CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    กลรัก...ร้อยเล่ห์ ตอนที่ 3

    กลรัก...ร้อยเล่ห์ ตอนที่ 3

    “ว่าไงล่ะ? จะบอกผมดีๆ หรือว่าต้องให้บังคับ หืม?” ธนพัทธ์ถามเสียงเข้มด้วยแววตาเป็นประกาย พร้อมกับค่อยๆโน้มตัวลงมา  ไม่ต้องให้บอกแพรวาก็รู้ว่าเขาตั้งใจจะทำอะไร  หญิงสาวจึงได้แต่อ้อมแอ้มตอบไปว่า

    “แพรวา” เสียงตอบนั้นเบาจนแทบไม่ได้ยิน  จนชายหนุ่มต้องย้ำว่า

    “พูดดังๆสิคุณ  ผมไม่ได้ยิน” หยิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนตะโกนตอบไปว่า

    “แพรวา!  ได้ยินหรือยังคะ!”

    “คู้ณ  พูดเบาๆก็ได้  ไม่เห็นต้องตะโกนเลยนี่  ผมหูแทบแตก!”

    “สมน้ำหน้า!” คราวนี้อ้อมกอดของชายหนุ่มที่คลายออกเล็กน้อยกลับกระชับขึ้นมาอีกครั้ง

    “คุณว่าผมเหรอ!  อย่างนี้ต้องโดนทำโทษรู้ไหม?” ธนพัทธ์ก้มลงมาใกล้แพรวามากขึ้นๆ  จนหญิงสาวมองเห็นดวงตาสีดำจัดราวกับท้องทะเลลึกในวันที่คลื่นสงบอย่างชัดเจน   ดวงตาคู่นั้นทำให้หญิงสาวใจเต้นไม่เป็นส่ำ  ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ  

    ….ไม่ไหวแล้ว  ยัยแพร  ผลักเขาออกไปเลยสิ จะมัวนิ่งอยู่ทำไมเล่า….เสียงร่ำร้องภายในใจสั่งให้เธอผลักผู้ชายตรงหน้าออกไป  แต่ร่างกายนี่สิกลับไม่ฟังคำสั่งเจ้าของเลยแม้แต่น้อย    ร่างทั้งร่างยังคงยืนสงบนิ่งอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นนั้น   วินาทีนั้นเองที่ริมฝีปากอุ่นจัดประทับลงบนริมฝีปากบางของเธออย่างนุ่มนวล อ่อนหวาน  และหากไม่มีอ้อมกอดของเขาช่วยพยุงตัวเธอไว้แล้วล่ะก็  แพรวาคงเข่าอ่อนจนทรุดลงไปกองกับพื้นแล้ว  นานเท่าไหร่ก็สุดรู้ที่หญิงสาวอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม  เธอรู้แต่เพียงว่ารอยจูบนั้นช่างอ่อนหวานจนประทับและติดตรึงอยู่ในหัวใจดวงน้อยๆของเธอเสียแล้ว

    ธนพัทธ์ค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาช้าๆ  ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าผู้ที่อยู่ในอ้อมกอดเขานั้นตัวสั่นน้อยๆ  ราวกับว่ายังไม่เคยพบเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน  แต่ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะผู้หญิงแบบนี้คงเคยจูบกับผู้ชายหลายคนแล้วเป็นแน่  ก็แล้วทำไมร่างบางที่ยืนตรงหน้าเขาถึงได้สั่นราวกับลูกนกอย่างนี้เล่า  

    “นี่คุณ  เป็นอะไรหรือเปล่า” ธนพัทธ์ถามเมื่อเห็นแพรวายังคงยืนหลับตาพริ้มอยู่เป็นนาน  เสียงห้าวๆนั้นทำให้แพรวาตื่นจากภวังค์ทันที  พลางมองหน้าเขาด้วยแววตาโกรธระคนเขินอาย  ก่อนที่จะผลักอกชายหนุ่มออก แล้วสะบัดฝ่ามือเล็กๆนั้นลงมาบนหน้าเขาเต็มแรง

    “คนบ้า! คนลามก!” หญิงสาวตะโกนด่าชายหนุ่มก่อนวิ่งออกไปจากผับแห่งนั้นทันที  

    “อ้าว!  แพรวา!  จะไปไหนน่ะ มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน” ธนพัทธ์กุมใบหน้าที่โดนตบจนเป็นรอยแดงพลางวิ่งตามแพรวาไป  แต่ไม่ทันเสียแล้ว ด้วยพอเขาออกมานอกผับแห่งนั้นชายหนุ่มก็พบแต่ความว่างเปล่า ไม่เห็นแม้แต่เงาของแพรวาเลยแม้แต่น้อย  เขาลูบใบหน้าซีกที่โดนตบเบาๆ  มือก็เล็กแค่นั้น ทำไมมือหนักจังวะ  เจ็บชะมัด! เขาคิดในใจก่อนเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกมาโดยไม่เห็นว่าที่มุมมืดใกล้ผับแห่งนั้น แพรวาได้เดินออกมาพร้อมกับถูปากตัวเองอย่างแรง ก่อนพึมพำออกมาเบาๆว่า

    “คนบ้า!  เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นทั้งพี่ทั้งน้องเลย!  ” หญิงสาวว่าธนพัทธ์แล้วก็โมโหตัวเองยิ่งนัก

    ….แล้วเราทำไมยืนเฉยให้เขาจูบอยู่ได้ล่ะ! ยัยแพรบ้า!

    ….เฮ้อ!  ทำอะไรลงไปวะไอ้พัทธ์!  ไปจูบผู้หญิงคนนั้นทำไมกัน ?.... ชายหนุ่มถามตัวเองซ้ำซากระหว่างทางที่ขับรถกลับบ้าน แต่ไม่ว่าจะถามตัวเองไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เขาก็ตอบตัวเองไม่ได้อยู่ดี  ว่าเขาจูบผู้หญิงคนนั้นทำไม  ชายหนุ่มรู้เพียงว่าในตอนนั้นเขาอยากลองลิ้มรสริมฝีปากบางที่มักบึ้งตึงอยู่เสมอเวลาเจอหน้าเขาเท่านั้นเอง   แต่พอได้ลิ้มรสความอ่อนหวานนั้นแล้วชายหนุ่มกลับรู้สึกแปลกในหัวใจ  มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน   ไม่ว่ากับผู้หญิงคนไหนก็ตาม  เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ  ธนพัทธ์ขับรถกลับบ้านด้วยความสงสัยเต็มหัวใจ
    ทันทีที่ถึงบ้านชายหนุ่มพบว่าธันวามายืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว   แววตาที่มองมานั้นดูโกรธเกรี้ยว  มือใหญ่กำแล้วคลายอยู่หลายครั้งอย่างพยามระงับความโกรธที่พลุ่งพล่านขึ้นมาเมื่อเห็นหน้าผู้เป็นพี่ชาย

    “มีอะไรจะพูดกับพี่งั้นเหรอ” ธนพัทธ์ถามเรียบๆพร้อมกับประสานสายตากับธันวาแน่วนิ่ง

    “ทำไมพี่พัทธ์ทำอย่างนี้!” น้ำเสียงดูกราดเกรี้ยวไม่แพ้ดวงหน้าที่บึ้งตึงนั้นเลย

    “พี่ทำอะไร?”

    “ก็ขัดขวางผมกับคุณแพรไงล่ะครับ   ยัยลดาบอกผมหมดแล้วล่ะ  ตอนแรกก็หลอกให้ผมขับรถไปนู่นเกือบจะออกนอกจังหวัดเสียด้วยซ้ำ  ดีที่ผมขู่เข็ญความจริงมาได้  ไม่อย่างนั้นผมคงไม่รู้หรอกว่าพี่พัทธ์คิดจะทำอะไร”

    “พี่แค่ไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนั้นเท่านั้นเอง” ธนพัทธ์พยายามชี้แจงเหตุผลแต่กลับถูกขัดขึ้นมาว่า

    “ทำไมล่ะครับ!  ทำไมพี่พัทธ์ถึงไม่ไว้ใจคุณแพร”

    “เขาดูจงใจสนิทสนมกับนายมากเกินไป  พบกันแค่วันเดียวเขาก็มาหานายถึงที่บริษัทแล้ว มันน่าสงสัยนะนายธัน”

    “พี่พัทธ์ก็คิดมากเกินไป! ผมว่าไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้หรอกมั้งครับที่ทำให้พี่พัทธ์ขัดขวางผมกับคุณแพร  ผมว่า…” ธันวาลากเสียงยาวก่อนหันมาจ้องหน้าผู้เป็นพี่ด้วยแววตาแข็งกร้าว

    “พี่พัทธ์อยากเก็บคุณแพรไว้ซะเองมากกว่า!” คำพูดนั้นทำให้ธนพัทธ์สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนเอ็ดผู้เป็นน้องชายว่า

    “จะบ้าเหรอ ธัน! ทำไมคิดอะไรอย่างนั้น!”

    “ผมรู้จักพี่พัทธ์ดี!  แค่มองตาผมก็รู้แล้วว่าพี่พัทธ์คิดอะไรอยู่  ตอนนี้พี่พัทธ์อาจยังไม่รู้ใจตัวเอง  แต่ผมบอกไว้ก่อนเลยว่า  ผมไม่มีวันปล่อยแพรวาให้หลุดมือแน่! เพราะคนนี้ผมจริงจัง! จำไว้นะพี่พัทธ์!” พูดจบชายหนุ่มก็เดินเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ผู้เป็นพี่ยืนนิ่งอย่างครุ่นคิดถึงคำพูดของน้องชาย

    …จริงหรือที่ธันวาบอกว่าเขานั้นยังไม่รู้ใจตัวเอง  ทุกสิ่งที่เขาทำไปเป็นเพราะ….ชายหนุ่มรีบปัดความคิดนั้นออกจากตัวทันทีก่อนค้านในใจว่า

    …ไม่มีทางหรอก  เขาไม่มีทางคิดแบบนั้นกับแพรวาแน่ๆ….แม้จะบอกตัวเองอย่างนั้นแต่คิ้วที่ขมวดมุ่นยังคงไม่คลายออกเลยแม้แต่น้อย

    …………………………………..


    ภายในซุปเปอร์มาร์เกตของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง   นฤบดีกำลังเลือกซื้อผักและของสดเพื่อเอาไว้สำหรับทำอาหารของร้านเรือนแสงจันทร์  เนื่องด้วยร้านนี้เปิดบริการตั้งแต่สิบเอ็ดโมง  ชายหนุ่มจึงมีเวลามาซื้อของในตอนเช้า   อันที่จริงแล้วแพรวาบอกให้ลูกจ้างเป็นคนมาซื้อแต่ตัวเขาเองอยากมาซื้อด้วยตัวเองมากกว่า  ชายหนุ่มมองเห็นเนื้ออกไก่ที่เขาต้องการวางอยู่เพียงแค่ห่อเดียว   และกำลังเอื้อมมือไปหยิบแต่แล้วก็มีมือเล็กๆของใครบางวางมือลงมาพร้อมๆกับเขา  ชายหนุ่มจึงหันไปมองใครคนนั้นอย่างรวดเร็วแล้วพบว่า  ผู้ที่หมายตาเนื้ออกไก่ห่อเดียวกับเขานั้นคือหญิงสาวร่างเล็ก  ใส่เสื้อลายดอกกับกระโปรงยีนส์สีน้ำตาลยาวแค่เข่า   ริมฝีปากอิ่มเคลือบไว้ด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนๆ   ดวงตาภายใต้กรอบแว่นสีทองจ้องมองเขานิ่งๆ แล้วริมฝีปากอิ่มนั้นก็เอ่ยออกมาว่า

    “ฉันหยิบก่อนนะคุณ!” เสียงใสๆนั้นทำให้ชายหนุ่มฉุนกึกขึ้นมาทันที

    “อะไรกันคุณ!  ผมหยิบก่อนคุณแท้ๆนะ” ได้ยินดังนั้น ลดา  จิรัตฐิติการ…ผู้ไม่เคยยอมใครมาตั้งแต่เด็กจึงเอ่ยตอบโต้ไปว่า  

    “ฉันก่อน!” ก็เห็นๆอยู่ว่าเธอหยิบก่อน มันก็ต้องเป็นของเธอสิ  

    “นี่คุณ! จะหาเรื่องผมเหรอ!”คราวนี้เสียงที่เริ่มดังทำให้คนหลายคนหันมามองอย่างสนใจ

    “เบาๆหน่อยสิคุณ  คนเขาหันมามองกันหมดแล้ว ไม่อายบ้างหรือไงนะ แล้วเนื้อนี่ฉันเป็นคนหยิบก่อนมันก็ต้องเป็นของฉัน!” ลดาหยิบเนื้อนั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้วเดินไปจ่ายเงินทันที ทิ้งให้นฤบดียืนคว้างอยู่ตรงนั้นพลางคิดในใจอย่างแค้นๆว่า

    … ฝากไว้ก่อนเถอะ  ยัยตัวแสบ!….


    ประตูเหล็กค่อนข้างเก่าเปิดออกช้าๆเมื่อเห็นรถกลางเก่ากลางใหม่คุ้นตาจอดรออยู่หน้าบ้าน  รถคันนั้นขับเข้าไปจอดในโรงจอดรถก่อนที่หญิงสาวผู้เป็นคนขับจะลงจากรถแล้วเอ่ยกับคนสวนว่า

    “แม่ผาดอยู่ในครัวหรือเปล่าจ๊ะ” แม่ผาด คือ แม่บ้านที่ทำงานอยู่กับพ่อของลดาตั้งแต่หญิงสาวยังเด็กๆอยู่  

    “อยู่ครับผม” ลดาพยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงรับรู้ก่อนเอ่ยต่อว่า

    “นายสน ช่วยขนของท้ายรถไปให้แม่ผาดในครัวด้วยนะ ”

    “ครับผม” นายสนรับคำอย่างแข็งขัน  เมื่อหญิงสาวดูแลให้นายสนนำของทั้งหมดไปให้แม่ผาดแล้วหญิงสาวจึงเดินเข้าไปในตัวบ้านก่อนจะเปลี่ยนชุดแล้วออกไปทำงานที่บริษัท ‘ธยุตติดีไซน์’ ซึ่งเป็นบริษัทรับตกแต่งภายในของพ่อเธอเอง   วันนี้เป็นวันเกิดของมนตรี…พ่อของหญิงสาว เธอจึงอาสาออกไปซื้อของสำหรับอาหารเย็นวันนี้ด้วยตัวเอง  เธอบอกคุณมนตรีไว้แล้วว่าอาจไปทำงานสายหน่อย  แหม…ขอสายสักวันหน่อยเถอะก็เพราะเมื่อคืนนั่นแหละเสียแรงทะเลาะกับธันวาเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะกลับมาถึงบ้านได้ก็เกือบตีสาม  สายสักวันคงไม่เสียหายอะไรหรอกน่า….   หญิงสาวหวนนึกถึงชายหนุ่มที่เธอพบเมื่อเช้า

    …ทำหน้าทำตาโมโหอย่างกับเธอทำผิดร้ายแรงอย่างนั้นแหละ  ก็แค่แย่งเนื้ออกไก่แค่นั้นเอง ทำไมต้องทำหน้าจริงจังอย่างนั้นก็ไม่รู้…. คิดแล้วลดาก็ได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนขับรถออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว

    แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 48 10:36:05

    จากคุณ : พราวตะวัน - [ วันสุนทรภู่ 08:42:31 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป