บนยอดเขาที่สูงจรดดาว คือที่สิงสถิตแห่งวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ ศาลาการเปรียญ กุฏิริมภู และแมกไม้บนวัดก็เบ่งบานออกดอกบานสะพรั่งกว่าไม้ในป่าไหน ผีเสื้อป่าและภมรจอมเจ้าชู้จึงมาระเริงกันไม่เว้นวัน ไม่นับสัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่ต่างมาอาศัยพักพิงวัดให้ปลอดภัยต่อกระสุนปืนของพรานไพร
ภาพของภิกษุเดินอุ้มบาตรออกจากม่านหมอกสลัวยามเช้านั้นทำให้คิดไปว่าลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ สาธุชนขึ้นไปสักการะไม่เคยขาด ทั้งบัณฑิตปลีกวิเวก ฆาตกรหนีคดี กุลีไร้การศึกษา พม่ามอญอพยพ ต่างหลั่งไหลกันขึ้นไปด้วยหัวใจที่เอิบบุญ เสียงสาธยายมนต์นั่นเล่าแม้นจักจั่นยังหยุดปีกกรีดกรายเพื่อน้อมฟัง
ปล่อยให้สายลมหอบเอามนต์อันศักดิ์สิทธิ์ไปคลี่คลุมให้หมู่บ้านในหุบเขาสงบร่มเย็น วัดเป็นสถานที่นัดพบของคนทั้งหมู่บ้าน เปิดใจให้พบสามโลก อันได้แก่โลกมนุษย์ สวรรค์ นรก ทำให้ญาติที่สิ้นบุญได้รับความฉ่ำเย็นจากน้ำที่หยาดถึง วิถีอันงามง่ายแห่งหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญจึงแต้มไว้ด้วยคุณธรรมอันเที่ยงแท้ พระมีหน้าที่สมานความดีงามทั้งปวงเข้าไว้ด้วยกัน
หัวใจของทุกคนจึงร้อยรัดอยู่บนพื้นฐานแห่งศีลธรรม และความเอื้อเฟื้อ ธรรมชาติรอบข้าง ไม่ว่าขุนเขา หรือป่าดาว ไปจนถึงดอกหญ้าริมทางเป็นเหมือนเครื่องเกลาจิตให้พบกับความงาม ในวงสนทนาทุกคนมักพร่ำสรรเสริญความดีงามของกันและกันด้วยความหน้าชื่นตาบาน
เวลาเดินทางไม่นานนักหรอก เพียงชั่วไม่กี่ปีทุกอย่างดูเหมือนเปลี่ยนไปตามภาวะโลก ความเจริญและความล้ำสมัยของวัตถุแฝงตัวเข้ามาเงียบๆ และออกดอกเบ่งบานรวดเร็วกว่าดอกไม้พันธุ์ใดในโลก ในค่ำคืนที่แว่วหวานของสายลมที่เสียดสีใบไม้ให้เกิดเพลงพิณนั้น ถูกแทนที่จากเสียงอื่นอันอึกทึกมันเป็นความแปลกใหม่ที่ทุกคนต่างเชื่อว่านั่นคือสิ่งที่ดีงามกว่า จากบ้านหนึ่งไปสู่อีกบ้านหนึ่ง
ตอนแรกทุกคนต่างเชื่อว่าเราสามารถควบคุมมันได้ หารู้ไม่ว่าดอกผลแห่งกิเลสเป็นคล้ายยาเสพติดที่ยากจะต้านทานฤทธิ์ร้ายของมันได้ ทางสูงโรยหินผาของวัดนั้น นับวันคนเดินขึ้นไปบางตา วิหารแห่งใหม่ของทุกคนอยู่ในตัวเมือง ที่นั่นมีมนต์ที่รัดรึงใจกว่า
ไม่แปลกที่พระบนวัดต่างโยกย้ายไปพร้อมฝูงของนกเงือกที่ฉีกปีกบินดังผลึบผลับ จากรูปหนึ่งไปสู่อีกรูปหนึ่ง ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรวดเร็วเหลือเกิน เร็วกว่าการสลายตัวของน้ำค้างยามรุ่งสาง มรรคผลแห่งนิพพาน สวรรค์ในโลกแห่งความดีงามค่อยแผ่วหายไป
วัดตกอยู่ในความรกร้างอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ มันเป็นปรากฏการณ์ที่ร้ายแรงกว่าภัยธรรมชาติทั้งปวงมีในโลก ดอกไม้ที่เคยเบ่งบานกลับไม่กล้าเผยดอก เหล่าผีเสื้อป่าเล่าก็ทยอยหายไปในดงลึก เหลือเพียงแต่เงาที่เคยบินว่อนแต้มอยู่ตามผืนดินเท่านั้น
ตอนนี้ไม่มีวันสำคัญทางศาสนาเหลืออยู่แล้ว ทุกคนทำบุญด้วยการซื้อเครื่องอำนวยความสะดวกที่เร่ขายตามบ้าน และเปลี่ยนมาเป็นหยาดเหล้าลงแก้ว คลอเสียงเพลงแห่งท่วงทำนองอันเปื้อนเมา หมาไม่ได้เห่าเพราะมัวเมาอ๊วกของขี้เหล้า อ๊วกอาจเป็นสิ่งเดียวที่ทุกคนกล้าหยาดเผื่อแผ่ไปถึงผู้อื่น โลกสามยุติลง เหลือเพียงโลกแห่งมนุษย์เพียงอย่างเดียว
ความสุขไม่ได้มีสำหรับโลกหน้า ภพชาติกลายเป็นภาพลวงตาสำหรับพวกเขา แม้กระทั่งกล้าเยี่ยวรดดอกไม้แย้มกลีบบาน ลัทธิแห่งปวงญาติถูกเพิกเฉยเสียแล้ว ความเป็นปัจเจกแห่งตัวตนเข้ามาครอบงำ หมู่บ้านที่เคยเย็นด้วยลานธรรม กลับกลายเป็นร้อนผ่าวด้วยลานไฟ ไม่มีใครเชื่อถ้อยคำของบัณฑิตเร้นกายอีกแล้ว
ฆาตกรที่ทุกคนเคยให้อภัยถูกหยามประนามด้วยถ้อยคำต่ำค่า กุลีไร้การศึกษาถูกแบ่งวรรณะโดยสิ้นเชิง ไม่มีใครพูดถึงศาสดา
ถนนที่เคยราดกรวดหินถูกเททับจากยางมะตอย ไม่เหลือรอยเท้าที่ทาบทับทางเปื้อนฝุ่นใช่ทุกคนต้องสวมรองเท้าเดินถึงถูกเทิดค่าแห่งอารยธรรม มันมาพร้อมประเพณีของการใช้ส้วมซึมและยาฆ่าแมลง
ไม่มีใครสนใจแสงดาวเดือนเพราะหลักปูนที่ทอดระยะยาวตามทางเข้าหมู่บ้านนำแสงไฟที่สว่างกว่ามาให้ หิ่งห้อยหรืออย่าพูดถึงเลย ทุกคนเบนความสนใจต่อสิ่งใหม่ ไม่ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ๆ เสื้อผ้าใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งรถคันใหม่ของใครก็ตาม มักถูกกล่าวถึงด้วยเสียงสั่นอันยกย่องต่อค่านิยมอันมีเกียรติ เวลาที่จะแบ่งบันให้เพื่อนบ้านเหลือน้อยและจำกัดเรื่อง
เสียงทะเลาะของคู่ชีวิตเป็นเพลงใหม่อีกบทที่ทุกคนน้อมฟังเพื่อเล่าต่อ ประกายตาแห่งมุทิตาแต้มแววเหยียดเย้ยแทนอย่างช่วยไม่ได้ การพนันอาจเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถูกพัฒนาการขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อหาหลักยึดของจิตวิญญาณที่กระหายต่อเงินตรา
ไม่ว่าหญิงหรือชาย เด็กหรือคนแก่เขามีการพนันขันต่อเป็นของตัวเอง ชัยชนะที่ได้รับ หรือแม้กระทั่งความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้น มักจะดับลงด้วยการเลี้ยงฉลองแทบทุกวัน ภาพเหล่านี่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตไปเสียแล้ว มันกลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ที่ได้รับการสานต่อได้ง่ายดายกว่า
เด็กที่เกิดใหม่ให้ดีคอต้องแขวนสร้อยทองคำ สายสิญจน์ที่มัดแขนนั่นเป็นสิ่งหายากไปเสียแล้ว กินนมกระป๋อง นอนเปลที่ทำด้วยโครงสร้างของเหล็ก เด็กที่โตหน่อยต้องเล่นหุ่นยนต์บังคับ เกมฆ่าฟัน ไม่แปลกที่ผู้เป็นพ่อแม่ต้องเดินทางไปโรงพักบ่อยขึ้นเมื่อพวกเขาโตพอมีฮอโมนสร้างทายาทเป็นของตัวเองได้
เด็กสาวที่ทำแท้ง ท้องไม่มีพ่อ หนีตามผู้ชาย เป็นเรื่องธรรมดาเหลือเกิน การศึกษาก็ต้องเรียนสายที่เอื้อต่อการทำรายได้ของเมล็ดเงิน รวมไปถึงการหย่าร้าง ระเริงชู้ ไม่นับชายเลยวัยเกษียณอายุแต่งงานใหม่ มันเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ ที่ทุกคนได้ใช้อิสรภาพกันเต็มสูบเบ้าแห่งลมหายใจ การนินทาว่าร้ายเป็นอาหารเสริมจิตที่ขาดไม่ได้ไปเสียแล้ว
ในความใกล้ของรั้วบ้าน ปลายแดนสวน หรือแม้กระทั่งการพบปะ กลับกลายเป็นความแปลกแยกระหว่างกัน ไก่หนึ่งตัวที่ตายเพราะเผลอขับรถเหยียบอาจเป็นเหตุผลแห่งการทะเลาะเบาะแว้งถึงโรงพัก ไม่แน่อาจตัดสินด้วยความเป็นตายในเบื้องปลายแห่งการโต้คารมร้ายนั่น
สถาปัตยกรรมทางความรู้สึกไปจนถึงรูปแบบแห่งการดำรงอยู่ ไม่เงียบเหงาต่อสิ่งใหม่และเรื่องให้คิด สวรรค์คือการมีเงินจับจ่ายใช้สอย นรกคือคนที่ไร้เงิน ความดีงามทางกายภาพของสิ่งเอื้ออำนวยที่เกิดขึ้น ทำให้หมู่บ้านได้รับการยอมรับในฐานะหมู่บ้านพัฒนาตัวอย่างไปในที่สุดและปิดท้ายด้วยงานเลี้ยงอีกเช่นเคย
บนภูเขาสูงเสียดดาว ลมยังหวีดหวิวครวญเพลงกับสังกะสีผุกร่อน ลานวัดรกร้างด้วยหญ้า สัตว์ที่เคยมาพึ่งบุญถูกพรานละเมิดกฎเข้ามาล่าไปไม่เว้นวัน มีแต่ปลวกเท่านั้นที่ได้รับอภิสิทธิ์ของการครอบครอง
วิหารที่ทุกคนเคยสักการะไม่ขาดช่วงตกอยู่ในความเงียบงันท่ามกลางม่านแห่งไยแมงมุม องค์แห่งพุทธปฏิมาเคลือบด้วยฝุ่นหนาเตอะ
แปลกที่พระเนตรแห่งพุทธองค์ยังคงฉายแววแห่งเมตตาไม่เปลี่ยนแปลงแม้นในความมืดมนแห่งรัตติกาลก็ตาม
..
จากคุณ :
เดอะแหลม
- [
7 มิ.ย. 48 10:12:20
]