้นที่โทรไปหาเพียงฝ่ายเดียว
เขากับเธอคบหากันมาร่วม 5 ปีเต็ม เขาเป็นรุ่นพี่ที่เรียนคณะเดียวกันแต่ตอนนี้เขาสำเร็จการศึกษาได้ 2 ปีแล้วและทำงานอยู่ที่ศูนย์เพาะพันธุ์สัตว์น้ำ จังหวัดระยอง และความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขายังคงดำเนินเหมือนเดิม แต่ในช่วง 3 เดือนหลังมานี่ รุ่นพี่ไม่เคยมาหาเธอเลย อ้างว่างานยุ่งมาก ขนาดเวลาที่จะคุยกันทางโทรศัพท์รุ่นพี่ยังไม่ค่อยจะมีเวลาคุยด้วยเลย
รุ่นพี่คงเหนื่อยกับงาน
ในเมื่อรุ่นพี่มาหารินไม่ได้ รินก็จะเป็นคนไปหาเองรุ่นพี่เองค่ะ
หญิงสาวพึมพำพร้อมรอยยิ้ม นึกวาดฝันถึงวันที่จะได้พบเขาโดยเร็ว
บุคคลผู้ซึ่งเป็นที่รักและเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต
รุ่นพี่เป็นของเธอคนเดียว และจะเป็นของเธอตลอดกาล!
*************************************
หญิงสาวมาถึงห้องพักของชายหนุ่มคนรัก ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานที่ทำงานของเขาเดินเพียงไม่กี่นาทีก็ถึง และอยู่ใกล้ทะเลมากจนกระทั่งได้ยินเสียงคลื่นกระทบหาดได้ชัดเจน
เธอเคาะประตูเพียง 2- 3 ครั้งแล้วก็ยืนคอยด้วยหัวใจเต้นระทึก ทั้งตื่นเต้นและดีใจที่จะได้พบเขา พร้อมทั้งสวดภาวนาขอให้เขาอยู่ห้องด้วยเถอะ
เพียงไม่กี่อึดใจ ลูกปิดก็ขยับและบานประตูเปิดกว้างพร้อมกับร่างสูงของหนุ่มคนรัก แต่ใบหน้านั้นกลับมีสีหน้าตื่นตกใจจนสังเกตุเห็นได้ชัดเจน
หวัดดีค่ะพี่เต้
ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ รินไม่ใช่ผีนะ หญิงสาวทักเขาด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานที่เขาเคยบอกว่า
ตกหลุมรักทันทีที่เห็นรอยยิ้มนี้
เอ่อ
พี่แค่ตกใจน่ะ ทำไมรินไม่โทรมาบอกพี่ก่อนล่ะว่าจะมา
รินอยากเซอร์ไพร้ซ์พี่ไงคะ
เอ่อ..จ๊ะ เซอร์ไพร้ซ์มากเลย
ชายหนุ่มแค่นยิ้ม พยักหน้าคล้อยตามเธอ แต่ดวงตากลับซ่อนแววกังวล
แล้วพี่จะให้รินยืนแบบนี้อีกนานมั๊ยคะ เธอถามเมื่อไม่เห็นเขาเปิดทางให้เข้าห้องซักที
เอ้อ ! พี่มัวแต่ดีใจจนลืมเลย เข้ามาซิจ๊ะ เขาก้มตัวหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าใบย่อมของเธอเดินนำเข้ามาภายในห้องพักขนาดกลาง มีห้องครัวและห้องน้ำในตัว แต่สิ่งที่สะดุดตามากที่สุดคือ ผนังด้านหนึ่งข้างเตียงนอนขนาด 5 ฟุตจะมีตู้ปลาสวยงามนานาพันธ์ขนาดกลางวางซ้อน 2 ชั้นตั้งชิดริมผนังเรียงยาวตลอดความกว้างของห้อง เสียงเครื่องออกซิเจนขนาดเล็กดังครางเบาๆ มองดูแล้วไม่ต่างอะไรกับร้านขายปลาเลยทีเดียว
รุ่นพี่ยังคงชอบปลาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
หญิงสาวเดินมานั่งลงข้างเตียง กวาดสายตามองปลาแต่ละตู้อย่างเพลิดเพลิน ไล่ตั้งแต่ตระกูลปลาการ์ตูนที่แหวกว่ายแทรกซอนกับปะการังสีสวย ปลาทองตัวอ้วนกลมพลิ้วหางสะบัดโบกไปมา ปลาหมอสีพันธุ์เรดเท็กซัสสีแดงสดว่ายฉายเดี่ยวภายในตู้ และกำลังอวดเบ่งบารมีกับอโรวาน่าสีเงินที่อยู่อีกตู้ หรือกลุ่มปลาตัวเล็กๆที่ว่ายเป็นฝูงอย่างนีออน ก็ดูสวยดี
ดวงตากลมสวยเลื่อนมาหยุดที่ตู้ปลาปักเป้าซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเพื่อน ตั้งอยู่ชั้นล่างริมสุด ซึ่งกำลังแหวกว่ายอยู่ 5 ตัว พอเธอแกล้งนำมือไปทาบกับผิวกระจก พวกมันก็พากันพองตัวกลมโชว์หนามสั้นๆมาทันทีหญิงสาวหัวเราะคิกกับปฏิกิริยาของมัน
พลางให้หวนนึกถึงอดีต เวลามีเรื่องขัดใจกับรุ่นพี่ทีไร รุ่นพี่มักจะล้อว่า
รินทำหน้าเป็นปลาปักเป้าใส่พี่อีกแล้วนะ
ซึ่งประโยคนั้นมักจะทำให้เธอหายโกรธเขาทุกที
ชายหนุ่มวางกระเป๋าเสื้อผ้าลงหน้าตู้เสื้อผ้าที่ตั้งชิดมุมห้องด้านประตู
เดี๋ยวรินจะทำอาหารกลางวันให้พี่ทานนะคะ หญิงสาวหันมาบอกเขา เพราะรู้ดีว่ารุ่นพี่ชอบทานอาหารฝีมือเธอมากที่สุด
ด้วยความยินดีจ๊ะ
เมื่อวานพี่เพิ่งซื้อของสดมาเอง เหมือนรู้เลยแฮะว่าแม่ครัวเอกจะมา
แล้วแม่ครัวคนนี้ต้องการลูกมือรึเปล่าเอ่ย เขาพูดยิ้มๆ หญิงสาวหัวเราะคิก
ไม่ต้องหรอกค่ะ เกะกะเปล่าๆ
พี่นั่งดูโทรทัศน์ไปเถอะ เธอหยิบรีโมทที่วางทิ้งไว้บนเตียงยัดใส่มือเขาแล้วก็เดินเข้าห้องครัว พร้อมปิดประตูลง
ชายหนุ่มเปิดโทรทัศน์นั่งดูได้เพียงครู่เดียว ก็ได้ยินเสียงหญิงสาวลงมือทำอาหารและคิดว่าคงไม่สนใจอะไรแล้ว เขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือโทรหาใครอีกคน เพื่อบอกยกเลิกนัดดูหนังในค่ำคืนนี้
จากคุณ :
มาดาม เค
- [
6 มิ.ย. 48 16:15:01
]