ตอนจบ.... โพสไม่ทัน เอาไปใหม่ละกัน
เฮอ เฮอ ....
ความสัมพันธ์ของผมและคุณยุ่งดูจะไปกันได้ด้วยดี จะเรียกว่าเป็นทางที่มีหาดทรายสีขาวสวยตลอดทางก็ว่าได้ แต่ทางที่เป็นดินทราย มันย่อมมีหล่มเป็นธรรมดา แต่มันก็ขึ้นอยู่ที่ว่าหล่มนั้นจะลึก แล้วขึ้นไปเองได้ หรือว่าจะต้องให้ใครช่วย
ผมจูงมือคุณยุ่งเดินไปเรื่อย ๆ เมื่อไม่มีเวลาสอนหนังสือ ปกติผมจะพาคุณยุ่งเดินไปทางด้านหลังของหาด แต่วันนั้นคุณยุ่งบอกว่าอยากไปดูฝรั่ง ซึ่งผมก็แปลกใจ ฝรั่งก็เหมือนเรานั้นแหละ เพียงแค่ตัวสีชมพู หัวสีทอง ซึ่งผมก็ยินดีที่จะพาเธอไป
ผู้ชายร่างสูงโปร่งดูอบอุ่นกำลังเดินจูงผู้หญิงที่กำลังท้องอยู่ริมหาด เสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่ปรากฏบนหน้าของทั้งคู่ ทำให้คนที่ผมจูงมือต้องหยุดชะงัก เสียงพูดจ่อย ๆ ของคุณยุ่งเงียบไป ผมหันมองตามสายตาของคุณยุ่ง ผู้ชายกับผู้หญิงคนนั้นหันมองมาทางผมและเธอ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้
ยุ่ง จริง ๆ ด้วย สบายดีนะครับ ผู้ชายคนนั้นถามคุณยุ่ง แต่ดูเหมือนเธอจะเงียบ มีเพียงรอยยิ้มเศร้า
ดีจัง ที่เจอยุ่ง
ยุ่งต้องไปก่อนละค่ะ ไว้ค่อยเจอกันนะค่ะ คุณนัท พี่ไท คุณยุ่งพูดตัดบทแล้วเดินแยกออกจากทั้งสองคนมา จนผมต้องวิ่งตาม คว้าข้อมือคนตัวเล็กให้หยุดวิ่ง
เป็นอะไรคุณยุ่ง
ผมถามเธอ บรรยากาศรอบ ๆ ตัวเราอึมครึมเล็กน้อย ร่างบางทรุดลงนั่งบนพื้นทรายสีขาวละเอียด น้ำตาไหลออกจากตาคู่สวย ผมลงนั่งข้าง ๆ เธอ
เข้าเหมาะกันดีจังนะค่ะ พี่ไทดูมีความสุขมากเชียวค่ะ เธอบอกเสียงเบา น้ำตายังคงไหลริน สุดท้ายเธอก็ยังไม่ลืมเขาคนนั้น
ผมยิ้มขมกับตัวเอง ยังไม่ลืมสินะ คุณยังไม่ลืมเข้าสินะ
ตอบผมสิ คุณยุ่ง วิ่งหนีเขาทำไม ตลอดเวลาที่เรารู้จักกัน ความรู้สึกที่ผมมีให้คุณมันไม่ได้ช่วยลบภาพเขาเลยใช่มั้ย คุณยุ่ง ที่ผมทำไป ความรู้สึกของผมคุณเอาไปไว้ที่ไหน มันไม่ได้ช่วยให้คุณหลุดออกจากอดีตเลยเหรอ ผมตวาดถามเธอ ยอมรับว่าตอนนั้นมันโมโห เจ็บจี๊ดขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผมลุกยืนแล้วรีบเดินออกมา น้ำตาที่กำลังเอ่อล้นดวงตา ผมหยุดเงยหน้ามองฟ้า ค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวง กำลังสาดแสงสีนวลส่งลงมาบนโลก แสงจันทร์ที่นำพามาซึ่งความสุข ผมอยากจะขอจันทร์ให้ช่วยนำพาความทุกข์ของผมไปด้วยจัง
คุณเคียว คุณเคียว รอยุ่งก่อนค่ะ เสียงคุณยุ่งวิ่งตามผมมา ร่างบางมาหยุดหอบ ข้าง ๆ ผม
คุณจะตามผมมาทำไม ในเมื่อยังลืมกันไม่ได้ เชิญคุณตามสบายเถอะ ผมว่าอย่างทิฐิ ยิ่งพูดยิ่งเสียใจ อารมณ์พาลจะแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ยุ่งแค่จะบอกว่า ใครก็แทนที่พี่ไทไม่ได้หรอกค่ะ เธอหยุดอยู่ครู่
เพราะใคร มันก็มีที่ของแต่ละคนไป พี่ไทก็แค่คนในอดีต ที่ทำยังไงยุ่งก็ลืมเขาไม่ได้ แต่คุณเคียวคนนี้ เธอเดินมาหยุดตรงหน้าผม นิ้วเรียวยาวของคนตัวเล็กจิ้มลงเบา ๆ ที่หน้าอกผม
คุณเคียวคนนี้ คือปัจจุบันที่ ที่คนคนนี้กำลังจะจดจำต่างหากละค่ะ ที่อยู่ของเขาก็คือที่ตรงนี้ เธอพูดจบก็เลื่อนมือของเธอเอง นิ้วเรียวยาววางลงบนอกด้านซ้าย รอยยิ้มหวานที่ผมคุ้นตาปรากฏขึ้นอีกครั้ง
คุณบอกรักผมเหรอครับ ผมถามเสียงขืน ๆ ตีหน้าขรึมร่างบางยิ้มหวานก้มหน้างุด
แต่ไม่เป็นไร ถ้ามันไม่ใช่ ผมจะบอกเองก็ได้ ว่าผมนะรักคุณ รักมาก ไม่เชื่อก็ลองถามแสงจันทร์ดูสิครับ ว่า ผมรักใครคนนั้นที่ร้องขอพระจันทร์ในค่ำคืนนั้น ผมเลื่อนตัวไปโอบไหล่ของเธอ
มีใครเคยบอกมั้ยค่ะ ว่านอกจะเจ้าเล่ห์แล้ว คุณเคียวยังขี้งอนอีกด้วย
ไม่มีนี่ครับ ผมก็เพิ่งจะงอนนี่แหละครับ ผมส่ายหัวดุ๊กดิ๊ก ยิ้มพราวให้เธอ คุณยุ่งยิ้มตอบ
งั้นก็ฟังนะค่ะ คนขี้งอน คนเจ้าเล่ห์ เธอพูดเสียงหนัก ๆ
เอาน่า จะขี้งอน หรือเจ้าเล่ห์ มันก็คือผมนั้นแหละ เรามาขอจันทร์กันดีกว่ามั้ย ขอให้คุณยุ่งรักผมนาน ๆ ผมบอกคำขอที่ผมขอจันทร์ให้เธอฟัง
แล้วให้คุณละค่ะ ไม่รักยุ่งให้นานเหรอค่ะ เธอถาม หน้าตาเหรอหรา
ไม่ละ เพราะยังไง ผมก็รักคุณไปนานตลอดชีวิตผมแหละ ไม่ว่าจะเป็นยังไง ผมคนนี้ก็จะรักคุณตลอดไป ไม่ต้องขอจันทร์หรือขออะไรทั้งนั้น เพราะผมเต็มใจที่จะรักคุณอยู่แล้ว เจ้าหญิงของผม ผมบอกกระซิบข้างหูของคุณยุ่ง ประทับริมฝีปากลงบนแก้มขาวเนียนใส
งั้นคุณก็ไม่ต้องขอจันทร์เช่นกัน เพราะจากนี้ไปยุ่งก็จะอยู่ให้คุณรักตลอดไปแน่ ๆ แล้วอย่ามาไล่กันทีหลังนะค่ะ
ไม่มีทางเด็ดขาดครับ ผมโอบกอดหญิงสาวจากด้านหลัง ยืนมองทะเลยามค่ำคืนพระจันทร์สีนวลสาดแสงกระทบพื้นน้ำสีดำเป็นทางยาว เกยคางกับไหล่บาง
ไม่ว่าแกงเลียงจะเค็ม หรือปลาทอดจะไหม้ยังไง ผมก็จะรักคุณตลอดไป ผมย้ำคำเดิม คำว่ารักคำเดิม ที่พูดทุกที เธอก็จะยิ้มหวานทุกครั้ง รอยยิ้มหวานที่มันตราตรึงใจผม
คุณเคียว
. เสียงเรียกที่ทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ ร่างบางยิ้มให้ผม รอยยิ้มที่มีเห็นได้บ่อยจากคนยิ้มเก่ง
ยุ่งเรียกคุณนานเชียวค่ะ
นานแค่ไหนค่ะ ผมถาม
นานค่ะ รู้ว่านาน คุณกอดยุ่งแน่นจังค่ะ
เหรอค่ะ ผมขอโทษ ผมบอกคนในอ้อมกอด ไล่ริมฝีปากจากเส้นผมเรื่อยลงไปถึงริมฝีปากบางสีชมพู ก่อนจะประทับริมฝีปากผมลงบนปากที่เผยอรับฝีปากของผม เนิ่นนานกว่าผมจะหยุดจูบของเราสองคนได้ ร่างบางหน้าแดงระเรื่อ ทุกครั้งที่ผมแสดงความรักกับเธอ มักจะมีอาการเขินจนผมอดใจไม่ไหว ต้องแสดงความรักซ้ำแล้วซ้ำอีก
เธอชูสร้อยคอทองขาว ที่มีจี้รูปหัวใจทำจากเพชรเม็ดเล็กน้ำงาม ส่งแสงแพรวพราว
ยังไม่มีคนสวมให้เลยค่ะ เธอบอกเสียงอ้อน ๆ ผมหยิบมันไว้ในมือบรรจงสวมให้เธอ ร่างบางเขย่งจูบแก้มขาวเป็นการตอบแทน
ชื่นใจจังค่ะ ถอดออกแล้วสวมใหม่ได้มั้ยค่ะ สักร้อย สักพันครั้ง ผมถามคุณยุ่ง
อันนี้ก็ไม่มีคนสวมให้ค่ะ เธอส่งแหวนทองขาวเข้าชุดกับสร้อยเส้นเมื่อครู่ให้ ผมบรรจงสวมแหวนลงบนนิ้วนาวข้างซ้ายช้า ๆ
แต่งงานกับผมนะค่ะ คำพูดเพียงไม่กี่ประโยค ที่ผมพูดออกมาช้า ๆ ร่างบางเขย่งจูบแก้มซ้ายผมอีกครั้ง เธอยิ้มหวาน ไม่มีคำตอบใด ๆ ดวงตาที่มักจะสื่อความรู้สึกของคนสองคนได้เป็นอย่างดี บอกผมหมดแล้วทุกอย่าง สายตาซุกซนของเธอที่กำลังยิ้มให้ผม
สายตาแบบนี้ ผมถือว่าคุณยุ่งตกลงนะค่ะ ผมถามย้ำ ร่างบางโผเข้ากอดผมอีกครั้ง ผมกระชับอ้อมกอดอีกครั้ง
จะต้องให้ยุ่งบอกอะไรอีกละค่ะ แค่นี้มันก็มากจนยุ่งบรรยายไม่หมดแล้วค่ะ คนในอ้อมกอดผมตอบเสียงอู้อี้
บางครั้งความรักก็ไม่จำเป็นที่ต้องแสดงออกมากมาย แค่เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน มันก็น่าจะเพียงพอสำหรับความรักแล้ว สำหรับผม เมื่ออีกคนเป็นคนที่ผมรัก ผมพร้อมที่จะแสดงให้เธอรู้ว่าผมรักเธอมากแค่ไหน
เพราะความรักของเธอผมสัมผัสได้ด้วยใจ ไม่ใช่เห็นได้ด้วยตา
Love looks not with eyes, but with the mind.
ความรักนั้น เห็นไม่ได้ด้วยตา แต่ด้วยสัมผัสได้ด้วยใจ
จากคุณ :
ขุนเขา
- [
13 มิ.ย. 48 19:58:27
A:221.128.102.191 X:
]