ฟ้าที่กำลังมืดครึ้มลงทุกทีทำให้บรรยากาศรอบนอกขมุกขมัวมากขึ้น
แสงไฟจากบ้านใกล้เรือนเคียงส่องฝ่าสายฝนเห็นเพียงเป็นเงาลางๆ
ผมเดินเข้าไปเปิดไฟในบ้านบ้าง ไม่ชอบนักกับความมืดที่เริ่มโรยตัวเข้ามา
เพราะยิ่งมืดความคิดก็มืดตามไปด้วย บ้านของผมตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านจัดสรรขนาดเล็ก
ที่ฐานะของผู้ซื้อก็บีบเล็กลงเท่ากับขนาดของบ้านทีเดียว
บ้านที่เหมือนกันยังกะคนสร้างได้นำพิมพ์มาวางลง แล้วเทปูนลงไป....แค่นั้นเป็นเสร็จ
หลายครั้งที่ผมขับรถไปจอดหน้าบ้านแล้วเปิดประตูเข้าไปนึกว่าประตูบ้านตัวเอง
หน้าแตกอยู่ประจำ พอชักบ่อยขึ้นผมจึงจ้างช่างมาทำกันสาดสีสดยื่นออกมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์
พอผมทำชุมชนบ้านจัดสรรพของผมก็เอาอย่างม ที่นี้ใครขับรถเข้ามาก็มองผ้าพลาสติกบ้านตัวเอง
เหมือนสีแยกจราจรที่หลากสี ไม่มีหลง ช่างที่ผมจ้างมานั้นขอบอกขอบใจผมเป็นการใหญ่ที่ทำให้
เขากระเป๋าหนักไปหลายวัน
เย็นๆเราก็มานั่งตอกเหล้ากัน จนคุ้นเคยแต่หลังจากนั้นแกก็ไม่ได้มากินเหล้ากับผมอีก
ทำให้ขาดเพื่อนเมากันไปนาน เวลาผมนั่งกินเหล้าทีไรก็อดคิดถึงแกไม่ได้สักที
วันนี้อากาศไม่เป็นใจที่จะกินเหล้านัก วิทยุที่เปิดอยู่หลังตู้เย็นเสียซ่าๆ จนน่ารำคาญ
ผมเดินไปขยับเสาอากาศหน่อย เพราะเป็นคนชอบฟังข่าวสารการเมือง
..... สักครู่วิทยุเครื่องเก่าก็ชัดเสียงแจ๋ว ผมกลับมานั่งตรงหน้าเครื่องพิมพ์ดีดอีกครั้งเพื่อทำงานต่อไป
ฝนตก ฟ้าครึ้ม ออกไปไหนไม่ได้ ไม่มีเวลาไหนจะเหมาะเท่าทำงานอีกแล้ว
........พรุ่งนี้ผมต้องส่งต้นฉบับ แต่ยังเขียนไปไม่ถึงไหนเลย มันปวดรุมๆแถบขมับ
ผมปวดมาสองวันแล้วหลังจากที่เขียนอะไรไม่ได้ มือที่เคาะแป้นหยุดชะงัก
สายตาผมเพ่งไปที่ตู้กระจก ที่ ที่วางรางวัลเกียรติยศเรียงราย อยู่เต็มทุกชั้น
รางวัลที่ผมได้มาจากงาน งานที่ผมรัก ผมเขียนเรื่องราวที่คนในเมืองไทยออกจะ
ไม่ค่อยเขียนกันนัก คืองานของผมจะออกแนวสืบสวนสอบสวน
ผมเขียนมาตั้งแต่สิบห้าขวบจึงไม่แปลกที่รางวัลจะล้นตู้โชว์ออกมา
รางวัลแรกที่ได้ผมเขียนโดยมีผู้หญิงที่ผมรัก เป็นแรงบันดาลใจ
เป็นเรื่องราวที่ใครได้อ่านก็ต้องสะเทือนใจกับตอนจบของเรื่อง
ผมรักเธอมาก ยิ่งตอนที่เสียเธอไป ผมบ้าอยู่หลายเดือน
ไม่มีจิตใจจะทำอะไรทั้งนั้น ผมเผ้า ยุ่งเยิง กินไม่ได้นอนไม่หลับ
ผมเฝ้าแต่รอว่าเมื่อไหร่เธอจะกลับมา แต่รอแล้วรอเล่าเธอก็ยังไม่มา
รางวัลที่สองผมได้มาจากถ่ายทอดเรื่องราวของแม่ผมเอง
แม่ที่ต่อสู้มาท่ามกลางความผันผวนของสังคมเพื่อจะเลี้ยงลูกเล็กๆอย่างผมและน้องสาว
แต่เมื่อแม่มีสามีใหม่ผมกับน้องจึงถอยออกมาอยู่เพียงลำพังสองคน
........นี้ไม่ใช่สามีคนแรกของแม่หรอก แม่มีสามีเยอะแยะ นับนิ้วมือไม่ถ้วน
แต่แม่ก็รักผมกับน้องมาก ผมกับน้องกระซิบบอกกับแม่เสมอว่าเรารักท่าน
แม้ว่าท่านจะจากเราไป นานแสนนานแค่ไหน เราก็ยังรักแม่เหมือนที่แม่รักเรา
อีกหลายรางวัลที่ตามมาผมพยามยามถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง
จึงไม่แปลกที่งานของผมจะแฝงเข้าไปอยู่ในจิตใจของคนอ่านได้เป็นอย่างดี
โดยมีน้องสาวของผมเป็นผู้ช่วยในการตรวจสอบงาน ยิ่งมองรางวัลของตัวเองแล้วผมก็ยิ่งหนักใจ
มันยากเหมือนกันที่จะเขียนออกมาแล้ว คนที่อ่านจะไม่ผิดหวังกับงานของผม
มีคนที่ชื่นชอบงานของผมมากมาย และหลายเรื่องถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์
คิดแล้วก็นั่งกุมขมับตัวเอง
ยิ่งฝนตกเสียงดังมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งรบกวนผมมากยิ่งขึ้น หัวที่เหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ทำให้ผมลุกขึ้นเดินไปที่ตู้โชว์เล็กๆ หยิบเหล้าแก่ดีกรีออกมาขวดหนึ่ง ตรงไปนั่งยังโต๊ะกลางห้อง
บนโต๊ะยังมีจานถั่วลิสงคั่ว จานเนื้อทอด ที่เหลือไม่กี่ชิ้น
ผมรินเหล้าลงแก้ว แล้วดื่มอย่างหิวกระหาย มือหยิบเนื้อทอดทานไปพลางๆ
พอเริ่มได้ที่ ความคิดก็เริ่มวิ่งวนมาเรื่อยๆ ผมรอจนรู้สึกว่าความคิดมันเอ่อล้นเต็มสมอง
ถึงเดินกลับไปที่เครื่องพิมพ์ดีดเครื่องเดิม ลงมือเคาะแป้นพิมพ์อย่างต่อเนื่อง
กระทั่งเสียงนาฬิกาตีบอกเวลาสี่โมงเย็น งานของผมจึงเสร็จเรียบร้อย
ผมสามารถปิดต้นฉบับลงได้อย่างหวุดหวิด จบอย่างสวยงาม
แต่เมื่องานนี้เสร็จสิ้นลง ในไม่ช้าผมก็ต้องเริ่มงานใหม่
เป็นวัฏจักรแบบนี้มานานหลายปีแล้ว
ผมจัดการวางเรียงต้นฉบับไว้อย่างเรียบร้อยเพื่อให้น้องสาวมาอ่านตรวจสอบอีกครั้ง
อีกไม่กี่ชั่วโมงน้องผมคงจะถึงบ้าน น้องสาวผมเป็นคนสวยเธอทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ที่โรงแรม
แห่งหนึ่งแม้จะเป็นโรงแรมที่ไม่ใหญ่โตนัก แต่น้องสาวผมบอกว่า แขกนั้นเต็มทั้งปี
และเป็นธรรมดาที่คนสวยๆอย่างน้องผม จะมีชายหนุ่มมาติดพันมากมาย
ทั้ง ชาวไทยและต่างประเทศ แต่เธอยังไม่ตัดสินใจเลือกใครสักคน โดยให้เหตุผลว่า
ยังไม่เจอคนถูกใจค่ะ
แล้วเธอก็ใช้ชีวิตแบบอิสระมาโดยตลอด ใกล้เวลาจะกลับบ้านแล้ว
งานอีกอย่างหนึ่งของผมคือการทำงานบ้าน เนื่องจากน้องสาวไม่มีเวลาอย่างผม
ครัวของบ้านจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย กลิ่นน้ำยาทำความสะอาดหอมฟุ้ง
ผมเปิดตู้เย็นเพื่อจะดูว่ามีอะไรที่พอจะทำอาหารได้บ้าง
ไอเย็นแตะสัมผัสได้จนผมรู้สึก
อ้อ..เนื้อยังเหลือ
ผมเปิดช่องแช่แข็งหยิบเนื้อออกมา เหลือบเข้าไปข้างในยังเห็นกล่องพลาสติก
อีกกล่องหนึ่ง จึงหยิบติดมือออกมา
แช่มา.หลายวันเดี๋ยวมีกลิ่น ยายน้องจะมาว่าเอา
ผมหยิบเห็ด หอมหัวใหญ่ ออกมาจากชั้นผัก ข้างๆคือพวกขวดซอสนานาชนิด
ขวดมัสตาร์ด กับครีมเปรี้ยวถูกลำเลียงออกมา กะว่าจะทำ สตูเนื้อ กินเย็นนี้
น้องสาวของผมโปรดปรานอาหารฝรั่งมาก ซึ่งแตกต่างกันลิบลับกับรสนิยมของผม
อาหารไทยง่ายๆ นั้นคือเมนูเด็ด แต่วันนี้คงต้องแปลงร่างเป็นฝรั่งดั้งโด่งเสียหน่อย
ผมล้างเนื้อนิดหนึ่งเพื่อไม่ให้คาวมาก แล้วค่อยเอาเนื้อมาหั่น ยาวๆ แล้วค่อยเตรียมเครื่อง
ผัดเนย กับน้ำมัน ใส่เนื้อลงไป .... กลิ่นเริ่มหอมหน่อยๆ .....จากนั้นผมเติมเกลือ กับพริกไทยลงไป
พอเสร็จเรียบร้อยจึงหันมาผัดหอมใหญ่กับน้ำพอเริ่มสุก ค่อยตักวางพักไว้ในจานข้างๆ
ออกจะยุ่งยากนิดหนึ่ง แต่ผมก็พยามยามทำ เพราะเวลาน้องผมกลับมาเธอจะยินดีมากเมื่อเห็นอาหาร
จานโปรด ทำยังไงได้ละน้องผมเขาเก่งเรื่องทำงานนอกบ้าน ผมอยู่แต่ในบ้านก็ต้องทำอาหารรอเขาเป็น
เรื่องธรรมดา
เห็ดที่ผัดกับเนยเริ่มส่งกลิ่นหอม ผมจึงเติมน้ำซุปเนื้อลงไป ที่นี้ก็ทิ้งไว้สักพัก
เพราะต้องรอจนกว่าน้ำจะข้น ผมหันไปจัดการกับตับที่เหลือ กะว่าจะผัดตับกับคึ่นไช่
ก็บอกแล้วว่าผมไม่สัดทันอาหารฝรั่งกินทีไรไม่คล่องคอ ผมเตรียมเครื่องเสร็จก็หันไปอุ่นข้าวในหม้อ
ข้าวยังเหลืออีกเยอะ ไม่จำเป็นต้องหุงใหม่ เพราะผมกับน้องสาวเป็นประเภทกินกับมากกว่ากินข้าว ขนาดหุงน้อยยังเหลือทิ้งก็หลายครั้ง
ผมหันไปดูสตูต่อ เมื่อเห็นว่าน้ำเริ่มข้นจึงค่อยใส่ เกลือ พริกไทย ตามลงไป เยาะมัสตาร์ดไปนิดหน่อย
แล้วจึงใส่เนื้อลงผัดต่อ เติมครีมเปรี้ยวสักหยด กลิ่นหอมๆก็เล่นเอาผมน้ำลายไหลเหมือนกัน
ผมตักใส่จาน ไว้ รอ
หันไปผัดคึ่นไช่ สามนาทีเป็นอันเสร็จพิธี
น้ำที่ตั้งไว้เริ่มเดือดผมจึงรี่ไฟลง กะว่า น้องสาวกลับมา ค่อยลวกเส้นพาสต้า จะได้กินกันอร่อยๆ
ผมทำความสะอาดในครัวจนเรียบร้อย จึงได้ยินเสียงประตูที่เปิดเข้ามาในบ้าน ทำให้ผมเดินออกไปด้านนอก น้องสาวของผม ......เธออยู่ในสภาพเปียกมอมแมม หากยังยิ้มให้ผม เหมือนเช่นทุกวัน แต่นัยน์ตานั้นส่งแสงพราวพราวระยิบระยับ
น้องมีแขกมาทานข้าวด้วยค่ะ เธอเดินเลี่ยงเข้ามาด้านในผมจึงได้เห็นชายหนุ่มรูปร่างสูง ผอม เดินตามเข้ามา ดูจากการแต่งกายผมคาดว่าคงจะเป็นพนักงานที่เดียวกันกับเธอ เขามีสภาพไม่แตกต่างจากน้องสาวผมนัก
สมคิดค่ะ เพื่อนหนูที่ทำงาน ผมคาดเดาถูก มือยกรับไหว้ชายหนุ่มรุ่นน้อง แล้วเสียงแจ๋ว ๆของน้องผมจึงเอ่ยเสริมอีกว่า
พี่ชายน้องเองค่ะ เขาเป็นนักเขียนที่คุณชอบอ่านไงละค่ะ เสียงหัวเราะคิกคักของน้องสาว ทำให้ชายหนุ่มรุ่นน้องหน้ามีสีเรื่อขึ้นมาจนเห็นชัดทันตา
น้องพาเพื่อนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป้ แล้วค่อยมาทานข้าว น้องสาวผมเดินนำเพื่อนขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ชั้นบน ท่าทางกล้าๆกลัวของเพื่อนน้องสาว ทำให้ผมเสริมไปว่า
ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ ใช้ของผมก่อนก็ได้ ยายน้องเขารู้ดี ไปเถอะ เมื่อผมสำทับไปอีกร่างผอมสูงของชายหนุ่มจึงเดินตามน้องสาวผมไปอย่างไม่รีรอ
ผมเดินวนไปวนมา จุดบุหรี่สูบรอน้องสาวอยู่ด้านล่างอย่างใจเย็น เพราะวันนี้ผมเขียนต้นฉบับเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทันเวลา แบบหวุดหวิด ไม่มีอะไรต้องคิดมากอีก เสียงเดินกุกกักๆมาทางด้านหลัง
เรียบร้อยแล้วค่ะ เสียงน้องสาวผมเดินห่างออกไป ผมรอจนสูบบุรี่หมดจึงเดินตามเธอเข้าไปในห้องครัว
สตู กับผัด ตับ เสียงน้องสาวผมดังขึ้นเมื่อมอง เห็นจานกับข้าวในครัว
เห็นบ่นว่าอยากกิน ผมลงมือลวกเส้นพาสต้า ส่วนน้องสาวผมเดินวนไปวนมา เปิดนั้นดูนี้ไปตามเรื่อง
ว้า...หนูว่าจะกินยำ พี่เอาของหนูไปกินแกล้มเหล้าหมดสิคะนิ
ไม่เป็นไรหรอกนา พรุ่งนี้ค่อยกินก็ได้ ผมปลอบน้องสาวไปถามเรื่อง
แต่หนูอยากกินตอนนี้นิค่ะ พี่ช่วยหนูหน่อยนะ
เอาไว้ก่อนไม่ดีหรือ ผมค้านน้องสาว เพราะสตูออกทำเยอะแยะ จะเหลือเปล่า
โธ่ หนูรู้นะค่ะว่าพรุ่งนี้พี่ต้องส่งต้นฉบับ แล้วอีกไม่กี่วันพี่ก็ต้องลงมือเขียนเรื่องใหม่อีก อุตส่าห์ช่วยแล้วเชียว เห็นไหมค่ะ แค่ ทำยำให้หนูกินแค่นี้เองนะค่ะ ...หนูอุตส่าห์คิดว่าจะได้กินยำ ฉลองกับพี่เสียหน่อย แค่นี้เองนะค่ะ นะค่ะ เสียงออด อ้อน ของน้องสาว ทำให้ผมใจไม่แข็งพอ ก็รู้อยู่ว่า ทั้งเรื่องงาน เรื่องกินอยู่ ผมต้องพึ่งเธอทั้งนั้น
เอาแต่ใจจริงเชียว ผมอดบ่นไม่ได้ แต่มือก็เอื้อมไปหยิบมีดปลายแหลมจากลิ้นชักตู้
รอหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวมา ผมเดินขึ้นไปข้างบน ปล่อยให้น้องสาวหัวเราะคิก ชอบใจอยู่ด้านล่าง เสียง สั่งเบาๆยังตามมาว่า
เอาม้าม กับตับ ด้วยนะค่ะ สดๆ หวานดี
ผมหันกลับตอบไปอย่างหัวเสีย
เอ้อ..รู้แล้วนา สั่งจริง แล้วผมก็เปิดประตูห้องนอนตัวเองเข้าไป อาหารของผมนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง
คราวนี้ถึงจะผอม ไปหน่อย แต่ก็ยังดี เพราะ ผมเอาเนื้อมาทำสตูหมดแล้ว ยังคิดอยู่ว่า พรุ่งนี้จะทำอะไรกินดี
ขอบใจ นะ เป็นธรรมเนียมของผมที่กล่าวแบบนี้ เพราะผมระลึกถึงพระคุณของอาหารของผมทุกคน และสัญญาว่าจะ กินอย่างประหยัดที่สุด ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ ผมคงต้องรู้คุณค่ามากยิ่งขึ้น
จากคุณ :
เอนัญญา
- [
25 มิ.ย. 48 17:58:28
A:10.32.1.174 X:202.28.77.30
]