CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    =[+] ฉิกจับอิด [+]= นิยายจีนร่วมแต่งแนวทดลอง : ตอนที่ 84 "สูงสุดคืนสู่สามัญ" ( อาวุธของเสี่ยวซา(2) )

    ขุนเขาบู๊ตึ๊งตั้งตรงตระง่านทะยานฟ้าเหนือหมู่เมฆ แมกไม้เขียวขจี ทุ่งหญ้าเขียวสลับทองพลิ้วไหว เสียงน้ำตกสาดกระเซ็นเป็นไอกระจายรอบโขดหิน สายธารฉ่ำเย็นไหลรินเรื่อยระไปตามลำธารคดเคี้ยว ธรรมชาติของขุนเขาบู๊ตึ๊งล้วนแต่งดงามกลมกลืน ทว่าท่ามกลางความเหมาะสมสอดคล้องของธรรมชาติในยามนี้กลับมีบางสิ่งผิดแผกออกไป สิ่งนี้มิเพียงไม่เหมาะสมกลมกลืน กลับแปลกแยกโดดเดี่ยวออกไปจากบรรยากาศรอบข้าง! คนผู้หนึ่งโผนทะยานขึ้นสู่ยอดเขาอย่างรวดเร็ว ท่าร่างของมันรวดเร็ว เข้มแข็ง งดงาม ทว่าไม่กลมกลืน ประกอบกับร่างอันสูงใหญ่ สง่างาม แข็งแกร่ง ประดุจเทพเจ้าแห่งการต่อสู้ เสื้อผ้าถักทอด้วยใยทองตัดเย็บอย่างประณีต ขับเปล่งรัศมีคนผู้นี้ให้โดดเด่นเหนือสิ่งใดๆ ในที่สุดภายใต้รัศมีของคนผู้นี้ที่กดดันคุกคาม กระทั่งสุมทุมพุ่มไม้ หรือธารน้ำตกที่ไหลรินก็ยังถูกคนผู้นี้ข่มหมองหม่นไป

    หลี่เฉินเชียง หยุดชั่วครู่ ณ ทุ่งกว้างริมธารน้ำตก ครั้งนี้มันเร่งรีบขึ้นเขาเพื่อมาจับตัวจื่ออิง เจ้าสำนักบู๊ตึ๊งคนปัจจุบันด้วยตัวเอง! โดยปล่อยให้กองกำลังฉิกจับอิดบุกเข้าล้อมเอาพวกบู๊ตึ๊งเอาไว้ที่เบื้องหลัง ทั้งนี้เพราะหลี่เฉินเชียงต้องการลงมือล้างแค้นที่ฝ่ายตรงข้ามนำไพร่พลไปบุกโจมตีสำนักใหญ่พรรคฉิกจับอิด แต่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็ยังมีเหตุผลอื่นแฝงเร้นอยู่อีก! ที่แท้จริงนั้นมันต้องการขจัดหอห้ากระบี่ และชาวยุทธทั้งหมด เพื่อลดการรวมตัวกันต่อต้านของบรรดาชาวยุทธในเวลาที่ทัพหูบุกเข้ายึดภาคกลาง และเป้าหมายสำคัญอันดับแรกก็คือ สำนักบู๊ตึ๊ง!!!

    สำนักใหญ่อันถือว่าเป็นเสาหลักของหอห้ากระบี่!!! และ...หัวของจื่ออิง!!!! เพื่อสยบขวัญเหล่าชาวยุทธ!!!!!

    ตั้งแต่ประมุขพรรคฉิกจับอิดปรากฎกายขึ้น ก็ดูเหมือนว่าวิหคจะหยุดส่งเสียงเรียกคู่ เสียงสายน้ำไหลผ่านก้อนหินก็เงียบหายไป  กระทั่งใบไม้ไหวที่เคยสั่นไหวเพราะแรงลมก็เงียบงันมิไหวติง ทุกสิ่งทุกอย่างคล้ายสงบนิ่งอยู่ภายใต้การคุกคามของหลี่เฉินเชียงโดยสิ้น!!!!! ภายใต้ความเงียบสงัดนี้โสตประสาทอันปราดเปรียวของมันกลับพบสิ่งผิดปรกติบางประการ! เป็นเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง!!! หลี่เฉินเชียงกลับไม่ทราบว่าคนผู้นี้ยืนอยู่ที่นี่เนิ่นนานเท่าใด? เนื่องเพราะคนผู้นี้ปราศจากวี่แววใดใด แม้เพียงประการเดียว คนยืนอยู่ตรงหน้าชัดๆ ผู้อื่นกลับยากที่จะจำแนก ความคงอยู่ของมัน คนผู้นั้น....เสี่ยวซา!!

    เด็กหนุ่มอยู่ในชุดคนครัวเก่าคร่ำคร่ามีร่องรอยปะชุนอยู่หลายแห่งทว่าสะอาดสะอ้าน และดูเรียบร้อยประณีต น่าประหลาดที่มันกลับสอดคล้องกลมกลืน กับธรรมชาติรอบๆ ตัวอย่างชนิดแยกไม่ออก ยามนี้เสี่ยวซากลับเป็นเหมือน ต้นไม้ เป็นก้อนหิน เป็นวิหคน้อย เป็นใบหญ้า เป็นแมกไม้สายธาร เป็นทุกอณูของอากาศ!

    หลี่เฉินเชียงตระหนักได้เป็นอย่างดี ครานี้มันได้พบคู่ต่อสู้ที่น่าหวาดหวั่นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคราวที่เจอกับฮั่นตง คราวนั้นเป็นบรรยากาศอันเต็มไปด้วยการคุกคาม และความตาย แต่ยามนี้กลับเป็นบรรยากาศอันล้ำลึกพิสดารยากที่จะหยั่งรู้ บรรยากาศที่คล้ายคงอยู่คล้ายไม่คงอยู่ สงบเย็นทว่าแฝงไว้ซึ่งความเปลี่ยนแปลงซุกซ่อนอยู่ตลอดเวลา

    ลักษณะและท่าทีของเด็กหนุ่มผู้นี้พอดีตรงกับคำหนึ่งที่ ชาวยุทธภาคกลาง มักเอ่ยถึง “สูงสุดคืนสู่สามัญ!!”

    หลี่เฉินเชียงเพิ่งจะเข้าใจในตอนนี้เอง มันรู้ดีบุคคลเบื้องหน้าย่อมไม่ใช่ “เด็กน้อยเสี่ยวซา” อีกต่อไป
    หากแต่เป็นสุดยอดฝีมือผู้หนึ่ง ซึ่งดำเนินในแนวทางพุทธ หรือเต๋า และถือว่าตรงข้ามกับแนวทางของมันอย่างชัดเจน และนี่คงเป็นอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ที่มันต้องมุ่งมั่นผ่านไปให้จงได้!!!

    ประมุขพรรคฉิกจับอิดสืบเท้าเข้าหาเด็กหนุ่ม ย่างก้าวที่มันคงสม่ำเสมอ เป็นตัวบ่งบอกจิตที่มุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ชั่วครู่จึงหยุดเท้าลง เมื่อห่างจากเด็กหนุ่มประมาณสองวา

    “ที่แท้เป็นเจ้าเอง”  นิ่งชั่วครู่จึงกล่าวต่อ

    “เจ้าคิดแก้แค้นให้ฮั่นตง และหลวงจีนหัวหลิน?”

    “ข้าพเจ้ามิได้คิดแก้แค้น เพียงต้องการหยุดท่าน” เสี่ยวซากล่าว

    "ฮา ฮา ต้องการหยุดเรา? เจ้าต้องการเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่ง? เช่นนั้นหรือ?" เพ่งสายตาคมวาวจับจ้องร่างของเด็กหนุ่มค่อยกล่าวต่อ

    "ขอบอกต่อเจ้า ด้วยพลังฝีมือของเจ้านับว่าเป็นคู่มือที่ร้ายกาจที่สุด บางทียังอาจร้ายกาจกว่าฮั่นตง หัวหลินไต้ซือ หรือแม้กระทั่งอาจารย์ของเรา!!!!! ทว่ายังคงมิสามารถเอาชนะเราได้ดอก!!!!!"

    เสี่ยวซาได้ยินคำพูดดังกล่าวกลับมิมีทีท่าแตกตื่น หวาดกลัวแต่อย่างใด เด็กหนุ่มเพียงกล่าวเสียงเรียบ

    "เอาชนะท่าน?! ข้าพเจ้ากลับมิเคยคิดมาก่อน!! ยิ่งยอดฝีมืออันดับหนึ่ง!!!! ยิ่งมิเคยเพ้อฝัน เพียงแต่จำเป็นเพราะมิต้องการเห็นท่านเข่นฆ่าผู้คนที่ไร้ความผิดมากไปกว่านี้ ยิ่งไม่ต้องการเห็นยุทธภพปั่นป่วน และถึงการดับสูญด้วยน้ำมือของท่าน!!!"

    หลี่เฉินเชียงมองดูเด็กหนุ่มเบื้องหน้าด้วยแววตาประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นพลันผงกศีรษะ กล่าวเสียงดัง

    "ประเสริฐ ประเสริฐยิ่งนัก มิว่าจะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ ก็คือตัวเจ้าต้องการชีวิตเรา!!! ต้องการเอาชนะเราให้จงได้!!! หากเจ้ามีความมั่นใจ ก็ลงมือเถิด!!!!"

    เสี่ยวซาพลันยิ้มนิดหนึ่งกล่าวว่า

    "ท่านประมุขกลับกล่าวรุนแรงเกินไป วันนี้ข้าพเจ้าเพียงต้องการหยุดยั้งท่านมิให้ก่อกรรมทำเข็ญ ยิ่งมิคิดเอาชีวิตท่าน ขอเพียงสามารถหยุดท่านเอาไว้ที่นี่ได้ ข้าพเจ้าก็พอใจยิ่งแล้ว!!!!"

    สีหน้าของหลี่เฉินเชียงเปลี่ยนเป็นกระด้างเย็นชา ทว่าแฝงความเข้มแข็งสำรวมอยู่หลายส่วน ตลอดเวลาผู้ยิ่งใหญ่แห่งฉิกจับอิดพยายามจู่โจมอีกฝ่ายด้วยวาจา และคำพูด หวังว่าจะสามารถบั่นทอนความคิดต่อสู้ หรือจิตที่มุ่งมั่นของอีกฝ่ายได้ ทว่าจนแล้วจนรอดเด็กหนุ่มเพียงยึดมั่นอยู่บนความคิดที่ตัวมันเห็นว่าเป็นสิ่งถูกต้อง!!!!

    หลี่เฉินเชียงมิสามารถทำลายความเชื่อมั่น และความชอบธรรมของอีกฝ่ายได้!!!! สิ่งเหล่านี้ใช่เป็นประดุจศาสตราวุธแหลมคมที่เมื่อมิสามารถทำร้ายฝ่ายตรงข้ามได้ กลายเป็นสิ่งที่กลับมาทิ่มแทงตนเองหรือไม่?!!!

    แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 48 23:49:51

    จากคุณ : ทีมแต่งนิยาย - [ 19 มิ.ย. 48 23:40:40 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป