ขุนช้างขุนแผนฉบับนิทานข้างกองฟาง (๑๔)
เสน่ห์สาวเหนือ
พ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักขอรับ กระผมจะขออนุญาตนำท่านทั้งหลาย ไปแอบดู ท่าน แม่ทัพพลายแก้ว ที่กำลังพักผ่อนอยู่ในเมืองเชียงทอง หลังจากที่พิชิตศึกขับไล่พวกเชียงอินทร์ ที่ยกทัพมาหมายจะยึดเมืองเชียงทอง ในพระราชอาณาเขตกรุงศรีอยุธยาเรียบร้อยไปแล้ว ว่าจะมีเหตุการณ์อันใดเกิดขึ้นอีกบ้างขอรับ
ก็มีพ่อเฒ่าคนหนึ่ง ชื่อ แสนคำแมน เป็นนายบ้าน จอมทอง กับ แม่เฒ่า ศรีเงินยวง ผู้ภรรยา ได้ขออนุญาตกองทัพไทย พาลูกสาวชื่อ ลาวทอง เข้ามาฝากให้ท่านแม่ทัพเลี้ยงดูด้วยสำนึกในบุญคุณที่กองทัพไทยในขณะรุกไล่ข้าศึก มิได้ทำร้ายแก่หมู่บ้านจอมทอง ท่านแม่ทัพก็ได้เชื้อเชิญเป็นอันดี ดังความปรากฎในฉบับหลวงดังนี้ขอรับ
ฝ่ายว่าผัวเมียทั้งสองรา
ต่างพูดตามประสาเป็นผู้ใหญ่
ข้อยออกมาหาพญาไทย
ด้วยขอบใจท่านนักที่ป้องกัน
ร้อยบ้านพันเมืองไม่หลอเหลือ
เป็นเบือฉิบหายด้วยห้ำหั่น
จนน้ำกินบ่ได้ไหลเป็นมัน
ฟันดังฟันปลาบ่ราครือ
แต่บ้านจอมทองของข้าน้อย
บ่ยับย่อยชาวทัพเขานับถือ
ข้าวของสิ่งไรอยู่ในมือ
มิได้ยื้อแย่งทำให้ช้ำใจ
ข้อยขอบคุณท่านเป็นเที่ยงแท้
ถึงคุณพ่อคุณแม่บ่ปานได้
ท่านจะยกทัพกลับเมืองไทย
สิ่งใดข้าวของก็บ่มี
ตามจนตามยากมาฝากบ้าง
เป็นเสบียงกลางทางจนถึงที
เงินทองของตูบ่สู้มี
จะแจกรี้พลท่านที่ขึ้นมา
ข้อยมีแต่ลูกสาว ลาวทอง
กับข้าวของหน่อยนิดคิดมาหา
เจ้าลาวทองลูกแก้วผู้แววตา
ให้เป็นข้าช่วงใช้ไปจนตาย ฯ
ขอรับ พ่อแม่พี่น้อง เมื่อถึงขนาดนี้แล้วคือ "มีคนใจบุญเอาไข่มาตุ๋นใส่จาน ยกให้ถึงบ้านหมวดคงไม่คว่ำจานเสีย.." อย่างที่ในเพลง เด็กมันยั่ว ของ คุณยอดรัก สลักใจ นั่นแหละ ขอรับ มีหรือที่ท่านแม่ทัพพลายแก้วจะไม่สนใจจนน้ำลายหก เพราะอีกอย่างหนึ่งพ่อเฒ่า
เจ้าของบ้าน ก็แต่งตัวให้ลูกสาวเสียพริ้งพรายทีเดียวเจียวแหละขอรับ
เกล้าผมสมทรงกะทัดรัด
ดอกไม้ทองแซมทัดสะบัดไหว
เกี่ยวกระหวัดปิ่นพลอยลอยวิไล
สอดใส่ดอกมะเขือทองคำพราย
ห้อยสายระย้าเพชรเก็จก่อง
สังวาลทองพลอยพริ้งสะอิ้งสาย
เด่นดวงกุดั่นพรรณราย
กำไลสวมขวาซ้ายสอดพร้อม
ใส่แหวนเพชรนิลมรกต
สะไบสีสุกสดตรลบหอม
พ่อแม่เป็นผู้ใหญ่จะไปดอม
ข้าไทแวดล้อมกันลงเรือน ฯ
ท่านแม่ทัพพลายแก้วจึงแสนจะอิ่มเอมใจ แลรับรองราวกับตัวยังไม่เคยมีเมียเอกที่ชื่อ พิมพิลาไลย มาก่อนฉะนั้น ดังในฉบับหลวงขอรับ (...หมั่นไส้ )
ท่านพาลาวทองมายกให้
จะเลี้ยงไว้ให้สมซึ่งศักดิ์ศรี
ท่านอย่าคิดกังขาราคี
ร้อยปีไม่อยากให้จากกัน
จะร่วมเรียงเคียงหน้ากว่าจะตาย
ไม่เบื่อหน่ายแหนงจิตบิดผัน
บรรดาได้ทรัพย์มานับพัน
ไม่แบ่งปันให้ใครเท่าใยยอง
สารพัดสมบัติที่ตีได้
ชั้นต่ำลงไปจนข้าวของ
อย่าวิตกจะยกให้ลาวทอง
สองท่านอย่าได้เป็นกังวล ฯ
และแล้ว เมื่อพ่อเฒ่าแม่เฒ่าขอลากลับบ้านไป ก็เป็นเวลาเกือบจะพร้อม ๆ กับที่ท่านแม่ทัพขยิบหูขยิบตาไล่ลูกน้องไปลับหูลับตาเสียสิ้น การณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปในเมื่อลูกไก่อยู่ในกำมือ ก็คงจะไม่ต้องอธิบายกันมากนะขอรับ แต่กระผมอยากจะยกฉบับหลวงมาให้พ่อแม่พี่น้องหัวเราะกันว่า " ไม้ตาย " ของพ่อพลายแก้วก็คือ " ไม้เดิม " นั่นเองแหละขอรับ
พลายแก้วเห็นนางยังประหม่า
พูดไม่เงยหน้าขึ้นจากที่
ครั้นจะสนทนาให้ช้าที
เซ้าซี้อยู่ก็เนิ่นเกินเวลา
จึงเอื้อมมือหยิบหมากที่ในพาน
อัดอั้นใจอ่านพระคาถา
ด้วยเคยเชื่อใจแต่ไรมา
ไม่ช้าส่งให้พี่เลี้ยงพลัน
ช่วยยื่นหมากไปให้เจ้าลาวทอง
ทั้งสองพี่กินหมากในพานนั่น
สนทนาเวลาก็ดึกครัน
ไปเถิดวันอื่นจึงขึ้นมา
พี่เลี้ยงรับหมากมายื่นให้
เจ้าลาวทองรับไว้ไม่เงยหน้า
ไม่กินกลัวจะไม่ให้ไคลคลา
ครั้นกินหมากมนตราให้เสียวใจ
ตั้งแต่ยามเย็นนางมาอยู่
หาได้ดูหน้าตาเจ้าพลายไม่
ครั้นต้องหมากมนตร์เคี้ยวประเดี๋ยวใจ
ก็อาลัยลอบเหลือบชำเลืองตา
เห็นเจ้าพลายนายทัพขยับยิ้ม
ปิ้มประหนึ่งจะคลานเข้าไปหา
เจ้าพลายแก้วแว่วเห็นกิริยา
ก็รู้ว่าต้องเทพรำจวนใจ
เบือนหน้ามาบอกกับสองนาง
ไปพลางวันอื่นจงมาใหม่
หาวนอนแล้วสิน้องลาวทองไป
ดับไฟมืดมิดทำนิทรา ฯ
พ่อแม่พี่น้องที่เคารพขอรับ ถึงแม้ว่าในที่สุดแล้ว แม่ลาวทองก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาคนที่สองของพลายแก้วแล้วก็ตาม แต่กระผมก็จะใคร่ขอตั้งข้อสังเกตไว้ว่า จริง ๆ แล้ว นางลาวทอง มิได้รักพลายแก้วเลย แต่เหตุที่ได้เสียเป็นเมียผัวกันนั้น ก็เพราะผู้ใหญ่เป็นคนจัดการ ก็เท่านั้นเอง ก็คิดดูสิขอรับ แม่ทัพชาวใต้ยกจู่ลู่มาตีบ้าน ตีเมือง แพ้ชนะก็ต้องมีอันเป็นไปกันสักข้าง แล้วนายบ้านกลางป่าที่มีลูกสาวสวยจะเหลืออะไรเล่าขอรับ
ถ้าพวกเชียงอินทร์ที่เป็นแม่ทัพนายกองเกิดรบชนะไทย แล้วมาพบเข้าแม่ลาวทองก็คงไม่แคล้วที่จะต้องกลายเป็นบาทบริจาริกาของเจ้านายเขา แต่ก็ปรากฏว่าไทยชนะ พ่อเฒ่าเจ้าบ้านจอมทอง"หญ้าแพรกที่พร้อมจะแหลกลาญไปกับคชสารที่ชนกัน ก็ย่อมจะต้องเลือกเข้าข้างฝ่ายชนะเป็นธรรมดา
และนั่นก็คือมูลเหตุที่ตะแกนำแม่ลาวทอง มาฝากเนื้อฝากตัวกับพลายแก้ว นี่แหละขอรับ ดังที่ฉบับหลวงท่าน ให้พ่อเฒ่าแกปลอบลูกว่า
บุราณท่านว่าเขาขุดบ่อ
ล่อให้ปลาหลงไม่สงสัย
ยังไม่กินค่อยประคิ่นประคองไว้
บัวในสระศรีมิให้ช้ำ
สายชลมิให้ข้นขุ่นมัว
ตัวปลาปล่อยกินอยู่คลาคล่ำ
เหมือนเขาปล่อยเราไว้ยังไม่ทำ
เมื่อเขากลับจับจำก็จวนเจียน
จะหลบลี้หนีไปข้างไหนพ้น
ต้องผ่อนปรนดับความหนามเสี้ยน
อย่าให้เราหญ้าแพรกนี้แหลกเตียน
เจ้าดังหนึ่งเทียนประทีปตาม
พ่อแม่แก่แล้วไม่เห็นหน
มืดมนอยู่ในป่าพนาหนาม
จะแจ่มแจ้งก็เพราะแสงเขาส่องงาม
พยายามเลี้ยงลูกจึงรำพึง
เมื่อน้อยน้อยร้อยชั่งพึ่งพ่อแม่
ครั้นพ่อแม่เฒ่าแก่พ่อแม่พึ่ง
จะยกเจ้าให้เขาไปเคล้าคลึง
แม่อย่าขึ้งเคียดแค้นรำคาญใจ ฯ
และเมื่อความรักระหว่างพลายแก้วกับลาวทอง มิได้ถูกบ่มฟักจนสุกงอมเหมือนกับแม่พิมซึ่งร่วมทุกข์มาด้วยกันฉะนี้แล้ว ดังนั้น ความยุ่งยากที่ตามมา ดังที่กระผมจะได้เล่าให้พ่อแม่พี่น้องฟังในคราวต่อไปนี้ จึงค่อนข้างหนักหนาสาหัสทีเดียวแหละขอรับ พบกันคราวหน้าขอรับ.
###################
จากคุณ :
พจนารถ
- [
13 มิ.ย. 48 06:05:39
A:61.90.14.131 X:
]