CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ~~~ผู้ชายอย่างเธอ ต้องเจออย่างฉัน ~~~ (หักหลังผู้ชาย reality) ขออนุญาตย้ายกระทู้ค่ะ

     เนื่องด้วยตั้งกระทู้ผิดกลุ่มย่อย จึงขออนุญาตย้ายกระทู้มานะ คะ และขออณุญาต ยกข้อความเพื่อนๆ รวมกันไวในกระทู้นี้เลยแล้วกัน

    *********************************


                        บรรยากาศอันน่าอึดอัด เกิดขึ้นท่ามกลางโต๊ะอาหารภายใต้แสงไฟสลัวอันแสนโรแมนติก  เหงื่อเม็ดโตๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าของนายตำรวจหนุ่มอย่างไม่สามารถควบคุมได้  มันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติ
    ของร่างกาย เมื่อเจอความตื่นเต้นและวิตกกังวล  ข้างหน้าของเค้าประกอบไปด้วยผู้หญิงสาวถึง 2 คน  ผู้หญิงซึ่ง
    มีความพิเศษต่อเค้าไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย  ให้ตายเหอะ!!!ให้เค้าไปจับผู้ร้ายยังดีเสียกว่าเจอสถานการณ์
    แบบนี้
                     “ รักษ์ ”   สาวสวยใบหน้าคมขำ ผู้แสนจะบอบบาง อ่อนหวาน ซึ่งเค้าได้รู้จักกับเธอเป็นเวลา
    เกือบปี  มันเป็นเกือบปีที่เค้าต้องใช้ความพยายามในการเอาชนะใจเธอ  และเค้าก็คิดว่าตัวเองทำได้สำเร็จด้วยสิ หลังจากที่เค้าเคยเพียรโทรหาเธอในตอนแรก  แต่ปัจจุบันเธอกลับเป็นฝ่ายโทรเข้ามาหาเค้า และเค้าก็คิดว่า “ เรา ” น่าจะสานต่อความสัมพันธ์กันได้ด้วยดี

                    ส่วน “ กิ๊ก ”  สาวหมวยเจ้าเสน่ห์  เธอมีความน่ารักสดใส  และน่าค้นหา  เป็นผู้หญิงลึกลับ เค้าเพิ่งรู้จักกับเธอเมื่อไม่นานมานี้  ถ้าจะให้นับเวลาดูมันก็ไม่น่าจะเกิน 3-4 เดือน  แต่เธอก็ทำให้เค้ารู้สึกหลงใหล  ชีวิตดูสดชื่น  เธอช่างพูดช่างเอาใจและมีเสน่ห์  จนทำให้เค้าอดขอบคุณการความผิดพลาดของเธอในวันนั้นไม่ได้   ถ้าเพียงแต่เธอไม่โทรผิดมาหาเค้า  เค้าก็คงจะไม่รู้จักเธอจนวันนี้  และเค้าก็คิดว่า  “ เรา ” น่าจะสานต่อความสัมพันธ์กันได้ด้วยดี
    V
    V
                    เหตุการณ์เมื่อวานจนถึงวันนี้ มันไม่ได้มีลางอะไรสักนิดว่าเค้าจะต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้  เมื่อวานนี้เค้าโทรคุยกับกิ๊กตามปกติทุกวัน แล้วเค้าก็ชวนเธอมาทานข้าวที่ร้านอาหารข้างๆ สถานีตำรวจซึ่งเค้าทำงานอยู่  เค้านัดเธอก่อนเวลาเข้าเวณประมาณ 2 ชั่วโมง  เธอมาตามนัดด้วยความสดใส ใบหน้าเธอดูสวยกว่าทุกๆครั้งที่เค้าเคยเจอ  สวยจริงๆ สวยจนเค้าอยากจะขอเธอเป็นแฟนให้ได้ในวันนี้ทีเดียว บรรยากาศดูจะไปด้วยดี เค้าจะหลุดปากขอคบกับเธออยู่หลายครั้ง แต่ยังหาจังหวะเหมาะไม่ได้

                     จนกระทั่งเมื่อสักครู่ใหญ่ๆนี้เอง  สถานการณ์ก็เปลี่ยน ในแบบที่เค้าไม่สามารถจะควบคุม หรือ หลีกเลี่ยงอะไรได้ทัน ในขณะที่อาหารกำลังเสริฟ  โทรศัพท์ของเค้าก็ดังขึ้นเป็นเบอร์แปลกๆที่เค้าไม่คุ้นเคย

                      “  ฮัลโหล ไผ่เหรอ อยู่ไหนจ๊ะ ”  เสียงปลายสายเป็นเสียงที่เค้าคุ้นเคย เค้าจำต้องตอบไปด้วยน้ำเสียงปกติที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นการน่าสงสัย

                    “ อยู่โรงพักครับ กำลังจะเข้าเวณตอน 2 ทุ่มจ้ะ ”   ในขณะที่ตอบสายตาเค้าอดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังจดจ่อกับการกินอย่างมีความสุขพลางเงยหน้ามาสบตายิ้มหวานกับเค้าเป็นระยะ ไม่มีทีท่าระแวงสงสัยใดๆ กับบุคคลปลายสาย

    “ เหรอยังไม่เข้าเวณใช่ไหม อีกตั้งเกือบชั่วโมงนี่นะ เนี่ยเผอิญรักษ์มาทำธุระแถวนี้พอดีตอนนี้อยู่หน้าโรงพักแล้ว เดี๋ยวเราจะแวะเข้าไปหานะ รอที่ร้านเดิมแล้วกัน ”  

                   “ ฮ้า!!! จะมาเหรอ เอ่อ คือ ”

                   เค้าพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด เมื่อเจอสายตาใสแจ๋วของสาวน้อยตรงหน้าที่จ้องมองการสนทนาของเค้าอย่างสนใจ  ช้อนในมือผู้หมวดหนุ่มแทบจะหลุด เค้าอยากจะปฏิเสธเธอ แต่ก็พูดไม่ออก  สายตาคนข้างหน้าเค้าดูกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็นไม่น้อย ถ้าเค้าปฏิเสธเธอคงต้องสงสัยเค้าแน่ๆ  เค้าพยายามนึกหาทางออกภายในระยะเวลาอันสั้น แต่…….

    กว่าที่เค้าจะทันได้โต้ตอบ เสียงปลายสายก็ขาดหายไปซะแล้ว  การพยายามหาทางออกของผู้หมวดหนุ่มดูจะไร้ผล  เค้าเริ่มรู้สึกกระวนกระวาย สมองเริ่มทำงานหนักขึ้นจนไม่สามารถปกปิดได้จากทางสีหน้า

    “ ใครหนะ  เพื่อนเหรอ ได้ยินแว่วๆ เค้าจะมาหาเหรอ ”

    “ เอ่อ.. คือเพื่อนไผ่หนะ  เพื่อนผู้หญิงเผอิญเค้าผ่านมาแถวนี้แล้วจะแวะมาหา ”  เกริ่นบอกไว้หน่อยดีกว่า เผื่ออย่างไรเสีย จะได้แก้สถานการณ์ได้

                  “ ดีสิ งั้นชวนกินข้าวด้วยกันเลย ”

                  “ อืมม เดี๋ยวไผ่แนะนำให้รู้จัก ”  

                   เค้าตอบไปได้เพียงแค่นั้น เธอก็ไม่ได้สนใจจะถามไถ่อะไรอีก แต่กลับคุยไปเรื่อย ซึ่งเค้าเองก็ไม่ได้รับรู้อะไรในหัวข้อสนทนาของเธอแล้ว สายตาของเค้าสอดส่ายไปทางด้านหลังด้วยความกังวล ซึ่งอาการที่แสดงออกของเค้าก็ไม่ได้รอดพ้นสายตาเธอ

                   “ เป็นอะไรหนะ  รู้สึกกังวลจัง คนที่จะมาเนี่ย เป็นแฟนไผ่เหรอ กลัวเค้าเข้าใจผิดหรือไงที่เห็นเรามานั่งกินข้าวกับไผ่แบบนี้  มีซอกไหนให้เราไปหลบไหมละ ”   เธอพูดอย่างกระเง้ากระงอด  น้ำเสียงดูน้อยใจและตัดพ้อ จนทำให้เค้ายิ่งกังวล

                   “ เปล่าหรอก  ไผ่บอกกิ๊กแล้วไง ว่าไผ่ยังไม่มีแฟนสักหน่อย ก็ว่าจะหาเอาแถวๆนี้นั่นแหละ ”  ผู้หมวดหนุ่มรีบแก้สถานการณ์ด้วยการหยอดคำหวานเอาใจหญิงสาวซึ่งดูจะได้ผลไม่น้อยทีเดียว  แต่เค้าเองก็ไม่ได้คลายความกังวลลงไปเลยแม้แต่น้อย  นั่นไงคราวซวยของเค้ากำลังจะมาถึงแล้วผู้หญิงคนนั้นกำลังเข้ามาในร้านเค้าควรจะรีบออกไปดักเธอก่อนที่รถไฟขบวนใหญ่จะเกิดการประสานงา แต่แล้ว……..

                   “ นั่นเพื่อนไผ่หรือเปล่าหนะ  เห็นเค้าเดินตรงมาทางนี้นะ ”   เธอบอกเค้าหลังจากหันหลังไปมองตามสายตาที่จ้องเป๋งของผู้หมวด  มันไม่ทันซะแล้ว  รักษ์เดินมาจนถึงโต๊ะของเค้าเสียแล้ว

                   “ นั่งสิรักษ์ เอ่อ ทานอะไรหรือยัง สั่งไหม ”  เค้ารีบขยับที่นั่งให้ผู้มาใหม่และพยายามแก้สถานการณ์  อย่างรนลาน ….นิ่งไว้  สงบไว้  ไม่มีอะไรหรอก…. เค้าพยายามบอกตัวเองซ้ำๆ
                   
                   ผู้มาใหม่นั่งลงอย่างว่าง่าย แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เค้า และผู้หญิงที่นั่งอยู่ก่อน สายตากลมโตที่เคยดูอ่อนหวาน  วันนี้มันกลับเต็มไปด้วยคำถาม เต็มไปด้วยความรู้สึกที่เค้าก็ไม่อาจบอกได้ว่ามันเป็นความรู้สึกแบบไหน แต่ที่เค้ารู้สึกคือมันทำให้เค้าตัวชาวูบจนต้องหลบเมื่อได้สบตาตรงๆกับสายตาคู่นั้น

                    “ เอ่อ นี่ รักษ์นะ  ส่วนนี่ กิ๊ก ”   เค้าละสถานภาพของทั้งคู่เอาไว้  โดยที่จะเลี่ยงไม่ให้ความสำคัญกับใครมากไปกว่ากันจนจับสังเกตได้

                    “ สวัสดีค่ะ ”  หญิงสาวทั้งสองกล่าวทักทายกันตามมารยาท  พร้อมยิ้มให้กันเล็กน้อย โดยที่ยังคงมีความสงสัยเคลือบแคลงในแววตาของรักษ์

                    “ ทานอะไร หรือยังคะ สั่งสิ  นี่ค่ะเมนูอาหารร้านนี้อร่อยนะคะ ไผ่พากิ๊กมาทานบ่อยๆ ”  ประโยคเชื้อเชิญจากกิ๊กเต็มไปด้วยมิตรภาพและความจริงใจ  แต่มันกลับทำให้เค้าลมแทบใส่  เหมือนใครเอาน้ำมันมาราดลงไฟอย่างไรอย่างนั้น   รักษ์สะอึกไปแววตาวูบไหวจนเค้าสังเกตเห็น

                    “ เหรอคะ  แหมไม่ยักรู้ว่าไผ่จะพาคนอื่นมากินที่นี่บ่อยๆ เหมือนกัน เพราะเห็นตอนไผ่พารักษ์มากิน ไผ่บอกว่าจะพามาเฉพาะคนพิเศษเท่านั้น แสดงว่ากิ๊กก็คงเป็นคนพิเศษของไผ่สินะ ”  รอยยิ้มของรักษ์ในตอนนี้ดูน่ากลัวมากกว่าน่ารัก เธอพูดเรียบๆไม่ได้มีน้ำเสียงประชดประชัน แต่มันก็บาดลึกจนทำให้รอยยิ้มของกิ๊กเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด  

                    กิ๊กหันมาสบตากับผู้หมวดหนุ่มแววตาเต็มไปด้วยคำถาม  สีหน้าที่ดูเป็นมิตรในตอนแรกดูแปลกไป  เค้ารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจอย่างไรอย่างนั้น

                    หลังจากนั้น บรรยากาศทุกอย่างก็ดูช่างน่าอึดอัด  อึมครึม  จนเค้าอยากหายตัวไปจากที่ตรงนี้  สายตาสองคู่จับจ้องที่เค้าอย่างเอาเป็นเอาตาย จนทำให้เค้ารู้สึกตัวลีบเล็กลงเรื่อยๆ  สายตาทั้งคู่เต็มไปด้วยคำถามที่ต้องการคำอธิบายจากเค้า ….. คำอธิบาย  ใช่สิ เค้าควรจะต้องอธิบายอะไรบางอย่าง….

                    “ คือเผอิญว่าวันนี้กิ๊ก เค้าไม่มีเพื่อนทานข้าวหนะ ไผ่ก็เลยมาทานเป็นเพื่อน แล้วรักษ์ก็โทรมาพอดีไผ่ก็เลยชวนมาทานด้วยกันไง ทานหลายๆคนสนุกดี ใช่ไหมจ๊ะ ”   ชายหนุ่มพยายามหาเหตุผลที่ดีที่สุด เหตุผลกลางที่สุด เพื่อให้พอใจกันทั้งสองฝ่าย

                     “ เมื่อวาน ไผ่เป็นคนชวนกิ๊ก ออกมาเองนะ แล้วก็ไม่ใช่เพราะกิ๊ก ไม่มีเพื่อนทานข้าวสักหน่อย ”  กิ๊กแย้งออกมาทันที  ไผ่รู้แล้วละ ว่าเค้าแหย่รังแตนเค้าไปเต็มๆ กิ๊กไม่ใช่คนที่จะยอมให้อะไรค้างคาผ่านไปได้ง่ายๆ หลังจากย้อนไผ่จนแทบคิดหาทางออกไม่ทันเธอก็หันมาโยนระเบิดทางด้านรักษ์ต่อ

                     “ รักษ์ เป็นแฟนไผ่เหรอ  เรากับไผ่ไม่มีไรกันนะ และก็คงไม่คิดจะมีด้วยละ  รักษ์อย่าคิดมากละ เอาเป็นว่าวันนี้เรากลับก่อนแล้วกัน รู้สึกว่าเราจะมาผิดเวลา ” บทสนทนาของหญิงสาวดูตรง และชัดเจน  แต่ก็ทำให้เค้าใจแป้วไป …… ไม่มีอะไรกัน และไม่คิดจะมี …….  อะไรกันเนี่ย ท่าทางคราวนี้กิ๊กที่เพียรจีบมาหลายเดือนคงจะหลุดลอยไปแน่แท้

                     “  บ้าเหรอกิ๊ก รักษ์กับไผ่ก็คงเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นแหละ บอกตรงๆ นะ อย่างไผ่หนะ ไม่ใช่สเปก รักษ์หรอก  เราว่าไผ่เค้าคงชอบกิ๊กมากกว่านะ กิ๊ก อย่าเข้าใจเราผิดเลย วันนี้เรามาทีหลัง เธอกำลังนั่งทานข้าวกันอร่อย ๆ เราไม่น่ามาขัดจังหวะเลย เอาเป็นว่าเดี๋ยวเรากลับก่อนดีกว่า กิ๊ก อยู่ทานต่อเหอะอย่ามาเสียอารมณ์เพราะเราเลย  เราจะกลับแล้ว ”

                      ผู้หมวดหนุ่มแทบจะกองลงตรงนั้น  ความพยายาม  ความพยายามเกือบปีที่เค้าทำมา มันจะพังเอาก็เพราะวันนี้นั่นแหละ หญิงสาวสองคนต่างคนต่างปฏิเสธเค้าและยัดเยียดเค้าให้อีกฝ่าย  โธ่!!! ในชีวิตของเค้า ไม่เคยรู้สึกตกต่ำอะไรเท่านี้มาก่อนเลยให้ตายสิ  เหมือนหมองูกำลังจะตายเพราะพิษงูอย่างไรอย่างนั้น

                     “ งั้นเรากลับก่อนนะไผ่ ไม่ต้องไปส่งนะ เราเอารถมา  ตามสบายนะกิ๊ก ”  รักษ์เดินออกไปทันทีที่พูดจบ พร้อมรอยยิ้มประหาร ที่ทำให้เค้าระเยือก  เค้ารีบหันไปเพื่อที่จะอธิบายให้เธอฟัง แต่เธอก็เดินไปเร็วเหลือเกิน ไผ่ได้แต่ลุกค้างอยู่อย่างนั้น เพราะหันมาอีกที รอยยิ้มประหารดาบที่สองก็อยู่ตรงหน้าเค้า  กิ๊กกระชับกระเป๋าสะพายให้แน่นขึ้น เตรียมพร้อมสำหรับการไป

                     “ เราก็คิดว่าเราต้องไปเหมือนกัน เผอิญอิ่มพอดี และนึกขึ้นได้ว่า เรามีเพื่อนรอทานข้าวอีกหลายคน  ขอบใจนะสำหรับอาหารมื้อนี้ ”  ว่าแล้วเธอก็เดินจากไป  พร้อมรอยยิ้มที่เหมือนซ้ำดาบลงที่เก่า  ไผ่พยายามจะตามไปอธิบาย แต่พนักงานเก็บเงินเข้ามากันเค้าไว้ก่อนที่จะตามออกไปทัน  ชายหนุ่มจึงได้แต่ทรุดตัวลงนั่งกุมขมับอย่างกลุ้มใจ

                    “ วันนี้มันวันอะไรกันวะ ”  เค้าได้แต่สบถเพียงลำพัง

                    “ วันนารีพิฆาต ครับพี่ ”   เด็กเสริฟประจำร้านตอบกลับในขณะรินน้ำพร้อมรอยยิ้มที่ดูยังไงก็ยิ้มเยาะชัดๆ


                                     
                     ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า

    จากคุณ : *แชมพู* - [ 7 ก.ค. 48 11:46:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป