CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    กฏแห่งคุณธรรม

    “จ๋อย จ๋อย เสร็จยังว่ะ”
    เด็กหนุ่ม ร่างสูง โย่ง ในมือถือกระดาษปึกใหญ่ เดินเข้ามายังกลุ่มเพื่อนที่ต่างกำลังปั่นงานมือเป็นระวิง

    “เสร็จก๊ะผีอะไรละ ไอ้ตรีพึ่งโทรบอกตูเมื่อคืน”

    ไอ้ตรีของเพื่อนคือเด็กหนุ่ม ฟันเก ใส่แว่นตาโต เสื้อติดกระดุมตั้งแต่เม็ดแรกยันเม็ดสุดท้าย

    “โธ่ ผมโทรหาคุณไม่ติดนิขอครับ”

    เพื่อนในกลุ่มเดียวกันอีกสองคนนั่งมองหน้าไอ้ตรี ที่กำลังง่วนเขียนรายงานยิกๆ

    “แก อย่าพึ่งชวนมันคุย พวกฉันรอลอกมันอยู่นะ”

    เด็กหนุ่มร่างสูงที่เดินเข้ามา นั่งลงข้างๆ นายจ๋อย พุงโร ก้นปอด ตบป้าบเข้าที่ไหล่อันบอบบาง

    “ไอ้ตรี รู้ตั้งแต่เมื่อวานยังทำไม่เสร็จ อีกหรือวะ “

    “ข้ารู้ตั้งแต่เมื่อวาน แล้วเมื่อวานห้องสมุดมันเปิดเมื่อไรเล่า “

    นายตรีฟันเก บอกเพื่อนๆร่วมแก๊งที่ต่างรอกันอย่างหิวกระหาย
    หน้าตาบอกความเบื่อหน่าย ....ก็จะไม่ให้รู้สึกได้ยังไงละ
    ในเมื่อพวกเขาจะจบมหาวิทยาลัยกันแล้ว แต่งานชิ้นสุดท้ายที่อาจารย์สั่งเพิ่มมานี้ซิ
    ทำให้พวกเขาต้องมาหัวปั่นอยู่นี่
    อาทิตย์ถัดไปพวกเขาทั้งกลุ่มก็ต้องออกหางานอย่างเอาเป็นเอาตาย
    สมัยนี้ใครว่าจบปริญญามาแล้วจะสบาย ฝันซะเถอะ
    เห็นเดินหางานกันจนรองเท้าสึกไปหลายสิบคู่
    มีบางคนในรุ่นที่โชคดีได้งานไปแล้ว บางคนมีบริษัทใหญ่ๆ มาจองตัว
    แต่อย่าอึงไปละ นั้นนะ เขาพวกเรียนระดับมีเกียรติประดับ
    พวกครึ่งๆกลางอย่างกลุ่มนี้เห็นทีความหวังจะริบหรี่
    แต่ละคนก็ต้องออกหางานทำเพื่อจะได้ช่วยเหลือพ่อแม่
    ตรีทศหรือนายตรีนั้นเขายังมีน้องอีกสองคนที่ยังเรียนอยู่มัธยมต้น
    ส่วนเพื่อนๆในกลุ่มก็มีสภาพไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
    ต่างคน ต่างต้องมีภาระรับผิดชอบ ฐานะไม่ได้มีใครพอที่จะหอบเพื่อน
    ทั้งกลุ่มไปทำงานในบริษัทพ่อแม่ได้ นายจ๋อยนั้นมีพ่อแม่ขายข้าวแกงอยู่ในตลาดสด
    เย็นต้องไปช่วยขาย เช้ามืดต้องช่วยกันเตรียมของไปขายอีก ส่วนนายโย่งศักดิ์นั้น
    พ่อแม่ก็ทำอาชีพสมตัวมันนั้นแหละ คือมีสวนมะพร้าวเล็กๆ อยู่ พอเช้าเย็น
    ก็เอามะพร้าวไปขายข้างพ่อกับแม่ไอ้จ๋อย มันทั้งสองคนก็ช่วยพ่อแม่ไป
    คุยล้งเล้งกันไปทั้งตลาด คุยกันทีได้ยินไปสามบ้านแปดบ้านเหมือนโบราณเขาว่าเปี้ยบ
    ส่วนไอ้หลอกับไอ้ลิงแฝดสะท้านโลกันต์นั้นดีหน่อยคือพ่อแม่มีกิจการเฉพาะตัว
    เป็นรถสองแถวสองคันที่พ่อจะขับคันหนึ่ง.....อีกคันหนึ่งให้เช่า แต่ถ้าช่วงไหน
    ไอ้ลิงกับไอ้หลอว่างหรือโดดเรียนมันก็จะเอารถสองแถวของพ่อกับแม่นั้นแหละไปขับหากิน
    วันดีคืนดี ก็ขับไปเที่ยวทะลงทะเลกะเขามั้ง เรียกว่าจะไปไหนมาไหนก็ใช้บริการหลอลิงทัวร์
    กับข้าวจากภัตตาคารหลวงจ๋อย ผลไม้สั่งตรงจากสวนปลอดสารพิษของคุณโย่งศักดิ์
    ส่วนนายตรีก็จะบริการซ่อมรถฟรีให้เพื่อนๆตลอดรายการ ก็เพราะว่าพ่อของตรีทศมีอู่เล็กๆ
    ฝ่ายแม่ก็ขายไอติมอยู่ข้างๆ นายตรีฟันเกนั้นจะช่วยแม่ขายไอ้ติม น้องทั้งสองคนนั้นสายตาดีกว่า
    ก็จะเข้าไปช่วยพ่อซ่อมรถซ่อมราไปตามเรื่อง แต่อนิจจา พอมาวันนี้ทั้งสี่ต้องมานั่งรออานิสงค์จากการ
    ปั่นการบ้านของเขา และถ้าเขาปั่นไม่เสร็จ อนาคต อนางอ ของทุกคนก็จะพาล คต พาลงอ ไปด้วยกัน

    “ใครเป็นคนบอกวะ ว่าจารย์สมสั่งงานชิ้นสุดท้าย”

    นายโย่งศักดิ์ สอบสวนเอากะเพื่อน เพราะว่าเขาก็พึ่งรู้สดๆร้อนๆนี้เอง
    เป็นห่วงทั้งชีวิตของตัวเองและเพื่อน อีกทั้งอาจารย์ สมส่วน คนนี้แกยิ่งเขี้ยวลากดิน
    ถ้าวันไหนแกสอนลูกศิษย์แล้วทุกคนทำหน้าตา

    “ฉานไม่ยู้เยื่อง “
    ด้วยแล้ว วันนั้นแกจะยิ่งหน้าบานเป็นจานดาวเทียว
    แต่ถ้าวันไหนแกสอนรู้เรื่อง วันนั้นก็ท้องฟ้ามืดครึ้มไปนานเชียวละ

    “ ทำไมมันยากยังงี้วะ “

    เสียงบ่นจากนายตรี ฟันเก มือซ้ายที่เขียนยิกๆ ปล่อยปากกาลง เปลี่ยนมากุมขมับแทน

    “เฮ้ย....ฉันว่าเราไปนั่งเย็นๆที่ห้องสมุดก่อนดีกว่า จะได้พอคิดออกมั้ง”

    เจ้าหลอออกความคิดเห็น และโดยไม่รอลงมติเจ้าตัวเก็บสมุดหนังสือที่วางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะ
    วางแม๊ะลงบนมือน้องชายคู่แฝด และทั้งห้าสหายจึงได้ช่วยกันลากสังขารกันไป

    ตึกรูปทรงห้าเหลี่ยมยืนโดดเด่นเป็นสง่า สีขาวนวลของตึกที่สร้างใหม่รับกับแสงอาทิตย์เจิดจ้าจนบรรดาห้าสหายต้องรีบหลบตาลงมองพื้น รีบวิ่งหัวซุกหัวซุนไปยังประตูบานใหญ่ พอผลักประตูเข้าไปเครื่องปรับอากาศชั้นดีก็ทำหน้าที่ปรับบรรยากาศบรรเทาความร้อนของอากาศได้ฉมังนัก

    “ฉันบอกแล้วมานั่งในห้องสมุด ดีกว่า เย็นฉ่ำ ความคิดเล่นปรี้ดๆ”

    นายหลอจับจ้องหามุมอันเป็นส่วนตัว แล้วเดินนำหน้าเพื่อนๆเข้าไปยังห้องเล็กด้านใน

    “เงียบดี แกไม่กลัวหลับก่อนงานเสร็จไง วะ”

    “ม่ายกัว ....เพราะลาวมีคุณชายนายตรีอยู่ หลับบ่ได้ งานเสร็จเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน”

    “พอๆ พวกแกไปหาหนังสือมาฉันจะปั่นรออยู่ตรงนี้”
    นายตรีสั่งบรรดาลูกสมุนซึ่งเขาจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเรื่องการเรียนเท่านั้นถ้าเป็นเรื่องอื่น
    ไม่มีทางทีบรรดาสหายจอมโฉดของเขาจะยอมเป็นลูกสมุนเป็นอันขาด
    แล้วมันก็ดำเนินแบบนี้มาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กด้วยกัน
    ทุกคนต่างตั้งความหวังไว้ว่าจะช่วยพ่อแม่ทำงานทำการ

    จนเกือบสี่โมงเย็นเหล่าสหายทั้งห้าจึงได้สำเร็จลุล่วง
    และออกจากห้องสมุดตรงไปยังอาคารเรียนที่อยู่ถัดจากตึกใหญ่นี้ไปสองตึก
    หากพอไปถึงหน้าประตูห้องกลับปรากฎว่า ห้องนั้นปิดสนิท

    “อะไรวะ นี้มันพึ่งสี่โมงห้านาทีเอง ทำไมอาจารย์ปิดห้องหนีพวกเราเราวะ”

    นายโย่งศักดิ์เดินงุ่นง่านอยู่หน้าห้องพลางเขย่าประตูดังจะพังเข้าไปด้านในให้ได้
    หากนายตรีผู้มีสติกว่าเพื่อนลากแขนออกห่างจากประตูนั้นเสีย

    “เดี๋ยว จารย์มาเจอเป็นโดนละ .....มาคิดกันดีกว่าว่าจะทำยังไงดี”

    “คิดยังไงละเล่นปิดห้องซะแบบนี้ “ นายหลอเดินขาไขว้เตะถังขยะข้างๆเป็นการแก้แค้น
    “เอาไงดี”
    นายตรี อิคิวซัง ประจำกลุ่ม ทรุดลงนั่งหน้าห้อง เ
    พื่อนๆทั้งสี่เดินสวนสนามกันไปมา กระทั่งเสียงร้องทักดังแสบแก้วหูดังขึ้น

    “นี้พวกเธอมาทำอะไรตรงนี้ย่ะ”

    เหมือนนางฟ้ามาโปรดทั้งห้ากรูเข้าไปรุมล้อมอาจารย์สาวใหญ่ร่างเล็ก

    “อาจารย์ครับ พวกผมเอางานมาส่งครับ”
    นายหลอกับนายจ๋อยละล่ำละลัก นายตรียื่นรายงานปึกใหญ่ให้อาจารย์

    “รู้หรือเปล่านี้มันกี่โมง” อาจารย์สาวถาม

    “แค่ สี่โมงยี่สิบเองครับ”

    “เธอใช้คำว่าแค่หรือนายลิงลม ทำไมไม่บอกว่ามันตั้งสี่โมงยี่สิบ”

    “แต่พวกผมมารออาจารย์ตอนสี่โมงห้านาทีนะครับ”

    “นี้ถ้าฉันไม่ลืมของก็คงไม่กลับมาหรอกนะ ....... จะสี่โมงห้าสี่โมงสิบฉันก็บอกไว้แล้วว่า
    เส้นตายอยู่ที่สี่โมง ไม่ใช่พวกเธอมาเล่นต่อราคากะฉันยังกะผ้าแถวพาหุรัด”
    อาจารย์สาวใหญ่ไม่ยอมรับรายงานจากมือลูกศิษย์หนุ่มที่พยายามยัดเยียดให้

    “โธ่ แค่ไม่กี่นาทีเองครับ”

    “ไม่ต้องมาโธ่มาแธ่ พวกเธอมาสี่โมงยี่สิบ
    แล้วฉันไม่ต้องรอเพื่อนเธอที่จะวิ่งมาตอนสี่โมงสามสิบ
    สี่สิบ ห้าสิบหรอกหรือ นายหลอ พวกเธอจะจบปีนี้ไม่ใช่หรือ
    ถ้าไปทำงานจะมีใครให้ต่อรองเวลาแบบครูไหม “

    “จารย์ครับรับหน่อยเถอะครับ”

    “ตอนนี้สี่โมงครึ่ง ยังไม่มีเพื่อนของเธอมาส่งอีกหลายคน
    ฉันไม่ต้องนั่งรอถึงหกโมงเย็นหรือ พวกเธอจะจบไปเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
    แต่ครูให้รับผิดชอบแค่รายงานฉบับเดียว พวกเธอยังทำไม่ได้
    ครูสั่งงานไปตั้งหลายวัน แล้วพวกเธอมัวไปทำอะไรอยู่ “

    “ทีจารย์วิชัยยังรับเลยนี้ครับ”

    นายจ๋อยอดไม่ได้

    “นั้นก็ไปส่งที่อาจารย์วิชัยซิ”

    อาจารย์สมส่วนพูดอย่างไม่แยแส

    “แต่พวกผมจะไม่จบนะครับ”

    อาจารย์สาวใหญ่มองใบหน้าที่รอความหวังนั้นแล้วส่ายหน้า

    “เรียนอีกเทอมเป็นไง “
    “ไม่นะครับ”
    ทั้งห้าโวยวายทันที
    “แต่ถ้าเธอทำงานเธอ อาจได้ยินคำว่า....ไล่ออก ......ฉันบอกแค่นี้พวกเธอคงเข้าใจ”

    ว่าแล้วอาจารย์สาวใหญ่จึงไขประตูเปิดห้องเข้าไป
    โดยไม่สนใจร่างของลูกศิษย์หนุ่มที่ยืนทำตาละห้อยอยู่ด้านหลัง

    จากคุณ : เอนันญา - [ 21 มิ.ย. 48 15:16:28 A:203.150.117.22 X:203.151.141.195 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป