CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    >>....เรื่องรักซึ้งๆ ของหนึ่งคน(อยาก)เขียน*** ตอน เพื่อน...รัก***....<<

    “เธอชื่ออะไรเหรอ”
    ผมตัดสินใจถามออกไป เพราะเห็นเธอคนนี้ นิ่ง เงียบ ไม่ค่อยได้พูดได้จากับใคร เอ หรือว่าไม่มีใครอยากพูดด้วยก็ไม่รู้นะ  น่าตาก็ดูเหมือนไม่เป็นพิษเป็นภัยอะไรนี่นา  ผมคิดในใจ
    เธอยิ้มบางๆที่มุมปากก่อนตอบว่า
    “บัว  บัววาริน”
    “ผมชื่อวินธนาครับ เรียกสั้นๆว่า วินก็ได้”
    “รู้ไหมคุณเป็นคนแรกที่พูดกับฉันเลยนะ”
    “ไม่รู้ว่าผมควรจะดีใจเปล่านะ”
    ผมก็พูดเล่น ตามนิสัยที่ติดตัวมาแต่กำเนิดนั่นแหละ
    “นั่นสินะ”
    แววตาเธอหม่นแสงลง
    “เฮ้ย ผมพูดเล่นหรอกน่า แหม สงสัยเราต้องทำความรู้จักกันให้ดีกว่านี้ซะแล้วนะ บัววาริน”
    พูดเสร็จผมก็เดินจากไปช่วยงานเพื่อนต่อ ทิ้งให้เธอมองตามอย่างไม่เข้าใจ

    ผมเพิ่งเข้ามาเป็นน้องใหม่ที่มหาลัยชื่อดังแห่งนี้ ด้วยบุคลิกอย่างผมทำให้ผมมีเพื่อนมากมายทั้ง นิสัยผมมันก็อย่างนี้แหละ ง่ายๆ สบายๆ เข้ากับทุกคนได้ดี โดยเฉพาะสาวๆสวยๆนี่ต้องเข้าไปทำความรู้จักใหญ่เลย ผมไม่ใช่คนเจ้าชู้นะ แค่อัธยาศัยดีเท่านั้นเอง
    อย่างวันนี้ผมก็มานั่งเหล่ เฮ้ย มองสาวๆที่ร้านกาแฟแห่งนี้
    “รับอะไรดีคะ คุณวินธนา”
    “คุณรู้จักชื่อผมด้วยหรือครับ”
    ผมเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ แต่หน้าตาเธอก็คุ้นๆอยู่นะ
    “ค่ะ ฉันรู้จักคุณ แต่คุณคงลืมไปแล้วว่าเราเคยรู้จักฉัน”
    เธอตอบ พร้อมรอยยิ้มบางๆนั้น ทำให้ผมคิดออกว่าทำไมถึงคุ้นหน้าเธอนัก
    “บัววาริน”
    “ผม  เออ...คือทำไมคุณถึงจำผมได้ล่ะ”
    ผมยิ้มแห้งๆ เอามือลูบท้ายทอยตัวตัวเองอย่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ก็มันละอายใจนี่นา
    “อาจเป็นเพราะว่าฉันไม่ได้มีเพื่อนมากมายอย่างคุณก็เป็นได้”
    “เพราะคุณไม่เปิดใจรับเขาเป็นเพื่อนหรือเปล่า”
    อะไรไม่รู้ดลใจให้ผมพูดอย่างนั้นออกไป
    “ฉันคงมีโลกส่วนตัวเยอะมั้ง อีกอย่างคงไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนกับคนประหลาดอย่างฉันเท่าไหร่หรอก”
    “เอ ผมชักอยากเป็นเพื่อนกับคนประหลาดซะแล้วสิ”
    จากวันนั้น ผมกลายเป็นเจ้าประจำของร้านกาแฟนี้เลยก็ว่าได้ แต่ไม่ใช่เพื่อตามจีบเธอหรอกนะ อย่าเข้าใจผิด ผมแค่อยากจะเอาชนะ(ใจ) ให้เขารับผมเป็นเพื่อนเท่านั้นเอง อีกอย่างผมอยากรู้เหตุผลที่เธอทำตัวเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลกใบนี้ อยากรู้ที่มาของนัยน์ตาโศกคู่นั้น เธอมีเรื่องอะไรในใจนักหนานะ บัววาริน
    “คุณมาที่นี่ทุกวัน ไม่เบื่อบ้างหรือ”
    “ไม่เบื่อหรอก อีกอย่างกาแฟที่นี่ก็รสชาติไม่เลว เอาเป็นว่าผมจะมาจนกว่าคุณจะรับผมเป็นเพื่อนนั่นแหละ”
    “นั่นก็หมายความว่า ถ้าฉันรับคุณเป็นเพื่อน คุณคงไม่มาที่นี่อีกแล้วล่ะสิ”
    “ไม่...”
    ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรเธอก็สวนขึ้นมาก่อน
    “ถ้าคุณต้องการเท่านี้ ก็ได้ ฉันรับคุณเป็นเพื่อนแล้วต่อไปนี้คุณก็ไม่จำเป็นต้องลำบากมาที่นี่อีก”
    “นี่คุณคิดว่าคำว่าเพื่อนเป็นได้แค่นี้เองเหรอ พูดแค่ว่าฉันกับคุณเป็นเพื่อนกันก็จบแค่นั้น แสดงว่าคุณยังไม่รู้จัก คำคำนี้ดีพอ”
    “ใช่ ฉันไม่รู้จักคำนี้ดีพอ เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าฉันจะไม่มีเพื่อน แต่ไม่เคยมีใครเลยที่ทำให้ฉันรู้สึกถึงคำว่าเพื่อนอย่างแท้จริงต่างหาก”
    เธอโต้ตอบผมทันควันเหมือนกัน และมันก็ทำให้ผมรู้จักเธอมากขึ้น
    “ผมจะทำให้คุณรู้สึกถึงคำว่าเพื่อน ขอเพียงแต่คุณเปิดใจให้ผมเท่านั้น”
    “เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวคุณเอง”
    ไอ้ผมมันไม่ชอบให้ใครมาท้าด้วยสิ


    ผมไปไหนมาไหนกับเธอบ่อยขึ้นเพราะถ้าเธอไม่ยอมไปกับผมผมก็ตื้อให้เธอไปด้วยจนได้แหละ   “ผมว่ามันดีออกเราจะได้เรียนรู้และรู้จักกันมากขึ้น” เป็นคำพูดที่ผมชอบพูดบ่อยๆเมื่อเห็นเธอเตรียมที่จะปฏิเสธคำชวนของผม อย่างวันนี้เราก็มานั่งเล่นที่ริมน้ำด้วยกัน(ซึ่งก็ด้วยวาจาหว่านล้อมของผมนั่นเอง)
    “ลมแรงเนอะ”
    ผมพูดเพราะเห็นผมยาวสลวยของเธอปลิวสยายไปทั่ว ดูน่ารักไปอีกแบบ ทำให้ผมจ้องมองเธออยู่นาน และดูเหมือนตอนนี้เธอจะรู้ตัวแล้วด้วย
    “มองอะไรเหรอ”
    “มองนางฟ้ามั้ง”
    ผมยิ้มอย่างอารมณ์ดี
    “ฉันไม่ใช่นางฟ้าหรอก และไม่มีวันเป็นได้ด้วย ฉันมันก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ”
    “ทำไมคุณถึงชอบว่าตัวเองนักล่ะ คุณมีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่า บอกผมได้ไหม”
    เธอถอนหายใจเบาๆ
    “ฉันยังไม่พร้อม ขอเวลาฉันอีกนิดนะ สักวันหนึ่งฉันจะเล่าให้คุณฟังอย่างแน่นอน”
    “ได้เสมอครับผม”
    อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธน่า


    “น้ำเย็นๆ เสริฟพร้อมขนมแสนอร่อยครับผม”
    “ขอบใจนะ”
    “ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่กินน้ำพร้อมขนมเสร็จแล้วเนี๊ยะ อย่าลืมติวหนังสือให้กระผมด้วยนะ”
    ผมยิ้มประจบเธอ
    เธอยิ้ม พร้อมกับส่ายหน้า
    “ที่เอาของมาให้นี่ เพราะอย่างนี้หรอกเหรอ แหมเราก็นึกว่าตั้งใจเอามาให้เราซะอีก”
    “ก็ตั้งใจเอามาให้นั่นแหละ ส่วนไอ้เรื่องติวนั้นก็แล้วแต่บัวจะกรุณา”
    ผมแก้ตัว พร้อมทำหน้าตาน่าสงสารสุดฤทธิ์
    เธอหัวเราะ พร้อมกับเปิดหนังสือเริ่มติวทันที
    ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่านะ ว่าพักนี้ผมเห็นเธออารมณ์ดีขึ้น พูดคุยเยอะขึ้น ยิ้มและหัวเราะมากขึ้น ผมดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสของเธอ ไม่ใช่รอยยิ้มเศร้าๆอย่างเมื่อก่อน และหวังว่าอีกไม่นานเธอคงรับผมเป็นเพื่อนได้อย่างสนิทใจ ใช่สินะ แค่เพื่อนเท่านั้น แค่นี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ ไอ้วินเอ้ย


    “ไปเที่ยวกันไหม”
    “ไปเที่ยว”
    เธอทำหน้าประหลาดใจ ทำให้กำลังใจผมหดหายไปเกือบครึ่งแหนะ
    “ครับ ไปเที่ยวทะเล”
    “แล้วนึกยังไงถึงชวนไปเที่ยวล่ะ”
    “ก็อยากไปเดินเล่นที่ชายทะเลบ้าง ไม่ได้ไปนานแล้วเหมือนกัน อีกอย่างไปเช้า เย็นกลับครับผม”
    ผมนิ่งรอคำตอบจากเธอ
    “ได้สิ นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้ไป”
    “ไชโย!”
    เหมือนว่าเสียงแห่งความดีใจของผมจะดังไปนิดหนึ่ง จนทำให้ทุกคนรอบข้างหันมามองเป็นตาเดียว จนเธอทำเสียงจุ๊ปากให้เบาๆ คงอายแหละ ว่าแต่ผมก็อายเหมือนกันนะเนี๊ยะ ใครจะมั่นได้ตลอด 24 ชั่งโมงล่ะจริงไหม

    จากคุณ : ละอ่อนแม่อาย - [ 10 มิ.ย. 48 17:09:26 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป