From: princessgirl@vineland.org
To: rockmyworld@aol.com
ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว ฉันกำลังจะไปอเมริกาในอีกแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น ฟังดูน่าตื่นเต้นจังเลย
ในที่สุดฉันก็ได้มีโอกาสพบนายจริงๆและก็ยังได้ฟังนายเล่นแบบสดๆอีก
ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเป็นความจริง
รัก....C
From: rockmyworld@aol.com
To: princessgirl@vineland.org
C-----
ผมอยากรู้ชื่อจริงๆของคุณจัง วงของเรากำลังตื่นเต้นกับงานเทศกาลเพลงครั้งนี้มากๆ
มันต้องมันส์แบบสุดๆแน่ๆ แถมผมยังจะได้เจอกับสาวชาวต่างชาติอย่างคุณอีก
งั้นแสดงว่าพ่อแม่ของคุณตกลงยอมให้คุณมาดูคอนเสิร์ตผมแล้วใช่เปล่า...
แล้วเจอกัน....rabbit
From: princessgirl@vineland.org
To: rockmyworld@aol.com
rabbit
ไม่ต้องไปห่วงไปหรอกว่าฉันจะไม่ได้ไปดูคอนเสิร์ตของนาย
อิงกริด เพื่อนของที่ฉันที่จะไปอเมริกาด้วยกันเธอฉลาดมากๆ รับรองได้ว่าเธอต้องหาวิธีให้ฉันออกดูแน่ๆ
ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าเราไปแน่ และฉันก็ตื่นเต้นจังที่......
ประตูห้องถูกเปิดออก ฉันเริ่มเงยหน้าขึ้นมาจากแล็ปท็อป โอ้...ปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งที่คนเป็นเจ้าหญิงต้องเจอ
(นอกจากการจะต้องทำผมสำหรับใส่มงกุฏ) คือ พระราชินี
นั่นไง เสด็จแม่ของฉันกำลังยืนอยู่ที่ประตู ดูเหนื่อยอ่อนในชุดคลุมผ้าซาตินสีลาเวนเดอร์
ฉันไม่ได้หมายถึงชุดคลุมแบบบนชุดราตรีหรอกนะ เจ้าหญิงกับพระราชินีไม่ได้ใส่ชุดอย่างนี้ในชีวิตประจำวัน
ยกเว้นแต่ที่จำเป็นแหละ อย่างเช่น งานเต้นรำ หรือว่างานเลี้ยงอาหารค่ำที่เป็นทางการอะไรพวกนี้
ชุดคลุมที่ฉันพูดถึงคือชุดคลุมนอน สมาชิกราชวงศ์ก็เหมือนกับคนธรรมดา นั้นแหละ
เราใส่กางเกงนอนแล้วก็ชุดคลุมนอนปรกติ บางครั้งเรายังตื่นมาพร้อมกับมีคราวน้ำลายที่ปากด้วย
(แต่ว่าเรามีคนรับใช้ที่ จะทำให้เราแน่ใจได้ว่าเราไม่ปรากฏตัวในสาธารณชนในสภาพนั้นแน่นอน)
เสด็จแม่ยืนอยู่ตรงปากประตู แน่นอนปากของพระองค์ไมได้เปื้อนอะไรหรอก
แต่พระองค์มีรอยดำๆดวงใหญ่รอบๆดวงตา มันเกิดจากสองสามเดือนที่ผ่านมานี้เสด็ดแม่ต้องคอยเฝ้าท่านยาย
ที่กำลังไม่สบายอย่างหนัก พระองค์จึงดูเหน็ดเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา
"ลูกกำลังทำอะไรอยู่"
"เปล่า เพคะ" ฉันรีบปิดหน้าเจอ email ลงพร้อมกับพับ laptop
แล้ววางมันลงที่โต๊ะไม้มะฮอกกานีที่หัวนอน
เสด็จแม่เดินเข้ามานั่งที่เตียง แคริฟอร์เนียเจ้าแมวจอมเอาแต่ใจของฉันร้องขึ้นอย่างรำคาญ
แล้วก็กระโดลงไปยังพื้นอย่างรวดเร็ว
"เสด็จพ่อของลูกต้องเลื่อนกำหนดการกลับจากอังกฤษ ในคืนนี้ออกไปอีก" แล้วเสด็จแม่ก็ถอนหายใจ
มองดูไปรอบๆน้อยเหมือนกันไม่มีอะไรจะพูดต่อ
"เลื่อนกำหนดการ....ว้าว...." ฉันกรอกตาไปรอบๆ
"มันช่างเป็นอะไรที่แปลกมากๆ"
ความเงียบสงัดเกิดขึ้นหลังจากนั้น
"ถ้าลูกไม่มีอะไรทำ ลูกจะส่งใครไปที่ video international ก็ได้นะ"
เสด็จแม่พูดขึ้นมาก่อนในที่สุด
"แม่ไม่แน่ใจว่าแม่จะไม่หลับไปก่อนหนังจะจบ แต่ถ้าเราหาเรื่องอะไรที่เออ...สั้นๆ...ก็คงไม่เป็นไร"
ถ้าเป็นเมื่อก่อนแล้ว เวลาที่เสด็จพ่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ เสด็จแม่กับฉันมักจะคลุกอยู่ด้วยกันทั้งคืน
เราจะช่วยกันทำช็อคกาแล็ตมิลค์เชค หรือไม่ก็ดูรายการโทรทัศน์ของอเมริกา
หรือแม้แต่ให้ใครสักคนไปเช่าหนังอเมริกันมาให้ แต่เราจะทำอย่างนี้ได้ก็ต่อเมื่อเสด็จพ่อไม่อยู่เท่านั้น
เพราะพระองค์มีความเห็นว่าหนังอเมริกัน "สอนแต่ค่านิยมที่แย่ๆ"
แต่ฉันกลับว่ามันยอดเยื่ยมต่างหาก
อเมริกา...ดินแดนแห่งนั้นช่างต่างจาก เวียร์แลนต์เสียจริงๆ ที่นั่นคงเต็มไปด้วยพวกนางแบบ นักบินอวกาศ
นักเลง และก็ผู้คนที่คอยจะลักพาตัวประธานาธิบดี
แค่ไม่กี่เดือนก่อนนี้เอง ในเวลานี้ เสด็จแม่กับฉันก็คงนั่งอยู่หน้าจอฉายภาพยนต์
ดูหนังพวกนั้นด้วยกัน แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นอีกต่อไปแล้ว
"ไม่ต้องหรอกเพคะ หม่อมฉันไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะดูหนังอยู่ดี" ฉันพูดออกไป
"หม่อมฉันกำลังคิดว่าจะเข้านอนแต่หัวค่ำ" แล้วฉันก็หาวแบบหลอกๆ
"เอางั้นก็ได้จ๊ะ ก็แล้วแต่ลูก" ฉันคิดว่าฉันเห็นแววโล่งอกในตาของเสด็จแม่
ตอนนี้มันดูหมือนกับว่าเสด็จแม่กับฉันค่อยๆห่างเหินกันไปทุกวันๆ
เสด็จแม่มัวยุ่งอยู่กับการพยาบาลท่านยาย ส่วนฉันก็ยุ่งอยู่กับการตอบ email
การตอบ email แบบนี้เป็นสิ่งที่เสด็จแม่ไม่มีวันเข้าใจหรอก พระองค์แต่งงานกับเสด็จพ่อ
ตอนที่อายุ 16 เท่ากับฉันในตอนนี้ ซึ่งเท่ากับว่าพระองค์พลาดโอกาสดีๆที่จะใช้ชีวิตอย่างวัยรุ่นทั่วไป
แต่พระองค์ดูเหมือนว่าจะไม่แคร์กับมัน เสด็จแม่คิดว่าการดูหนังของ Josh Hartnett
น่าจะเป็นความตื่นเต้นที่เพียงพอสำหรับเจ้าหญิง
เมื่อก่อนฉันเคยบ่นบ่อยๆว่าเบื่อหน่ายกับชีวิตแบบนี้ แต่เสด็จแม่ก็ไม่เห็นจะทำอะไร
จากคุณ :
วิปครีม
- [
7 มิ.ย. 48 19:23:38
]