วิจารณ์ได้ตามใจชอบเลยครับ
ฝากกระทู้เก่าผมด้วยครับ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3385244/W3385244.html
Heaven Gate <<< ติชมได้ตามสบายคับผม >>>
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3536883/W3536883.html
เอาเรื่องสั้นมาให้ติชมครับ " IMAGINE
(ป.ล. เรื่องที่สองอาจมี rewrite ครับ)
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ
-----------------------------------------------------------------
1.
แสงจากข้างนอกส่องผ่านมาพอทำให้วายุมองเห็นอะไรรอบตัวได้บ้าง
รอบๆตัวนั้นเป็นแค่ห้องแคบๆ ผนังรอบข้าง บ้างก็ถูกจับด้วยตะไคร่ บ้างก็มีรอยขีดเขียน
แต่มีด้านหนึ่งกลับแตกต่างออกไป ด้านอื่นนั้นเป็นปูน แต่ด้านที่แตกต่างกลับเป็นลูกกรงเหล็ก
เมื่อมองผ่านออกไปเห็นตำรวจสามสี่นายอยู่ข้างนอก และยังมีบุคคลอื่นนอกเหนือจากตำรวจเหล่านั้น
ผู้หญิงคนหนึ่ง..................
เขาจำได้ว่าเมื่อประมาณหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว ผู้หญิงคนนี้ถูกจับมายังที่โรงพักปากพร่ำบ่นว่า
" หนูแค่ไปยืนอยู่เฉยๆเองนะหมวด ไอ้ที่บอกเจ็ดแปดร้อยก็แค่พูดเล่นๆเท่านั้นเอง "
สักครู่เธอถูกจับโยนมายังในห้องขังข้างๆ
ผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก็มีตำรวจนายหนึ่งมาคุยกับผู้หญิงคนนั้น
แล้วเธอถูกนำตัวออกไปยังที่ไหนสักแห่ง
พร้อมตำรวจ สาม สี่นายที่เขาเห็นในตอนนี้ได้หายไปด้วย
เธอหายไปประมาณเกือบชั่วโมงแล้วกลับมาด้วยสภาพโทรมกาย
ผมกระเซอะกระเซิง กระดุมเม็ดบนหลุดลุ่ย
ตำรวจที่ตามหลังพูดแซวตามหลังว่า
" มาติดบ่อยๆได้ไหมจ๊ะน้อง น้องมาติดทีพี่ก็โล่งเลย " ตามด้วยเสียงหัวเราะกันครืนใหญ่
และตอนนี้เธอออกจากสถานีตำรวจแห่งนี้ไปแล้ว
ต่างกับเขาที่อยู่ยังในกรงเหล็กมานานเกือบสองสัปดาห์
เรื่องมันเริ่มต้นมาจาก........
2.
" เมื่อไหร่แม่งจะมาวะ " วายุสบถออกมา มือพลางก้มดูนาฬิกา นึกบ่นในใจถึงเรื่องรถเมล์ที่แทบจะไม่แตะป้าย
ไม่แปลกเท่าไหร่
เพราะป้ายรถเมล์นี้มัน.....
รกร้าง...ว่างเปล่า...และห่างไกลผู้คน
ความจริงแล้วเขาไม่ควรจะอยู่ที่นี่ซะเท่าไหร่แต่มันเกิดจากรถเมล์เขียวเจ้ากรรมที่จู่ๆก็ไล่ผู้โดยสารที่มีเพียงคนเดียวบนรถลงกลางทาง
และตอนนี้มันเวลา......เกือบเที่ยงคืนแล้ว
พรุ่งนี้เช้าคงกลายเป็นซอมบี้ไปมหาลัยแน่
รถเมล์ผ่านไปอีกคัน เขาโบก แต่มันไม่ได้จอด ............
ผ่านมาอีกคัน.......รถจอดแต่เมื่อจะขึ้น คนขับกลับบอกว่า "โทษทีวะ ไอ้หนู แค่จะลงมาบอกว่าจะเข้าอู่เฉยๆ"
แล้วเขาก็ด่าไล่หลังเมื่อรถนั้นออกตัวไป
สักครู่ชายหนุ่มนั่งลง ตอนนี้รถอะไรมาคงโบกไว้ก่อน
ไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงเหมือนรถวิ่งมา
เขาโบก เสียงนั้นหยุด
สักพัก....มีคนกรูลงมาสองสามคน
คนหนึ่งจับมือเขาไขว้หลัง
แล้วเอาอะไรบางอย่างล๊อคที่ข้อมือ
" เฮ้ยทำอะไรว่ะ " เขาตวาดอีกฝ่าย แต่กลับได้รับคำตอบด้วยการถูกชกที่หน้าท้อง
ชายหนุ่มร้องดัง " อ๊าก " ตัวทรุดลงไปกองกับพื้น และดูเหมือนเป้ที่หลังจะถูกดึงไป
แล้วก็มีเสียงหนึ่งพูดดังๆมาว่า " หมวดครับ เราเจอไอ้นี่ "
พอได้ยินคำว่า หมวด วายุเริ่มรู้แล้วว่าคนพวกนี้เป็นใคร
อีกเสียงหนึ่งบอกว่า " ยาบ้าหรือ ? เอาตัวมันตัวไปโรงพัก "
" ยาบ้า? " เขาถามตัวเอง ความสับสนเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่ยังไม่ทันที่จะได้หาคำตอบก็ถูกลากตัวไปยังในรถ
3.
" เอ็งจะรับหรือไม่รับหา " เสียงนายตำรวจตะคอกใส่เขา มันเป็นคำถามซ้ำๆตั้งแต่เข้ามายังโรงพัก
ไม่มีการถามว่าวายุไปอยู่ยังที่นั่นได้อย่างไร เมื่อจะเอ่ยปากบอก " ให้ฟังเขาบ้าง "
ฝ่ายนายตำรวจก็พูดว่า " อ้อ เอ็งจะพูดล่ะซิ ว่าไม่ได้ทำ แต่หลักฐานมันอยู่ทนโท่ขนาดนี้
."
เมื่อเห็นวายุไม่ให้คำตอบที่ต้องการจึงถามว่า
" :-)ต้องการพบใครไหม "
เขาพยักหน้า นายตำรวจผู้นั้นก็ยื่นกระดาษมาบอกให้จดชื่อ นามสกุล และ เบอร์โทรของคนต้องการพบ
นายวิชาญรู้สึกสมเพช ระคนโมโหกับภาพที่ปรากฏ
นางมาลีกำลังกอดบุตรชายของตัวเองด้วยน้ำตานองหน้า
แล้วพร่ำถามตัวเองว่า มันไม่จริงใช่ไหม
สักครู่นางมาลีก็เรียกเขา
" พ่อๆ จะทำยังไงกับลูกต่อดี " นายวิชาญนิ่งเงียบนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์หนึ่งที่คล้ายๆกัน
ครอบครัวของเขาในสมัยที่ยังเป็นเด็กชายวิชาญอยู่นั้นประกอบด้วย พ่อ แม่ เขา และ
พี่ชาย....................ซึ่งทุกคนมองด้วยสายตาชื่นชมเสมอ
แต่แล้ววันหนึ่งความชื่นชมนั้นกลับมลายหมดสิ้น เมื่อได้รับรู้ว่าพี่ชายติดยา แถมพ่วงด้วยคดีอีกนับสิบ
พ่อรู้เข้าจึงพยายามวิ่งเต้นประกันตัวด้วยการจำนองบ้าน ส่วนแม่นั้นล้มหมอนนอนเสื่อ และตามด้วยชื่อเสียต่างๆนา
เวลาผ่านไปพ่อเสียเวลาและเงินทองกับการขึ้นโรงขึ้นศาลมากขึ้น
ขณะที่อาการแม่หนักขึ้นเรื่อยๆ
สุดท้ายเรื่องนี้จบที่ลงตรงที่ว่า แม่ตรอมใจตาย
ส่วนพ่อถูกฟ้องล้มละลายเนื่องจากไม่สามารถใช้หนี้ที่ยืมมาเพื่อขึ้นศาลและรักษาแม่ได้หมด
หลังจากนั้นเขาก็เหมารวมว่าคนติดยาเลวเสมอ โดยไม่ฟังเหตุผลว่ามันมาจากอะไร
ความคิดหยุดลงตรงนี้ เมื่อตำรวจเรียกให้ฟังเรื่องตรงหน้า
" เอ่อ คุณวิชาญครับ โทษของลูกคุณนี่ถึงประหารเลยนะครับ ตกลงจะให้ทางเราช่วยไหม "
ยังไม่ทันที่จะได้สอบนางมาลีพูดแทรกขึ้นมา " ค่ะๆ จ่ายเท่าไหร่ชั้นก็จะจ่าย "
ตำรวจไม่ได้สนใจกับคำพูดนางมาลีหันไปถามกับนายวิชาญอีกครั้ง
" ตกลงคุณจะยอมจ่ายห้าแสนใช่ไหมครับ แลกกับทางเราไม่เอาความลูกคุณ "
นายวิชาญนิ่งเงียบหันไปมองยังหน้าลูกตัวเองด้วยความโกรธแค้น นึกไปว่าถ้าช่วยประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอยเดิม
ครอบครัวของเขา............. อนาคตของลูกอีกสามคนอาจจะต้องจบลงเพราะไอ้เวรนี่
" ไม่ ผมจะไม่จ่ายเพื่อช่วยไอ้เวรนี่เด็ดขาด " ทันทีที่พูดจบนางมาลีปล่อยโฮทันที วายุกลับตะลึงกับคำพูดที่ได้ยิน
" แล้วหมวดก็ไม่ต้องโทรไปหาผมอีกเข้าใจไหม แม่งจะเป็นยังไงก็ช่างหัวมัน "
เมื่อพูดจบก็ลากตัวนางมาลีกลับบ้านทันที
แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 48 09:55:46
แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 48 13:40:50
แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 48 01:56:30
แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 48 23:07:33
จากคุณ :
stan401
- [
12 มิ.ย. 48 23:07:23
]