ความคิดเห็นที่ 1 อยากรู้จริงค่ะ tiki .... ให้ปลายบทเอกนั้น ........มาฟัด ห้าที่บทสองวัจน์ ...............ชอบพร้อง บทสามดุจเดียวทัด ............ในที่ เบญจนา ปลายแห่งบทสองต้อง.........ที่ห้าบทหลัง ฯ....จินดามณี     มีบางอย่างอยากถามท่านปู่ออ แต่ว่าขอมาโพสณ ที่นี่ ว่าโยงโคลง แบบไหน ถูกวิธี โยงที่ หนึ่งสองสามนี้..หรือท้ายความ     ด้วยความเก่าพระโหราฯ จินดามณี มาบ่งชี้วางท้าย..ใช่สองสาม แต่ท้ายบาทตำแหน่งห้า นะแม่งาม ข้าฯก็เคยวางตามแต่ก่อนกาล     ครั้นดูยุค รัตนโกสินทร์..กวินทร์ผอง ลงหนึ่งสองและสาม..ตามแตกฉาน ข้าฯ ขอปู่ช่วยมาตอบ..ชอบการงาน อย่างพระโหราฯ ว่าการ หรืองานเรา .   ..ที่สงสัยในวันนี้ที่อยากถาม เพราะเนื้อความจินดามณี..นี้คนเก่า ย่อมแจงแจกแบกโคลงโยงเรื่องเอา ใช่งุบงิบ..แต่ไยเขาจึงเปลี่ยนทาง...??? แบบรัตนโกสินทร์(ปัจจุบัน ?) ๏ 0 0 0 ก่ ข้........ 0 x.....(0 0) 0 ก่ 0 0 x............ ก่ ข้ 0 0 ก่ 0 x............ 0 ก่........(0 0) 0 ก่ 0 0 ข้ ...........ก่ ข้ 0 Z....(0 0) ๚ ๏ Z,Z,Z ก่ ข้....... 0 x.....(0 0) 0 ก่ 0 0 x ............ก่ ข้ 0 0 ก่ 0 x............ 0 ก่........(0 0) 0 ก่ 0 0 ข้ ............ก่ ข้ 0 0....(0 0) ๚ การต่อโคลงระหว่างบท ดูตรง คำท้ายบทต้น ( Z) ให้สัมผัส ระหว่าง คำที่ 1 2 3ของหน้าบทต่อไป( Z,Z,Z,)  หรือแบบ ลงตำแหน่งอื่นจากท้ายความ ขอบคุณท่านผู้รู้ทุกท่านที่นี้ไว้เลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 48 22:36:57 แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 48 20:33:39 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 48 01:00:14 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 7 ก.ค. 48 19:01:40 ]

ความคิดเห็นที่ 2 นนท์ ยังไม่สามารถเขียนโคลงได้เลยอ่ะ อ่านแล้วยิ่งงง จากคุณ : วรานนท์ - [ 7 ก.ค. 48 19:55:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุณ วรานนท์ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ ลองลิงก์ไปตามโคลงที่เว็บเดิม แล้วจะมี ลิงก์ นำไปฝึกหัดโคลง ไม่ได้ยากอะไรหรอกค่ะ ยุ่งน้อยกว่าเขียนฉันท์ซึ่งมีลหุ ครุเยอะแยะนะคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 7 ก.ค. 48 23:33:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กำลังคิดเรื่องการโยงโคลงอยากให้ผู้รู้ ช่วยตอบทีทำไมมีสองความเห็น .ในบทประพันธ์ยุครัตนโกสินทร์นั้น มักโยง แบบที่ร่างไว้อย่างแรก แล้วเข้าไปดู รวมโคลงเก่า อาจไม่มีการ โยง ก็ไม่เป็นไร แต่การโยง สามคำบาทหน้า หรือ คำที่ห้า ท้ายบาทหน้า.ตามแนวเก่าก็สับสน พอสมควรค่ะ จึงขอกราบเรียนท่านอาจารย์ผู้รู้ช่วยกรุณา ตอบที...ว่าทำไมเราไม่ได้ใช้หลัก คำท้ายบาทหน้า...(อย่างที่ข้าพเจ้าคิดว่าจะเป็น อย่างหลักอยุธยา สมัยพระโหราธิบดีใน หนังสือ จินดามณี...?)     เพราะเมื่อค้นดูการสัมผัส เช่นในโคลง เฉลิมพระเกียรติ สำนวน พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านก็ทรงใช้ หลัก  ๑ ๒ ๓ นี้เช่นกัน จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 8 ก.ค. 48 00:26:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอยกตัวอย่างค่ะ พระราชนิพนธ์โคลงเฉลิมพระเกียรติเจ้าฟ้าฯ ศิษย์รักสุนทรภู่ tiki          พระอัทธยาไศรย          ๑. อุภโตสุชาติ       Well born on both side ๑  ๏  พระองค์อุบัติพร้อม..............ไพรบูรรณ   ศักดิเฮย มหิศวรราชวรางกูร......................กอบเกื้อ บรมวงษวิสิฐประยูร.....................ขัติยชาติ อภัยพิสุทธิสืบเชื้อ......................ธิราชไท้ประฐมพงษ  ๚   ๒   ๏  ทรงพระสุพรรณบัตรตั้ง..........นามนิยม...แรกแฮ สองที่กรมขุนสาม........................พระซ้ำ คราสี่ที่กรมสม.............................เดจพระ....แลนา เฉลิมพระยศใหญ่ล้ำ.....................เพิ่มพื้นสุขุมพันธุ   ๚                                                   พระราชนิพนธ์                                                (พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๕)..(*๑) .    .๏.....ขออัญเชิญโคลงท่านไท้.......สยามินทร์ ทรงร่วมประยูรบดินทร์.........................แต่งให้ เทิดพระเกียรติกุญชรินทร์..................กรมพระ..ยาเฮย บำราบปรปักษ์ไซร้............................สู่ฟ้าหน้าเมรุ... ๚ tiki ที่มา http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem69151.html จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 8 ก.ค. 48 00:27:32 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราเกียังเขียนโคลงไม่เก่งเหมียนกัลล์   อ่านของ tiki_ทิกิ  แล้วกันเน๊าะ จากคุณ : nana_iteh (nana_iteh) - [ 8 ก.ค. 48 14:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนที่           ๕  .นิระมานะ                        Humility   ๙ ๏     พระนามบำราบสร้อย..........ปรปักษ์ บำราบมานะหัก..........................ห่างได้ พระเกียรติยศสูงศักดิ์................ทรงผ่อน..ลดนา ควรเชิดพระคุณไว้.....................แห่งห้องเวหน ๚ ๑๐ ๏ ไม่เลือกขนต่ำต้อย..................เลวทราม เคยเล่นคงทักถาม.....................ยั่วเย้า เชิงหยอกยั่วพองาม...................ฤๅยิ่ง...หย่อนพ่อ สูญพระชนม์ชนเศร้า................สลดไห้หวนหา  ๚                                          พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์ คัดจากหน้า๒๑ และ ๒๓ จากหนังสือวัดบรมวงศ์อิศรวราราม โคลงเฉลิมพระเกียรติ  สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ  เจ้าฟ้ามหามาลา  กรมพระยาบำราบปรปักษ์  ประชุมกวีแต่งในงานพระเมรุ ปีกุนพ.ศ.๒๔๓๐ คุณนานาอิเต๊ะยินดีอย่างยิ่งค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 8 ก.ค. 48 16:37:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สำหรับ บทต่อไปในหนังสือเล่มเดียวกันที่คัดเลือกมาให้ดูการเชื่อมโยง คำท้าย ตามแบบฉบับพระโหราธิบดี  ผู้ประพันธ์ตำราภาษาไทยจินดามณี คือสองบทนี้ซึ่งกล่าวสรรเสริญเครื่องราชฯ ๑๕.มหาสวามิศราธิบดี เครื่องราชอิสสริยยศสำหรับตระกูล  ตราจุลจอมเกล้า Grand Master of the Noble Order of  Chula Chom Klao ๒๙ ๏   ศักราชสามสิบห้า................ปีพัน..สองเฮย รงงเครื่องอิสริยอัน....................รุ่งเร้า รัชกาลที่ห้าสรร.........................สำหรับ...ตระกูลนอ นามว่าจุลจอมเกล้า.................เกริกหล้าตราตรู   ๚ ๓๐ ๏ พระยิ่งเกียรติยิ่งรู้..................เรียงรดับ...วงษฤๅ พระจึ่งดำรงรับ..........................แรกผู้ พระครูใหญ่ที่ศัพท์....................แกรนด์มาส...เตอร์นา พระยศถนอมเถกิงกู้................ตราบคุ้งชนม์กษัย. ๚                                               พระยาภาสกรวงศ์                                           (เจ้าพระยาภาสกรวงศ์  พร) ที่มาจากเล่มเดียวกันหน้า ๒๘-๒๙ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 8 ก.ค. 48 16:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ..................................๒๕.จินตะกระวี......................................... ........................................Poetry.................................................. ๔๙ ๏   ปรีชาพระแจ่มแจ้ง..................จินตะ...กระวีเฮย อาจนิพนธ์พจนะ..........................เสนาะถ้อย เอกโทครุละ.................................หุห่อน...โทษเฮย ทุกบาทก็คลาดคล้อย.................เคลื่อนเบื้องฉบับบรรพ์    ๚ ๕๐ ๏หลายเรื่องที่ ธ ได้ ....................ทรงประ...พันธ์ฤๅ คือทวาทศะ................................มาศนี้   ยังโคลงเรื่องรามะ.....................เกียรติ์เรื่อง...หนึ่งนอ ห้องนาคบาศชี้...........................ชื่อได้โดยมี ๚                                     หม่อมเจ้าวัชรินทร ในกรมขุนบดินทรไพศาลโสภณ (หม่อมเจ้าวัชรินทร  ในกรมหลวงบดินทรฯ) สำหรับ บทที่ ๒๕ เป็นที่น่าอ่านในวาทะผู้ประพันธ์และเนื้อหา ขออนุญาตยกมาเพื่อให้ได้เป็นความรู้ทั่วกัน กวีในอดีตท่านอาจจะ โยงร้อยโคลงหรือไม่โยงก็ตามใจท่าน แต่หากโยง ก็จะมีสองวิธีดังกล่าว..ใช่หรือไม่.. ที่มาจากเล่มเดียวกัน หน้า ๓๕ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 8 ก.ค. 48 16:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เนื่องจากยังไม่มีผู้มาตอบบรรยาย ลักษณะโยงโคลง จึงได้ไปสืบค้น...ก็ได้ความหมายว่า บทของพระโหราธิบดีในจินดามณีนี้ หมายความดังนี้ว่า ท่านกล่าวถึง ผังกลอนในบท บทเอก ก็คือ "ให้ปลายบทเอกนั้น ........มาฟัด" บทสอง ก็คือ  "ห้าที่บทสองวัจน์ ..................ชอบพร้อง" บทสาม ก็คือ...".บทสามดุจเดียวทัด .............ในที่ เบญจนา" บทหลัง  บทตำแหน่งบรรทัดที่สี่ ก็คือ "ปลายแห่งบทสองต้อง........... ที่ห้าบทหลัง "ฯ....จินดามณี จึงขอกราบเรียนท่านผู้รู้ครูบาอาจารย์ทุกท่าน ไว้ที่นี้ก่อนว่าความเข้าใจของข้าพเจ้าคงจะ ถูกต้องในชั้นนี้ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 8 ก.ค. 48 17:51:10 ]

ความคิดเห็นที่ 11 8 : หมายเลข 492681   สืบไปเจอว่า ในหนังสือจินดามณี มิได้เน้นการโยงโคลงระหว่างบท ต่อบทอย่างปัจจุบันเลย ดังนี้ค่ะ • โคลงอธิบาย ( จากหนังสือจินดามณี ฉบับหอสมุดแห่งชาติ ) ๏ ให้ปลายบทเอกนั้น ............ มาฟัด ห้าที่บทสองวัจน์ ...................... ชอบพร้อง บทสามดุจเดียวทัด ................. ในที่ เบญจนา ปลายแห่งบทสองต้อง ............ ที่ห้าบทหลัง ๏ ที่พินทุ์โทนั้นอย่า ............... พึงพินทุ์ เอกนา บชอบอย่าควรถวิล ............... ใส่ไว้ ที่พินทุ์เอกอย่าจิน .................. ดาใส่ โทนา แม้วบมีไม้ ............................... เอกไม้โทควร ๏ บทเอกใส่สร้อยได้ .............. โดยมี แม้วจะใส่บทตรี ........................ ย่อมได้ จัตวานพวาที ............................ ในที่ นั้นนา โทที่ถัดมาไซ้ ............................. เจ็ดถ้วนคำคง ๏ ลิขิตวิจิตรสร้อย ................... สารสรร คือวุตโตไทยฉันท์ ..................... บอกแจ้ง สถิลธนิตพันธ์ ........................... โคลงกาพย์ จบสำเร็จเสร็จแกล้ง ................. กล่าวไว้พึงเรียน ๏ บทต้นทั้งสี่ไซ้ ........................ โดยใจ แม้วจะพินทุ์ใดใด ....................... ย่อมได้ สี่ห้าที่ภายใน .............................. บทแรก แม้นมาทจักมีไม้ ......................... เอกไม้โทควร ๏ บทใดสอนโลกไว้ ................... เปนฉบับ อรรถแห่งครูอันลับ ..................... บอกแจ้ง บกลัวบเกรงกลับ ....................... ปรมาท ครูนา ตกนรกไปแย้ง ........................... ต่อด้วยยมบาล : ส.ร.น. - [ 19 พ.ค. 46 23:24:00 ] : อังศนา  - [ 29 ก.พ. 47 12:54:25 ]     ที่มา http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P2690159/P2690159.html#29 จึงมาหาคำตอบอีกทีว่า ระหว่างการต่อท้ายบทแบบปัจจุบัน และแบบอย่างที่ยกมาอย่างท้ายบาทหนึ่ง นั้น...มีที่มาจากไหนก่อนหน้าสมัยรัชกาลที่ ๕ ขึ้นไป...แต่ยังหาหนังสือ โคลงของสุนทรภู่ยังไม่ได้ไม่ทราบไปเก็บที่ไหนนะคะ ระหว่างนี้ ก็อ่านตามลิงค์ ของคุณ อังศนา ไปก่อนเพื่อความรอบรู้อย่างถูกต้องค่ะ ด้วยปราถนาดี ทิกิ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 8 ก.ค. 48 19:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีท่านผู้เข้ามาติดตามทุกท่าน ได้สอบทานบางงานเร่งด่วนได้ดั่งนี้ ในโคลง 464 คำโคลงของท่านสุนทรภู่ คือ นิราศสุพรรณนั้น ไม่มีแบบฉบับแน่นอนในการโยงโคลงแต่มีให้เห็นอยู่สองสามแบบ ส่วน งาน ลิลิตตะเลงพ่าย .สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส..ฯ  นั้นที่จับอย่างเร็วมาคือ การโยงโคลงดั่งที่ในพันทิป กำลังวางอยู่เช่นแบบรัตนโกสินทร์ ในชั้นต้นนี้จึง สันนิษฐานตาม จินดามณี ก่อนว่า ในเบื้องแรกสมัยอยุธยา น่าจะยังไม่มีระบบการโยงคำโคลง หรืออาจมีมิทราบแน่ชัด...มาถึงยุคสมัยรัตนโกสินทร์ จึงมีการประพันธ์ โคลงเป็นสองแบบ คือ การเชื่อมโยงโคลง และ การประพันธ์ อย่างไม่เชื่อมโยงโคลง ขอคำแนะนำจากท่านผู้รู้ด้วย ขอบพระคุณค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 10 ก.ค. 48 20:38:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หัวใจ..พระสุนทรฯ..อยู่เหนือกรอบใด   ๑       หายไปวันสองวันฉันคิดถึง บอกคำซึ้งเพื่อนนักกลอน..นอนยังฝัน อ่านนิราศสุนทรภู่เป็นวันวัน จบนิราศสุพรรณโคลงหนึ่งเดียว     ๒       ขอบอกเพื่อนเตือนใจให้สบาย จงผ่อนคลายสี่ร้อยโคลงมิโยงเชี่ยว ท่านสุนทรภู่ผ่อนโคลงปล่อยโยงเกลียว ดูทุกท่าแลเหลียวใช่ลืมลา    ๓      หากพินิจพิศดูพอรู้เรื่อง นิราศเมืองสุพรรณท่านสรรหา ล้วนคำโคลงสี่งานสานพรรณนา เป็นภาษาสวยงามยามได้ชม    ๔       อ่านได้รสร้อยความตามท่านกล่าว ถึงเรื่องราวยาที่หามาประสม ล่องเรือจากบางกอกบอกนิยม ไปเซอะซมกลางกะเหรี่ยงเมียงสุพรรณ      ๕        หากจักความงามนักล้วนศักดิ์สิทธิ์ อ่านอย่างมิตรล้วนสนุกสมานฉันท์ แต่หากอ่านเพื่อเรียนรู้ดูโคลงครัน ต้องกราบครูทั้งวันเกือบขอลา      ๖       เพราะหากแม้นยกคำ *สี่สุภาพ* วรรณยุกต์ท้ายกราบบาทหนึ่งว่า มีทั้งเอกโทสรรค์บันดาลมา ตายละวา..อย่ายุ่ง..มุงโคลงครู      ๗         จึงขอยกปัจจุบัน .ฉันทลักษณ์ เที่ยวตามทักหักล้างอย่างสุดกู่ แต่หากอ่านโคลงสุพรรณเชิญท่านดู ท่านผู้รู้จะตอบความหยามหลู่ใคร      ๘        ขอให้อ่านบทประพันธ์สรรเนื้อหา ขอชื่นชมวาจาอัธยาศรัย ขอยกเทิดครูภู่ผู้เกริกไกร ว่าถ้อยโคลง..ครูไซร้..โคลงอาจารย์       ๙       จบนิราศสุพรรณ..ฉันวิเคราะห์ หาลัดเลาะเชื่อมโยงโคลงสมาน กี่เปอร์เซ็นต์เป็นหลักแถลงการณ์ แต่งมนานไม่จะแจ้ง..แหล่งเชื่อมกัน.      ๑๐      ขอฟันธงตรงหน้า..วาจาข้อย ว่าครูร้อยเสกสร้างอย่างรังสรรค์ ครูยึดหลัก*จินดามณี*ที่รำพัน ครูร้อยผัน โคลงมา..ภาษาดี     ๑๑      แต่ละบท คำร้อย..ค่อยเพียรพิศ ครูฝึกจิตกำกับนับวิถี ครูเขียนโคลง..โยงภายใน..ถูกพิธี แต่มิชี้โยงนอกบอกใครใคร      ๑๒       ข้าฯอ่านครบ จบ สี่ร้อยหกสิบสี่ ล้วนคุณงามความดีที่ครูไข ครูเขียนโคลง..เขียนลง..มาด้วยใจ นิราศไซร้..ในเรือ..เมื่อเขียนงาน      ๑๓ ......ขอกราบเบื้องบาทครูผู้เลิศกลอน ข้ามิวอนลบหลู่กู่สังหาร คำของครูจดจำไว้จดจาร ฉันทลักษณ์พจมานงานโคลงครู... ขอกราบครูสุนทรภู่..ในงานโคลงนิราศสุพรรณ บทประพันธ์๔๖๔ สี่ร้อยหกสิบสี่คำโคลงของครู สอนให้รู้ว่า...ประวัติชีวิตครู...คำของครูที่สั่งสอน อบรมบ่มพร่ำบุคลากรเบื้องหลังที่โยงมา ย่อมมีคุณค่าเหนือ...กรอบ...ยึดโยงใดใด ทิกิ_tiki ขอบคุณ หนังสือ ชีวประวัติสุนทรภู่ที่มีคำประพันธ์โคลงนิราศสุพรรณ ให้ข้าพเจ้าได้ศึกษาวิธีการคิดร้อยคำของครูกลอนซึ่งมาเขียนโคลง... ยกมาทุกคำมิติดขัดเลยค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 10 ก.ค. 48 22:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นสมาชิกพั่นทิ้ป.................ก็หน๋าน <<<(สำเนียงสุพรรณฯ) ยังไม่คิดอาจหาญ.................แต่งโต้ เจียมตัวว่าวิชาชาญ...............ยังอ่อน นักแล กลัวโดนด่าไอ้โง่..................โง่แล้วมิเจียม ฯ จนมาเจอกระทู้....................กวีไทย โคลงสี่สุภาพถูกใจ...............ยิ่งแล้ว จะเฉยไม่ตอบฉันใด.............พระคุณท่าน? ดุจดั่งลิงเจอะแก้ว................เจอะแล้วหยิบดู ฯ จึงขอลองแต่งบ้าง...............นะเธอ อาจแต่งผิดเพราะเผอเรอ......แนะด้วย โคลงกลอนอาจพาเพ้อ.........สุดกู่ วอนท่าน-พี่น้องช่วย............ด่าบ้างก็ดี ฯ ฉันทลักษณ์ไม่เคร่ง...........เอกโท มิใช่เป็นนักเลงโต.............เบ่งกล้าม เพียงแค่นี้ก็--โห...............แทบกระอัก มันอาจมีแต่น้ำ.................ถ้า(ฉัน)เคร่งจริงจริง ฯ เอาล่ะหมดมุขแล้ว.............ขอตัว แต่งนานก็ชักกลัว..............หมดถ้อย เพียงแค่นี้ก็มั่ว..................มากอยู่ ฉันเด็กใหม่ผู้น้อย..............ฝากท่านดูแล ฯ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 48 13:50:57 จากคุณ : แพ ใบไผ่ - [ 10 ก.ค. 48 23:13:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ...กราบพระคุณท่านนี้......แพใบ ใบไผ่บิดหนอไว...............ว่องแล้ว เขียนโคลงยิ่งหัวใจ..........สนุกน่า..ยลแล เร็วกว่าลิงเก็บแก้ว............เล่นคว้าลองโคลง .....ลองโยงยามพี่เว้า.........เวียนมา ฤๅว่าวงภาษา...................อู่น้ำ สุพรรณนิราศกถา............ครูภู่..นำแฮ เพียรท่านแลเลิศล้ำ...........ค่าแท้โคลงไทย ขอขอบคุณท่านแพ ใบไผ่ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 48 00:13:03 จากคุณ : ทิกิ (tiki_ทิกิ) - [ 10 ก.ค. 48 23:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ...........ฉันละรักเฉกนี้..............คำโคลง วางเรื่องละพาโยง...................บ่งชี้ ทวนคำสี่ผูกโจง.......................จารจ่อ...เจตน์นา *คำ*ว่า*โยง*..*โจง*นี้.............อีกทั้ง*จาร* จำ           ควรนำตำแหน่งล้วน........ลองคิด วางสี่คำสนิท.............................น่ะน้อง *ลอง*คือหนึ่งมิผิด.....................ตาม*สนิท*..สนมนา *ผิด*อีก*ตาม*สี่จ้อง...................สี่นี้สุภาพ..โคลงแฮ ลองบอกแล้วกันค่ะท่าน คำสี่สุภาพคือ ตำแหน่ง คำ .........................................คำ..... ..................โยง......................... ...................โจง................จาร .........................................ลอง..... ..................สนิท......................... ..................ผิด..................ตาม ซึ่งตามกฎฉันทลักษณ์ในโคลงสี่สุภาพมิให้มีวรรณยุกต์เอกโท ใดใดมาพ้องคำ (แต่ในโคลงแบบอื่น ตรงตำแหน่ง คำ นั้น อาจมีเอกโทได้..ต้อง ศึกษาต่อไปอีกนาน...แต่ในเบื้องแรกนี้อยากให้ เขียน โคลงสี่สุภาพอย่างที่น่าเขียนให้ถูกกันก่อนค่ะ) สำหรับเรื่องอื่นๆเชิญท่านเข้าไปอ่านวิธีการใน link ที่ให้ไว้ ข้างบนหลายกระทู้ได้..ค่ะ ขอบคุณอีกครั้ง..ที่เข้ามาเยี่ยมห้องอนุบาลโคลงน่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 48 00:07:58 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 11 ก.ค. 48 00:05:45 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตัวฉันเองเพิ่งรู้....................จุดจำ มีสี่คำสุภาพตำ-...................แหน่งห้าม ขอบคุณกุศลกรรม...............ทิกิเอ่ย หาไม่หากเบิ่งข้าม................อาจสร้างมลทินโคลง ฯ จากคุณ : แพ ใบไผ่ - [ 11 ก.ค. 48 09:20:17 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เรียน คณะพรรค... ศรีปราชญ์อาจฝากไว้ ในโคลง ท่านค่อยเขียนจรรโลง ดั่งนั้น ดังประโลมโหมโรง เพลงบท ที่หนึ่ง สองสามสี่มาไซร้ พลาดบ้างสนุกดี จากคุณ : พจนารถ - [ 11 ก.ค. 48 11:11:57 A:61.91.79.208 X: TicketID:103878 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ........คุณแพใบไผ่เข้า..........มาดู สนุกเถิดนะผองตรู..............กฎเข้ม เริงวรรณร่ายตามครู..........วางท่อง..ตามเฮย มิผิดปราชญ์เต็มเหล้ม........เอกบ้างโทบาน     ขอท่านอย่าอ่อนล้า..........แรงโหย เขียนดั่งเวียนลมโชย............เชี่ยวช้อย บุญนักจักมาโกย..................กอบเพื่อน...โคลงแฮ พันทิปมิตรเต็มร้อย.............มากล้วนเก่งกานท์ ตอบคณะพรรค       พจนารถเขียนหลากล้วน............ลีลา ฝากท่านศรีปราชญ์มา.....................ดุ่มดั้น ประโลมหนึ่งโคลงพญา..................วางพาทย์...พิงเฮย สามสี่มากระชั้น..............................เร่งร้อนลืมมอง ยินดีทุกท่าน ในฉันละลองโคลง จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 11 ก.ค. 48 14:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อครู่กำลังจะลอกโคลงท่านสุนทรภู่มาให้อ่านเครื่องเป็นเส้นๆ แล้วดับไป แหะ..แหะ..เปิดใหม่ไปตอบหน้าอื่น มี my blog gang โผล่หน้ามาให้ดูด้วยค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 11 ก.ค. 48 16:49:53 ]

ความคิดเห็นที่ 21 หากเราปิดหูปิดตาเรื่องกฎระเบียบอะไรเสีย การอ่านงานกวี..ที่ท่านน้อยอกน้อยใจไว้ว่าอย่างนี้... ทำให้เราต้องหยุดคิดว่าดีนักหรือที่จะไป พิจารณ์งานท่านในลำเรือที่วิ่งโยงไป ในลำคลองอันเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ มิใช่ยุคสมัยเรา มีอยู่บทท่านเขียนไว้อย่างนี้ค่ะ  ๓๘    โรงหีบหนีบอ้อยออด.............แอดเสียง สองข้างรางรองเรียง.................รับน้ำ อ้อยใส่ไล่ควายเคียง.................คู่วิ่ง..เวียนเอย อกพี่นี้ชอกช้ำ...........................เช่นอ้อยย่อยระย(สระอัม)     ๓๙   หีบหันนั่นแหละเหล้..............ตระลาการ ขู่ข่มเหงหักหาญ.......................ห่อนเว้น เข้าพวกคิดอ่านพาล.................เอาผิด...พ่อเอย กลหีบหนีบนิดเน้น..................นึกช้ำน้ำใจฯ สุนทรภู่ โคลงนิราศสุพรรณ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 11 ก.ค. 48 16:54:47 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อืมม์ นั่งอ่านแล้วคิด ซักวันเราจะเขียนโคลง อิอิ ส่วนตอนนี้ ยังสร้าง  blog ม่ะเสร็จเลย ขอบคุณ คุณ Tiki นะคะ จากคุณ : วรานนท์ - [ 12 ก.ค. 48 11:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณวรานนท์ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม ขอบคุณเชิญท่านน้อย..............วรานนท์ มาเยี่ยมเยือนยามยล...............กล่าวอ้าง จักจารอย่างโคลงดล..............ใจดั่ง...ว่าเฮย ขอร่วมรวมใจสร้าง...............บทนี้เพื่อไทย ยินดีที่สักวันจะเขียนค่ะ นี่เป็นบทโคลงเบื้องต้นให้คุณวรานนท์เช่นกันค่ะ ขอให้เขียนเก่งเขียนคล่องในอนาคตนะคะ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 48 12:36:41 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 12 ก.ค. 48 12:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ถึง วรานนท์ วันเวลาล่วงแล้ว................ เลยไป แม่เฮย เรือด่วนและรถไฟ............. เคร่งหม้าก (เห็นแต่รถไฟไทย............. delayบ่อย) เรียน-เร่งเถิดที่ร้าก............ อย่าช้าอีกเลย ฯ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 48 16:59:43 จากคุณ : แพ ใบไผ่ - [ 12 ก.ค. 48 16:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 จริงด้วยคะ คุณแพคะ     เรียนแรกแยกกฎให้...............มองเห็น โทสี่เอกเจ็ดเป็น.........................หนึ่งขั้น คำสุภาพสี่บำเพ็ญ.........................เพียรแหล่ง..ก่อนเฮย ขอเริ่มบทแรกนั้น......................เร่งเร้าเยาวชน เร่งคุณวรานนท์และน้องๆท่านอื่นด้วย อย่าปล่อยเวลาล่วงเลยไปอย่างน่าเสียดายค่ะ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 48 21:12:06 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 12 ก.ค. 48 20:56:04 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ส่องโยงโคลงสองรัชกาล        พินิจความย่างเยื้อง...............ยลโคลง สอดส่องคำผูกโยง........................อย่างเค้า แลตามอ่านครรโลง......................งานเก่า...อยุธย์เอย ตามเบิ่งลิลิตเจ้า...........................หลากล้วนลีลา       มองกวีศรีธเรศล้วน...............ปรีชา สานต่อคำกถา.............................หยั่งท้าย โยงคำต่อกันมา...........................งามดั่ง..กลอนแฮ สดับตรับคำไว้.............................หนึ่งนี้คมงาม       ตามลิลิตเมียงหม้า..............สมเด็จพระฯ...*๑ สมเด็จมหาสมณะ........................ร่างไว้ โยงสดับจับคำนะ..........................งามต่อ...เนื่องเฮย เรียงส่งสวยสดให้..........................แบบเบื้องปรัตยุบัน     สรรค์โคลงโลกนิติน้อม.............กรมพระยาฯ...*๒ ชายมิ่งฯพระเดชา*.........................ส่องบ้าง มิเห็นต่อวรรณนา..........................โยงเนื่อง สืบส่องมองสล้าง..........................สุดพ้นพรรณนา "**ห้ามเพลิงไว้อย่าให้.....................มีควัน ห้ามสุริยะแสงจันทร์......................ส่องไซร้ ห้ามอายุให้หัน................................คืนเล่า ห้ามดั่งนี้ไว้ได้.................................จึ่งห้ามนินทา ***เสียสินสงวนศักดิ์ไว้..................วงศ์หงส์ เสียศักดิ์สู้ประสงค์.........................สิ่งรู้ เสียรู้เร่งดำรง.................................ความสัตย์....ไว้นา เสียสัตย์อย่าเสียสู้........................ชีพม้วยมรณา**"    เชิญกวีรัตนแก้ว........................โกสินทร์ ขอพระองค์ทรงยิน........................พร่างนี้ ขอลอกพระวัจนินทร์.....................มาแจก...แจงเฮย ขอเผื่อผู้ใดชี้...................................แบบให้ดูความ ทิกิ_tiki * ๑ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ผู้ทรงประพันธ์ลิลิตตะเลงพ่ายเป็น ร่ายและโคลงสุภาพ ทั้งโคลง ๒ โคลง ๓ และ โคลงสี่ หนึ่งใน ๙ เรื่องโคลงต้นรัตนโกสินทร์รัชสมัยรัชกาลที่สอง พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย *๒* สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิสร พระนามเดิม*พระองค์เจ้าชายมิ่ง" ต่อเมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๔ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๓ ได้โปรดฯให้กรมพระยาเดชาดิสร ชำระโคลงโลกนิติ จากความเก่าอยุธยาให้เป็นความใหม่สมบูรณ์ แล้วให้จารึก ไว้บนแผ่นศิลาติดไว้ที่แนวระเบียงวัดพระเชตุพน แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 48 22:05:45 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 12 ก.ค. 48 22:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 *เมียงหม้า...มาจาก เมียงมาร์.พม่า..จากคำว่า ลิลิตตะเลงพ่าย ปรัตยุบัน...เป็นคำวิธีเขียนเก่าในบทประพันธ์เดิม ผู้เขียนนำมาใช้ให้สวยงามแทนคำว่า  ปัจจุบัน จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 12 ก.ค. 48 22:15:41 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขออนุญาต เพิ่มเติมคำว่า ยังหาแบบอื่นไม่พบ ที่จริงนั้นพบหลายอย่าง หลายแบบแล้ว แต่เมื่อคำนวณ ออกมาเป็น % ยังไม่พอที่จะ ระบุว่าโคลงของท่านนั้นๆๆ กวีในอดีตท่านนั้น ใช้แบบนั้น  ยกตัวอย่างท่านสุนทรภู่ ใช้แบบ  ก 2.24 %  แบบ ข..4.2% เป็นต้น การโยงต่อเนื่องสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัก 70 % ของบทโคลงจึงน่าเชื่อถือว่ากวี ถือระบบการโยงโคลงเช่นนั้น มิฉะนั้นคงระบุว่า กวีท่านนั้น ไม่นิยมโยงโคลง (ถึงแม้จะมีกระเส็นกระสายว่าโยงอย่างตัวอย่างข้างต้นที่ยกมาให้ดูค่ะ) ป.ล. หัวข้อนี้เกิดจากข้าพเจ้าเขียนเอง คิดเองคำนวณเองมิได้ลอกเลียนผู้ใด มีหลายท่านถามทาง MSN เมื่อพบกันว่า ยึดกฎผู้ใด ขอตอบว่า...เปล่าค่ะ นี่กำลัง...ศึกษาทางโยงของแต่ละท่านกวี เท่าที่จะหาอ่านได้ค่ะ หนังสือสมัยเรียน จารึก ยังพอมีอยู่บ้าง ก็นำมาประกอบการอ่านค้นช่วงนี้อยู่ แต่ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ช่วงนี้ก็ยุ่งงานประจำสักหน่อย ก็ขออภัย อ่านโคลงได้ช่วงกลางคืนก่อนหลับ เท่านั้นแหละค่ะ ขอบคุณทุกความใส่ใจและ สนใจของทุกท่าน ขอเรียนให้ทราบว่า ผู้เขียนไม่ใส่อารมณ์มาในบทประพันธ์ ระหว่างศึกษาหรือสืบค้นหรือวิเคราะห์ จึงอย่ามาจับอารมณ์โคลงของข้าพเจ้าไป ทำเป็นเรื่องเป็นราว ขอบิณฑบาต ไว้ก่อนเลยท่าน tiki 13 ก.ค. 48 - 16:33 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 13 ก.ค. 48 17:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แวะมาอ่านคับ แต่ไม่ขอเขียนอะไร ฝีมือยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิมเลยนะคับ จากคุณ : philosophism - [ 13 ก.ค. 48 18:32:42 A:unknown X:unknown, 202.28.62.70 TicketID:075958 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณคุณ phiolsophism ค่ะ ที่แวะมาอ่านเรื่อยๆ ขออนุญาตตอบว่าฝีมือยังสามัญขั้นอนุบาลอยู่ค่ะ ยังไม่ยอดไม่เยี่ยมอะไรดอกค่ะ ว่างอยากเขียนก็เขียนค่ะ ยินดีที่แวะมานะคะ จากคุณ : ทิกิ (tiki_ทิกิ) - [ 14 ก.ค. 48 15:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 31 7 : ....รักเดียวรักแม่แท้.............เทิดตน รักแม่หนึ่งเดียวล้น...............แม่ข้าฯ รักมิหน่ายจางกมล................เลยสัก..ครั้งเฮย รักแม่มิอ่อนล้า......................เลิศล้นดวงใจ จากคุณ : ทิกิ (tiki_ทิกิ) - [ 14 ก.ค. 48 23:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อันนี้ไม่เกี่ยวกับการโยงโคลงระหว่างคำโคลงนะคะ แต่เป็นเรื่องโยงระหว่างเว็บเป็นสิ่งที่ดีที่ทุกท่านน่าจะทราบ แต่เผอิญแทรกเป็นกระทู้เล็กๆที่อื่นเห็นเลขออนุญาตนำแพร่กระจายค่ะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3577082/W3577082.html#16 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 16 ก.ค. 48 14:44:53 ]