ความคิดเห็นที่ 1
11
ฮาร์โมนี เร็คคอร์ด เพลงพิณพึมพำอ่านชื่อที่ปรากฏอยู่บนป้ายตรงทางเข้า ตัวอักษรสีเงินเมทัลลิคดูโอ่อ่าหากก็ทันสมัย เบื้องหน้าเธอคือตึกรูปทรงโมเดิร์นขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านท้าแดดแรงกลางกรุง ผนังกระจกสะท้อนแสงอาทิตย์ส่องประกายยิบๆ จนคนมองต้องหยีตาหลบแสง
ยินดีต้อนรับสู่ที่ทำงานใหม่ หญิงสาวบอกกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเอารถเข้าจอด...ไม่ได้ผลแฮะ เธอไม่ยักรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่ต้อนรับเท่าไหร่
เจ้าของรถเช็คหน้าตาตัวเองกับกระจกมองหลังไวๆ จากนั้น ก็ก้าวเท้าลงจากรถ ปัดความรู้สึกหดหู่เมื่อครู่ทิ้ง พร้อมกับบังคับตัวเองให้คึกคักกระฉับกระเฉงเข้าไว้
เพลงพิณรู้จักตัวเองดีพอ เธอเป็นคนประเภทที่มักจะคาดหวังแต่ในสิ่งที่เลวร้ายที่สุดเสมอ สมัยเด็ก เวลามีใครทำอะไรหายที่โรงเรียน เธอเป็นต้องรีบค้นกระเป๋าตัวเองทันที เพราะกลัวจะเผลอไปหยิบเอาของเขามาโดยไม่ตั้งใจ ยิ่งตอนครูค้นกระเป๋าโดยไม่บอกนี่ไม่ต้องพูดถึง รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่ขโมยของคนอื่นแน่ๆ แต่ก็อดมองโลกในแง่ร้ายไม่ได้นี่นา...ก็ถ้ามีคนเอามันมาใส่กระเป๋าของเธอล่ะ
เธอยังรู้ด้วยว่า วิธีคิดแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย ดีแต่บั่นทอนกำลังใจกันเปล่าๆ แต่ก็นะ...มันอดไม่ได้
* * *
ผิดคาดแฮะ... ปิ่นค่อนข้างแปลกใจที่ประชาสัมพันธ์ใต้ตึกปล่อยเธอเข้ามาได้อย่างง่ายดาย ทั้งที่เธอยังไม่แสดงจดหมายแนะนำตัว หล่อนไม่ใส่ใจจะโทรมาตรวจสอบด้วยซ้ำ ถ้าคิดว่า นี้คือบริษัทดนตรีที่มีคนอีกนับร้อยนับพันอยากบุกเข้ามา เสนอ ตัว ก็ต้องถือว่า หละหลวมมาก
ปิ่นแอบคิดว่า ที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะ ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ ยังไงๆ เธอคงไม่ใช่พวกที่มาสมัครเป็นนักร้องแน่ๆ ซึ่งก็ไม่ผิดเท่าไหร่หรอก เธออาจจะทำอะไรได้ดีหลายอย่าง แต่การร้องเพลงไม่ใช่หนึ่งในนั้นแน่ๆ
เพลงพิณสำรวจชุดตัวเองกับกระจกเงาในกระจก เพราะที่นี้ไม่มียูนิฟอร์ม ปิ่นเลยเลือกชุดสูทที่ดีที่สุดมาใส่ แต่เพราะที่นี้เป็นบริษัทแนวเอ็นเตอร์เทน หญิงสาวจึงเลือกสูทชุดที่ออกแนวลำลองๆ และแล้วในที่สุดก็ มาลงที่กระโปรงทรงสอบยาวถึงเข่า ท่อนบนเป็นแจ๊คเก็ตผ่าหน้าสีเทาเข้มเข้ากับกระโปรง ส่วนเสื้อตัวในเป็นเชิ้ตสีฟ้าสด จะได้ดูสดใสหน่อย
เธอมาหยุดที่ประตูกระจกหน้าห้องที่สาวประชาสัมพันธ์คนนั้นบอก มั่นใจว่ามาถูกที่ เพราะป้ายชื่อสีดำตัวอักษรสีทองหน้าห้องก็ระบุเช่นนั้น และเพราะมันเป็นประตูกระจก เธอจึงมองเห็นข้างใน และแน่ใจอีกเหมือนกันว่า...ไม่มีใครอยู่
ดูเหมือนคุณวี เวทิต เจ้านายใหม่ของเธอยังไม่มาทำงานนะ ความจริงนี้ทำให้เธอผิดหวังนิดหน่อย
ก่อนจะมาทำงาน เธอเองก็ศึกษาประวัติเขามาไม่ใช่น้อย เธอค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งก็เหมือนทุกครั้ง ข้อมูลที่ใช้ได้จริงมีแค่ 25 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือก็ขยะ ส่วนภาพที่ได้ก็เห็นหน้าเขาขนาดเท่าหัวไม้ขีด แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ได้เห็นเส้นทางสายอาชีพของเขามามากพอ จะกล้าสรุปว่า ผู้ชายคนนี้เป็นพวก นักปีนหน้าผา
ด้วยวัย 35 แต่คุณเวทิตก้าวมาถึงตรงนี้ได้ ถือว่า มาได้ไกล และ มาไว ไม่ใช่เล่น เมื่อคิดว่าเขาเริ่มมาจากฐานล่างสุด จากศูนย์และไม่มีอะไร กลายมาเป็นซัมบอดี้เป็นคนที่มีอะไร คนพวกนี้พอขึ้นได้ระยะหนึ่ง เรื่องจะเหลียวไปมองอดีตน่ะหรือ...ลืมไปได้เลย
นักปีนผา ต่างจาก นักไต่เขา พวกปีนหน้าผาไม่เคยมีเวลาชื่นชมดอกไม้ริมทาง พวกเขาไม่เคยมีเวลาพอไม่ว่าจะเป็นเรื่องกันไหน เพราะจุดหมายคือ ไปถึงยอดให้เร็วที่สุด เส้นทางที่พวกเขาเลือก เสี่ยง ท้าทาย และลำบาก ดังนั้น ตาต้องจับอยู่แต่ที่ยอดเขา ปีน ปีน ปีน และปีน เพื่อจะไปให้ถึงยอดให้เร็วที่สุด ซึ่งเธอก็ไม่ได้รังเกียจเลยนะในเรื่องนี้ เพราะเธอเองก็เป็นพวกปีนหน้าผาเหมือนกัน
แต่ถึงจะอย่างนั้น มันก็ยังมีข้อเท็จจริงเรื่องหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ว่าพวกชอบไต่หน้าผาอย่างเขาหรืออย่างเธอนั้น ถ้ามุ่งมั่นหรือจริงจังจนเกินไปมักจะน่าเกลียด สุดท้าย คงจะไม่แคล้วกลายเป็นคนน่ารังเกียจที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ กำจัดทุกอย่างที่ขวางทาง หรือยอมแลกกับทุกอย่างเพียงเพื่อจะไปให้ถึงที่ซึ่งสายตาจับอยู่
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาเก่งที่มาถึงจุดนี้ได้โดยไม่มีใครหนุนหลัง แม้ว่าดูเหมือนพ่อของคุณเวทิตจะเป็นนักดนตรี แต่ก็เป็นนักดนตรีที่เล่นตามผับเล็กๆ ไม่ใช่คนโด่งดังอะไร หลังเห็นลูกชายอยู่ด้วยตัวเองได้ เขาก็ไปหางานทำที่อเมริกา ส่วนประวัติของแม่มีพูดถึงน้อยนิด เธอรู้แต่ว่าพ่อกับแม่ของเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วก็เท่านั้น
ปิ่น...ปิ่นใช่มั้ย เสียงใส เย็น กังวาน ดังมาจากด้านหลัง คนถูกเรียกขื่อหันหลังขวับ
เพลงพิณหันไปเจอผู้หญิงหน้าตาสวยสะ แต่งตัวเก๋ หล่อนคล้องกระเป๋าแบรนด์เนมราคาเท่าเงินเดือนของเธอทั้งเดือน ปิ่นรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาคนเรียกอย่างบอกไม่ถูก แต่คิดอีกที หล่อนอาจจะเป็นดาราก็ได้ ก็ที่นี้บริษัทเพลงนี่นา...แต่เอ๊ะ ทำไมหล่อนถึงเรียกชื่อเธอถูกได้ล่ะ
เราไง...ขวัญที่รหัสติดกันยังไงล่ะ
ขวัญ...ขวัญ เพียงขวัญ คนที่เป็นดาราน่ะเหรอ เธอโพล่งออกมาด้วยความตกใจ
เคยเป็นต่างหาก คนชื่อขวัญเอ่ย พร้อมยิ้มออกมาน้อยๆ
แล้วปริศนาก็ได้รับการคลี่คลาย เพียงขวัญ นั้นสวยและโดดเด่นมาตั้งแต่เด็ก แถมบ้านยังรวยมาก สมัยเรียนมหาวิทยาลัย อาศัยที่รหัสติดกัน เพลงพิณถึงได้พอรู้จักสนิทสนมกับขวัญอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้น ก็คงจะรู้จักกันยาก เพราะอีกฝ่ายนั้นค่อนข้างไว้ตัว ไม่สุงสิงกับใครง่ายๆ
ในตอนนั้น ขวัญเข้าวงการบันเทิงเป็นที่เรียบร้อย หล่อนดังระดับหนึ่ง พอเรียนจบ ก็เห็นว่าทำงานบันเทิงเต็มตัว แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็หายไปอีก เพราะว่าไปเรียนต่อที่เมืองนอก ส่วนไปเรียนอะไรและได้ปริญญาด้านไหนมานั้นยังเป็นเรื่องลึกลับ ไม่มีใครสามารถบอกได้
ปิ่นไม่ใช่คนติดละครซะด้วย ข่าวคราวหรือ ข่าวคาว ของดาราคงไม่ต้องพูดถึง เธอเคยแต่ได้ยินพวกเพื่อนๆ พูดถึงกันบ้างว่า ดาวคณะรุ่นเธอนั้นตกจากฟากฟ้าวงการมายาเมืองไทยไปนานแล้ว
มาทำอะไรอยู่หน้าห้องคุณวี หือ เธอถาม
ฉันเป็นเลขาเขา
อีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นสูงเหมือนข้องใจ แล้วปิ่นก็นึกขึ้นมาได้ว่า เพื่อนคนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนนี้ขวัญคบอยู่กับอดีตนักร้องที่ผันตัวมาเป็นโปรดิวเซอร์ของค่ายนี้ แล้วต่อคำหลังว่าอะไรประมาณ พึ่งบารมี หรือ เกาะรัศมีความดัง อะไรเทือกนี้นี่แหละ เธอไม่ค่อยตั้งใจฟังเท่าไหร่ ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า เวลาผู้หญิงอิจฉากัน เรื่องเล็กๆ ขี้ปะติ๋วสามารถเอามาขยายเป็นเรื่องใหญ่โตและน่าเกลียดได้ง่ายแค่ไหน
หมายถึง...กำลังจะเป็นน่ะ ฉันเพิ่งมาทำงานที่นี้วันแรก ปิ่นรีบออกตัว
จากคุณ :
นารูมิ
- [
15 มิ.ย. 48 09:33:39
]
|
|
|