ขุนช้างขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง
สองพ่อลูก
พ่อแม่พี่น้องที่เคารพขอรับ ต่อแต่นี้ จะได้เล่าถึงการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของขุนแผน ที่ได้รับพระราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ตระเวนด่าน โดยไม่มีกำหนด...
จนกระทั่งวันหนึ่ง ก็ไปพบหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีนายบ้านชื่อนายเดช กระดูกดำ ได้รับประทวนยศเป็นหมื่นหาญ มีภรรยาชื่อนางสีจันทน์ มีลูกสาวชื่อแม่บัวคลี่ อายุราวสิบเจ็ดปี
หมื่นหาญเป็นคนที่มีนิสัยเป็นนักเลงอันธพาล ซ่องสุมผู้คนตั้งหมู่บ้านไว้เป็นซ่องโจรอยู่ในป่า คอยดักปล้นสะดมหรือเรียกค่าไถ่ใครต่อใครที่เดินทางผ่านมา เป็นเวลาช้านาน
วันนั้น ขุนแผนของเราก็เดินป่ามาพบไร่พืชพรรณแห่งหนึ่ง มีคนทำงานกันอยู่พลุกพล่าน จึงแอบเข้าไปดู ก็เห็นตัวนายเป็นสาวสวย นั่งคุมงานอยู่บนห้าง
แลเห็นตัวบัวคลี่อยู่ที่ห้าง
สำอางนวลละอองผ่องผิวหน้า
พึ่งรุ่นสาวกะทัดรัดจำรัสตา
ทั้งทรงศรีกิริยาก็น่าชม
ตะลึงลืมปลื้มปลาบให้วาบใจ
อยากจะใคร่เป็นคู่ได้สู่สม
เป็นกุศลดลจิตคิดนิยม
ปลงอารมณ์รักใคร่ใจผูกพัน
พินิจน้องก็ต้องตำรับนัก
เห็นประจักษ์แจ้งจริงทุกสิ่งสรรพ์
ถ้าเกิดบุตรหัวปีมีด้วยกัน
แม่นมั่นคงเป็นชายเหมือนหมายมา ฯ
นั่นแน่ะ...แน่ไหมล่ะขอรับกระผม พอเห็นหน้าครั้งแรก (ยังไม่ทันรู้จักกันเลยด้วยซ้ำ) ก็เริ่ม มองข้ามช็อต ไปถึงมีลูกมีเต้าไปโน่นแล้ว พออยากรู้จักเข้าก็เลยลองเข้าไปแหยมใกล้ ๆ ดู ผลปรากฎก็คือเกือบถูกรวมเท้า แต่ก็ได้ข้อมูลเกี่ยวกับแม่บัวคลี่มาพออาศัย แล้วก็ลองกลับมาตรึกตรองวิเคราะห์ข้อมูลดูว่า ถ้าอยากจะรู้จัก แล้วใช้บ่าวไพร่เป็นสื่อ รายนี้เห็นว่าคงจะไม่ค่อย เวิร์ค สักเท่าไหร่ หรือจะเข้าต่อตีด้วยอาวุธก็คงจะไม่ไหว เห็นจะต้องยอมตัวให้ตาพ่อหมื่นหาญแกใช้สอย เพื่อหวังจะให้แกรักใคร่เอ็นดู แล้วจึงค่อยสืบสวนขยายผล (ภาษาโปลิศ) ท่าจะดีเป็นแน่แท้
ว่าแล้วก็เลยแกล้งเดินกระเซอะกระเซิง เข้าไปในซ่องโจรของหมื่นหาญ ยอมให้บ่าวไพร่จับตัว พอตาหมื่นหาญแกถาม ขุนแผนก็ตอบไถลเถลือกไปดังนี้
ขุนแผนบอกความไปตามแนว
ฉั นชื่อแก้วอยู่กองข้างหกเหล่า
ราชการด่านทางไม่บางเบา
เหนื่อยเข้าเต็มทีก็หนีซน
ทั้งพ่อแม่ภรรยาก็หาไม่
ยากไร้สาระพัดจะขัดสน
จึงดื้อดั้นดงรามเพราะความจน
กลัวจะหนีเขาไม่พ้นเที่ยวซนมา
หมายจะมาอยู่ในซ่องของเจ้าคุณ
ได้พึ่งบุญคุ้มกายไปภายหน้า
ถ้าเจ้าคุณปรานีมีเมตตา
ฉั นจะอยู่เป็นข้าจนบรรลัย
พลางเป่าละลวยล่องให้ต้องพาน
ถูกหมื่นหาญงวยงงสิ้นสงสัย
เพราะฤทธิ์เดชเวทย์มนตร์เข้าดลใจ
ให้รักใคร่ขุนแผนแม้นลูกตน
นี่แน่ะเจ้าเราจะอยู่ด้วยกันไป
ถ้าเห็นใจเถิดจะปลูกให้เป็นผล
ถ้าแม้นจิตคิดคดทรชน
คงจะป่นลงเป็นแป้งในแขวงเรา ฯ
แม้ตาหมื่นหาญจะมีคาถาอาคมอยู่บ้างแต่มือมันคนละชั้นกันจึงหลงเสน่ห์พ่อแก้วของเรากันทั้งบ้าน แล้วขุนแผนก็ได้อยู่รับใช้หมื่นหาญเรื่อยมา โดยเป็นที่รัก ใคร่ของครอบครัวหมื่นหาญเป็นที่ยิ่ง โดยเฉพาะแม่บัวคลี่นั้น เดาะเรียกขุนแผนว่า พี่แก้วทุกคำเลยทีเดียว
และแล้ววันหนึ่งหมื่นหาญก็เกิดฟิตขึ้นมาอยากจะออกไปล่ากระทิง ก็เลยชวนนายแก้วไปด้วย แต่แทนที่จะได้ล่ากระทิงก็หวิดจะถูกกระทิงล่าดังนี้
...ลั่นนกตบฉับหน้าเพลิงฉาด
ประกายปราดลั่นเปรี้ยงเสียงสนั่น
ยิงผิดวัวขวิดมาสวนควัน
หมื่นหาญหันล้มผางลงกลางแปลง
วัวกระทิงวิ่งถึงทะลึ่งโชน
ขุนแผนโผนจับคางง้างเขาแขง
วัวกระทบคนกระทั่งกำลังแรง
วัวขวิดคนแขงไม่วางกัน
หลบเขาลอดขาคว้าจับหาง
ชุลมุนวุ่นวางดังกังหัน
โลดไวหลบหวิดขวิดไม่ทัน
วัวแหงนขุนแผนถลันเข้าคั้นคอ
วัวโดดคนแดกกระแทกเฮือก
นัยน์ตาเหลือกล้มปุบลงฟุบข้อ
หมื่นหาญซ้ำด้วยหอกเข้าซอกคอ
ร้องมอล้มผางลงกลางดิน
กลับทะลึ่งตึงตังกำลังเดือด
กระทอกเลือดกระแทกล้มกระดิกดิ้น
เลือดไหลโซมสาดลงดาดดิน
กลิ้งเกลือกเสือกดิ้นจนสิ้นใจ ฯ
แหม....กระผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันนะขอรับว่า สำนักวัดป่าเลไลย หรือ วิทยาเขตวัดแค กันแน่ที่สอนวิชา โรดิโอ และ มาทาดอร์ ให้ขุนแผนด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หมื่นหาญก็รู้สึกตัวว่าเป็นหนี้บุญคุณขุนแผน จนต้องหาวิธีตอบแทนที่เข้าล็อคของพ่อพระเอกนักรักของเราพอดีเลย เพราะพอกลับมาแกก็บอกเมียทันทีว่า
เล็ดลอดดอดไปยิงกระทิงผิด
มันสวนควันไล่ขวิดมาติดก้น
เจ้าแก้วเข้าประจัญไม่ทันชน
เราสองคนช่วยกันมันถึงตาย
ถ้าคนอื่นไกลมิใช่แก้ว
เห็นแววชีวิตจะฉิบหาย
คุณเขาอยู่กับเราก็มากมาย
แน่ท่านยายข้าจะว่าอย่าน้อยใจ
จำต้องเกื้อหนุนแทนคุณเขา
ออบัวคลี่ลูกเราจะยกให้
เห็นสมผัวสมเมียอย่าเสียใจ
ยายจะเห็นเป็นอย่างไรให้ว่ามาฯ
ท่านยายสีจันทน์ก็เห็นด้วย จึงเรียกนายแก้วมาสอบถาม นายแก้วเราก็ส้มหล่นไปเท่านั้น
ครานั้นจึงโฉมเจ้าพลายแก้ว
ได้ฟังแล้วตอบไปด้วยใจหวัง
ฉันลำบากยากจนคนเซซัง
ท่านจะคิดปลูกฝังเป็นลูกชาย
ถ้าเจ้าคุณเอ็นดูจะอยู่ด้วย
กว่าจะม้วยเป็นผีไม่หนีหาย
ฉันเป็นคนกำพร้าเอกากาย
หมายจะฝากชีวิตไม่คิดไป ฯ
พอรุ่งขึ้นก็จัดแต่งงานให้เสียเลย...(ดีจังเนอะ...)
เจ้าพลายแก้วสมสู่อยู่ด้วยน้อง
ไม่เคืองข้องรังเกียจเดียดฉันท์
แต่ฝากตัวหมื่นหาญมานานวัน
จนบัวคลี่มีครรภ์ได้หลายเดือน
เขาทำมาหากินสิ้นทั้งบ้าน
พวกทหารบ่าวทาสออกกลาดเกลื่อน
เจ้าพลายแก้วนิ่งดูอยู่กับเรือน
ทำเสมือนมืดมนคนไม่เคย ฯ
เห็นวัน ๆ เอาแต่นั่งเล่นนอนเล่นอยู่อย่างนั้น หมื่นหาญก็ชักเขม่นลูกเขย ก็เลยเรียกมาด่า นายแก้วก็เลยโม้เสียเลย
ครานั้นพลายแก้วแกล้วกล้า
จึงตอบวาจาตาหมื่นหาญ
ฉันจะคิดมอบกายจนวายปราณ
หมายว่าท่านจะชุบเลี้ยงฉันเที่ยงแท้
ถ้าผิดชอบสิ่งไรให้สอนสั่ง
แม้นมิฟังถ้อยคำของพ่อแม่
ถ้าขืนขัดบิดเบือนแกล้งเชือนแช
ก็ตามแต่ท่านจะทำให้หนำใจ
ซึ่งลักช้างขโมยคนปล้นตีบ้าน
ล้วนแต่การโจรกรรมไม่ทำได้
ถ้าเกิดเหตุเภทพาลประการใด
ไม่ให้ร้อนถึงท่านจะรับแทน ฯ
ตาหมื่นหาญได้ยินดังนั้นก็ชักโมโห ว่าทหารในบ้านกูนั้นล้วนแต่เก่งกล้าสามารถ อยู่ยงคงกระพันด้วยกันทั้งนั้น แล้วเอ็งมันแน่มาจากไหน รูปร่างก็อ้อนแอ้นยังกะพระเอกลิเก (ตอนนี้ท่าทางตะแกจะลืมไปแล้วว่านายแก้วนั้น ได้เคยช่วยชีวิตแกด้วยการแทบจะหักคอวัวกระทิงด้วยมือเปล่ามาแล้ว) แน่จริงก็ลองวิชากันหน่อยเป็นไร
แล้วก็เลยเกิดการลองของดีกันขึ้นมาจริง ๆ
...แล้วลุกเดินมาพลันด้วยทันใด
อย่าขัดใจเลยเจ้าคะจะให้ยิง
ปลงอารมณ์โอมอ่านพระคาถา
ภาวนาตั้งจิตสนิทนิ่ง
เป็นหนึ่งแน่วแน่ใจไม่ไหวติง
พยักหน้าว่าให้ยิงมาพร้อมกัน ฯ
พรรคพวกก็ซัดกันไม่เลี้ยงละขอรับ แต่ผลปรากฎว่าเปลืองลูกเปลืองดินเปล่า
...ยิงแล้วยัดใหม่ใส่กระหน่ำ
รุกร่ำเอาจนดินสิ้นเขนง
เจ้าพลายนั่งตั้งตัวไม่กลัวเกรง
เหล่านักเลงสั่นหัวกลัวทุกคน
พวกชาวบ้านว่าท่านนี้ดีจริง
เขายัดปืนยืนยิงดังห่าฝน
หมดดินสิ้นลูกไม่ถูกตน
ไม่ระคายปลายขนคนดีครัน ฯ
ฝ่ายหมื่นหาญเจอของจริงดังนั้นก็ถึงกับงันไปเหมือนกัน แต่แทนที่จะดีใจว่าได้คนดีมีวิชามาอยู่ด้วย แกกลับร้อนรุ่มกลุ้มใจตามประสานักเลงอันธพาลว่า เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้...อะไรประมาณนั้นแหละขอรับ
จะนั่งนอนร้อนร่ำระส่ำระสาย
เรียกท่านยายสีจันทน์มาปรึกษา
อ้ายแก้วเจนจัดชะงัดวิชา
มันเก่งกาจเกินหน้าเราขึ้นไป
มันก็เป็นช้างงาอันกล้าหาญ
เราก็เป็นคชสารอันสูงใหญ่
จะอยู่ป่าเดียวกันนั้นฉันใด
นานไปก็จะยับอัประมาณ
ช้างม้าผู้คนแลลูกเมีย
จะเป็นของมันเสียสิ้นทั้งบ้าน
แต่เพียงนี้สิยังทำอหังการ
จะคิดผลาญชีวันให้มันตาย ฯ
อ้อ...ตาหมื่นหาญเขาเปรียบเป็นช้างขอรับ...แฮ่ะ..แฮ่ะ..หน้าแตกเลยกระผม...
จากคุณ :
พจนารถ
- [
9 ก.ค. 48 09:57:24
A:61.91.79.6 X: TicketID:103878
]