5.
"เป็นไงบ้างลูกยา กลับมาบ้านได้หลายวันแล้ว อยากไปเที่ยวไหนมั้ยลูก คุณสุนทรเดินมาเห็นอารยาลูกสาวอันเป็นที่รักนั่งอ่านหนังสือที่ศาลาหลังบ้านพักก็กล่าวทักทายลูกสาวและเดินเข้ามานั่งใกล้ ๆ
ก็เบื่อ ๆ เหมือนกันค่ะคุณพ่อ ยาอยากไปตะลุยกรุงเทพค่ะ ไปอยู่อเมริกาตั้งหลายปี ตอนนี้ถนนหนทางก็เปลี่ยนไปมาก ยาคงไปไหนมาไหนไม่ถูกแน่ ๆ คุณพ่อพายาไปเที่ยวทั่วกรุงเทพหน่อยสิคะ อารยารีบพูดออดอ้อนให้คุณสุนทรบิดาพาไปเที่ยวรอบกรุงเทพ เพราะเธอได้ชวนนีรชาและสาลิกาให้เป็นไกด์พาเธอไปตะลอนทัวร์ทั่วกรุงเทพแล้วแต่สองคนนั้นก็ไม่ว่าง เนื่องจากมีงานประจำและถนัดเป็นไกด์พาเที่ยวกลางคืนตามผับมากกว่า เมื่อคุณสุนทรถามเข้าทางเธอจึงรีบตะครุบโอกาสงาม ๆ นี้ทันที
พ่อก็อยากพาไปอยู่หรอกนะลูกยา แต่ช่วงนี้งานพ่อยุ่งมาก ปลีกตัวไปไม่ได้เลย คุณสุนทรตอบลูกสาวไปด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่เมื่อเห็นอารยาทำหน้าเสียใจกับคำตอบที่ได้รับ คุณสุนทรจึงรีบเสนอทางเลือกใหม่ให้ลูกสาว
งั้นเอาอย่างงี้มั้ยลูกยา เดี๋ยวพ่อจะโทรไปบอกตาพีรพัตรให้พาลูกไปเที่ยว ลูกจะไปวันไหนล่ะ คุณสุนทรยิ้มเมื่อนึกถึงพีรพัตร เค้าวางใจให้พีรพัตรพาอารยาไปเที่ยวได้ เนื่องจากพีรพัตรคุ้นเคยกับครอบครัวคุณสุนทร โดยเฉพาะอารยาซึ่งสองคนนี้ดูเหมือนจะเป็นพี่น้องกันมากกว่า
.และยังมีทีรพัตรอีกคน แต่ว่าหากปล่อยให้อารยาไปกับพีรพัตรคงน่าเชื่อถือมากกว่า
อารยาหันมายิ้มให้บิดาเป็นคำตอบ แม้เธอจะไม่ได้ตอบตกลงกับคุณสุนทรด้วยคำพูดแต่ท่าทางที่แสดงอาการดีใจทำให้คุณสุนทรรับรู้โดยทันทีว่าลูกสาวตกลงกับคำเสนอ
.
กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ ตาพี คุณสุชาดากล่าวทักทายลูกชายคนเล็กที่เพิ่งกลับมาจากมหาวิทยาลัย
ครับ..คุณแม่
ตาพีจ๊ะ เมื่อก่อนหน้านี้คุณสุนทรเพิ่งจะโทรมาหาแม่อยากจะอยากจะขอแรงลูกช่วยเป็นไกด์พาหนูยาตระเวณเที่ยวรอบกรุงเทพหน่อย น้องเค้ากลับมาหลายวันแล้ว คงจะเบื่อ ๆ น่ะ อยู่บ้านเฉย ๆ คุณสุชาดาเล่าให้ลูกชายฟังอย่างยิ้ม ๆ และมองไปยังใบหน้าของลูกชายที่ฉายแววตื่นเต้นหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวจากคุณสุชาดาผู้เป็นแม่
จริงเหรอครับคุณแม่ พีรพัตรเอ่ยถามผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น
จริงสิจ๊ะ ว่าแต่ลูกมีเรียนนี่นา ลูกจะว่างพาน้องเค้าไปเที่ยวเหรอ
พรุ่งนี้ผมไม่มีเรียนครับ พายาไปเที่ยวได้สบายมาก
ก็ดีสิจ๊ะ งั้นเดี๋ยวแม่จะโทรไปบอกทางคุณสุนทรก่อนว่าลูกสะดวกที่จะพาหนูยาไปเที่ยวได้ คุณสุชาดาพูดขึ้นก่อนจะก้าวเดินตรงไปยังเครื่องโทรศัพท์
เออ..คุณแม่ครับ เดี๋ยวผมโทรไปบอกยาเองดีกว่านะครับ พีรพัตรมองตามมารดา ลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามคุณสุชาดาไปที่เครื่องโทรศัพท์และขออาสาโทรไปบอกอารยาด้วยตัวเอง
ได้สิจ๊ะ คุณสุชาดาหันมายิ้มตอบลูกชายก่อนจะเบี่ยงตัวหลีกทางให้ลูกชายเดินไปโทรศัพท์ และยืนยิ้มมองดูลูกชายอยู่ห่าง ๆ
ครับ
ขอสายอารยาครับ พีรพัตรใจเต้นโครมครามระหว่างที่รอให้อารยามารับสาย
ยา นี่พี่พีนะครับ เห็นคุณแม่บอกว่ายาอยากไปเที่ยวรอบ ๆ กรุงเทพ พรุ่งนี้พี่ว่างไม่มีเรียน เราไปเที่ยวพรุ่งนี้กันเลยมั้ย เมื่ออารยามารับสายพีรพัตรจึงเอ่ยชวนเธอเรื่องไปเที่ยว
ครับ
ได้สิครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปรับยาตอนสิบโมงนะครับ พีรพัตรพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ เค้ายิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะวางหูโทรศัพท์
ไงจ๊ะ ตาพี ได้เป็นไกด์พาหนูยาไปเที่ยวหน่อย ยิ้มไม่หุบเลยนะ คุณสุชาดาพูดแซวลูกชาย เธอรับรู้ว่าพีรพัตรแอบมีใจให้กับอารยาลูกสาวคุณสุนทร
แหมคุณแม่ก็ อย่าล้อผมสิครับ พีรพัตรหน้าแดงก่อนจะพูดกับมารดาด้วยท่าทางเอียงเอียงที่ถูกมารดามองด้วยสายตาที่รู้ทัน
ไม่เอาล่ะ ผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะครับ และจะนั่งศึกษาเอกสารของบริษัทอีกหน่อย
อย่าหักโหมนะลูก งานที่บริษัทค่อยศึกษาไปก็ได้จ๊ะ คุณสุชาดากลัวลูกชายจะหักโหมศึกษางานที่บริษัท ไหนจะเรื่องเรียนอีก เธอรู้ว่าพีรพัตรเป็นคนตั้งใจจริง หากคิดจะทำอะไรแล้วจะต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งบางครั้งเธอรู้สึกเป็นห่วงกลัวลูกชายจะเคร่งเครียดกับชีวิตมากเกินไป
ไม่หรอกครับ คุณแม่ พีรพัตรหันมายิ้มให้ผู้เป็นแม่ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงสดใส
คุณสุชาดามองตามหลังลูกชายที่กำลังก้าวเท้าขึ้นบันไดอย่างกังวลเล็กน้อย ถ้าเป็นไปได้หากเอาความจริงจังและความตั้งใจจริงในการดำรงชีวิตของพีรพัตรกับการทำตัวสะเปะสะปะ อะไรก็ได้ของทีรพัตรมารวมกันและหารให้เท่า ๆ กัน คงจะดีไม่น้อยและเธอก็คงไม่ต้องมากังวลกับการที่เบนไปสุดขั้วของลูกชายทั้งสองคนแบบนี้
นายพี ทำอะไรอยู่น่ะ ทีรพัตรเห็ฯพีรพัตรน้องชายกำลังเปิดประตูเสื้อผ้าและทำท่าเหมือนกำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ และเห็นเสื้อผ้าถูกหยิบมาวางบนเตียงแล้วหลายชุดจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
กำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ นายมาก็ดีแล้วมาช่วยชั้นเลือกหน่อยสิ เมื่อเห็นว่าผู้เอ่ยถามคือทีรพัตรพี่ชายจึงถือโอกาสขอร้องให้ทีรพัตรช่วยเค้าเลือกเสื้อผ้า
เลือกเสื้อผ้า เลือกทำไมน่ะ ทีรพัตรทำหน้าสงสัยกับท่าทีของน้องชายที่กำลังวุ่นจับเสื้อผ้าตัวโน้นที ตัวนี้ที ทาบกับตัวเองหน้ากระจก อย่างตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใส่ตัวไหนดี
ก็ชุดที่ชั้นจะใส่ พายาไปเที่ยวพรุ่งนี้น่ะสิ พีรพัตรอธิบายถึงสาเหตุที่เค้าต้องมาเลือกเสื้อผ้าให้พี่ชายฟัง ขณะที่ตากำลังดูกระจก มองร่างตัวเองที่ลองทาบด้วยเสื้อผ้าเบรนเนมหลากหลายสไตล์
นายว่าชั้นควรจะใส่ชุดไหนดีล่ะ
นายใส่ชุดไหนก็ดูดีหมดแหละ ชุดไหนก็ได้น่า ทีรพัตรตอบน้องชายก่อนจะเดินไปนั่งที่เตียงและมองดูน้องชายลองชุดหน้ากระจก
ไม่สิ มันต้องเป็นชุดที่ดูหล่อและดูดีนะ นายว่ายาเค้าจะชอบแบบไหนล่ะ พีรพัตรหันมามองพี่ชายอย่างขอความเห็น
ยัยขี้แยนั่นน่ะเหรอ เค้าไม่ใช่คนเรื่องมากนี่ นายใส่แบบลำลอง ๆ สบาย ๆ น่าจะเหมาะนะ เมื่อนึกถึงภาพอารยาที่เป็นผู้หญิงแก่น ๆ เรียบง่าย ทีรพัตรจึงมีไอเดียที่จะออกความเห็นต่อการเลือกเสื้อผ้าของน้องชาย
นายว่าอย่างงั้นเหรอ อืม
งั้นชุดนี้คงจะเหมาะนะ เมื่อทีรพัตรให้ความเห็นที่ตรงกับใจที่ตัวเองคิดไว้ พีรพัตรจึงหยิบเสื้อผ้าสไตล์ลำลองขึ้นมาชุดหนึ่งและลองทาบกับตัวเองดูและยิ้มออกมาอย่างพอใจ
จากคุณ :
mscs
- [
30 มิ.ย. 48 15:17:03
]