CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    แด่ชีวิตล่องลอย

    แด่ชีวิตล่องลอย

    ผมเงยหน้า
    เบื้องบน ฟ้าขรึมทึมเทา
    ชีวิตว่างเปล่า ความคิดว่างเปล่า
    ถามหาความหมาย ถามถึงทำไมกัน ?

    Learn to live, learn to love, learn to feel happy
    Learn to recognise , where the joy lies
    ศิลปิน Tindersticks เพลง Don’t Ever Get Tired

    ผมชอบเพลงนี้ ตรงคำว่า where ผมฟังเป็น when ทุกที ผมชอบวงดนตรีวงนี้ ชอบทั้งที่มิเคยซื้อสักอัลบั้ม เป็นวงดนตรีอีกวงที่ย้ำเตือนเราว่า ในความเศร้า มีความงดงาม

    .............................................................

    ผมทำให้ตัวเองกลายเป็นคนที่มีเวลาว่างอย่างเหลือเฟือ คนหลายคนไม่มีเวลาว่างเว้น แต่ผมกลับมีเวลาว่างวาย ว่างอย่างวายป่วงจริงๆ

    ผมเพิ่งอ่านหนังสือเรื่อง “โมโม่” จบ ผมเป็นคนจำพวกอยู่ในอาการเบื่อสุดขีด เพราะเวลาเป็นพิษ ตามที่บรรยายไว้ในหนังสือเป๊ะๆ

    “คุณอยากเป็นนักเขียนไม่ใช่เหรอ”
    “ถูก”
    “คุณว่าคุณมีเวลาว่างวายไม่ใช่เหรอ”
    “ถูก”
    “ทำไมคุณไม่เขียนนิยายสักเล่ม”
    “คิดอยู่”
    “ทำไมคุณไม่ลงมือเขียน”
    “ขี้เกียจ”
    “ความขี้เกียจเป็นบ่อเกิดของอบายมุข”
    “ถูก”
    “.........”
    “จริงๆผมคิดชื่อเรื่องไว้แล้ว”
    “ว่ามาสิ”
    “ผมตั้งชื่อเรื่องว่า ‘ผมอยากเขียนถึงเธอเป็นครั้งสุดท้ายแต่ไม่สามารถ’”
    “คงเป็นเรื่องรักไร้สาระ เต็มไปด้วยอารมณ์เฉาๆ และบทคร่ำครวญ”
    “ถูก ผมกลัวว่าถ้าเขียนออกมา ผมคงต้องเป็นผู้อ่านเพียงคนเดียว คนอื่นๆคงยี้ใส่”
    “ผมงดออกความเห็น ผมว่าคุณเข้าใจถูกต้องอยู่แล้ว”
    “จริงๆ ผมเขียนบทเปิดเรื่องไว้แล้วนะ”
    “ให้ผมลองอ่านหน่อยสิ”

    เรื่องเขียนลงบนกระดาษ A4 ด้วยหมึกซึมสีดำ ลงวันที่กับเวลาไว้เมื่อ 31 ธ.ค.47 4.09 น.

    เนื้อความดังนี้


    “เล่าเรื่องราวระหว่างเรา”

    เรื่องของเธอ เรื่องราวของเธอ เริ่มที่ตรงไหนกัน ความสดใส ความรัก ความผิดหวัง ความเศร้า ความไร้เหตุผล ทุกข์ทน สิ้นหวัง ลาจากทุกสิ่ง

    ชีวิตของเธอยังดำเนินต่อ แม้อยู่บนความเลื่อนลอย ความไร้สาระ ฯลฯ ทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามา เธอตามหาอะไรกัน อะไรสักอย่าง ความรู้สึกบางอารมณ์ เรื่องราวดำเนินต่อ โลกที่เธอเลือก ผู้คนที่ผ่านพบ การเลยผ่านพ้นหาย อะไรสักอย่างนั่น เหมือนมาถึง แต่ยังมาไม่ถึง ความรัก ?

    พรุ่งนี้ เวลาถัดไป ใครสักคน ความผิดพลาด เจ็บปวด หลับตาลง เพื่อลืมตาตื่นขึ้น ให้เรื่องเลวร้ายหลุดหายในซอกลึกสุด อภัยให้ตัวเอง แล้วก้าวเดินต่อ วันพรุ่งนี้ยังผุดขึ้น ความรักครั้งใหม่ ความหวัง สิ่งสวยงามในโลกมีมากพอที่จะเดินเข้าไปหา

    เรื่องราวยังดำเนินต่อ รอยยิ้มสวยงามดุจดอกไม้ร่าเริงที่ประดับผืนโลกนั่น ยังคงอยู่คู่เคียงเธอ ขอให้เคียงคู่ใบหน้าเธอต่อไป ตลอดไป เรื่องของเธอ เรื่องราวของเธอ ..... . .

    พรุ่งนี้ของเธอดำเนินต่อไป ..... . . .


    พรุ่งนี้ของเธอยังดำเนินต่อ โลกของเธอยังคงหมุน 24 ชั่วโมงต่อไป โลกซึ่งตัวผมหลุดวงโคจรหลุบหาย ลาลับ

    ชีวิตที่ฉลักลวดลายความผิดพลาด เปรอะทั่วของผม จังหวะการดำเนินสะดุดหยุดเรื่อยมา ห่างไกลจากมาตรฐานสากล

    วันหนึ่งๆ ผมโอดครวญ ท้อแท้ สิ้นหวัง เสียกว่า 20 ชั่วโมง มีแต่ความว่างเปล่ากับอารมณ์ล่องลอย ผมไม่ลงมือกระทำการณ์ใดทั้งสิ้น พร่ำพูดถึงแต่วามไม่มั่นใจในตัวเอง กำลังใจดำเนินชีวิตสูญสลาย วกวนซ้ำซากดังเดิมๆ

    โลกยังคงหมุนไป ข้างด้านหนึ่งต้องแสงอาทิตย์สว่างใส ข้างด้านหนึ่งโอบรับแสงหม่นของดวงจันทร์ เรื่องราวนับล้านเคลื่อนตัวทุกวินาที บางเรื่องเกิดขึ้นในเงาดวงจันทร์แต่กลับส่งผ่านกระทบไปยังฟากด้านสดใสของดวงอาทิตย์

    ความรู้สึกหลากหลายของคนบนโลก การดิ้นรนใช้ชีวิตเพื่อมีชีวิต อารมณ์ไร้สาระเศร้าหมองของผมเป็นจุดเล็กๆบนผืนโลก เป็นฝุ่นผงซึ่งฟุ้งปลิวขึ้นให้ลมพัดหาย

    โลกใบนี้ที่ผมอาศัยอยู่ มีเรื่องราวยุ่งเกินกว่าจะแยแสปัญหาหมกมุ่นในโลกส่วนตัวของผม พรุ่งนี้ของผมยังดำเนินต่อ แม้ปกคลุมด้วยความหมองมัว.......... . . . .

    ความเลวร้ายผ่านสู่ชีวิตเธอจนเกินพอแล้ว ส่งผ่านมันมาให้ชีวิตผมเถอะ ผมจะรับไว้ แล้ววิ่งหนีเอาความซึมเศร้าไปให้ไกลห่างจากเธอ

    “ผมอยากบอกลาเธอแม้ยังลืมไม่ลง”

    นิยายเรื่องนี้ยังไม่ถูกสานต่อใดๆทั้งสิ้น

    ........................................................


    ผมเดินมึนหน้าตายเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย(โดยไม่แยแสและยุ่งเกี่ยวกับการรับน้อง) ไร้ความมั่นใจ ความมุ่งมั่นและความกระตือรือร้นจัดว่าต่ำกว่าเกณฑ์ที่เฟรชชี่ควรมี

    มี 2 อย่างเท่านั้นที่ผมทำ เมากับอ่านหนังสือ(นิยาย) หลังจาก F หลากหลายตัวดาหน้าเข้าสู่ชีวิต ผมก็กลายเป็นคนที่มีเวลาว่างกว่าคนในวัยเดียวกันไปในที่สุด

    ปิดเทอมฤดูร้อนที่ยาวนานแปรเปลี่ยนเป็นปิดเทอมชีวิตการศึกษาแทน

    ความเบื่อหน่ายมันมาจากที่ใดกัน มันแฝงตัวอยู่กับที่นอนในทุกๆคืนงั้นหรือ หรือปะปนมากับอาหาร เช้า กลางวัน เย็น ที่กินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

    รอยยิ้มของความเกียจคร้านพร้อมทักทายเราอยู่เสมอ ทั้งที่พยายามบึ้งตึงใส่มัน แต่มันเป็นนักตื้อที่ทำให้ใจอ่อนอยู่บ่อยครั้ง ผมมันคนใจอ่อน

    หยุดนิ่งอยู่กับที่ มองสิ่งรอบข้าง เห็นอะไรกันบ้าง ?


    มันเป็นแมวแก่ สีเหมือนไข่เจียวปั้นหน้าไม่สบอารมณ์โก๋ทั้งวี่วัน ราวกับว่าทุกสิ่งบนโลกนี้ไม่มีอะไรเลยที่ถูกใจมัน ยกเว้นอาหารแมว มันเลิกจับหนูมานานแล้ว หรือบางทีมันอาจไม่เคยคิดจับหนูเลยตั้งแต่เกิด

    มันขี้เกียจ ขี้รำคาญ มันอยากแยแสอะไรทั้งนั้น ไอ้เหมียวตัวเล็กชอบเล่นกับมันเป็นที่สุด ทั้งที่มันไม่ชอบด้วย มันเพียงแต่นั่งเฉยๆ หางกวัดไกวไปมา ไอ้เหมียวตัวเล็กใช้ขาหน้า สองข้างตะปบหางของมันเล่นอย่างสนุกสนานตามแบบแมวเด็กอารมณ์ดี

    หลังจากปล่อยให้ไอ้ตัวเล็กเล่นอยู่กับหางของมันพักหนึ่ง มันจะส่งเสียงตวาดออกมาแบบคนขี้หงุดหงิด “นี่มันหางตูนะเฟ้ย สูเจ้าโปรดถอยไปไกลๆ”

    เวลามองดูใบหน้าเบื่อโลกของมันครั้งใด ผมคิดว่าโลกนี้น่าอยู่ขึ้นอีกหลายเท่า

    ..........................................................


    ครั้งหนึ่งบนรถทัวร์ระยะทางเกือบ 4 ชั่วโมง ผมได้ดูหนังเรื่องหนึ่งเป็นหนังชั้นรอง ทุกอย่างที่ปรากฏในแต่ละฉากเรียกได้ว่าห่วยแตก

    เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า อเมริกาได้ส่งกองทหารมาปราบกลุ่มกองโจรกบฏติดอาวุธกลุ่มหนึ่ง ที่ไหนไม่ทราบได้ ยิงกันแล้วก็ยิงกัน คั่นด้วยระเบิดตูมตาม

    เป็นหนังสร้างขึ้นตามกระแส หนังอย่างแรมโบ้และหนังสงครามเรื่องอื่นๆในช่วงนั้น ระยะนั้นค่ายหนังมักง่ายชอบทำหนังเลวๆแบบนี้ลงวีดีโอขายเอาตังค์


    สิ่งที่จำได้ของหนังเรื่องนี้มีอยู่ สองอย่าง อย่างแรกคือ เต้าหย่อนยานคู่ใหญ่ มาพร้อมหัวนมคล้ำเข้ม หนังพวกนี้ต้องยัดฉากผู้หญิงโชว์หน้าอกลงมาให้ได้ ไม่ฉากใดก็ฉากหนึ่ง โดยไม่มีผลต่อการเล่าเรื่องใดๆ

    อย่างที่สองซึ่งถูกใจผมอยู่บ้างคือ การแต่งกายของกลุ่มกองโจร พวกเขาแต่งตัวแบบพวกเฮฟวี่ร็อคยุค 80 พร้อมโพกหัวด้วยผ้าแดงเป็นสัญลักษณ์ (กรุณานึกภาพวงไฮร็อคถือเอ็ม 16 แทนเครื่องดนตรี) ผมภาวนาให้ใครสักคนในกลุ่มนุ่งกางเกงลายเสือดาวฟิตก้นแทนยีนส์ขาลีบ


    คุณภาพของหนังจัดอยู่ในระดับตะกวดเรียกพี่ ทำไมโลกนี้ถึงมีหนังแบบนี้อยู่ เหตุผลของการเกิดขึ้นของหนังเลวๆพวกนี้คืออะไรกัน .... . . . . .

    ....................................................................


    บนพื้นดินสีน้ำตาลซีด ราบเรียบ

    ผมเลือกที่จะทำอะไรสักอย่าง ผมเลือกปลูกข้าวโพด วิธีปลูกแสนง่าย พุ้ยดินขึ้นมา หย่อนเมล็ดลงไป ใช้เท้าย่ำนิดหน่อย รอฝนตก มันก็จะงอกขึ้นมา

    ผมกลายเป็นผู้ชายซึ่งรักสายฝน(ไม่ใช่บุหรี่)ไปในบัดดล

    การเฝ้ามองชีวิตอะไรสักอย่างค่อยๆเติบโตขึ้น สร้างความรู้สึกอิ่มใจให้กับตนเอง

    สำหรับคนปลูกต้นไม้ ทุกคนคงยินดีที่ได้เห็นฝนตก ต้นไม้ยิ้มร่าเริงทักทายสายฝนเสมอ


    ผมเงยหน้า
    เบื้องบน
    ฟ้าขรึมทึมเทา

    ----------------------------------------

    จากคุณ : อุปกรณ์ประกอบฉาก - [ 25 มิ.ย. 48 19:53:37 A:203.113.81.37 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป