บทที่หนึ่ง ตามรอยอดีต
พ.ศ. 2517
ณ ป่าดิบชื้นแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี
ฝนที่ตกติดต่อกันมาเกือบสามวันเต็มเริ่มซาเม็ดลงไปยามรุ่งสาง
หมอกหนายามเช้าปกคลุมอยู่ทั่วหุบเขา
ป่าเขียวขจีดูชุ่มชื้น และเปียกแฉะไปด้วยแอ่งน้ำ
แสงแห่งวันใหม่ทาบทับขอบฟ้าพร้อมกับเสียงเพลงเบาๆที่แว่วดังมาจากหุบเขาแห่งนั้น
ชายสี่คนเดินร้องเพลงประสานเสียงกันไปตามทางเดินแคบๆของหุบเขา
คนแรกเดินนำหน้า มือของเขาไขว้ไว้ด้านหลังทั้งสองข้าง มันถูกมัดหลวมๆไว้ด้วยเชือกเส้นเล็กๆ
เขาเป็นชายวัยกลางคน ศีรษะล้านไปเกือบครึ่ง แต่ท่าทางและเครื่องแต่งกายดูภูมิฐานกว่าสามคนด้านหลัง
ใบหน้าของเขายิ้มแย้ม ดูมีความสุขยามส่งเสียงร้องเพลงออกมา
ชายสามคนด้านหลังใส่เสื้อคลุมฝนสีเขียวขี้ม้า พวกเขาส่งเสียงประสานตามเพลงที่ชายคนเดินนำร้องออกมา
พร้อมกับก้าวเดินตามชายคนแรกมาติดๆ
พอได้แล้วครับท่าน ตรงนี้แหละ
หนึ่งในชายสามคนหลังเอ่ยขึ้นแล้วหยุดยืนอยู่กับที่
ทั้งสี่หยุดลงพร้อมกัน เพราะเสียงนั้น
ชายหัวล้านหันหลังกลับมาแล้วยิ้มให้กับชายด้านหลังทั้งสาม
เอาตรงนี้ใช่ไหม เอ้า... เอาเลย
ชายหัวล้านพูดขึ้นแล้วเดินเข้ามาประชิดชายทั้งสาม
ชายสามคนหันไปสบตากันไปมา แล้วชายคนหนึ่งก็ล้วงกระบอกน้ำออกมาจากกระเป๋า
ท่านครับ วิสกี้ที่ท่านชอบ เรามาดื่มกันเถอะครับ
เขาพูดจบก็เดินไปหาชายหัวล้าน ล้วงมีดออกมาจากชายเสื้อ
แล้วตัดเชือกที่มัดมือชายหัวล้านออกจากกัน
เขายื่นกระบอกวิสกี้ให้ชายหัวล้าน แล้วถอยกลับมายืนในแนวเดียวกับอีกสองคนที่เหลือ
ชายหัวล้านรับวิสกี้มาไว้ในมือแล้วกระดกมันผ่านลำคอไปหนึ่งอึก
วืสกี้ดี... ขอบใจพวกแกมาก เอ้าพวกแกก็มาดื่มด้วยกันซิ
พวกเขาเริ่มดื่มวิสกี้จากกระบอกน้ำนั้น พลัดเวียนกันไปมาจนมันวนมาถึงชายหัวล้านอีกรอบ
เขากระดกวิสกี้จนมันหมดจากระบอกแล้วโยนมันคืนให้กับเจ้าของ
คงถึงเวลาแล้ว
สิ้นเสียงชายหัวล้านก็หันหลังให้กับชายทั้งสาม
เขาเดินก้าวไปข้างหน้าสามก้าว แล้วคุกเข่าลง สองมือยกขึ้นประสนบนท้ายทอย
ชายทั้งสามคนที่ยืนกันอยู่ด้านหลังสบตากันแล้วล้วงปืนพกขนาดจุดสามแปดออกมาจากชายเอว
เล็งตรงไปยังชายหัวล้าน
รออะไรอยู่ ลงมือได้แล้ว..........ให้มันจบๆไป
เสียงจากชายหัวล้านดังขึ้นในกึ่งตะโกน
ครับ
ทั้งสามคนรับคำขึ้นพร้อมกัน แล้วระเบิดกระสุนออกจากรังเพลิง
เสียงปืนดังประสานกันลั่นหุบเขาจนมันหมดลูกโม่ทุกกระบอก
ร่างของชายหัวล้านล้มคว่ำลงกับพื้น แผ่นเสื้อด้านหลังเต็มไปด้วยรูพรุนของกระสุน
แต่ไม่มีเสียงร้องที่แสดงถึงความเจ็บปวดออกมาจากปากเขา
ร่างเขานอนสงบนิ่งอยู่ตรงนั้น ตรงหน้าชายทั้งสามคนที่เป็นผู้ปลิดชีวิตเขา
ฝนเริ่มพระเม็ดลงมาอีกครั้ง
พร้อมกับเลือดที่ค่อยๆซึมไหลออกมาจากร่างไร้วิญญาณของชายหัวล้าน
ชายทั้งสามคนหันหลังกลับแล้วเดินจากไปอย่างช้าๆ
ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด อยู่ในการเฝ้ามองของสายตาอีกคู่หนึ่ง
เธอเคลื่อนตัวออกจากหลังพุ่มไม้ที่ซ่อนตัว เมื่อชายทั้งสามคนเดินจากไป
หญิงวัยกลางคนทั้งเนื้อตัวมอมแมมไปด้วยโคลน ผมยามกระเซิงปกคลุมหัวของเธอจนแทบไม่เห็นใบหน้า
เธอสวมเสื้อและผ้าถุงเก่าๆสีดำสนิท
หญิงคนนั้นคลานไปบนพื้นดินอันเฉอะแฉะ เข้าไปยังร่างของชายหัวล้าน
เธอพลิกร่างชายหัวล้านหงายขึ้นเมื่อคลานเข้าไปถึง แล้วใช้มือลูบเบาๆที่ใบหน้าอันขาวสีดของศพนั้น
แล้วเธอก็กระโดดขึ้นยืนอย่างกะทันหัน
มีรอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าเธอ ตามมาด้วยเสียงหัวเราเบาๆในลำคอ
ไม่รู้ว่าเธอคือใครและเธอมาทำอะไรที่นี่ และที่สำคัญไม่รู้ว่าเธอกำลังจะทำอะไรกับร่างไร้วิญญาณของชายหัวล้าน
แต่เธอกำลังลากร่างไร้วิญญาณของเขาตรงหายเข้าไปในป่าลึก
.............................
ปีปัจจุบัน
บนถนนสายหนึ่งในเมืองกาญจนบุรี
พ่อคะ นั่นอะไรคะ
เด็กหญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านหน้ารถยนต์รุ่นกลางเก่ากลางใหม่ กำลังชี้มือให้พ่อตัวเองดูภาพของชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ริมถนน
ผู้เป็นพ่อเหลือบมองไปข้างทางเห็นชายคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งยืนอยู่ตรงนั้น
คนจรจัดน่ะลูก
เด็กสาวทำหน้างง
เขาทำอะไรคะ
คนจรจัดไม่มีอะไรทำหรอกลูก
เด็กหญิงเอียงคอไปมา
แล้วเขาไม่ต้องทำงานเหรอคะ
ผู้เป็นพ่อหันมาขับรถต่อ แต่ยังตอบคำถามของลูกสาวไปอย่างเรื่อยเปื่อย
ทำซิลูก ใครๆก็ต้องทำงาน ทุกคนล้วนแต่มีหน้าที่ของตัวเอง
เด็กสาวยังคงตั้งคำถามเกี่ยวกับภาพที่พบเห็นสองข้างทางไปเรื่อยๆ ส่วนผู้เป็นพ่อก็คอยตอบคำถามอย่างไม่เคยเบื่อจนรถแล่นมาจอดลงที่หน้าสถานีตำรวจในตำบล
อย่าซนนะลูก นั่งเฉยๆไม่อย่างนั้นพ่อไม่พามาเที่ยวอีกนะ
เด็กหญิงพยักหน้าเบาๆแล้วรับคำ เดินตามผู้เป็นพ่อลงจากรถตรงขึ้นโรงพักไป
...............................................................
ในห้องสอบสวนของโรงพัก
ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าของพนักงานสอบสวนสามนาย
เขาอยู่ในชุดลุยป่า เสื้อผ้าตามร่างกายเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนและคราบเลือด
ผมบอกแล้วไงว่าเสือมันกัด ทำไมพวกคุณไม่เชื่อผม
เขาตะโกนใส่หน้าพนักงานสอบสวน
ถ้าคุณโดนเสือกัด แล้วทำไมไม่มีบาดแผล คุณบอกว่าโดนกัดที่ขา และคอไม่ใช่เหรอ
พนักงานสอบสวนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น แล้วเดินลุกจากเก้าอีกออกไป
ผมไม่รู้ แต่ตอนนี้พวกคุณช่วยไปตามหาแฟนผมได้แล้ว
ชายคนนั้นตะโกนลั่นแล้วร่ำให้ออกมา
คุณใจเย็นๆก่อน คุณบอกว่าคุณกับแฟนคุณไปเดินป่า
ไปกันกับคนนำทาง แล้วคนนำทางล่ะเขาหายไปไหน
พนักงานสอบสวนยิงคำถามใส่ชายคนนั้นต่อไป
เหตุการณ์มันชุลมุนมาก ตอนที่เราโดนเสือลุยเข้ามาในแค้มป์ ไม่มีใครช่วยใครทัน ทุกคนได้แต่เอาตัวรอด
ชายคนนั้นตอบคำถามแล้ว แต่ยังสะอื้นไห้ไม่ยอมหยุด
แล้วคุณออกจากป่ามาได้ยังไง
ผมไม่รู้ ผมตื่นขึ้นมาชายป่า แล้วก็เดินออกมาเรื่อยๆจนถึงถนน
พนักงานสอบสวนถอนหายใจ พอดีกับที่เสียงเคาะประตูห้องสอบสวนดังขึ้น
หนึ่งในพนักงานสอบสวนลุกขึ้นไปเปิดประตู
เชิญครับคุณเชน
ชายคนหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าประตู เขาถูกโทรตามตัวมาเมื่อเช้า
เช้าวันอาทิตย์อันเป็นวันของครอบครัว เขาสัญญากับลูกสาวว่าจะพาเธอไปเที่ยวในเมือง
แต่มีอันต้องแวะมาที่โรงพักซะก่อน เขาฝากลูกสาวไว้ข้างนอกกับตำรวจนายหนึ่ง แล้วเดินเข้าห้องสอบสวนไป
เชนทำงานเป็นหัวหน้าอุทยานของป่าที่ยังหลงเหลืออยู่แห่งนี้
วันปกติงานของเขาก็ยุ่งพออยู่แล้ว แต่เหตุการณ์ในวันนี้ก็ไม่ปกตินัก
จากข้อมูลที่เขาได้รับจากทางโรงพัก
มีคนที่ไปตั้งแค้มป์บนภูเขาแล้วถูกเสือบุกเข้าจู่โจมทำร้าย
เสือ
เขาโพล่งออกไปทางโทรศัพท์เมื่อทราบข้อมูลจากทางตำรวจ
มันไม่น่าจะหลงเหลืออยู่ในป่าแห่งนี้นานแล้ว
เชนก้าวช้าๆเข้ามาในห้องเขาทักทายนายตำรวจในนั้นพอเป็นพิธี
คนนี้ใช่ไหมครับที่ถูกเสือกัด
เขาถามพนักงานสอบสวนแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ด้านหน้าชายคนนั้น
ครับ คนนี้แหละ
เชนหันไปสบตาชายคนนั้นซึ่งกำลังก้มหน้าร้องให้
ขอโทษเถอะครับ คุณชื่ออะไร แล้วคุณถูกเสือกัดตรงไหน เพราะผมไม่เห็นบาดแผลคุณเลย
ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองเชน
ผมชื่อ นนท์... ผมจำได้ว่าผมถูกมันกัดที่ขา และที่คอ แต่.......ผมไม่รู้ว่าทำไมไม่มีบาดแผล
เชนจ้องหน้าเขาเขม็ง
คุณนนท์ครับ ใครก็ตามที่ถูกเสือกัดที่คอ คงต้องตายไปแล้ว....อีกอย่างผมอยู่กับป่าแห่งนี้มาสิบปี ไม่เคยเจอเสือเลยสักครั้ง
เชนไม่เชื่อคำของชายคนนี้มาตั้งแต่แรก เขาอาจจะกุเรื่องขึ้น แต่จนบัดนี้เขาก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไม
เป็นไปได้ว่าเขาอาจฆ่าแฟนเขา แล้วโยนความผิดให้เสือ เสือที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง
นี่ไงคุณดูรอยเลือดบนตัวผมซิเห็นไหมเลือดเนี่ย
นนท์ตอบกึ่งตะโกนแล้วลุกขึ้นยืน ชี้ให้ดูรอยเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่ตามเสื้อผ้า
รอยเลือดที่แห้งเกรอะกรังอยู่ตามเสื้อ แยกไม่ออกว่าเป็นเลือดคน หรือเลือดสัตว์ มันเป็นหลักฐานที่บางเบากว่าปุยนุ่นที่จะพิสูจน์เรื่องที่ ชายคนนี้เล่ามาทั้งหมด
เชนมองนนท์แล้วส่ายหัวไปมา แต่แล้วเขาก็เหลือบไปเห็นขากางเกงของนนท์ ตรงที่มีรอยเลือดและขาดแหว่งออกไป
เชนลุกจากเก้าอี้ เดินเข้าไปหานนท์แล้วชะเลืองมองดูขากางเกงเขา
มันเป็นรอยคล้ายถูกสัตว์กัดจริงๆ แต่มันอาจจะเป็นหมา หรืออะไรก็ได้ นั่นก็ยังไม่ใช่ข้อพิสูจน์
ผมขอถามย้ำคุณอีกทีนะ ว่าเรื่องทั้งหมดที่คุณเล่ามาคุณไม่ได้ฝันไป คุณและแฟนอาจจะหลงป่า แล้วเพ้อไปก็ได้
นนท์ก้าวเข้ามาหาเชน แล้วจับคอเสื้อเขาดึงเข้ามาหาตัว
ให้ตายเถอะ พวกคุณคิดว่าผมบ้าใช่ไหม
นนท์กำหมัดแน่นทั้งสองมือ ความเครียดที่สะสมพร้อมจะระเบิดออกมา
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะทำอะไร ตำรวจสองนายก็พุ่งเขากันเขาออกไปจากเชน
เชนขยับคอเสื้อให้เข้าที่แล้วยืนมองนนท์ที่กำลังยื้อกำลังอยู่กับตำรวจสองนาย
เหตุผลอันใดกันที่ทำให้ชายคนนี้กุเรื่องขึ้น
ชายคนนี้ฆาตกรรมแฟนตัวเอง แล้วป้ายความผิดให้กับเสือ
ไม่น่า.... ถ้าเขาฆ่าแฟนตัวเอง แล้วทำไมต้องวิ่งโร่เข้ามาหาตำรวจ เขาน่าจะทำเรื่องให้เงียบๆไป ไม่น่ามาโวยวายขนาดนี้
แล้วรอยฉีกขาดที่ขากางเกงเขาล่ะ มาจากไหน
.เขาอาจโยนกางเกงให้หมากัดแล้วค่อยเอามันมาสวม
แล้วรอยเลือดล่ะ
.เขาอาจเอาเลือดอะไรมาป้ายตามตัวก็ได้
คุณนนท์ คุณใจเย็นๆก่อน เอาเป็นว่าผมเชื่อคุณ แต่ตอนนี้ผมว่าคุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ ทำใจเย็นๆ แฟนคุณอาจจะยังมีชีวิตอยู่เหมือนคุณก็ได้ ก็ในเมื่อคุณโดนเสือกัดแล้วยังไม่เป็นไร แฟนคุณก็คงจะปลอดภัย
นนท์พยายามควบคุมอารมณ์แล้วกลับมานั่งลงที่เดิม เขาสบตาเชนแน่วแน่
แล้วพวกคุณจะไปตามหาแฟนผมเมื่อไหร่
เชนเห็นนนท์สงบลงก็เดินไปนั่งที่เก้ากี้ตรงข้าม
อันดับแรกเราต้องหาคนนำทาง ที่จะพาเราไปจุดเดียวกับที่เกิดเหตุการณ์ทั้งหมดกับคุณในป่านั้น
ผมคิดว่าอย่างเร็วก็พรุ่งนี้
นนท์ลุกขึ้นจากเก้าอี้พรวดเข้ามาจับไหล่เชน
ตกลงคุณเชื่อผมแล้วใช่ไหม
เชนส่ายหัว
ไม่ทั้งหมด รอยเท้าของเสือจะเป็นตัวพิสูจน์เรื่องทั้งหมดที่คุณเล่ามา
เชนหันไปหาพนักงานสอบสวนแล้วพยักหน้าเบาๆ
วันนี้ผมลาก่อนนะครับ ผมต้องพาลูกสาวไปเที่ยว เย็นๆผมจะแวะไปหาคนนำทาง ผมอยากให้ตำรวจตามผมไปด้วยซักสองคนในวันพรุ่งนี้ ........ถ้าผมได้คนนำทาง
นนท์วิ่งเข้ามาหาเชนจับแขนเขาแล้วเขย่ามันอย่างแรง
ตกลงพรุ่งนี้นะ ผมไปด้วยนะ
เชนหันไปสบตานนท์
แน่นอนคุณต้องไปด้วย แต่อย่างที่ผมบอก...คุณไปพักผ่อนแล้วเปลี่ยนเสื่อผ้าได้แล้ว เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทาง เรื่องทั้งหมดจะกระจ่างในวันพรุ่งนี้ และถ้ามันไม่มีเสืออย่างที่คุณบอก คุณจะตกเป็นจำเลยโดยปริยาย
จากคุณ :
แกงส้มเช้ง
- [
23 มิ.ย. 48 15:37:13
]