เพียงแค่ใจ
ไม่แตกต่าง
3
กระทั่งทั้งคู่มาหยุดอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ในสวนสาธารณะใกล้ร้าน กรวีร์ถึงได้หันกลับมาประจันหน้ากับหญิงสาว ที่ตอนนี้ใบหน้าเกลื่อนไปด้วยประโยคคำถาม
ผมไม่เคยคิดว่าคุณน่ารังเกียจตรงไหนเลยนะจ้า
คุณคิดว่าที่ผมตามมาตอแยคุณอยู่เนี่ย เพราะอะไรเหรอ ชายหนุ่มเริ่มต้น
ไม่
ไม่รู้สิคะ จารุภาตะกุกตะกักพลางหลบสายตาคมกริบทันที
ไม่
คุณรู้อยู่เต็มอกนะจ้า เงยหน้าขึ้น มองผมสิ ชายหนุ่มไม่รอให้หญิงสาวปฏิเสธเขาละมือที่กำลังกุมต้นแขน เปลี่ยนมาเชยคางมนขึ้นเชิงบังคับให้หญิงสาวมองหน้าเขา จารุภาต้องทำตามอย่างขัดไม่ได้
คุณเห็นอะไรมั้ย ชายหนุ่มถามอย่างคาดคั้น
ฉัน
เห็น
ตาคุณกำลังกลายเป็นมีดโกน และกำลังกรีดเข้าไปในใจฉัน จารุภาบอกติดตลก
ผมไม่ได้พูดเล่น! กรวีร์เสียงเข้ม ซึ่งนั่นทำให้หญิงสาวก้มหน้างุดอีกครั้ง
ฉันไม่กล้าคิดหรอกค่ะ
เพราะให้ตายยังไง เรื่องที่คุณต้องการมันก็เกิดขึ้นไม่ได้หรอก หญิงสาวบอกในสิ่งที่อยู่ในใจ
คุณรู้ได้ยังไงล่ะจ้า ว่าเรื่องที่ผมต้องการมันจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้
ลืมทฤษฎีที่ว่า ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนไปแล้วหรือไง ชายหนุ่มเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าหงอย ๆ
คุณวีร์คะ
ระหว่างคุณกับจ้า
ทฤษฎีนั้นมันไม่สปาร์คหรอกค่ะ จารุภาว่าด้วยเสียงจริงจัง เราอาจจะคบกันเป็นเพื่อนได้ เป็นคนรู้จักกันได้
แต่มากกว่านั้น จ้าว่า
คงไม่สามารถ
อะไรทำให้คุณคิดว่าคุณไม่สามารถล่ะ ชายหนุ่มถามกลับเสียงเข้ม
คุณเป็นใครคะ แล้วจ้าเป็นใคร คนที่ตอบคำถามนี้ได้คือสังคมค่ะ หญิงสาวบอกเรียบ ๆ จ้าเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา ๆ การศึกษาก็งั้น ๆ เรื่องฐานะคงไม่ต้องพูดถึง ถ้าจ้าเป็นนางเอกนิยายน้ำเน่าที่ร่ำรวยล้นฟ้าแล้วมาทำงานเสิร์ฟเพียงเพื่อหาประสบการณ์ชีวิตก็ว่าไปอย่าง
แต่นี่คือเรื่องจริง เรื่องจริงที่คุณเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า จ้าเป็นเพียงผู้หญิงจน ๆ ไร้หัวนอนปลายเท้าคนหนึ่งที่บังเอิญจับพลัดจับผลูได้รู้จักกับคุณ ซึ่งเป็นถึงเจ้าของธุรกิจร้อยล้านพันล้าน ฐานะ หน้าที่การงาน ต่างกันราวฟ้ากับเหว ถ้าเกิดว่าคุณคบกับจ้าเกินกว่าที่เป็นอยู่ คุณรับได้เหรอคะที่จะบอกใคร ๆ ในสังคมของคุณว่า คนที่คุณคบอยู่เป็นเพียงลูกจ้างร้านอาหารกระจอก ๆ ที่บางทีเงินเดือนไม่ได้มากกว่าเงินเดือนของยามบริษัทคุณด้วยซ้ำ หญิงสาวอธิบายยืดยาว
ผมไม่แคร์ ! ชายหนุ่มตะโกนก้องสวน ผมไม่รับฟังคำอธิบายของคุณหรอกจ้า
สังคมบ้าบอที่มีแต่หน้ากาก สมควรแคร์นักหรือที่ผมจะแคร์ ระหว่างสังคมน้ำเน่านั่น กับหัวใจผมเอง ผมเลือกอย่างหลัง เพราะผมคงไม่สามารถอยู่ในสังคมนั้นได้ ถ้าไม่มีหัวใจ กรวีร์บอกอย่างดื้อดึง หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา
คุณวีร์คะ
จ้าเป็นเพียงแค่ ผู้หญิงธรรมดาที่ผ่านเข้ามาในช่วงเบื่อโลกหน้ากากของคุณเท่านั้นเอง
วันหนึ่งข้างหน้าคุณอาจจะนึกดีใจด้วยซ้ำ ที่ไม่ได้สานต่อความรู้สึกมากกว่าที่เป็นอยู่ หญิงสาวบอกยิ้ม ๆ
คุณตัดรอนผมทุกทางเลยนะจ้า
หรือว่าที่คุณพล่ามมาทั้งหมดเป็นเพราะคุณมีใครอยู่แล้ว ชายหนุ่มถามกลับเสียงแผ่ว จารุภาหัวเราะเฝื่อน ๆ
จ้าไม่ได้ตัดรอนคุณนะคะ จ้าแค่อธิบายเหตุผล
เหตุผลที่คุณเองปฏิเสธไม่ได้ซะด้วยสิ
หญิงสาวบอกเรียบ ๆ
ไม่จริงหรอก ที่คุณตัดรอนผม เพราะคุณมีใครอยู่แล้วใช่มั้ยจ้า
คุณแค่อยากมาคบกับผมเพียงเพราะผมหล่อ ผมรวยใช่มั้ย ชายหนุ่มเริ่มเสียงเครียด จารุภามองอาการปักใจเชื่อของอีกฝ่ายแล้วได้แต่ถอนใจ ความคิดบางอย่างวาบเข้ามา
ลองใช้กลยุทธ์ที่เคยเห็นในนิยายน้ำเน่าสักตั้งสิ
ก็
ถ้าคุณเข้าใจทุกอย่างดีแล้วนี่คะ แล้วจะมาเซ้าซี้จ้าทำไม หญิงสาวตีขลุม แสร้งทำสีหน้าเบื่อหน่าย ก่อนจะรู้สึกตกใจกับปฏิกิริยาของคนตรงหน้า
กรวีร์มีสีหน้าผิดหวังอย่างรุนแรง ดวงตาแสดงความเจ็บปวดอย่างปิดไม่มิด มือที่จับแขนหล่อนตกลงข้างตัวเหมือนหมดแรง ไหล่ลู่ตกตามแรงโน้มถ่วงของแขนที่ทิ้งลง
มิน่า
มิน่า
ชายหนุ่มพึมพำเสียงแผ่ว จารุภาขยับเข้าไปหมายจะปลอบ แต่ชายหนุ่มกระถดร่างหนีทันที
อย่า
อย่าเข้ามา ผมรู้แล้วจ้า มิน่า
คุณถึงไม่ยอมให้ผมเข้าไปส่งถึงห้อง ไม่ยอมให้ผมไปส่งเข้าซอย เพราะเขาใช่ไหม คุณมีเขาอยู่แล้ว ทำไมละจ้า
คุณหลอกผม ทำเหมือนกับว่าคุณว่าง ไม่ได้คบใครอยู่เพราะอะไร
คุณเห็นว่าผมแค่คิดกับคุณเล่น ๆ ใช่ไหม
ขอโทษนะ ที่ผมจะบอกว่าผมจริงจัง
จริงจังทุกการกระทำ ชายหนุ่มเน้นเสียง
แต่มันคงไร้ค่าสิใช่ไหม
เอาล่ะ
อย่างน้อยก็ขอบคุณนะที่อุตส่าห์บอกให้ผมได้รู้ก่อนจะถลำลึกกว่านี้
ผมจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของคุณอีก
สำหรับที่ผ่านมา ถือแค่ว่าเราแค่คนเคยเดินสวนกันก็แล้วกัน ชายหนุ่มว่า ก่อนจะเดินจากไปด้วยความเร็วที่หญิงสาวเองก็ห้ามไม่ทัน
จารุภาได้แต่ยกมือค้าง เสียงร้องที่เตรียมเรียกชายหนุ่มไว้ติดค้างอยู่เพียงปลายลิ้นเมื่อชายหนุ่มลับตาไปแล้ว
หญิงสาวลดมือลงก่อนที่หยดน้ำตาจะรินไหลให้กับความจริงที่แสนจะเจ็บปวด หัวใจหล่อนปวดแปลบ
ด้วยคมมีดที่หล่อนลงมือกรีดด้วยตัวเอง !
-_-,
บริเวณสวนหย่อมของมหาวิทยาลัยในช่วงพักเที่ยง มักจะมีนักศึกษาจับกลุ่มกันนั่งตามม้าหินอ่อนที่ทางมหาวิทยาลัยจัดไว้ให้เสมอ และม้านั่งมุมอับสายตามักจะเป็นที่นั่งประจำของนาราซึ่งหล่อนใช้เป็นมุมโปรด กับหนังสือเล่มหนาในมือประจำ
เสียงกรี๊ดกร๊าดที่ดังเคลื่อนมา เรียกความสนใจให้นาราเงยหน้าจากตำราเศรษฐศาสตร์เล่มหนาขึ้นมองอย่างสนใจ
และเป็นอย่างที่หล่อนคาดไว้ไม่มีผิด ที่มาของเสียงกรี๊ดจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่รุ่นพี่สุดหล่อ เดือนมหาลัยอย่าง ชเล กิตกร ผู้ชายที่เป็นที่ใฝ่ฝันของหญิงทั้งหลาย ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงธรรมดาไปทุกจุดอย่างนาราก็เถอะนะ
ก็จะไม่ให้หล่อนปลื้มยังไงไหว ยังจำได้หรอกนะว่า วันแรกที่หล่อนกับเขาพบกันเกิดขึ้นได้ยังไง วันนั้นนาราออกจากห้องสมุดด้วยความปลื้มเปรม เพราะได้หนังสือที่เฝ้าจองไว้นั่นคือ แฮร์รี่ พอตเตอร์เล่ม 5 หล่อนกะว่าจะรีบกลับไปอ่านให้หนำใจสมกับที่รอคอยมานาน ความดีใจทำให้เท้าที่หล่อนซอยยิก ๆ ลงบันไดพลาดในขั้นสุดท้าย
มีเสียงวี้ดว้ายของนักศึกษาหญิงหลายคนที่มองมาเห็นตอนที่นารากำลังกางปีก กลายร่างเป็นหมูบิน แม้แต่นาราเองก็เถอะ หล่อนหลับตาปี๋เพราะมั่นใจว่าหน้าหมู ๆ ของหล่อนจะต้องหล่นกระแทกพื้นเป็นแน่แท้
แต่ผ่านไปหลายวินาที หน้าหล่อนก็ไม่ได้สัมผัสกับปูนกระด้างสักที ด้วยความสงสัย นาราค่อย ๆ หรี่ตาขึ้นมองทีละน้อย ก่อนจะพบว่าตัวเองอยู่ในท่าโน้มตัวผิดธรรมชาติอย่างที่นักมายากลทำ
เอ
หรือว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์มาช่วยหว่า
นี่น้อง
พี่หนักนะครับขอบอก เสียงห้าว ๆ ไม่คุ้นหูดังขึ้นจากเบื้องหลังนั่นแหละ นาราถึงได้รู้ว่า หล่อนอยู่ในท่าประหลาดนั้นได้ยังไง
ผู้ชายตัวสูง หน้าตาคมคายผมยาวระต้นคอที่ยุ่งเหยิง บวกกับผิวขาวจัดที่กำลังใช้สองมือดึงเสื้อนักศึกษาของนาราอย่างเต็มแรงนั้น ทำให้หญิงสาวรู้สึกเหมือนกับว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์ภาคผู้ใหญ่กระโดดออกมาจากหนังสือยังไงยังงั้น หล่อนรีบเด้งตัวขึ้นให้อยู่ในท่าปกติทันที ก่อนจะหันสีหน้าตื่นตระหนกไปทางแฮร์รี่ พอตเตอร์ตัวโต
เอ่อ
ขอบคุณค่ะพี่ นาราบอกเบา ๆ หลังจากหายตกใจ มองชายหนุ่มตัวสูงที่กำลังปาดเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ที่กำลังผุดพรายอยู่บนหน้าผากอย่างเกรงใจ
ไม่เป็นไรน้อง
ยังดีนะเนี่ยที่ไม่ดึงพี่ให้ตกลงไปด้วย เขาว่าติดตลก ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว งั้นพี่ไปก่อนนะ ชายหนุ่มบอกอย่างเป็นกันเองพร้อมกับส่งยิ้มน้อย ๆ มาเป็นของกำนัล นาราตาพร่าด้วยรอยยิ้มนั้น
ให้ตายเหอะ
ทำไมยิ้มของเขาช่างดูมีเสน่ห์ เหมือนกิลเดอรอย ล็อกฮาร์ตเลยนะ ก่อนที่นาราจะทันขอบคุณเขาอีกรอบหลังจากตาพร่าเพราะรอยยิ้มสวย ๆ นั้น หล่อนก็มองไม่เห็นชายหนุ่มคนนั้นเสียแล้ว
หญิงสาวได้แต่ถอนใจอย่างเสียดาย ก่อนจะก้มลงเก็บหนังสือหงอย ๆ
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา นารามักจะเดินสอดส่ายสายตาอยู่เป็นนิจเพื่อมองหาร่างสูง ๆ ขาว ๆ หน้าตาหล่อบาดจิตของรุ่นพี่ที่หน้าเหมือนแฮร์รี่ แต่ยิ้มเหมือนกิลเดอรอยคนนั้น
และหล่อนก็หาไม่ยากเสียด้วย
ชเล กิตกร คือชื่อของเขา เดือนคณะที่สมบูรณ์พร้อม ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา(ของแหง) ฐานะที่ร่ำรวยล้นหัว(ของนารา) และนิสัยใจคอซึ่งดูได้จากการไม่ขาดเพื่อนข้างกายไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงเลยสักขณะจิต นาราได้แต่เฝ้ามองดูเขาอยู่ห่าง ๆ ไม่กล้าแม้แต่จะเดินผ่าน
สุดท้ายหล่อนก็ค้นพบมุมสงบที่สามารถมองเป้าหมายได้ โดยไม่ถูกสงสัย แถมเป็นมุมที่ใคร ๆ ต่างก็ไม่ชอบนั่งเสียด้วย
เข้าล้อก(คนโรคจิต)เป๊ะ
.
จากคุณ :
แก้วชิงดวง
- [
8 ก.ค. 48 16:06:07
]