ความคิดเห็นที่ 1
ไม่เป็นไร เขาบอกว่าเรียนเอาไว้ มีความรู้จะได้งานดีๆ ต่อไปเป็นเจ้าคนนายคน ผมจะลองตั้งใจเรียนดู เพราะหากเป็นจริง ผมอาจกำหนดชีวิตของผมเองได้เสียที แล้วเผลอๆ อาจไปกำหนดคนอื่นเขาได้ด้วย
เมื่อเรียนจบ ผมสมัครงานเพียงที่แรก เขาก็รับเข้าทำงานพร้อมเงินเดือน 9,000 บาทตามมาตรฐานวุฒิปริญญาตรี
9,000 บาท จะใช้เวลาเท่าไรจึงจะครบล้านกันนะ ผมลองคำนวณดูเล่นๆ
ราว 9 ปีเศษหากไม่ใช่อะไรเลย และราว 20 ปีหากใช้จ่ายปกติในชีวิต
20 ปีกว่าจะมีเงินล้าน แล้วที่ผม... ไม่ซิ ที่แม่ผมจ่ายเป็นค่าเล่าเรียนตั้งแต่อนุบาลจนจบมหาวิทยาลัยล่ะและค่ากินอยู่ปกติอีกล่ะเท่าไร เป็นล้านเหมือนกันไม่ใช่หรือ เผลอๆ อาจเกินล้านด้วยซ้ำ
ต้นทุนเป็นล้าน พอเรียนจบได้เดือนละ 9,000 มันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเลย
แล้ว 9,000 ของผมนี่ ใครเป็นคนกำหนดล่ะ ดูคล้ายว่าเป็นผม แต่จริงๆ มันก็คนอื่นกำหนดนั้นแหละ คนอื่นกำหนดเงินที่ผมจะเอามาเลี้ยงชีพตัวเอง
มีอะไรในชีวิตอีกหรือไม่ที่ผมจะสามารถกำหนดเองได้ ผมนั่งคิดอยู่หลายคืน จนพบว่ามีอย่างหนึ่งอาจพอเป็นได้
วันตาย
ผมจะกำหนดวันตายของตัวเอง และผมจะตายในวันที่กำหนด ผมจะชนะ แม้มันจะเป็นชัยชนะที่ได้มาเพียงเสี้ยววินาทีก่อนชีวิตผมจะดับสลายไปก็ตาม
ผมก้าวเดินขึ้นบันไดสู่ชั้นดาดฟ้าของอพาร์ทเมนต์ที่ผมเองอาศัยมาตั้งแต่เกิด นั่งลงที่ขอบตึกห้อยขาแล้วแกว่งไปมาฝ่ากระแสลมที่พัดวนบ้างก็ขึ้นจากด้านล่างมาด้านบน บ้างก็จากบนลงไปสู่ท้องถนนเบื้องล่าง
จากตรงนี้ผมเห็นเมืองใหญ่ได้อย่างกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เห็นรถติดเป็นแถวยาวบนถนน เห็นคนยืนรอข้ามถนนตรงแยกไฟแดง เห็นตึกรามใหญ่โตที่ผุดขึ้นสู่ฟ้าราวกับดอกไม้ที่ชูช่อสลอนรอรับแสงตะวัน หากแต่ภาพตึกนั้นมันแข็งดูไม่สวยเหมือนดอกไม้เอาซะเลย
วันนี้ผมจะกำหนดชีวิตตนเองได้ล่ะ อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่ง
ผมนั่งอยู่ที่ขอบตึกท่ามกลางแสงอาทิตย์สีทองยามเย็นที่ส่องแสงอุ่นๆ มาปะทะแก้มข้างขวา สร้างเงาตัวผมเองพาดยาวเกินกว่าความเป็นจริงไปตามพื้นซีเม้นต์ ผมมองไปตามเงาตัวเองตั้งแต่จุดเริ่มที่สะโพกเรื่อยไปจนศีรษะ
เอ๊ะ!...มีใครยืนเหยียบเงาหัวผมอยู่ บังอาจเหลือเกิน นั่นเป็นเสียงที่ดังอยู่ในความคิดของผม
ผมมองขึ้นไปตั้งแต่ส้นเท้าของผู้นั้น ที่เหยียบเงาหัวผมอยู่ เรื่อยถึงขา เอว อก คางจนถึงใบหน้า เขาเป็นผู้ชาย วัยราวๆ 30 ปลายๆ สวมเสื้อเชิ้ตยับๆ และหลุดลุ่ย มีเน็กไทคล้องไว้ที่คอ ท่าทางเขาดูโทรมเกินกว่าจะเชื่อว่าจะเป็นนักธุรกิจหรือเจ้าหน้าที่ออฟฟิตตำแหน่งดีๆ ในบริษัทใหญ่ๆ
พี่...พี่กำลังจะทำอะไรน่ะ ผมเอ่ยถาม ขณะในใจรู้สึกเสี้ยวแทนเขาซึ่งกำลังยืนอยู่ที่ขอบตึกอย่างหมิ่นเหม่ ทั้งๆ ที่ตัวผมเองก็กำลังจะโดดลงไป
เขาหันมามองผมแวบหนึ่ง
อย่ามายุ่งกับพี่ไอ้น้อง เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เหมือนไร้วิญญาณก่อนที่ประโยคต่อไปเสียงสะอื้นเบาๆ จะออกมาปะปนกับคำพูดที่คล้ายจะเป็นการพูดกับตัวเองมากกว่า
หนี้เป็นล้าน บ้านถูกยึด เมียก็ทิ้ง
ผมว่าพี่ น่าจะเป็นคนรวยนะ ผมเอ่ยประโยคนี้เพราะจากเครื่องแต่งกายของเขา ซึ่งหากแต่งให้ดี เขาก็จะเป็นผู้ที่แลดูมีราศีอยู่มากทีเดียว
เคยรวย เขาตอบ
พี่กำลังจะฆ่าตัวตายเหรอ เป็นคำถามโง่ๆ ที่ผมถาม
ชีวิตพี่มันไม่เหลืออะไรแล้ว เสียงสะอื่นปนคำพูดเขามากขึ้น
พี่...ผมขอถามอะไรพี่หน่อยดิ.. พี่จบอะไรมา
เขาหันหน้ามามองผมด้วยท่าทีสงสัยแล้วจึงกล่าว
แกถามทำไมวะ
ถามดู แค่อยากรู้
เขาหันหน้ากลับ จบปริญญาเอก บริหาร จากอเมริกา
โห...พี่คงเก่งมากเลยดิ ผมหลุดปากชมเขา
ตอนนั้นใครก็ว่าเก่ง อนาคตไกล เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง แต่จริงๆมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย มันไม่มีอะไรเหลือแล้ว ตายไปให้รู้แล้วรู้รอดดีกว่า ยังเป็นน้ำเสียงไร้วิญญาณเหมือนเดิม
ในใจผมตอนนั้นคิดว่าชายคนนี้กำลังจะตายเพราะอะไรเพราะเขาเป็นหนี้ ไม่มีบ้าน ขาดเมียอย่างนั้นใช่หรือไม่ ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็กำลังถูกบังคับให้ตายนะซี แต่...ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงบังคับให้เขาต้องตายได้ล่ะ
เขาอยากตายเพราะเรื่องเป็นหนี้ ไม่มีบ้าน ขาดเมียจริงหรือ?
ผมนั่งครุ่นคิดปัญหาซึ่งไม่รู้ว่าปกติมนุษย์เขาจะถามกันหรือเปล่าคำถามนี้อยู่พักหนึ่ง จึงเอ่ยถามเขาโดยหวังคำตอบเพื่อคลายขอสงสัย
จากคุณ :
มณีมรกต
- [
6 ก.ค. 48 11:37:30
]
|
|
|