ความสัมพันธ์ระหว่างทรายกับนิโคลัสยังคงดำเนินไปอย่างเป็นปกติ...
คำว่า ปกติ ในที่นี่ ก็คือเป็นลักษณะของความสัมพันธ์ที่พิเศษมากเกินกว่าอาจารย์และลูกศิษย์ทั่วๆไป มีการแอบหวานกันบ้าง หยอกล้อกันบ้าง เป็นห่วงเป็นใยกันบ้าง แต่ความพิเศษนั้นก็ยังไม่ลึกซึ้งจนถึงขั้นที่ทั้งสองจะบอกรักกันตรงๆ หลายครั้งที่ทั้งคู่อยู่ในภาวะที่สับสนกับบทบาทของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับนิโคลัส บางครั้ง เขาก็พยายามทำตัวเหมือนเป็นอาจารย์ของทรายคนหนึ่ง แต่บางครั้ง เขาก็เผลอตัวเผลอใจ แสดงออกให้ทรายรู้สึกได้ว่าเธอคือคนพิเศษ แต่นิโคลัสก็ยังคงรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเอง นั่นก็คือ จะไม่แตะต้องตัวทราย มากไปกว่าการจับมือ ขนาดแค่จับมือ เขาก็เคยทำแค่ไม่กี่ครั้ง น้อย..จนแทบจะนับครั้งได้ ครั้งสุดท้ายก็วันที่ไปเที่ยววินด์เซอร์ด้วยกันและเดินเล่นที่เดอะลองวอร์คนั่นแหละ
นิโคลัสเปลี่ยนไปเรียกทรายว่า ทราย แทน สรัลดา อย่างที่เคยเรียกสมัยก่อน เขายกเหตุผลว่ามันฟังดูห่างเหินชอบกล อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ ต้องมานั่งเรียกชื่อจริงกันเสียยาว ซึ่งทรายเองก็เห็นดีด้วย
แต่ผ่านจากช่วงเวลาอันหวานซึ้งนั้นมาได้เพียงแค่สองสัปดาห์ นิโคลัสก็ดูเงียบขรึมผิดปกติ เขาไม่ได้ชวนเธอออกไปไหนในวันหยุดเหมือนก่อน
และบ่ายวันอาทิตย์วันหนึ่ง ในขณะที่ทั้งคู่กำลังดูโทรทัศน์ด้วยกันในห้องนั่งเล่น อยู่ๆนิโคลัสก็ทำลายความเงียบขึ้นโดยการถามว่า วิทยานิพนธ์ไปถึงไหนแล้วทราย
ทรายนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ ก็เพิ่งจะทำแบบสอบถามเสร็จน่ะค่ะ กะว่าอาทิตย์หน้าก็คงออกไปเดินแจกแบบสอบถาม เนี่ยพูดถึงก็เครียดเหมือนกันนะคะ อยู่ๆให้ไปยืนแจกคนเดินผ่านไปผ่านมาในทาวน์ เขินแย่เลย
จริงๆแล้วผมก็อยากช่วยนะ แต่... เขาแสดงความอึดอัดใจ ใครจะไปอยากปล่อยทรายให้ออกไปยืนแจกแบบสอบถามอยู่คนเดียวล่ะ... แต่ถ้าเขาออกไปด้วย มันก็นับว่าเสี่ยงมาก เพราะทาวน์เป็นสถานที่ๆมีโอกาสเจอคนในคอร์สได้เยอะที่สุด ทั้งนักเรียน ทั้งอาจารย์ด้วยกัน แล้วถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นขึ้นมา เขาจะทำหน้าอย่างไร
ฉันเข้าใจค่ะนิค ถึงคุณจะอยากช่วย ฉันก็ไม่กล้ารบกวนหรอก ทรายพูดอย่างเข้าใจจริงๆ นึกภาพตัวเองไปยืนแจกแบบสอบถามกับนิโคลัส แล้วอยู่ๆมีคนรู้จักเดินเข้ามาทัก ตาย..ตายกันพอดี ฆ่าตัวเองตายกันชัดๆ
ผมอยากให้ถึงวันที่คุณส่งวิทยานิพนธ์เร็วๆจัง นิโคลัสเผลอพูดสิ่งที่ใจคิดออกมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ และคำพูดของเขาก็ทำให้ทรายถึงกับเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
ทำไมคะ เสียงหวานใสนั้นมีแววสงสัยดังที่แสดงออกผ่านทางสีหน้าและแววตา
แทนที่จะได้คำตอบที่กำลังรอคอยอยู่ นิโคลัสกลับนิ่งไป ก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉยว่า ไม่มีอะไรหรอก ผมก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง
พูดออกไปอย่างนั้น แต่ในใจคนพูดกลับคิดไปอีกอย่าง
ทำไมนะ ทรายถึงไม่เข้าใจคำพูดของเขา หรือเธอจะไม่เคยรู้เลยว่าเขารู้สึกพิเศษกับเธอเช่นไร และรอคอยวันที่เธอจะสำเร็จการศึกษาอย่างใจจดใจจ่อขนาดไหน
เขาอยากให้ถึงวันนั้นไวๆ เพื่อที่จะได้บอกรักเธออย่างเต็มปากและคบกับเธออย่างเปิดเผยเสียที
แต่ถ้าทรายมีใจให้กับเขา อย่างที่เขาคิดมาโดยตลอด เธอก็น่าจะรอคอยวันๆนั้นเหมือนๆกับเขา ไม่ใช่หรือ...
ถ้าอย่างนั้น เหตุใดเธอถึงไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาถาม
ฝ่ายทราย หลังจากที่ไม่ได้คำตอบในสิ่งที่ตัวเองถามออกไป ก็กลับพบว่านิโคลัสเงียบไป เงียบ..เสียจนบรรยากาศเริ่มอึดอัด ลอบมองเขา ก็เห็นแววตาและสีหน้าของเขาดูเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ อยู่ในโลกส่วนตัว ที่ไม่ได้สังเกตเอาเสียเลยว่าเธอกำลังประหลาดใจและไม่เข้าใจ
ทรายอดคิดไปเองไม่ได้ว่า..หรือที่จริงแล้ว การที่เธอมาอยู่กับเขาแบบนี้ เป็นภาระสำหรับเขา จริงๆแล้วเขาอาจจะนั่งนับวันรอให้เธอเรียนจบ ส่งงานไวๆ จะได้ย้ายออกไป
นี่ทุกวันนี้ เราทำให้เขาอึดอัดใจ อยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออกหรือเปล่านะ...
มิน่าล่ะ...วันนี้เขาถึงดูเงียบไป ผิดปกติ หรือจริงๆแล้วเขาอยากจะให้เราย้ายออกไปและอยู่อย่างเป็นส่วนตัวอย่างที่เคยอยู่ แต่ไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ...
แค่คิดก็รู้สึกน้อยใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา เออ..แปลกดีนะ บางที กับเรื่องบางเรื่อง คนเราก็สามารถอ่อนแอและหวั่นไหวได้ง่ายอย่างไม่มีเหตุผล
ไม่อาจฝืนทนนั่งอยู่ตรงนั้นได้อีกต่อไป ทรายจึงขอตัวกลับไปนั่งทำงานต่อที่ห้องนอน แต่พอเข้าไปในห้องจริงๆก็กลับไม่มีสมาธิพอที่จะนั่งทำงาน เธอแอบหยิบรูปที่ถ่ายคู่กับเขาวันที่ไปเที่ยววินด์เซอร์ขึ้นมาดู อยากย้อนเวลากลับไปในตอนนั้น วันที่เขาเดินจูงมือกับเธอเดินที่ เดอะลองวอร์ค
หลังจากวันนั้น ถึงแม้จะมีหลายครั้งที่เขาหยอกล้อกับเธอเหมือนเช่นคู่รัก หลายครั้งที่แสดงออกว่าห่วงใย หรือมีความรู้สึกพิเศษกับเธอ แต่เขาก็ไม่เคยแสดงอาการใกล้ชิดเท่ากับวันนั้นอีกเลย ไม่เคยสัมผัส ถูกเนื้อต้องตัวเธอแม้แต่แค่ปลายนิ้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขาดูห่างเหินไปอย่างเห็นได้ชัดตลอดหลายวันที่ผ่านมา และจะว่าไป นับจนถึงวันนี้ ซึ่งเป็นเวลาร่วมเดือนแล้วที่ทั้งสองอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ความสัมพันธ์ความผูกพันนั้นแน่นแฟ้นขึ้นทุกวันๆ และแม้นิโคลัสจะแสดงออกชัดเจนเพียงไรว่าเธอมีความสำคัญต่อเขา ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาพูดอะไรออกมาให้ชัดเจน
แต่สิ่งหนึ่งที่ทรายมองข้ามไปก็คือ ความเหมาะสม
เธอไม่เคยรับรู้ถึงความลำบากใจของนิโคลัสในหลายๆครั้งที่เขาต้องพยายามอย่างยากเย็นที่จะไม่ทำตามหัวใจของตัวเองจนเกินไป เพราะถึงอย่างไรก็ตาม ทรายก็ยังได้ชื่อว่าเป็นลูกศิษย์
สำหรับนิโคลัส สิ่งที่เขาได้ทำลงไป มันก็ผิดมากเกินไปแล้ว แต่บางครั้ง ทั้งๆที่รู้ว่าผิด ก็ยังจะทำ
ตั้งแต่ทรายลุกเข้าห้องนอนไป นิโคลัสเองก็จมอยู่ในภวังค์ เขาเริ่มทบทวนสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาด้วยความรู้สึกผิดและกลัดกลุ้มใจ และนี่เองก็เป็นสาเหตุที่ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เขาดูคนเงียบขรึมมากขึ้น มากจนทรายก็คงจะสัมผัสได้
เขารู้สึกผิดที่ปล่อยให้อารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผลในหลายๆครั้ง...
เอาเถอะ อีกเพียงแค่เดือนครึ่งเท่านั้น... เขาก็จะมีอิสรภาพที่จะปฏิบัติตัวกับทรายได้อย่าง คนรัก โดยที่จะไม่ต้องรู้สึกผิดอีกต่อไป
แต่อีกเดือนครึ่งที่ว่านั้นย่อมหมายถึงเวลาที่เขาจะได้อยู่กับเธอจะต้องหมดลงด้วยเช่นกัน
จะทำใจได้อย่างไร เมื่อคิดว่าวันที่เขาจะได้มีสิทธิ์รักเธออย่างเต็มหัวใจอาจจะเป็นวันเดียวกับที่เธอจะต้องเดินไปจากชีวิตของเขา...ไปไกลแสนไกล โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสได้เจอกันอีกหรือไม่
จากคุณ :
I aM nOt PerFecT
- [
22 มิ.ย. 48 21:00:26
A:202.183.135.99 X:
]